ย้อนรอย “อริสมันต์” วาทะ “ขวดแก้วคนละใบ” เผากรุงเทพฯ วันนี้บ้านถูกไฟไหม้

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
กระทู้คำถาม
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000106544

   เหตุการณ์ไฟไหม้ที่บ้านพักของนายอริสมันต์ ในซอยเสือใหญ่อุทิศ ย่านมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมในวันนี้ แม้สังคมจะมีปฏิกิริยาความรู้สึกอย่างไรก็ตาม แต่ก็ถือได้ว่านายอริสมันต์ยังเป็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเมื่อกล่าวถึงวิกฤตทางการเมืองในห้วงเวลา 10 ปีให้หลัง
      
       จากกรณีที่มีเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 342/2 ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 9-3 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. ของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ทำให้ห้องพระชั้น 3 ได้รับความเสียหาย
      
       ว่ากันอย่างตรงไปตรงมา ย้อนกลับไปในช่วงวิกฤตทางการเมืองปี 2552 นายอริสมันต์ถือเป็นแกนนำ นปช.คนสำคัญในการขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยเฉพาะการเข้าไปพังการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่โรงแรมรอยัล คลิฟบีช รีสอร์ต พัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2552
      
       ในรายงานฉบับสมบูรณ์ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ระบุถึงการปราศรัยที่มีลักษณะเป็นการยั่วยุ ชี้นำ หรือส่งเสริมให้ใช้ความรุนแรง
      
       พบว่า นายอริสมันต์ ปราศรัยเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2553 ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ระบุว่า “พี่น้องนัดกันคราวหน้า ถ้ารู้ว่าเขาจะปราบปราม ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก มาด้วยกัน ขวดแก้วคนละใบ มาเติมน้ำมันเอาข้างหน้า บรรจุให้ได้ 75 ซีซี ถึง 1 ลิตร ถ้าเรามาหนึ่งล้านคนในกรุงเทพมหานคร มีน้ำมันหนึ่งล้านลิตร รับรองว่า กทม.เป็นทะเลเพลิงอย่างแน่นอน”

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
“การสู้ของคนเสื้อแดงแบบง่ายๆ อย่างนี้ บอกให้ทหารได้รับได้ทราบ บอกให้ทหารสุนัขรับใช้อำมาตย์ได้รู้ว่า ถ้าคุณทำร้ายคนเสื้อแดง แม้เลือดหยดแต่หยดเดียวนั่นหมายความว่า กรุงเทพฯ จะเป็นทะเลเพลิงทันที ส่วนต่างจังหวัด จตุพร (พรหมพันธุ์) ได้บอกแล้ว ให้รอฟังข่าวว่า พี่น้องที่อยู่ในต่างจังหวัด ไม่ได้มาไม่เป็นไร ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นทันทีรวมตัวกันที่ศาลากลาง ไม่ต้องรอเงื่อนไข จัดการให้ราพณาสูรเหมือนกัน”
       
       “ส่วนในกรุงเทพฯ นี้พี่น้องฟังให้ดีว่า ครั้งหนึ่งตอนที่พฤษภาทมิฬ มันมียุทธวิธีที่จะเอาทหารมาปราบพี่น้องประชาชน แต่ก็มีขบวนมอเตอร์ไซค์รักชาติ ได้จัดการไฟเขียวไฟแดงตามสี่แยกต่างๆ เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย รถติดกันทั้งกรุงเทพ รถ … ทั้งรถยีเอ็มซี ไม่สามารถส่งทหารมาจัดการกับพี่น้องประชาชนได้ในครั้งนั้น ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เราไม่ต้องปฏิบัติให้มันยุ่งยากจัดการสี่แยกไฟแดงให้เรียบ รถในกรุงเทพมหานครช่วยกันปล่อยลมยางทั้ง 4 ล้อให้มันติดทั้งกรุงเทพฯ อยากจะรู้ว่ารถทหาร จะเข้ามายังไง แล้วถ้าทหารจะเข้ามาจริงๆ มันก็ต้องเดินเท้าเข้ามา ลองคิดดูว่า จะใช้ประชาชนใช้ทหารเท่าไหร่ คำนวณดูให้ดี พี่น้องไม่ต้องใช้อาวุธ พอเห็นทหารเดินเข้ามา เราเข้าไปใกล้ๆ 1 ต่อ 3 จัดการแล้วก็มัดทหารเอาไว้ ยึดปืนเอาไว้ ปฏิบัติตามนี้รับรองได้ว่า คนเสื้อแดงชนะพวกอำมาตย์อย่างแน่นอน”
       
