SOTUS the series (กึ่งแต่งเรื่อง) : ว่าด้วยเรื่องแต่ง “Two as One” เผื่อมีคนคิดถึง ... และ คลายความเศร้าหมอง

3.30 A.M.

“โอย เสร็จซักที”
รุ่นพี่ฝ่ายจัดซื้อถอนหายใจเฮือกพร้อมฟุบหน้าลงกับโต๊ะในออฟฟิศหลังเดินลากขามาจากห้องประชุมเสร็จโปรเจคที่ทรหดข้ามวันข้ามคืน ในที่สุดทุกอย่างก็ถึงจุดลงตัวในตอน “ตีสาม” ใช่ตีสามของวันหนึ่งในสัปดาห์ป่าช้าแตกปิดงบดุลปลายปีของบริษัท ฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างทำงานกันหามรุ่งหามค่ำไม่ได้กลับบ้านกันหลายวัน ... ในที่สุดก็ได้พักเสียที

“ เป็นไรวะ ! จะเป็นลมป่าวเอ็งอ่ะ ”
“ กระทิงแดงซักขวดมะ ”

อาทิตย์เงยหน้าเห็นเงาในประตูกระจกของออฟฟิศราง ๆ ใบหน้าซีดค่อนข้างอิดโรยเพราะไม่ได้พัก คิ้วที่ขมวดแน่น ใต้คล้ำเหมือนหมีแพนด้า ถูกล่ะว่าเหนื่อยนรกมาก ๆ กับงานที่ผ่านมา แต่ที่มันติดอยู่ในใจมันมากกว่านั้นอีก

“ หรือทำงานเยอะจนทะเลาะกับแฟน ? ”

จึ๊ก ... พอพูดถึง “แฟน” แล้วก็แทงใจดำ อาทิตย์เผลอปากตอบออกไปเพราะกลุ้มใจเต็มที

“ ถ้า “ ทะเลาะ ” จริง ผมจะไม่กลุ้มเท่านี้เลยพี่ ”

“ ฮะ ถึงกะขอเลิกเลยเหรอวะ ?”

หัวหน้าแผนกที่ฟังอยู่เงียบ ๆ เริ่มตีความ

“ โอ๊ยพี่ ไม่ใช่ครับ ”

เพราะ “เข้าใจ” มากเกินไปต่างหาก ไม่เรียกร้อง ไม่อะไรทั้งนั้น มีแต่ให้กำลังใจ เลยไม่รู้ว่าจริง ๆ คิดยังไงกันแน่ โดยเฉพาะเมื่อวาน ... คงเรียกว่าเมื่อวานได้น่ะแหละนะ ก็ตอนนี้มันตีสามกว่าแล้วนี่ วันสำคัญของเจ้าตัว “วันรับปริญญา” ที่เขาดันติดงานเกือบทั้งเดือน วันซ้อมก็ไม่ได้ไป วันรับจริงก็ติดแหงกอยู่บริษัทตั้งแต่คืนเมื่อวาน เวลาหายใจยังไม่มีเลย ไอ้ตอนที่โทรไปก็เหมือนกับว่าเข้าหอประชุมไปแล้วอีก ได้แต่ส่งข้อความทางไลน์ไปยินดี เช็คดูเมื่อตะกี๊ ขึ้นว่า read แล้วก็เงียบ ไม่ตอบ

“ งอน !!! ชัวร์ !!!  เมียพี่ก็คล้ายเงี้ยแหละ จัดซักดอกสองดอกก็หาย”

ฮิ้ววววววว ทั้งแผนกได้ฟังลีลาแนะนำพี่หัวหน้าก็โห่ฮากริ๊วกราวก่อนจะแยกย้ายสลายตัวพาสารร่างกลับไปพักผ่อนบ้านใครบ้านมัน ส่วนคนฟังทำหน้าจะขำก็ไม่ใช่จะร้องไห้ก็ไม่เชิง ไม่อยากจะบอกว่าไอ้ที่โดน “จัด” มาตลอดมันผมนี่แหละไม่ใชฝ่ายนั้นเสียหน่อย

ก่อนจะลาจากยังอุตส่าห์สำทับมาอีกว่า

“ แผนกเราทาง HR แจ้งในที่ประชุมกะพี่ว่ามี short break นะเว้ย อย่าลืมมมม ”

หลังจากงานหนักที่คุ้มเกินค่าโอทีมาทั้งสัปดาห์แผนกจัดซื้อจึงได้วันหยุดพิเศษเพิ่มขึ้นมาเป็นเสาร์อาทิตย์ และ วันจันทร์อีกหนึ่งวันให้พักร่าง

“ มีเวลาถึงวันจันทร์ จะทำอะไรก็รีบทำนะจ๊ะ อาทิตย์ เบ่บี๋”

เฮ้ย ๆ พี่ ... กระพริบตาปิ๊ง ๆ แบบนั้นแปลว่าอะไร๊ .....

