ถึงผู้หญิงที่เจ็บปวดเพราะ "ความดำ" จากผู้หญิงที่มีความสุขเพราะ "ความดำ"

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เนื่องจากวันนี้เราเห็นกระทู้ที่เกี่ยวกับสีผิวของผู้หญิง เรารู้สึกเข้าใจเจ้าของกระทู้มากๆ แม้ในตอนนี้ ภาพลักษณ์ที่เราจะแสดงออกมาในสังคมคือความมั่นใจ แต่จริงๆแล้วกว่าที่เราจะเดินทางมาถึงจุดของความมั่นใจได้ เรายอมรับว่าเราเคยอยู่บนเส้นทางที่เจ็บปวดเพราะความ "ดำ" มาก่อน ตั้งแต่เด็กเรามักโดนล้อเรื่องสีผิว เราไม่โอเคกับมันหรอก เราไม่ภูมิใจกับผิวของเราเลยสักนิด เราซื้อครีมนู่นนี่นั่นมามากมาย อะไรที่เขาบอกว่าใช้แล้วขาว เราก็ซื้อมา "แต่มันก็ไม่ขาวซักที"



จนเมื่อตอน ม.ปลาย มีเพื่อนคนนึงมาพูดกับเราว่า "ถ้าจี๋ขาว จี๋น่ารักเลยนะเนี่ย" ถ้าเป็น ณ ตอนนี้เราคงตั้งคำถามในใจว่า "ต้องขาวเท่านั้นถึงจะสวยเหรอ ความสวยต้องมีเงื่อนไขตายตัวด้วยเหรอ" แต่ ณ ตอนนั้น เรายังคงเดินตามเส้นทางที่สังคมกำหนด ทำให้เราโทษตัวเองว่าฉันผิดที่ฉันดำ ฉันเลยไม่สวย
จนวันหนึ่ง เราจ้องมองไปที่องค์ประกอบหน้าของตัวเองในกระจก มันทำให้เราสงสัยว่า ทำไมคนถึงบอกว่าเราไม่สวย เราคิดว่าเราสวยนะ หรือเพียงเพราะพวกเขามองไม่เห็น? ถ้าอย่างนั้น ทำไมเราไม่เอาตัวเราเข้าไปในสังคมที่เขามองเห็นความสวยของเราล่ะ?



หลังจากนั้น เราก็เริ่มเปิดใจกับคนฝั่งตะวันตกมากขึ้น แต่เป็นในฐานะเพื่อนเท่านั้น ตอนนั้นสเปคของเรายังเป็นผู้ชายไทยอยู่ เพื่อนๆฝรั่งพวกนั้นชมเราว่าเราสวย ผู้หญิงฝรั่งอยากมีสีผิวอย่างเรา ช่วงเวลานั้นความมั่นใจของเรามันค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆๆๆ เรามีความมั่นใจในการแต่งตัวมากขึ้น เราเริ่มแต่งหน้า ท่วงท่าในการเดิน การพูดการจา การมอง การสบตาของเรา มันแสดงออกถึงความมั่นใจมากขึ้น จนกระทั่งมีเพื่อนๆพี่ๆคนไทยชมเราว่า "สวย" จากนั้นก็เริ่มมีผู้ชายไทยเข้ามา เราเคยเดทกับนักเรียนนายร้อย แต่ความสัมพันธ์ก็ไม่ได้พัฒนา อาจเป็นเพราะเราเป็นผู้หญิงดุ เป็นผู้หญิงที่ตรงแต่ไม่แรง(ให้นึกถึงผู้หญิงฝรั่ง)
หลังจากนั้น วันหนึ่งเราไปยืนรอเพื่อนรุ่นพี่ที่สยามพารากอน ในขณะที่ยืนรออยู่นั้น มีฝรั่งรูปหล่อสูงโปร่งคนนึงเดินเข้ามาหาเรา พร้อมกับลูกสาวตัวน้อย เขามาชวนเราคุย เราจำได้ว่าเราคุยกันถูกคอมากๆ แถมเขายังชมว่าเรา "น่ารัก" หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีก เราไม่ได้แลกไลน์แลกเบอร์ไว้ เรารู้สึกว่ามันคงไม่เหมาะสม ถึงจะคิดแค่เพื่อนก็ตาม เพราะเขามีลูกมีเมียแล้วและเราเป็นผู้หญิง เหตุการณ์วันนั้นมันเปลี่ยนชีวิตเราไปเลย เราคิดว่าถ้าเราอยู่กับสังคมไทยแล้วเราไม่สวย แต่เราอยู่กับสังคมตะวันตกแล้วเราสวย ถ้าอย่างนั้น "ความสวยมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นสากลสิ" ถ้ามันไม่เป็นสากล ก็แปลว่า "ความสวยมันไม่ใช่ความจริง"



จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เราไม่เอาเงื่อนไขของความสวยมาแสดงถึงตัวตนของเรา แต่เราเอาเงื่อนไขของความสามารถของเรามาบอกว่าเราเป็นใคร ในทุกๆวันเราพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ เราทำอะไรก็ได้ที่เราชอบและมีความสุข เช่น ออกกำลังกาย แต่งหน้า แต่งตัว เรียนภาษา รวมทั้งพัฒนาความสามารถอื่นๆ เราฝึกอ่าน เราฝึกตั้งคำถาม เราฝึกวิเคราะห์ และเราคิดอย่างคนสวย คือเราคิดว่าเราสวย แม้ในตอนที่เราไม่มีเครื่องสำอางอยู่บนหน้า ณ ตอนนี้เราพูดได้อย่างเต็มปากว่า "เรามีความสุข" "เราเห็นคุณค่าในตัวเรา" และ "เรารักสีผิวของเรา ขอบคุณผิวสีนี้มากๆที่ทำให้เราได้เติมเต็มตัวเอง"


เราอยากให้กำลังใจผู้หญิงทุกคนนะคะ คุณค่าของคุณมันไม่ใช่แค่ว่าคุณสวยหรือไม่สวย แต่มันยังมีอะไรอีกเยอะแยะบนโลกใบนี้ที่คุณทำแล้วโดดเด่นออกมา จงพัฒนาตัวคุณเองค่ะ ส่วนในเรื่องคู่ครองนั้น คุณไม่จำเป็นเลยที่คุณต้องสูญเสียตัวตนของคุณไปเพื่อความชอบของใครสักคนหนึ่ง เป็นตัวของตัวเองค่ะ ในแบบที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แล้ว The right man will come to you ไม่จำเป็นต้องตั้งเป้าว่าต้องเป็นผู้ชายไทยหรือผู้ชายฝรั่ง เพราะถ้าตั้งเป้าแล้ว มันจะทำให้คุณต้องทิ้งตัวตนบางอย่างของคุณเพื่อไปสู่เป้าหมาย แค่คนที่เหมาะสมกับชีวิตของเราก็พอค่ะ ตอนนี้เรามีแฟนเป็นฝรั่ง เหตุผลก็แค่เพราะเขารับกับความดุของเราได้ เราไม่ได้หมายความว่าเขาดีกว่าผู้ชายไทยนะคะ
หมายเหตุ: โพสนี้ไม่ได้สื่อว่าผู้ชายชาติไหนดีกว่ากัน แต่จะสื่อถึงอิทธิพลของสังคมที่มีต่อวิธีคิดของเรา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่