ขอเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการยื่นกู้ "สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยพิเศษครบรอบ 63 ปี ธอส." เจ็บแสบจริง!!!
เนื่องจากเจ้าของกระทู้ได้ทำการยื่นเรื่องกู้ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้าง โดยใช้ระยะเวลารวบรวมเอกสารตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงตุลาคมจึงได้เอกสารครบถ้วน โดยระยะเวลาช่วงที่ยื่นเอกสารได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน และผิดพลาดจากทาง ธอส สาขาหัวหิน เป็นช่วงๆ ทำให้ต้องมีการคิดแก้ปัญหาเป็นระยะๆ ทุกขั้นตอนที่ต้องแก้ปัญหามีค่าใช้จ่ายเสริมทั้งสิ้น เช่น
- เงินงวดที่จะจ่ายให้ก้อนแรกค่าที่ดิน ตอนแรกไม่มีการแจ้งหรือแจกแจงรายละเอียดของการจ่ายเงินกู้เลย ซึ่งผู้ขอกู้ได้รับข้อมูลจากคนที่จะขายที่ให้ว่าเขาจะจ่ายให้เป็นงวดๆ(เราไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อนจริงๆฟังครั้งแรกก็หงายเงิบซิค่ะ ว่างั้นจะเอาเงินก้อนที่ไหนมาจ่ายค่าที่ดินให้คนขายที่แล้วใครจะโอนที่ดินให้เราในราคาที่ธนาคารแจ้งจะจ่ายเงินงวดให้)
- แจ้งเงินงวดที่จะจ่ายให้ก้อนแรกผิดพลาด โดยบอกเราว่าจะให้เป็นจำนวนเงิน 50% ของราคาประเมินที่ดิน หรือ 20% ของวงเงินกู้ อันไหนที่ต่ำกว่ากันจะได้เป็นจำนวนนั้นไป ซึ่งของเราได้เป็น 20% ของวงเงินกู้ ทำให้ผู้กู้ต้องตาลีตาเหลือกไปหาเงินเพิ่มเพื่อมาให้เจ้าของที่ ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นจำนวนหลายแสนบาท
จนสุดท้ายเอกสารครบถ้วน ยื่นขออนุมัติซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะอนุมัติภายใน 1-2 วันหลังยื่น เนื่องจากเงื่อนไขของธนาคารต้องยื่นกู้จนได้รับการอนุมัติภายในสิ้นเดือนตุลาคมถึงได้ดอกเบี้ยเรทนี้และต้องทำนิติกรรมโอนให้เรียบร้อยภายใน 7 วันหลังเรื่องอนุมัติถึงไม่ต้องเสียค่าจดจำนองเป็นจำนวน 1%ของวงเงินกู้(หลายหมื่นเกือบแสนบาท)
- ทางธนาคารแจ้งข้อมูลผิดพลาด - คือบอกว่าถ้ายื่นเรื่องแล้วเรื่องน่าจะอนุมัติภายใน 1-2 วันหลังยื่น เนื่องจากเงื่อนไขการจดจำนองด้านบนต้องทำการจดจำนองใน 7 วัน(รวมวันหยุด) ทางผู้กู้จึงชะล่าใจแจ้งทางธนาคารว่าอย่าเพิ่งส่งเรื่องไปเพราะกลัวใบอนุญาตก่อสร้างออกไม่ทันวันโอน(เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้ใช้วันโอน) พอรู้วันที่จะได้รับใบอนุญาตก่อสร้างล่วงหน้าจึงได้ทำการแจ้งกับธนาคารให้ส่งเรื่องยื่นกู้ได้เลย(เพราะคำนวณแล้วทันเวลาทุกอย่างพอดี)
พอเอาเข้าจริงทางธนาคารบอกต้องส่งเอกสารไปสาขาใหญ่ซึ่งใช้เวลานานเป็นอาทิตย์ สุดท้ายเลยต้องโทรไปต่อว่าทางสาขา ทางสาขาจึงได้โทรไปขอรีบอนุมัติให้เป็นกรณีพิเศษ จนทันวันที่ 21 ตุลาคม 2559 (นึกว่าจะจบเรื่องแล้วค่ะ)
แต่สุดท้ายก็หมดคำพูดกับ ธอส จริงๆ