แต่เขาก็ไม่นึกว่าก้องภพจะงอนนะ คนนั้นน่ะมันเจ้าแห่งเหตุผลอยู่แล้ว ดีไม่ดีที่ไม่โทรมานี่ก็เพราะเกรงใจนั่นแหละ พอคิดแบบนี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดไปกันใหญ่ เขาควรจะเอาใจใส่ในความสัมพันธ์มากกว่านี้รึเปล่านะ อยู่ด้วยกันทีไรก็มีแต่คนที่อยู่ในสถานะรุ่นน้อง (และแฟน) ที่คอยเอาใจอยู่ตลอดมา

ทุกอย่างก็มีแต่ก้องภพที่เริ่มก่อนทั้งนั้น รุกจนเขาถอยแทบไม่เป็นกระบวน คอยวอแว คอยเอาใจใส่ เขามีความสุข ไม่เคยเหงา ไม่เคยเบื่อเลย แม้กระทั่งเวลาที่งานยุ่ง ก็ไม่เคยเรียกร้อง รับเท่าที่ให้ ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น ทั้ง ๆ ที่บางครั้งเขาก็จับได้ว่าเจ้าตัวก็อยากจะงอแงบ้างอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ทำเพราะคิดว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว และ จะว่าทำก็ทำไม่ค่อยเป็น

ความรู้สึกอ่อนหวานบางอย่างล้นขึ้นมาในใจของอาทิตย์เมื่อคิดถึงร่างสูงและใบหน้าขาวสะอาดที่เหมือนจะยิ้มนิด ๆ อย่างอารมณ์ดีอยู่เสมอ นิสัยสุภาพ เอื้อเฟื้อ แต่ก็เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก หมาป่าในคราบลูกแกะชัด ๆ จะหาใครฉลาดแกมโกงกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ภาพในอดีตหลั่งไหลเข้ามาในความคิดอย่างห้ามไม่อยู่

ภาพวันนั้นที่ทะเลเมื่อ “เจ้านั่น” หายไปในเกลียวคลื่นวันรับน้องที่ทะเล

ภาพวันนั้นเมื่อ “เจ้านั่น” หันหลังจากไป ทิ้งเขาไว้กับนมเย็นของโปรดที่แปร่งปร่าและน้ำตาที่ไม่รู้เริ่มจากจุดไหน

ภาพวันนั้นเมื่อ “เจ้านั่น” เดินผ่านหน้าเขาไปอย่างเย็นชาที่งานแต่งของเฮียตั้มกับเจ๊ฝน

ภาพวันนั้นเมื่อ “เจ้านั่น” หัวเราะและพูดคุยกับแพรไพลิน แล้วเขารู้สึกเหมือนเป็นคนนอก

จนถึงวันนั้นที่ “งานแต๊งค์พี่” และย้อนกลับไปในครั้งแรกที่เขาเปิดเผยใจที่ “สะพานพระราม 8”

ตั้งแต่เมื่อไร่ที่ “หัวใจ” ของเขามีเงาของใครอีกคนหนึ่งเข้ามายึดครอง เงาที่แทรกซึมเข้ามาเงียบ ๆ เงาที่ทำให้ “หัวใจ” ของเขาพลิกคว่ำคะมำหงาย ทั้งรำคาญ เจ็บปวด เสียใจ สุข รื่นเริง และ รู้จัก “รัก” ทำให้เขาได้รู้ซึ้งถึงอารมณ์ทุกอย่างพร้อม ๆ กันอย่างไม่มีใครคนไหนที่ทำได้มาก่อน คนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ต่อความเป็นจริงและความต้องการของหัวใจอย่างหมดรูปจนก้าวข้ามผ่านเรื่องเพศสภาพ สายตาสังคม คบกันแม้จะไม่รู้ว่าอนาคตจะพาไปทางไหน .....

