ทริปนี้เกิดขึ้นได้ เพราะ ไปเจอตั๋วโปร 0 บาทกับแอร์เอเชียจ้า จริง ๆ ไม่ได้เดินทางด้วยสายการบินแอร์ เอเชีย นานมาก ๆ แต่เห็นมี โฆษณา
ขึ้นใน Fb เลยกดเข้าไปดู พอเจอราคาเท่านั้น มือไม้สั่นรีบกดจอง รูดบัตรอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความเป็นตั๋วโปร จึงเป็นการจองตั๋วแบบข้าม
ปีกันเลยทีเดียว เราจองตั๋ว พ.ย.58กำหนดการเดินทางของเรา คือ 5 - 11 ต.ค.59 ค่าตั๋ว ณ วันที่ จอง 4 ใบ ไปกลับ ราคา 7,348 บาท
ด้วยความที่เป็นทริปข้ามปี เราจึงลืม ๆ มันไปไม่หาข้อมูลไม่เตรียมอะไรทั้งสิ้น จนเข้าเดือน กันยายน ลูกสาวก็มาถาม ทริปสิงค์โปร์
แม่ทำหรือยัง การวางแผนเที่ยวฉบับ เร่งรีบจึงเกิดขึ้น ก่อนอื่นข้อมูลเรื่องตั๋ว ด้วยความที่ไม่ได้นั่งสายการบินนี้มานาน
อ่านข้อมูลว่าที่นั่งอาจจะแคบบ้างอะไรบ้าง เลยมีการจอง ที่นั่งกับโหลด กระเป๋าเพิ่มเติม อีก ขาไปจองแถว 1 เพราะเราบินไฟท์ดึก
ถึงสิงค์ไปร์ 21.40 น เผื่อเด็ก ๆ หลับบนเครื่องจะได้สบาย บวกน้ำหนักกระเป๋า 25 โล ขากลับจอง แถว 8 บวกน้ำหนัก 40 โล
เลยมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม อีก 4,289 บาท รวมค่าตั๋วไป กลับ สำหรับ 4 คน 11,673 บาท ตกคนละ 2,918 บาท
โดยรวม ถือว่าประทับใจสายการบิน แอร์ เอเชียนะคะ ที่นั่งก็สบายดี เด็ก ๆ ก็ชอบ ตอนแรกมีกังวลเรื่องเครื่องเล็ก
ตอนนั่งมีเจอฝนเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรหลับแป๊ปเดียวก็ถึงแล้วค่ะ
เรื่อง ที่พัก เรามีโจทย์เดียวคือ ต้องเดินทาง สะดวก ยิ่งใกล้สถานีรถไฟยิ่งดี เราเลย สรุปที่ V Hotel Lavender
เราจองตรงกับทาง โรงแรมเลยนะคะ เพราะเทียบราคากับ Booking ราคาไม่ต่างกันเลยค่ะ แต่ถ้าจองกับทางโรงแรม
จะได้ Free wifi ด้วยค่ะ มีข้อมูลให้สำหรับคนที่ตั้งใจจะจองโรงแรมนี้นะคะ จขกท. จองประมาณ กลางเดือนกันยายน
พอประมาณปลายเดือนเข้าไปดู ราคา ห้องพักรวมที่จอง ถูกลงไป 100 เหรียญ เลยค่ะ จขกท.เลยยกเลิกฉบับเก่า
แล้วจองฉบับใหม่ แต่อีกอาทิตย์นึงเข้าไปดูราคาลดลงอีก 85 เหรียญ แต่รอบนี้ไม่ได้ยกเลิกแล้วค่ะ เพราะใกล้วันเดินทางเต็มที
เรื่อง ปลั๊กไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าบ้านเรากับสิงค์โปร์ใช้ด้วยกันได้ ต่างกันที่ตัวเสียบ
เลยจัดการซื้อหัวปลั๊ก ที่ Home pro แล้วก็พก ปลั๊กพ่วงไป สะดวกมาก ๆ
เมื่อเดินทางมาถึงสิงคโปร์ เราต้องผ่าน Immigration กันเรียบร้อยก็ไปรับกระเป๋าจากนั้น
เดินออกมาข้างนอกเลี้ยวขวา จะเจอ UOB Exchange Counters หน้าตาแบบนี้นะคะ
เราแวะเพื่อซื้อ Sim ของ Starhub กันค่ะ เราซื้อ เป็นแบบ Tourist sim ราคา 15 SGD
