ขอเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับอาการสุนัข
เราได้ลูกสุนัขไซบีเรียนมาจากฟาร์มเมื่อวันที่ 25 ก. ย. 59 ฟาร์มนำมาส่งให้เราที่บ้านประมาณสี่ทุ่มกว่าๆๆ (ไปส่งเด็กๆตัวอื่นๆก่อน)น้องหมาอายุได้ 53 วัน ฉีดวัคซีนมาแล้ว 1เข็ม
วันที่26-27 กันยา น้องหมามีอาการน้ำมูกเขียว หายใจหอบ ไอเหมือนมีอะไรติดอยู่ที่คอ พอถามไปทางฟาร์มบอกว่า น้องหมาน่าจะเป็าหวัดเนื่องจากเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ (ตอนนั้นไม่มีความรู้เรื่องไข้หัดสุนัขเลยเพราะหมาแก่ที่บ้านอีกตัวไม่เคยเป็นฉีดวัคซีนตลอด)
เราไม่ได้นิ่งนอนใจค้นหาข้อมูลจากอากู๋ คิดในใจไว้แล้วว่าอย่าเป็นไข้หัดนะ
วันที่ 28 พาไปคลีนิคแถวบ้าน สัตวแพทย์แจ้งว่าน้องเป็นไข้หวัด+น้ำมูกข้นต้องพ่นยาประมาณสามวัน เราก็พาไปพ่นยาทั้งสามวัน น้ำมูกหายจากเขียว มาเป็นใสแทน
เราจับฝ่าเท้าน้องหมาทุกวันและก็พบว่าฝ่าเท้าแข็งขึ้นจากวันแรกที่มา แต่แม่บอกมันวิ่งเล่นก็แข็งก็สากเป็นธรรมดา
(ช่วงระหว่างนี้มีหูกระตุกๆๆ อยู่บ้างแต่ไม่บ่อย รวมทั้งเดินขาแบบเป๋ๆ เหมือนไม่ค่อยมีแรง จริงๆสังเกตุว่าเดินเป๋ตั้งแต่วันแรกทีมาแล้ว แต่ยังคงเล่นและกินอาหาร+นมได้ เริ่มมีถ่ายเหลว)
วันที่ 1ตุลา น้องหมาไม่กินอาหาร มีอาการเกร็งตัวช่วงบ่าย1ครั้งและช่วงประมาณหนึ่งทุ่มอีก 1 ครั้ง พร้อมทั้งมีขี้ตาเยอะมากและตาแดงทำตาปรือเหมือนจะลืมตาไม่ขึ้น หูกระตุกมาก เดินไม่ไหวต้องอุ้มขึ้นมาถึงจะหายทำตัวเกร็ง
วันที่2ตุลา ตัดสินใจบอกแฟนและแม่ว่าต้องไป รพส. เกษตรแล้วนะ น้องหมาไม่ไหวแล้ว ข้าวไม่กิน นมไม่กิน ป้อนก็อ้วก เดินไม่มีแรง ไม่เล่นซน แฟนจึงรีบพาไป รพส. เกษตรทันที