       “วันนี้การต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าไม่ชนะ เป้าหมายคือคุก หรือไม่ก็ตายเท่านั้นพี่น้อง ผมขอบอกข่าวดีว่า เดิมทีนั้น คนเสื้อแดงมีเพียงพรรคการเมือง และมวลชนเท่านั้น แต่วันนี้ แก้วอีกประการหนึ่งที่เรารอ นั่นคือกองกำลังไม่ทราบฝ่าย เขาพร้อมสนับสนุน และปกป้องคนเสื้อแดง และพร้อมที่จะเป็นปรปักษ์กับกองทัพ ถ้ากองทัพทำร้ายประชาชน”
       
       ต่อมา นายอริสมันต์ปราศรัยเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2553 ณ เวที นปช.จังหวัดขอนแก่น ระบุว่า “พี่น้องที่จะเดินทางเข้าไปกรุงเทพฯ ด้วยกัน เตรียมตัวให้พร้อม อย่างแรกคือ 1 เสื้อผ้า ข้าวปลา อาหารแห้ง และขวดแก้ว 1 ขวด จำนวน 1 ล้านคน เราจะไปที่กรุงเทพฯ ขวดของเรานั้นไม่ต้องใส่น้ำมันไปจากขอนแก่น ไปซื้อเอาที่กรุงเทพฯ คนละ 1 ลิตร... 1 ลิตรเพื่อต่อรองกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าคุณจะคืนรัฐธรรมนูญ 40 ให้กับคนเสื้อแดงหรือไม่ 1 ลิตรนี้เพื่อบอกกับอำมาตย์ว่า ถ้าคุณเข่นฆ่าคนเสื้อแดงเลือดตกยางออกสัก 1 หยด นั่นหมายความว่าคุณก็จะไม่มีชีวิตอยู่บนแผ่นดินนี้เหมือนกัน”
       
       นายอริสมันต์ยังปราศรัยเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2553 ณ เวทีชุมนุม นปช.จังหวัดอุดรธานี ระบุว่า “ครั้งนี้จะเป็นการคิดบัญชีรัฐบาลทรราชอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพวกอำมาตย์เฒ่าทั้งหลาย คุณไม่ต้องมาบอกว่าสถานที่สำคัญที่เขาจะไปก่อวินาศกรรม คุณไม่ต้องไปปูดข่าวบอกว่าสถานที่ที่เป็นศาสนสถานของพวกมุสลิม โรงพยาบาลแล้วก็ถนนราชวิถี สะพานข้ามแม่น้ำโรงพยาบาลศิริราช สนามบิน ทำเนียบฯ กระทรวงสำคัญๆ ธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ ค่ายทหาร บ้านบุคคลสำคัญ และศาลยุติธรรม และองค์กรอิสระ คุณไม่ต้องบอก ถ้าหากว่าคุณใช้ความรุนแรงกับคนเสื้อแดง รับรองว่าไอ้สิ่งที่คุณพูดถึงนี้จะไม่เหลืออยู่ในประเทศไทยอย่างแน่นอน”

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



แบบนี้เค้าเรียกว่าเวรกรรมไหมครับ หรือว่าไม่เป็นไรเพราะโกยตังค์จากแม้วมาเยอะแล้วแค่นี้จิ๊บ ๆ ^^


ผู้ชาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่