ใช้ได้ทั้งหมด 5 วันนะคะ แต่เราอยู่ สิงคโปร์ 7 วัน พนักงานบอกถ้าเราจะต่อวันให้กดโทรออกตามนี้
ไม่มีอะไรยุ่งยากค่ะ พอครบ 5 วันจะมีข้อความขึ้นมาเตือนเราก็กดต่ออายุวันด้วยเงินที่เหลือในบัตร
ก็ใช้ต่อได้ถึง 7 วัน เราใช้แบบ 1 เครื่องแต่เปิดแชร์ wifi ให้ 3 เครื่อง เด็ก ๆ ใช้มือถือเดินจับโปเกม่อน
รวม ๆ เน็คเร็วดีไม่มีปัญหา แต่อาจจะมีหลุดบ้างต้องคอยต่อให้ แต่ตัวมือถือที่ใส่ sim รวม ๆ พอใจนะคะ เน็ตเร็วเน็ตไวดีค่ะ
จาก T1 เราก็ตามป้าย Skytrain เพื่อต่อไป T2 กันค่ะ เดิมที่เราตั้งใจจะนั่ง MRT ไปที่พัก แต่กว่าเราจะไปถึงก็เกือบ 5 ทุ่ม
Counter ขายบัตร EZ Link ปิดไปแล้ว บวกกับกระเป๋าใบใหญ่ที่เราลากมาเลยเปลี่ยนใจ นั่ง Taxi ไปที่พักแทนค่ะ
ราคา อยู่ที่ 18 SGD เช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย พนักงาน โรงแรมก็จะให้ password สำหรับเข้าเน็ตนะคะ
วันแรก เราจะเดินทางไป China town กันค่ะ เพื่อไปไหว้พระ และซื้อตั๋วที่เที่ยวต่าง ๆที่ร้าน Sea Wheel Travel
แต่ก่อนอื่นเราต้องแวะไปซื้อตั๋ว EZ link กันก่อน เราซื้อที่ 7-11 ในสถานีเลยค่ะ
ราคาใบละ 10 SGD เป็นค่าบัตร 5 SGD ใช้ได้ 5 SGD ตอนแรกเราจะเติมเงินเลย แต่พนักงาน
7-11 บอกว่าถ้าเติมกับเค้าต้องเสียค่าเติมให้เดินไปเติมเงินที่สถานีเลยดีกว่า ไม่มีค่าใช้จ่าย
ราคาตาม link เลยนะคะ ซื้อที่ 7-11
http://home.ezlink.com.sg/get-your-ez-link-card/where-the-cards-are-sold
ลายน่ารักมาก ๆ ลูกสาวกำลังฮิตตัวนี้อยู่เลยดีใจสุด ๆ ค่ะ
ขั้นตอนการเติมเงินก็ไปยากนะคะ เอาบัตรวางตรงช่องให้วาง ในจอจะขึ้นจำนวนเงินคงเหลือค่ะ
จากนั้นก็ กด คำว่า Add value จากนั้นกด เลือกคำว่า cash กดเสร็จก็ใส่ธนบัตรใบที่จะเติมในช่องใส่เงิน
สักพัก หน้าจอก็จะขึ้นจำนวนเงิน กด ok สักพักหน้าจอก็ขึ้นจำนวนเงินคงเหลือในบัตร ก็เป็นอันเสร็จค่ะ
วันนี้เราเดินทางไป China town การเดินทางก็ไม่ยากค่ะ จากสถานี Lavender ( EW11) เราจะไปลงที่
สถานี Outram park (EW16) เพื่อเปลี่ยนเป็นสายสีม่วง ไปลงที่สถานี China town ( NE4 )
ก่อนไปตอนหาข้อมูลห้าง จะเจอ 2 ชื่อ คือ People 's Park centre กับ People 's Park Complex
จขกท. ก็ตู่เอาเองว่าสงสัยมันคือห้างเดียวกัน แต่คนพิมพ์ชื่อผิด แต่จริง ๆ มันคือ คนละห้างกันนะคะ
มีข้อแนะนำง่าย ๆ ถ้าเพื่อน ๆ ตั้งใจจะไปเดินเล่น China town และไปไหว้พระ ออกทาง Exit A
ขึ้นมาจะเจอทางเดินแบบนี้เลยค่ะ ใครจะซื้อของฝาก แนะนำให้ซื้อที่นี้เลยค่ะ
แต่ถ้าเพื่อน ๆ จะไปซื้อตั๋วที่ร้าน Sea Wheel Travel ให้ออกทาง Exit D ค่ะ
พอขึ้นไปก็เลี้ยวเข้าห้างแล้วก็ขึ้นลิฟท์ ไปที่ชั้น 3 เลยค่ะ
ที่ร้านจะขายตั๋วราคาดีมาก ๆ ตั๋วจะไม่มีระบุวันที่เข้านะคะ ส่วนมากจะมีแจ้งวันหมดอายุ