เมื่อมาถึง รพส. ระหว่างที่นั่งรอภาวนาตลอดเลยว่าขออย่าให้เป็นไข้หัดนะลูก เมื่อหมอเรียกนำเข้าไปตรวจ และ test kid CDV ผลปรากฎว่าน้องหมาเป็นไข้หัดจริงๆ หมอเลยให้เจาะเลือด และพบ มีไข้ 104 องศา เลือดจาง ปอดบวม อายุครบสองเดือนพอดี แต่น้ำหนักแค่ 2. 3 โลเท่านั้น (ตัวเล็กมาก)
หมอได้อธิบายว่าโรคนี้โอกาสรอดน้อยมากโดยเฉพาะหมาเด็กซึ่งอาการของน้องเชื้อน่าจะขึ้นสมองแล้ว ภาวนาอย่างเดียวขออย่าให้ชัก และให้เก็บคำว่าชักไว้ในใจ (หมอบอก) หมอพูดแต่ว่าน่าสงสารจังเลยลูก ตัวเล็กนิดเดียวเอง
ตอนนั้นแฟนถามว่าจะคืนหมาไหมหรือเปลี่ยนตัวใหม่ไหม เพระรักษาไปก็คงไม่หาย
เราบอกแฟนว่าคืนไม่ได้ รักไปแล้ว เอาตัวใหม่มาก็คิดถึงตัวนี้อยู่ดี บวกกับหมอบอกว่า ถึงคืนไปฟาร์มก็ไม่รับคืนหรือถ้ารับคืนก็เอาไปฆ่าทิ้งอยู่ดี
เราเลยตัดสินใจบอกว่าถ้างั้นก็รักษาไปค่ะ เอาให้ถึงที่สุดอะไรจะเกิดก็ช่าง หมอเลยฉีดยาอะไรให้ไม่รู้ที่ รพส. สามสี่เข็มไม่ได้ถาม พร้อมทั้งให้ยามากิน และรักษาตามอาการ และให้ใบส่งตัวมาดูแลที่คลินิค เนื่องจากเราไม่สะดวกที่จะไป รพส. เกษตรทุกวัน
พอกลับมาก็ให้มาพ่นยาต่ออีกสามวัน ไม่มีฉีดยาไม่มีอะไรทั้งนั้นจากคลินิค จากน้ำมูกเขียวก็กลายเป็นใส หลังจากกลับจาก รพส. ก็กินข้าวได้ปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เราก็ไม่ได้วางใจคอยดูแลตลอดเวลา
มื้อเช้าให้กินอาหารเม็ดเอฟวันแช่น้ำซุปต้มไก่+อกไก่ต้มฉีกฝอย+a|d
มื้อกลางวันให้กินไข่ตุ๋น1ฟอง+a|d
มื้อเย็นกินอาหารเม็ดเอฟวันแช่น้ำซุปต้มไก่+อกไก่ต้มฉีกฝอย+a|d + นมแพะ
ป้อนยาเขียวตราใบโพธิ์+เช็ดตัวให้ทุกชั่วโมง ตอนเช้าและเย็นพาวิ่งในบ้านครั้งละครึ่งชั่วโมง ใส่เสื้อให้ทั้งวัน ตอนกลางคืนก่อนนอนต้องอุ้มมาพาดที่อกเหมือนเด็ก เพราะจะงอแง จนกว่าจะหลับ ทำแบบนี้มาหนึ่งอาอาทิตย์ วัดไข้ทุกวัน ไข้ขึ้นๆลงๆ ยังถ่ายเหลวอยู่ และยังมีอาการไอเหมือนมีอะไรติดคออยู่ตลอดเวลา จนกระทั่ง...