“ ไม่รู้ว่าอนาคตจะไปทางไหน ”

จริง ๆ เขาคิดมาตลอดในฐานะที่อายุมากกว่า 2 ปี จะเดินกันต่อไปเรื่อย ๆ แบบนี้โดยไม่มีจุดหมายคงไม่ได้ แต่เขาเองก็ไม่มั่นใจจนกระทั่งคิดทบทวน  ทั้งเขาและก้องภพจับมือกันเดินและผ่านเรื่องราวหลายมาด้วยกัน เขาร้อนเด็กคนนั้นจะเย็น เมื่อเจ้านั่นท้อเขาบอกขให้สู้ ตอนนี้แค่ “แฟน” ในความรู้สึกของเขามันเหมือนจะไม่พออีกต่อไป

ก็ไม่ได้อยากจะ “ให้” ตอนนี้หรอกนะ ของชิ้นนั้น แต่มันน่าจะได้เวลาแล้ว ถ้าจะสร้างอนาคตกับ “เจ้านั่น” เขาต้องทำ อาทิตย์เป็นคนตัดสินใจเร็วมาแต่ไหนแต่ไร .... ตีสี่กว่า คงตื่นแล้วละมั้ง

ไวเท่าความคิด อาทิตย์จิ้มเบอร์โทรศัพท์ที่คุ้นเคย เสียงสัญญาณดังไม่กี่ครั้งก็มีคนรับสาย

“ ครับ พี่อาทิตย์ มีอะไรด่วนรึเปล่าฮะ ”

ทักแบบไม่อ้อมค้อมและเป็นงานเป็นการตามเคย

“ เจอกันหน่อยได้ไหม ? ”

“ ครับ ??? ”

“ ผมจะไปรอที่สะพานพระราม 8 นะ ออกมาตอนนี้เลยนะ ”

ติ๊ด ... พูดออกไปแล้ว พูดไปแล้ว ...

พูดไปแล้วก็มากังวลแอบคิดไปต่าง ๆ นานาว่าเด็กคนนั้นจะออกมารึเปล่านะ เสียงของเขามันสั่น หรือ ทำให้ทางนั้นเป็นห่วงหรือยังไงหรือเปล่า หรือ ควรจะโทรกลับไปดี

โอ๊ยยยย ก็นายพูดไปแล้วนี่อาทิตย์ จะคิดอะไรให้มากมายนะ รีบไปก่อนดีกว่าไหม ?

สายลมเย็นยามใกล้รุ่งบริเวณสะพานพระราม 8 ทำให้อาทิตย์รู้สึกสงบในใจได้บ้าง ก้องภพไม่ได้โทรกลับมา แสดงว่าเจ้าตัวก็คงใจเย็นกับคำขอที่แปลกประหลาดของเขาพอดู ทีนี้ก็คงต้องลุ้นล่ะว่าจะมารึเปล่า ... ไม่สิ รอลุ้นว่าจะมาเมื่อไหร่มากกว่า ยังไงก็ต้องมาอยู่แล้วล่ะ เขามั่นใจ

ถึงสายตาจะจับจ้องออกไปยังท้องน้ำเบื้องล่าง อาทิตย์ก็รู้สึกได้ว่าใครบางคนกำลังมองมา ... เขาค่อยหันหน้าไปตรงทางขึ้นสะพานอย่างช้า ๆ ชายหนุ่มร่างสูงสวมเสื้อยืดสีอ่อน และ กางเกงขาสั้น ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเขาอย่างสงบตามนิสัย

อาทิตย์ก้มมองนาฬิกา ตีห้าเกือบจะครึ่งแล้ว ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินใส ลมเย็น ๆ จากแม่น้ำยังพัดโชยมาไม่หยุด

“ โทษทีนะ นัดออกมาแบบนี้”

“ ไม่มีอะไรจะให้ผมเหรอครับ ”

คราวนี้คนเป็นพี่ระแวง .... รู้อีกแล้วเหรอ ?

“ เงียบแบบนี้แสดงว่ามี ... ของขวัญรับปริญญาใช่ไหมครับ ”

เจ้าตัวพูดอย่างอารมณ์ดี แต่คนฟังถอนหายใจเบา ๆ แม่นราวกับตาเห็น ถึงไม่ได้ตั้งใจเดาก็เถอะ ของน่ะมีให้จริง ๆ ด้วย

“ พี่อาทิตย์จะให้อะไรผมนะ ไถ่โทษเพราะไม่ได้ไปทั้งงานซ้อมงานจริงละสิ ขอชิ้นใหญ่ ๆ นะครับ ”

แล้วก็กลายเป็นเหมือนทุกทีที่เขานิ่งฟังคนช่างพูดเจรจาเรื่องสัพเพเหระทั้งเหตุการณ์วันรับปริญญาและเรื่องพ่อแม่พี่น้องครอบครัวไปอย่างเพลิดเพลิน