ตอนที่ซื้อทุกใบหมดอายุ ปี 2017 ค่ะ ทำให้เราปรับแผนตามสภาพอากาศได้สบาย ๆ เลย มีตั๋ว
เกือบทุกอย่าง นะคะ ยกเว้น Singapore Flyer นะคะ ต้องไปซื้อตรงได้อย่างเดียว
สำหรับใครที่มาลงที่สถานี China townแล้วอยากไปทาน บักกุ๊ตเต๊ ร้าน Song Fa Bak kut ten
ให้ออกทาง Exit E ทาง Hong Lim Complex เลยค่ะ ขึ้นไปถึงเดินเข้าห้างก็จะเจอร้าน เลยค่ะ
วัดกวนอิมตงฮุดโช (The Kwan Im Thong Hood Cho)
ก่อนไปหาข้อมูลเรื่องทางไปวัด แต่ไม่มีข้อมูลที่ละเอียดพอเลย ตอนไปก็เปิด google map บวกกับถามทางคนเดินผ่านแถวนั้น
คนแรกบอกทางตรงข้ามกับ google map เราเลยลังเล แวะถามทางอีกครั้ง ครั้งนี้เจอคุณป้าใจดี เดินพาไปแล้วอธิบายทางอย่าง
ละเอียด วัดหาไม่อยากด้วยค่ะ เราเริ่มเดินทางจากสถานี Lavender (EW11) นั่งไป 1 สถานี ลง Bugis (EW12) ออกทาง Exit C
เดินข้ามถนน เข้าไปในเส้น Shopping Bugis Street เลยค่ะ
ของที่นี้ราคาดี ๆ ใครอยากซื้อพวกขนมของฝากเส้นนี้เลยค่ะ
เดินตรงไปจนสุดทางที่มีร้านค้าจะเจอทางเท้าแบบนี้ ข้ามถนนไปค่ะ
เดินตรงไป จนเจอทาง 4 แยก เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกไม่ไกล ก็จะเจอวัดแล้วค่ะ
หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่วางแผนจะไปเที่ยวสิงคโปร์นะคะ
[CR] CR Singapore ซื้อซิม Starhub ที่สนามบิน , Sea Wheel Travel แนะนำทางไปวัดกวนอิมตงฮุดโช
ขึ้นใน Fb เลยกดเข้าไปดู พอเจอราคาเท่านั้น มือไม้สั่นรีบกดจอง รูดบัตรอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความเป็นตั๋วโปร จึงเป็นการจองตั๋วแบบข้าม
ปีกันเลยทีเดียว เราจองตั๋ว พ.ย.58กำหนดการเดินทางของเรา คือ 5 - 11 ต.ค.59 ค่าตั๋ว ณ วันที่ จอง 4 ใบ ไปกลับ ราคา 7,348 บาท
ด้วยความที่เป็นทริปข้ามปี เราจึงลืม ๆ มันไปไม่หาข้อมูลไม่เตรียมอะไรทั้งสิ้น จนเข้าเดือน กันยายน ลูกสาวก็มาถาม ทริปสิงค์โปร์
แม่ทำหรือยัง การวางแผนเที่ยวฉบับ เร่งรีบจึงเกิดขึ้น ก่อนอื่นข้อมูลเรื่องตั๋ว ด้วยความที่ไม่ได้นั่งสายการบินนี้มานาน
อ่านข้อมูลว่าที่นั่งอาจจะแคบบ้างอะไรบ้าง เลยมีการจอง ที่นั่งกับโหลด กระเป๋าเพิ่มเติม อีก ขาไปจองแถว 1 เพราะเราบินไฟท์ดึก
ถึงสิงค์ไปร์ 21.40 น เผื่อเด็ก ๆ หลับบนเครื่องจะได้สบาย บวกน้ำหนักกระเป๋า 25 โล ขากลับจอง แถว 8 บวกน้ำหนัก 40 โล
เลยมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม อีก 4,289 บาท รวมค่าตั๋วไป กลับ สำหรับ 4 คน 11,673 บาท ตกคนละ 2,918 บาท
โดยรวม ถือว่าประทับใจสายการบิน แอร์ เอเชียนะคะ ที่นั่งก็สบายดี เด็ก ๆ ก็ชอบ ตอนแรกมีกังวลเรื่องเครื่องเล็ก
