จากความพิการของน้องหมา..กลายมาเป็นร้านกาแฟ hol café…small indy café @ Khao Yai

เรื่องมีอยู่ว่าตอนเราสร้างบ้านที่เขาใหญ่ ผู้รับเหมาที่สร้างบ้านให้เราเค้าเก็บหมาจรตัวเมียผอมโซมากมาเลี้ยง เป็นหมาที่ค่อนข้างกลัวคนเพราะเหมือนโดนทำร้ายมา เลยถูกตั้งชื่อว่าโซเซ พอสร้างบ้านให้เราเสร็จผู้รับเหมาก็ทิ้งโซเซไว้ เราเลยต้องเลี้ยงต่อ กะว่าจะเอาไปทำหมันให้เรียบร้อย แต่....แค่กลับเข้ากรุงเทพฯไปเก็บของได้ไม่กี่วัน พอกลับมาโซเซดันท้อง !!! เราคิดในใจ....ตายละวา จากที่ตั้งใจว่าจะไม่เลี้ยงหมาอีก (เพราะเคยเลี้ยงหมาจนเค้าแก่ตายเลยรู้สึกผูกพันและเศร้ามากๆและสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไม่เลี้ยงอีกแล้ว) กลับต้องมาเลี้ยงหมาอีกหลายตัวเลยเหรอเนี่ย ++! โชคดีที่สามีไม่ว่าอะไร ยอมให้เลี้ยง แต่เค้าก็แอบกลัวว่าจะเป็นภาระ เวลาจะไปไหนต้องคอยเป็นห่วงหมาเพราะเราอยู่กันเองสองคนไม่มีแม่บ้านคอยดูแล เราเลยบอกว่าเอาน่า..ไหนๆก็ไหนๆ เลี้ยงไปเหอะ ได้บุญ ให้เค้าได้มีที่อยู่ มีอาหาร ดูแลทำวัคซีนให้ ไม่ต้องไปลำบากเป็นหมาจรข้างถนน


(รูปนี้โซเซอยู่กับเรามาน่าจะ 4 ปีกว่าละ ทำหมันเรียบร้อย เราและสามีขุนจนอ้วน หายกลัวคนขึ้นเยอะ แต่ยังไงก็ไม่ยอมให้คนแปลกหน้าจับตัวอยู่ดี)

และแล้ว....โซเซก็คลอดลูกออกมาทั้งหมด 5 ตัว แต่ตายไป 1 ตัว โซเซแอบไปคลอดที่บ้านร้างที่ไม่ไกลจากบ้านเราเท่าไหร่ เค้าให้นมลูกๆได้ซักระยะจนลูกๆเริ่มเดินได้เอง ก็เริ่มพาออกมาโชว์ตัว (เสียดายที่เราไม่มีรูปหมาๆตอนเด็กเลย) แม่หมาชื่อโซเซ เราเลยอยากให้ลูกมีคำว่าโซ..ด้วย (เกี่ยวมั้ย..55) ตัวแรกที่เดินออกมาดูเป็นหัวโจก ซนมาก ไม่กลัวคน เราตั้งชื่อให้ว่าโซล่า พอตัวแรกเป็นชื่อน้ำมัน ตัวที่สองเดินออกมาเราเลยตั้งชื่อว่าดีเซล ตัวที่สามชื่อเบนซิน ส่วนตัวสุดท้าย...ชื่อโซฮอล (ตัวนี้แหละที่เป็นตัวต้นเรื่องของร้านกาแฟ)


(โซเซคือตัวบนซ้าย อีก 4 ตัวเป็นลูกๆ นี่ครอกเดียวกันนะ แต่ไม่เหมือนกันเลยสักตัว)

สามีเราอยู่ประจำที่บ้านหลังนี้เหมือนเป็นพ่อบ้านดูแลบ้านดูแลหมาๆ ส่วนตัวเราทำงานประจำในกรุงเทพฯ ทุกอย่างดูลงตัว เราทำงานจันทร์-ศุกร์ วันศุกร์เย็นสามีมารับกลับเขาใหญ่ เช้าวันจันทร์เข้ามาส่งที่ทำงาน เป็นอย่างนี้อยู่ปีกว่า จนวันหนึ่งสามีกลับมาบ้านเจอโซฮอลนอนอยู่ในรางน้ำข้างบ้าน ปกติเค้าจะไม่ลงไปนอนในนั้น แฟนเราเรียกมาก็ไม่เดินมาหา ซึ่งผิดปกติ เค้าเลยเดินเข้าไปดูโซฮอลแล้วอุ้มขึ้นมา ปรากฏว่าเห็นขาหลังทั้งสองข้างห้อยไม่มีแรง เลยรีบพาไปหาหมอ หมอบอกว่าโซฮอลเป็นเส้นประสาทไขสันหลังอักเสบ เราไม่รู้เลยว่าโซฮอลไปทำอะไรมา หรือทะเลาะกับหมาตัวอื่นแล้วอาจจะตกลงไปในรางท่อหลังกระแทกขอบปูน ขาหลังทั้งสองข้างเลยไม่มีแรงเป็นอัมพาต ในใจเราคิดว่าจะต้องรักษาโซฮอลให้กลับมาเดินอีกครั้งให้ได้