เช้าวันที่ 8 ตุลา เราตื่นขึ้นมาก็มองว่าทำไมน้องหมาไม่นอนบนผ้าที่ปูไว้ให้ เหลือบตาไปเห็นพบกับเส้นๆสีขาวๆ กำลังชูหัวดุ๊กดิ๊กขึ้นมาเชียว สองสามตัว
เราไม่รอช้าโทรไปหาหมอที่ รพส. เกษตร (ขอเบอร์หมอไว้) ถามว่าให้น้องกินยาถ่ายพยาธิได้ไหม หมอบอกได้เลยค่ะ เราเลยไปขอซื้อยาถ่ายพยาธิที่คลีนิค แล้วเอามาให้น้องหมากินทันทีตอนเย็น ระหว่างที่ให้กินน้องหมากินน้ำเยอะๆมากๆ จนท้องใสเหมือนจะแตก และเดินวนไปวนมา กระวนกระวาย ประมาณ สี่ทุ่มน้องหมาอ้วกออกมาสองรอบ มีอาหารพร้อมกับพยาธิที่ตายแล้วเยอะมากๆ
(ขออภัยไม่ได้ถ่ายรูป รีบทำความสะอาดเพราะจะอ้วกเช่นกันค่ะ)
หลังจากที่อ้วกเอาพยาธิออก เช้าวันที่ 9 ตุลา เริ่มถ่ายแข็งขึ้นพร้อมมีพยาธิอยู่ แต่น้องหมาไม่มีอาการไอเลยจน ณ ปัจจุบัน
วันที่ 16 ตุลาไป รพส. เกษตร ตามที่ได้นัดหมอ (โทรไปนัดหมอเองค่ะ หมอไม่ได้นัดไว้ เพราะไม่รู้ว่าน้องจะหายหรือเปล่า)
น้ำหนักขึ้นเป็น 3. 6 โล หมอยังไม่ทำวัคซีนให้ใหม่ ยังไม่ตรวจ test อีกรอบ แต่ให้ยากระตุ้นภูมิ ยาเสริมภูมิ ยาก้างปลา ยาบำรุงเลือด วิตามินบำรุงสมอง มาให้กินเหมือนเดิม หมอบอกว่าต้องการเสริมภูมิให้น้องก่อน และหมอนัดอีกทีวันที่ 6 พฤศจิกายน ตรวจเลือด พร้อม test cdv
โดยรวมอาการของน้องหมาตอนนี้ดีขึ้น ไม่มีไข้ตั้งแต่วันที่ 12 ไม่ไอ ถ่ายเป็นก้อน ตั้งแต่พยาธิออกมา กินได้ปกติ เล่นซนมากๆ ขึ้นชั้นสองเองได้แล้ว เริ่มให้กินฟ้าทะลายโจรมาตั้งแต่วันที่ 20 ตุลา
เราโชคดีที่น้องหมาสามารถกินอาหารเองได้ (ที่บ้านจะว่าตะกละด้วยซ้ำเพราะไปแย่งพี่หมากิน) กินยาง่าย ทุกๆเช้าพ่อจะบอกน้องหมาว่า(เรียกชื่อ)สู้สู้นะ และทุกคนในบ้านก็ดูรักและเป็นห่วงมากๆ
อยากทราบว่าตอนนี้จะวางใจได้รึยังคะ แล้วน้องจะรอดไหม จะหายรึป่าว.. ยาเขียวกับฟ้าทะลายโจรต้องกินไปอีกถึงเมื่อไหร่คะ
ปล. เราไม่ได้แยกหมาตัวใหม่กับตัวเก่าออกจากกันนะคะ เพราะอยู่ด้วยกันตั้งแต่วันแรกที่รับตัวใหม่มาโดยที่ยังไม่รู้ว่าตัวใหม่เป็นไข้หัดสุนัข พยายามแยกแล้ว แยกไม่ได้ค่ะเขาร้องหากันตลอด แต่เวลานอนจะนอนกันคนละมุมห้องค่ะ ห่างกันประมาณสามเมตร แต่ห้องเปิดแอร์!! จะยังมีโอกาสติดเชื้อไหมคะ