“ อืมม์ เราไปใส่บาตรกันไหมฮะ ”

“ พี่อาทิตย์ครับ พี่อาทิตย์ ”

คนที่ทั้งคิดทั้งฟังไปตื่นจากภวังค์

“ หือ ๆ อะไรนะ ”

“ พี่ฟังผมอยู่รึเปล่าครับเนี่ย หรือว่าเหนื่อย กลับหอก่อนไหมครับเดี๋ยวผมไปส่ง ”

คนพูดมองหน้าอิดโรยของอาทิตย์อย่างเป็นห่วง

“ จริง ๆ ว่าจะโทรบอกแล้วว่าให้กลับหอก่อนแล้วเดี๋ยวสาย ๆ ผมไปหา”

ก้องภพหยุดคิดนิดนึงก่อนบอกด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ

“ แต่ก็ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ผมคิดถึง " เจ้าตัวทอดเสียงอ่อน " เลยคิดว่าออกมาคุยหน่อยก็ดี แล้วค่อยไปส่งพี่อาทิตย์ที่หอ”

น้ำเสียงกะเกณฑ์ให้เขาเสร็จสรรพว่าทางไหนจะเหนื่อยน้อยที่สุด

“ เห็นหน้ากันแบบนี้ผมก็สบายใจว่าพี่ไม่ได้เป็นอะไรไป ”

คน ๆ นี้ อาทิตย์คิดในใจ นิสัยแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนเลย “ใจละลาย” ในความน่ารักและเอาใจใส่ของเด็กคนนี้ตั้งแต่สมัยเรียน ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นตัวก้องภพ ... ทำให้เขาพ่ายแพ้ได้ตลอด “แพ้ใจ” เขาคงเกิดมาแพ้คน ๆ นี้จริง ๆ

“ เดี๋ยว ...”

“ ครับพี่อาทิตย์ ...”

คิ้วเข้มพาดตรงเลิกขึ้นด้วยความสงสัย

อาทิตย์ล้วงมือเข้าไปกุมกล่องใบน้อยในกระเป๋ากางเกง นานทีเดียวที่เขาเก็บเล็กผสมน้อยจนได้สิ่งนี้มา ราคาค่างวดมันอาจจะไม่แพงมากมายนัก แต่มันก็เป็นสิ่งที่เขาตั้งใจแสดงออกว่าเขา “พร้อม” ที่จะผูกพันและสร้างอนาคตกับใครคนนึงอย่างจริงจัง

“ ว่าง ๆ ซักอาทิตย์หน้า ... นัดครอบครัวกินข้าวกันดีไหม ฉลองที่คุณรับปริญญาไง ”

“ ครับ ??? ”

“ ผมยังไม่เคยพบคุณพ่อคุณแม่แล้วก็พี่สาวคุณเลย ”

“ ครับ !!!! ”

ทางนั้นตอบกลับมาด้วยเสียงตกใจ

“ มันแปลกตรงไหนล่ะ คนเป็น “แฟน” ไม่ใช่ว่าเขาต้องทำแบบนี้เหรอ ”

อุตส่าห์ข่มความอายพูดกันเลยนะเนี่ย

“ ..... ”

เงียบ !!! แปลว่าอะไรฟระ

“ ทำไม หรือว่าไม่อยากให้เจอ ”

“ แหม แหม เปิดตัวศรีสะใภ้ ”

หนอยไอ้นี่ กวนบาทาไม่เปลี่ยนเลย อารมณ์เสีย !!

“ คร้าบบบ คร้าบบบ ยังไงก็ได้ฮะพี่อาทิตย์ โถ่ แค่นี้ไม่เห็นต้องหน้าตึง ”

ชักจะได้ใจนะเจ้านี่ ไม่ได้ ๆ โดนรุกซะจนเคยชิน ตอนนี้เขาขอเป็นฝ่ายรุกบ้างเถอะ

“ ก้องภพ !!! ”

เอาองค์พี่ว้ากลงซะมั่งสิ

“ ครับพี่อาทิตย์ ”

เมื่อพี่ว้ากมารหัส 0062 จึงจำต้องเข้าประจำที่

“ หลับตา !! ”

“ ยื่นมือซ้ายออกมาด้วย ”

วัตถุเย็น ๆ เลื่อนไหลลงไปในนิ้วนางข้างซ้ายของก้องภพ

เจ้าตัวลืมตาขึ้นแล้วมองไปที่นิ้วอย่างงุนงง ในขณะที่คนให้เสไปมองท้องฟ้านอกตัวสะพาน