เนื่องจากทาง ธอส แจ้งว่าอนุมัติแบบมีเงื่อนไขคือต้องทำการทุบรื้ออาคาร(ไม่สามารถทำได้ภายใน 10 วันนี้)และให้บริษัทที่ธนาคารมอบหมายให้ไปตรวจสอบว่าทุบเรียบร้อย(ใช้เวลาดำเนินการ 3 วัน) ซึ่งต้องทำให้สำเร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เทวดาที่ไหนก็ไม่สามารถทำได้หรอกค่ะ(เพราะธนาคารไม่เคยแจ้งล่วงหน้าเลยทั้งๆที่เราแจ้งรายละเอียดทั้งหมดกับธนาคาร มีทั้งใบอนุญาติรื้อถอนและก่อสร้างเรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ)
สุดท้ายก็ต้องกลับบ้านพร้อมน้ำตากับการเสียเวลาเดือนกว่ารวบรวมเอกสาร และ ค่าใช้จ่ายที่เสียให้ธนาคาร(ค่าประเมินราคาที่ดิน), หาเงินก้อนให้เจ้าของที่และการยื่นเรื่องขอใบอนุญาตก่อสร้างแบบเร่งด่วนจากเทศบาล ในการดำเนินเรื่องครั้งนี้ สรุปเสียเงินฟรีเป็นหลักแสน โดยไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากยอมรับชะตากรรม ปล่อยเวลาให้เลยสิ้นเดือนตุลาคม 2559 ไปแบบเปล่าประโยชน์
ปล.
- พยายามต่อรองกับธนาคารว่ามีทางไหนช่วยได้บ้างไหม ได้รับการปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย (บอกหมดโปรฯนี้สิ้นเดือนตุลาคมนี้ไม่สามารถยืดได้)
- อยากให้ทางธนาคารคิดเผื่อผู้ขอกู้ซักนิดนะคะว่าถ้าเป็นคุณคุณจะทำได้ไหม(เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างก็ดี)
- เครียดกับเรื่องนี้มานานเดือนกว่าละคะ ใครเคยมีประสบการณ์มาแชร์เพื่อระบายความเครียดกันได้นะคะ สงสารคนจนอย่างเราที่ต้องกู้เงิรกับธนาคารพวกนี้จริงๆค่ะ
ขอบคุณนะคะที่มาอ่านข้อความระบายความเครียดนี้ค่ะ
(
สินเชื่อกู้ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้าง ธอส.
เนื่องจากเจ้าของกระทู้ได้ทำการยื่นเรื่องกู้ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้าง โดยใช้ระยะเวลารวบรวมเอกสารตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงตุลาคมจึงได้เอกสารครบถ้วน โดยระยะเวลาช่วงที่ยื่นเอกสารได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน และผิดพลาดจากทาง ธอส สาขาหัวหิน เป็นช่วงๆ ทำให้ต้องมีการคิดแก้ปัญหาเป็นระยะๆ ทุกขั้นตอนที่ต้องแก้ปัญหามีค่าใช้จ่ายเสริมทั้งสิ้น เช่น
- เงินงวดที่จะจ่ายให้ก้อนแรกค่าที่ดิน ตอนแรกไม่มีการแจ้งหรือแจกแจงรายละเอียดของการจ่ายเงินกู้เลย ซึ่งผู้ขอกู้ได้รับข้อมูลจากคนที่จะขายที่ให้ว่าเขาจะจ่ายให้เป็นงวดๆ(เราไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อนจริงๆฟังครั้งแรกก็หงายเงิบซิค่ะ ว่างั้นจะเอาเงินก้อนที่ไหนมาจ่ายค่าที่ดินให้คนขายที่แล้วใครจะโอนที่ดินให้เราในราคาที่ธนาคารแจ้งจะจ่ายเงินงวดให้)
- แจ้งเงินงวดที่จะจ่ายให้ก้อนแรกผิดพลาด โดยบอกเราว่าจะให้เป็นจำนวนเงิน 50% ของราคาประเมินที่ดิน หรือ 20% ของวงเงินกู้ อันไหนที่ต่ำกว่ากันจะได้เป็นจำนวนนั้นไป ซึ่งของเราได้เป็น 20% ของวงเงินกู้ ทำให้ผู้กู้ต้องตาลีตาเหลือกไปหาเงินเพิ่มเพื่อมาให้เจ้าของที่ ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นจำนวนหลายแสนบาท