ตอนนั่งมีเจอฝนเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรหลับแป๊ปเดียวก็ถึงแล้วค่ะ
เรื่อง ที่พัก เรามีโจทย์เดียวคือ ต้องเดินทาง สะดวก ยิ่งใกล้สถานีรถไฟยิ่งดี เราเลย สรุปที่ V Hotel Lavender
เราจองตรงกับทาง โรงแรมเลยนะคะ เพราะเทียบราคากับ Booking ราคาไม่ต่างกันเลยค่ะ แต่ถ้าจองกับทางโรงแรม
จะได้ Free wifi ด้วยค่ะ มีข้อมูลให้สำหรับคนที่ตั้งใจจะจองโรงแรมนี้นะคะ จขกท. จองประมาณ กลางเดือนกันยายน
พอประมาณปลายเดือนเข้าไปดู ราคา ห้องพักรวมที่จอง ถูกลงไป 100 เหรียญ เลยค่ะ จขกท.เลยยกเลิกฉบับเก่า
แล้วจองฉบับใหม่ แต่อีกอาทิตย์นึงเข้าไปดูราคาลดลงอีก 85 เหรียญ แต่รอบนี้ไม่ได้ยกเลิกแล้วค่ะ เพราะใกล้วันเดินทางเต็มที
เรื่อง ปลั๊กไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าบ้านเรากับสิงค์โปร์ใช้ด้วยกันได้ ต่างกันที่ตัวเสียบ
เลยจัดการซื้อหัวปลั๊ก ที่ Home pro แล้วก็พก ปลั๊กพ่วงไป สะดวกมาก ๆ
เมื่อเดินทางมาถึงสิงคโปร์ เราต้องผ่าน Immigration กันเรียบร้อยก็ไปรับกระเป๋าจากนั้น
เดินออกมาข้างนอกเลี้ยวขวา จะเจอ UOB Exchange Counters หน้าตาแบบนี้นะคะ
เราแวะเพื่อซื้อ Sim ของ Starhub กันค่ะ เราซื้อ เป็นแบบ Tourist sim ราคา 15 SGD
ใช้ได้ทั้งหมด 5 วันนะคะ แต่เราอยู่ สิงคโปร์ 7 วัน พนักงานบอกถ้าเราจะต่อวันให้กดโทรออกตามนี้
ไม่มีอะไรยุ่งยากค่ะ พอครบ 5 วันจะมีข้อความขึ้นมาเตือนเราก็กดต่ออายุวันด้วยเงินที่เหลือในบัตร
ก็ใช้ต่อได้ถึง 7 วัน เราใช้แบบ 1 เครื่องแต่เปิดแชร์ wifi ให้ 3 เครื่อง เด็ก ๆ ใช้มือถือเดินจับโปเกม่อน
รวม ๆ เน็คเร็วดีไม่มีปัญหา แต่อาจจะมีหลุดบ้างต้องคอยต่อให้ แต่ตัวมือถือที่ใส่ sim รวม ๆ พอใจนะคะ เน็ตเร็วเน็ตไวดีค่ะ
จาก T1 เราก็ตามป้าย Skytrain เพื่อต่อไป T2 กันค่ะ เดิมที่เราตั้งใจจะนั่ง MRT ไปที่พัก แต่กว่าเราจะไปถึงก็เกือบ 5 ทุ่ม
Counter ขายบัตร EZ Link ปิดไปแล้ว บวกกับกระเป๋าใบใหญ่ที่เราลากมาเลยเปลี่ยนใจ นั่ง Taxi ไปที่พักแทนค่ะ
ราคา อยู่ที่ 18 SGD เช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย พนักงาน โรงแรมก็จะให้ password สำหรับเข้าเน็ตนะคะ
วันแรก เราจะเดินทางไป China town กันค่ะ เพื่อไปไหว้พระ และซื้อตั๋วที่เที่ยวต่าง ๆที่ร้าน Sea Wheel Travel
แต่ก่อนอื่นเราต้องแวะไปซื้อตั๋ว EZ link กันก่อน เราซื้อที่ 7-11 ในสถานีเลยค่ะ
ราคาใบละ 10 SGD เป็นค่าบัตร 5 SGD ใช้ได้ 5 SGD ตอนแรกเราจะเติมเงินเลย แต่พนักงาน
7-11 บอกว่าถ้าเติมกับเค้าต้องเสียค่าเติมให้เดินไปเติมเงินที่สถานีเลยดีกว่า ไม่มีค่าใช้จ่าย
ราคาตาม link เลยนะคะ ซื้อที่ 7-11
http://home.ezlink.com.sg/get-your-ez-link-card/where-the-cards-are-sold