ถ้านับจากวันที่ไป รพส. เกษตรครั้งแรก ก็ครบสามอาทิตย์ ตัวใหม่ก็อาการดีขึ้น(แต่ยังไม่วางใจ)
ส่วนตัวเก่าก็ปกติดีค่ะ ไม่เป็นไข้ไม่มีอาการอะไรผิดปกติ เป็นหมาที่ค่อนข้างแข็งแรง อายุ 11ขวบ ป่วยแค่ครั้งเดียวเมื่อปีที่แล้วที่ค่าตับสูง (เกือบตายเหมือนกัน อาการหนักกว่าน้องใหม่อีก หมอบอกให้ทำใจ.. )แต่ตอนนี้ปกติทุกอย่างค่ะ
น้องไซที่ป่วยค่ะ แต่ตอนนี้กลายเป็นน้องไซที่ป่วนคนทั้งบ้านค่ะ (เด็กดื้อ)
เมื่อลูกสุนัขเป็นไข้หัดสุนัข (เป็นลูก(หมา)ของฉันต้องอดทน)
เราได้ลูกสุนัขไซบีเรียนมาจากฟาร์มเมื่อวันที่ 25 ก. ย. 59 ฟาร์มนำมาส่งให้เราที่บ้านประมาณสี่ทุ่มกว่าๆๆ (ไปส่งเด็กๆตัวอื่นๆก่อน)น้องหมาอายุได้ 53 วัน ฉีดวัคซีนมาแล้ว 1เข็ม
วันที่26-27 กันยา น้องหมามีอาการน้ำมูกเขียว หายใจหอบ ไอเหมือนมีอะไรติดอยู่ที่คอ พอถามไปทางฟาร์มบอกว่า น้องหมาน่าจะเป็าหวัดเนื่องจากเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ (ตอนนั้นไม่มีความรู้เรื่องไข้หัดสุนัขเลยเพราะหมาแก่ที่บ้านอีกตัวไม่เคยเป็นฉีดวัคซีนตลอด)
เราไม่ได้นิ่งนอนใจค้นหาข้อมูลจากอากู๋ คิดในใจไว้แล้วว่าอย่าเป็นไข้หัดนะ
วันที่ 28 พาไปคลีนิคแถวบ้าน สัตวแพทย์แจ้งว่าน้องเป็นไข้หวัด+น้ำมูกข้นต้องพ่นยาประมาณสามวัน เราก็พาไปพ่นยาทั้งสามวัน น้ำมูกหายจากเขียว มาเป็นใสแทน
เราจับฝ่าเท้าน้องหมาทุกวันและก็พบว่าฝ่าเท้าแข็งขึ้นจากวันแรกที่มา แต่แม่บอกมันวิ่งเล่นก็แข็งก็สากเป็นธรรมดา
(ช่วงระหว่างนี้มีหูกระตุกๆๆ อยู่บ้างแต่ไม่บ่อย รวมทั้งเดินขาแบบเป๋ๆ เหมือนไม่ค่อยมีแรง จริงๆสังเกตุว่าเดินเป๋ตั้งแต่วันแรกทีมาแล้ว แต่ยังคงเล่นและกินอาหาร+นมได้ เริ่มมีถ่ายเหลว)
วันที่ 1ตุลา น้องหมาไม่กินอาหาร มีอาการเกร็งตัวช่วงบ่าย1ครั้งและช่วงประมาณหนึ่งทุ่มอีก 1 ครั้ง พร้อมทั้งมีขี้ตาเยอะมากและตาแดงทำตาปรือเหมือนจะลืมตาไม่ขึ้น หูกระตุกมาก เดินไม่ไหวต้องอุ้มขึ้นมาถึงจะหายทำตัวเกร็ง