จนสุดท้ายเอกสารครบถ้วน ยื่นขออนุมัติซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะอนุมัติภายใน 1-2 วันหลังยื่น เนื่องจากเงื่อนไขของธนาคารต้องยื่นกู้จนได้รับการอนุมัติภายในสิ้นเดือนตุลาคมถึงได้ดอกเบี้ยเรทนี้และต้องทำนิติกรรมโอนให้เรียบร้อยภายใน 7 วันหลังเรื่องอนุมัติถึงไม่ต้องเสียค่าจดจำนองเป็นจำนวน 1%ของวงเงินกู้(หลายหมื่นเกือบแสนบาท)
- ทางธนาคารแจ้งข้อมูลผิดพลาด - คือบอกว่าถ้ายื่นเรื่องแล้วเรื่องน่าจะอนุมัติภายใน 1-2 วันหลังยื่น เนื่องจากเงื่อนไขการจดจำนองด้านบนต้องทำการจดจำนองใน 7 วัน(รวมวันหยุด) ทางผู้กู้จึงชะล่าใจแจ้งทางธนาคารว่าอย่าเพิ่งส่งเรื่องไปเพราะกลัวใบอนุญาตก่อสร้างออกไม่ทันวันโอน(เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้ใช้วันโอน) พอรู้วันที่จะได้รับใบอนุญาตก่อสร้างล่วงหน้าจึงได้ทำการแจ้งกับธนาคารให้ส่งเรื่องยื่นกู้ได้เลย(เพราะคำนวณแล้วทันเวลาทุกอย่างพอดี)
พอเอาเข้าจริงทางธนาคารบอกต้องส่งเอกสารไปสาขาใหญ่ซึ่งใช้เวลานานเป็นอาทิตย์ สุดท้ายเลยต้องโทรไปต่อว่าทางสาขา ทางสาขาจึงได้โทรไปขอรีบอนุมัติให้เป็นกรณีพิเศษ จนทันวันที่ 21 ตุลาคม 2559 (นึกว่าจะจบเรื่องแล้วค่ะ)
แต่สุดท้ายก็หมดคำพูดกับ ธอส จริงๆ
เนื่องจากทาง ธอส แจ้งว่าอนุมัติแบบมีเงื่อนไขคือต้องทำการทุบรื้ออาคาร(ไม่สามารถทำได้ภายใน 10 วันนี้)และให้บริษัทที่ธนาคารมอบหมายให้ไปตรวจสอบว่าทุบเรียบร้อย(ใช้เวลาดำเนินการ 3 วัน) ซึ่งต้องทำให้สำเร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เทวดาที่ไหนก็ไม่สามารถทำได้หรอกค่ะ(เพราะธนาคารไม่เคยแจ้งล่วงหน้าเลยทั้งๆที่เราแจ้งรายละเอียดทั้งหมดกับธนาคาร มีทั้งใบอนุญาติรื้อถอนและก่อสร้างเรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ)
สุดท้ายก็ต้องกลับบ้านพร้อมน้ำตากับการเสียเวลาเดือนกว่ารวบรวมเอกสาร และ ค่าใช้จ่ายที่เสียให้ธนาคาร(ค่าประเมินราคาที่ดิน), หาเงินก้อนให้เจ้าของที่และการยื่นเรื่องขอใบอนุญาตก่อสร้างแบบเร่งด่วนจากเทศบาล ในการดำเนินเรื่องครั้งนี้ สรุปเสียเงินฟรีเป็นหลักแสน โดยไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากยอมรับชะตากรรม ปล่อยเวลาให้เลยสิ้นเดือนตุลาคม 2559 ไปแบบเปล่าประโยชน์
ปล.
- พยายามต่อรองกับธนาคารว่ามีทางไหนช่วยได้บ้างไหม ได้รับการปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย (บอกหมดโปรฯนี้สิ้นเดือนตุลาคมนี้ไม่สามารถยืดได้)
- อยากให้ทางธนาคารคิดเผื่อผู้ขอกู้ซักนิดนะคะว่าถ้าเป็นคุณคุณจะทำได้ไหม(เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างก็ดี)
- เครียดกับเรื่องนี้มานานเดือนกว่าละคะ ใครเคยมีประสบการณ์มาแชร์เพื่อระบายความเครียดกันได้นะคะ สงสารคนจนอย่างเราที่ต้องกู้เงิรกับธนาคารพวกนี้จริงๆค่ะ
ขอบคุณนะคะที่มาอ่านข้อความระบายความเครียดนี้ค่ะ