ลายน่ารักมาก ๆ ลูกสาวกำลังฮิตตัวนี้อยู่เลยดีใจสุด ๆ ค่ะ
ขั้นตอนการเติมเงินก็ไปยากนะคะ เอาบัตรวางตรงช่องให้วาง ในจอจะขึ้นจำนวนเงินคงเหลือค่ะ
จากนั้นก็ กด คำว่า Add value จากนั้นกด เลือกคำว่า cash กดเสร็จก็ใส่ธนบัตรใบที่จะเติมในช่องใส่เงิน
สักพัก หน้าจอก็จะขึ้นจำนวนเงิน กด ok สักพักหน้าจอก็ขึ้นจำนวนเงินคงเหลือในบัตร ก็เป็นอันเสร็จค่ะ
วันนี้เราเดินทางไป China town การเดินทางก็ไม่ยากค่ะ จากสถานี Lavender ( EW11) เราจะไปลงที่
สถานี Outram park (EW16) เพื่อเปลี่ยนเป็นสายสีม่วง ไปลงที่สถานี China town ( NE4 )
ก่อนไปตอนหาข้อมูลห้าง จะเจอ 2 ชื่อ คือ People 's Park centre กับ People 's Park Complex
จขกท. ก็ตู่เอาเองว่าสงสัยมันคือห้างเดียวกัน แต่คนพิมพ์ชื่อผิด แต่จริง ๆ มันคือ คนละห้างกันนะคะ
มีข้อแนะนำง่าย ๆ ถ้าเพื่อน ๆ ตั้งใจจะไปเดินเล่น China town และไปไหว้พระ ออกทาง Exit A
ขึ้นมาจะเจอทางเดินแบบนี้เลยค่ะ ใครจะซื้อของฝาก แนะนำให้ซื้อที่นี้เลยค่ะ
แต่ถ้าเพื่อน ๆ จะไปซื้อตั๋วที่ร้าน Sea Wheel Travel ให้ออกทาง Exit D ค่ะ
พอขึ้นไปก็เลี้ยวเข้าห้างแล้วก็ขึ้นลิฟท์ ไปที่ชั้น 3 เลยค่ะ
ที่ร้านจะขายตั๋วราคาดีมาก ๆ ตั๋วจะไม่มีระบุวันที่เข้านะคะ ส่วนมากจะมีแจ้งวันหมดอายุ
ตอนที่ซื้อทุกใบหมดอายุ ปี 2017 ค่ะ ทำให้เราปรับแผนตามสภาพอากาศได้สบาย ๆ เลย มีตั๋ว
เกือบทุกอย่าง นะคะ ยกเว้น Singapore Flyer นะคะ ต้องไปซื้อตรงได้อย่างเดียว
สำหรับใครที่มาลงที่สถานี China townแล้วอยากไปทาน บักกุ๊ตเต๊ ร้าน Song Fa Bak kut ten
ให้ออกทาง Exit E ทาง Hong Lim Complex เลยค่ะ ขึ้นไปถึงเดินเข้าห้างก็จะเจอร้าน เลยค่ะ
วัดกวนอิมตงฮุดโช (The Kwan Im Thong Hood Cho)
ก่อนไปหาข้อมูลเรื่องทางไปวัด แต่ไม่มีข้อมูลที่ละเอียดพอเลย ตอนไปก็เปิด google map บวกกับถามทางคนเดินผ่านแถวนั้น
คนแรกบอกทางตรงข้ามกับ google map เราเลยลังเล แวะถามทางอีกครั้ง ครั้งนี้เจอคุณป้าใจดี เดินพาไปแล้วอธิบายทางอย่าง
ละเอียด วัดหาไม่อยากด้วยค่ะ เราเริ่มเดินทางจากสถานี Lavender (EW11) นั่งไป 1 สถานี ลง Bugis (EW12) ออกทาง Exit C
เดินข้ามถนน เข้าไปในเส้น Shopping Bugis Street เลยค่ะ
ของที่นี้ราคาดี ๆ ใครอยากซื้อพวกขนมของฝากเส้นนี้เลยค่ะ
เดินตรงไปจนสุดทางที่มีร้านค้าจะเจอทางเท้าแบบนี้ ข้ามถนนไปค่ะ
เดินตรงไป จนเจอทาง 4 แยก เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกไม่ไกล ก็จะเจอวัดแล้วค่ะ
หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่วางแผนจะไปเที่ยวสิงคโปร์นะคะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น