“ คุณรู้ใช่ไหมว่าผมน่ะรักคุณ ”

“ !@#*^%%# ”

ทางนั้นส่งเสียงอะไรแปลก ๆ ออกมาไม่เป็นภาษา ก่อนเอ่ยว่า

“ พี่อาทิตย์ไม่สบายรึเปล่าครับ หาหมอไหม ? ”

ไอ้ .... นาน ๆ จะทำซึ้งนะเฮ้ย ไม่รู้เหรอว่ามันยากขนาดไหน น้ำเสียงกลั้วหัวเราะนี่มันอะไรกัน แต่ทำไมหางเสียงมันสั่น ๆ

ปากที่กำลังจะด่าก็ต้องชะงักลงกลางทาง เมื่อหันมาเห็นว่าดวงตาของคนข้างตัวออกจะแดง ๆ และ รื้นด้วยน้ำใส

อาทิตย์ตัดสินใจดึงมือก้องภพเข้ามาหา

“ ผมเป็นพี่คุณ ... ยังไงเรื่องนี้ผมก็ต้องเริ่มก่อน ”

หน้าเริ่มร้อนขึ้นมาอีกแล้ว เลือดทุกหยดในตัวต้องมาฟ้องตัวเองอยู่บนหน้าเขาแน่ ๆ แต่ใครจะสนล่ะ
อาทิตย์กระแอมกระไอเรียกเสียง ก่อนตะกุกตะกักพูดประโยคที่แอบตระเตรียมไว้ออกมา

“ ถือว่า ... ถือว่าพี่จองเราไว้ก่อนก็แล้วกัน ”

แต่แรกเขานึกว่าจะโดนแซวเสียอีก .... แต่พอหันกลับไปเห็นแต่ใบหน้าซับสีเลือด ผิวที่ขาวจัดก็เลยดูแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปอีก หรือว่า " อาย "

“ ไป งั้นเราใส่บาตรกันเนอะ ก้อง เดี๋ยว “พี่” นำเอง ”

ฮึ ๆ เงียบ อายล่ะเซ่ ในที่สุด ...  อาทิตย์หัวเราะในใจ ก่อนเดินจับมือก้องภพเดินลงบันไดไม่มีตะขิดตะขวง เสร็จแน่ก้องภพ ... เจอจุดอ่อนแล้ว

คงคิดว่า “แกล้ง” ได้ล่ะสิ


ตัวคนที่เหมือน “อาย” แอบอมยิ้ม ดีใจจนหน้าแดงต่างหากเล่า แทนตัวเองว่าพี่นี่น่ารักชะมัด แต่ก่อนนี้ให้พยายามยังไงง้างปากยังยาก ไม่นึกไม่ฝันว่า “วันนี้” จะเกิดขึ้นจริง ๆ

เรื่องจับมือในที่สาธารณะก็เหมือนกัน

เรื่องอะไรจะแหวกหญ้าให้งูตื่น แผนขั้นต่อไปคือจะล่อยังไงให้พูดแบบนี้ต่อหน้าสาธารณชน ถ้าพี่น็อตพี่เปรมเห็นเข้าละก็นะ หึ หึ ก้องภพจินตนาการภาพในใจอย่างนึกสนุก อายุมากกว่าผม 2 ปี แต่เรื่องเจ้าเล่ห์ตลบหลังแบบนี้ ช้ากว่าผมร้อยปีแสงนะครับพี่อาทิตย์ เป็นอันว่าคน “ถูกจองตัว” ได้มุกใหม่ไว้แบล็กเมล์ “พี่” เพิ่มอีกมุก  โดยคนที่ยิ้มลำพองใจจูงมือเดินนำหน้าไม่ได้รู้สึกตัวอะไรเอาเลย

แสงแรกแห่งอรุณจับท้องฟ้าเหนือสะพานพระราม 8 ความเงียบเหงาแห่งค่ำคืนกลายเป็นความสดใสในยามเช้า ลมเย็น และ เสียงนกร้องเคล้าคลอกับเสียงหัวเราะ และ รอยยิ้มของผู้ชายสองคนที่อยู่บนสะพาน ทำให้ผู้คนที่เริ่มสัญจรไปมาบนทางเท้าเช้าวันนั้นอดจะยิ้มไปด้วยไม่ได้ เช้าวันหยุดที่เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยรอยยิ้มจากใครซักคน

ให้สิ่งที่เรียกว่ารัก ก้าวไป โตไป
อย่างที่ใจต้องการ


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่