วันที่2ตุลา ตัดสินใจบอกแฟนและแม่ว่าต้องไป รพส. เกษตรแล้วนะ น้องหมาไม่ไหวแล้ว ข้าวไม่กิน นมไม่กิน ป้อนก็อ้วก เดินไม่มีแรง ไม่เล่นซน แฟนจึงรีบพาไป รพส. เกษตรทันที
เมื่อมาถึง รพส. ระหว่างที่นั่งรอภาวนาตลอดเลยว่าขออย่าให้เป็นไข้หัดนะลูก เมื่อหมอเรียกนำเข้าไปตรวจ และ test kid CDV ผลปรากฎว่าน้องหมาเป็นไข้หัดจริงๆ หมอเลยให้เจาะเลือด และพบ มีไข้ 104 องศา เลือดจาง ปอดบวม อายุครบสองเดือนพอดี แต่น้ำหนักแค่ 2. 3 โลเท่านั้น (ตัวเล็กมาก)
หมอได้อธิบายว่าโรคนี้โอกาสรอดน้อยมากโดยเฉพาะหมาเด็กซึ่งอาการของน้องเชื้อน่าจะขึ้นสมองแล้ว ภาวนาอย่างเดียวขออย่าให้ชัก และให้เก็บคำว่าชักไว้ในใจ (หมอบอก) หมอพูดแต่ว่าน่าสงสารจังเลยลูก ตัวเล็กนิดเดียวเอง
ตอนนั้นแฟนถามว่าจะคืนหมาไหมหรือเปลี่ยนตัวใหม่ไหม เพระรักษาไปก็คงไม่หาย
เราบอกแฟนว่าคืนไม่ได้ รักไปแล้ว เอาตัวใหม่มาก็คิดถึงตัวนี้อยู่ดี บวกกับหมอบอกว่า ถึงคืนไปฟาร์มก็ไม่รับคืนหรือถ้ารับคืนก็เอาไปฆ่าทิ้งอยู่ดี
เราเลยตัดสินใจบอกว่าถ้างั้นก็รักษาไปค่ะ เอาให้ถึงที่สุดอะไรจะเกิดก็ช่าง หมอเลยฉีดยาอะไรให้ไม่รู้ที่ รพส. สามสี่เข็มไม่ได้ถาม พร้อมทั้งให้ยามากิน และรักษาตามอาการ และให้ใบส่งตัวมาดูแลที่คลินิค เนื่องจากเราไม่สะดวกที่จะไป รพส. เกษตรทุกวัน
พอกลับมาก็ให้มาพ่นยาต่ออีกสามวัน ไม่มีฉีดยาไม่มีอะไรทั้งนั้นจากคลินิค จากน้ำมูกเขียวก็กลายเป็นใส หลังจากกลับจาก รพส. ก็กินข้าวได้ปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เราก็ไม่ได้วางใจคอยดูแลตลอดเวลา
มื้อเช้าให้กินอาหารเม็ดเอฟวันแช่น้ำซุปต้มไก่+อกไก่ต้มฉีกฝอย+a|d
มื้อกลางวันให้กินไข่ตุ๋น1ฟอง+a|d
มื้อเย็นกินอาหารเม็ดเอฟวันแช่น้ำซุปต้มไก่+อกไก่ต้มฉีกฝอย+a|d + นมแพะ
ป้อนยาเขียวตราใบโพธิ์+เช็ดตัวให้ทุกชั่วโมง ตอนเช้าและเย็นพาวิ่งในบ้านครั้งละครึ่งชั่วโมง ใส่เสื้อให้ทั้งวัน ตอนกลางคืนก่อนนอนต้องอุ้มมาพาดที่อกเหมือนเด็ก เพราะจะงอแง จนกว่าจะหลับ ทำแบบนี้มาหนึ่งอาอาทิตย์ วัดไข้ทุกวัน ไข้ขึ้นๆลงๆ ยังถ่ายเหลวอยู่ และยังมีอาการไอเหมือนมีอะไรติดคออยู่ตลอดเวลา จนกระทั่ง...
เช้าวันที่ 8 ตุลา เราตื่นขึ้นมาก็มองว่าทำไมน้องหมาไม่นอนบนผ้าที่ปูไว้ให้ เหลือบตาไปเห็นพบกับเส้นๆสีขาวๆ กำลังชูหัวดุ๊กดิ๊กขึ้นมาเชียว สองสามตัว
เราไม่รอช้าโทรไปหาหมอที่ รพส. เกษตร (ขอเบอร์หมอไว้) ถามว่าให้น้องกินยาถ่ายพยาธิได้ไหม หมอบอกได้เลยค่ะ เราเลยไปขอซื้อยาถ่ายพยาธิที่คลีนิค แล้วเอามาให้น้องหมากินทันทีตอนเย็น ระหว่างที่ให้กินน้องหมากินน้ำเยอะๆมากๆ จนท้องใสเหมือนจะแตก และเดินวนไปวนมา กระวนกระวาย ประมาณ สี่ทุ่มน้องหมาอ้วกออกมาสองรอบ มีอาหารพร้อมกับพยาธิที่ตายแล้วเยอะมากๆ
(ขออภัยไม่ได้ถ่ายรูป รีบทำความสะอาดเพราะจะอ้วกเช่นกันค่ะ)
หลังจากที่อ้วกเอาพยาธิออก เช้าวันที่ 9 ตุลา เริ่มถ่ายแข็งขึ้นพร้อมมีพยาธิอยู่ แต่น้องหมาไม่มีอาการไอเลยจน ณ ปัจจุบัน
วันที่ 16 ตุลาไป รพส. เกษตร ตามที่ได้นัดหมอ (โทรไปนัดหมอเองค่ะ หมอไม่ได้นัดไว้ เพราะไม่รู้ว่าน้องจะหายหรือเปล่า)
น้ำหนักขึ้นเป็น 3. 6 โล หมอยังไม่ทำวัคซีนให้ใหม่ ยังไม่ตรวจ test อีกรอบ แต่ให้ยากระตุ้นภูมิ ยาเสริมภูมิ ยาก้างปลา ยาบำรุงเลือด วิตามินบำรุงสมอง มาให้กินเหมือนเดิม หมอบอกว่าต้องการเสริมภูมิให้น้องก่อน และหมอนัดอีกทีวันที่ 6 พฤศจิกายน ตรวจเลือด พร้อม test cdv
โดยรวมอาการของน้องหมาตอนนี้ดีขึ้น ไม่มีไข้ตั้งแต่วันที่ 12 ไม่ไอ ถ่ายเป็นก้อน ตั้งแต่พยาธิออกมา กินได้ปกติ เล่นซนมากๆ ขึ้นชั้นสองเองได้แล้ว เริ่มให้กินฟ้าทะลายโจรมาตั้งแต่วันที่ 20 ตุลา
เราโชคดีที่น้องหมาสามารถกินอาหารเองได้ (ที่บ้านจะว่าตะกละด้วยซ้ำเพราะไปแย่งพี่หมากิน) กินยาง่าย ทุกๆเช้าพ่อจะบอกน้องหมาว่า(เรียกชื่อ)สู้สู้นะ และทุกคนในบ้านก็ดูรักและเป็นห่วงมากๆ
อยากทราบว่าตอนนี้จะวางใจได้รึยังคะ แล้วน้องจะรอดไหม จะหายรึป่าว.. ยาเขียวกับฟ้าทะลายโจรต้องกินไปอีกถึงเมื่อไหร่คะ
ปล. เราไม่ได้แยกหมาตัวใหม่กับตัวเก่าออกจากกันนะคะ เพราะอยู่ด้วยกันตั้งแต่วันแรกที่รับตัวใหม่มาโดยที่ยังไม่รู้ว่าตัวใหม่เป็นไข้หัดสุนัข พยายามแยกแล้ว แยกไม่ได้ค่ะเขาร้องหากันตลอด แต่เวลานอนจะนอนกันคนละมุมห้องค่ะ ห่างกันประมาณสามเมตร แต่ห้องเปิดแอร์!! จะยังมีโอกาสติดเชื้อไหมคะ
ถ้านับจากวันที่ไป รพส. เกษตรครั้งแรก ก็ครบสามอาทิตย์ ตัวใหม่ก็อาการดีขึ้น(แต่ยังไม่วางใจ)
ส่วนตัวเก่าก็ปกติดีค่ะ ไม่เป็นไข้ไม่มีอาการอะไรผิดปกติ เป็นหมาที่ค่อนข้างแข็งแรง อายุ 11ขวบ ป่วยแค่ครั้งเดียวเมื่อปีที่แล้วที่ค่าตับสูง (เกือบตายเหมือนกัน อาการหนักกว่าน้องใหม่อีก หมอบอกให้ทำใจ.. )แต่ตอนนี้ปกติทุกอย่างค่ะ
น้องไซที่ป่วยค่ะ แต่ตอนนี้กลายเป็นน้องไซที่ป่วนคนทั้งบ้านค่ะ (เด็กดื้อ)