ช่วงแรกที่โซฮอลเดินไม่ได้ สามีเราต้องคอยดูแลตลอดเวลา ถึงขนาดต้องย้ายมานอนนอกบ้าน (บ้านเรามีห้องนอนด้านนอกอีกห้อง) เพื่อคอยดูแลโซฮอลตอนกลางคืนเพราะช่วงแรกเค้าร้องตลอด (สงสารทั้งโซฮอลทั้งสามี) ต้องคอยเช็ดล้างอึฉี่ เลอะเทอะไปหมด เราและสามีพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษา พาไปหาหมอและทำการภาพบำบัดให้ตลอด ทำอยู่เป็นปีก็ไม่ดีขึ้นจึงต้องยอมรับสภาพว่าคงจะเดินไม่ได้อีกต่อไปและต้องคอยดูแลกันไปจนหมดอายุขัยของโซฮอลซึ่งตอนที่เป็นเค้าเพิ่งอายุแค่ 4 ขวบ (เจ้าของที่มีน้องหมาที่เป็นเหมือนโซฮอล น่าจะรู้ดีว่าการที่ต้องคอยดูแลน้องหมาที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้นั้นมันเหนื่อยมากขนาดไหน)

สามีอยากให้เราออกจากงานแล้วกลับมาอยู่บ้านที่เขาใหญ่ด้วยกัน เนื่องจากต้องคอยดูแลโซฮอลตลอดและยังมีหมาอีก 4 ตัวที่ต้องผลัดกันพาไปหาหมอทั้งไม่สบาย ทั้งฉีดวัคซีน ทั้งฉีดยาเห็บทุกเดือน เราคิดหนักมาก เพราะไม่อยากออกจากงานแล้วออกมาจะมาทำอะไร ไม่อยากอยู่เฉยๆ แต่ก็สงสารสามี คิดอยู่นานแต่ในที่สุดก็ตัดสินใจยอมลาออกจากงานประจำ

สามีเราเลยคิดว่างั้นเรามาเปิดร้านกาแฟกันอีกทีดีมั้ย (ก่อนที่เราจะทำงานประจำที่กรุงเทพฯ เรากับสามีเคยทำร้านกาแฟมาก่อน) เนื่องจากมี know how อยู่แล้ว และรู้แหล่งซื้อเมล็ดกาแฟคุณภาพดี แต่ติดที่ต้องหาทำเลร้าน ถ้าต้องเช่าร้านแล้วเปิดได้แค่เสาร์-อาทิตย์ เราว่ามันไม่คุ้ม (วันธรรมดาที่เขาใหญ่คนน้อยมาก) และตอนนี้ที่เขาใหญ่มีร้านอาหาร ร้านกาแฟขึ้นเยอะมากๆ การแข่งขันสูง (สมัยที่เราทำร้านแรก ร้านกาแฟดีๆยังไม่เยอะมาก) เรากับแฟนเลยคิดหนัก


(นี่คือร้านกาแฟร้านแรกของเราเมื่อ 8-9 ปีที่แล้ว อยู่ในโบนันซ่า เขาใหญ่)

คิดไปคิดมา...บ้านที่เราอยู่ตอนนี้ทำเลก็ไม่เลวร้าย อยู่เส้นกุดคล้า-ผ่านศึก (ซึ่งเป็นเส้นรองจากถนนธนะรัชต์เส้นทางหลักขึ้นเขาใหญ่และเป็นเส้นเดียวกับร้านอาหารเป็นลาว) เลี้ยวเข้าจากแยกธนะรัชต์กม.20 เข้ามาแค่ 1 กม.และเข้าซอยมาอีกแค่ 150 เมตร น่าจะหาเจอได้ไม่ยาก อีกอย่าง เราก็คิดว่าทำที่บ้านก็ดีเหมือนกัน ได้คอยเดินไปดูโซฮอลได้ตลอด เอาล่ะ เอาที่บ้านนี่แหละ!!! แต่...มีหลายคนทักว่า เฮ้ย..อยู่ในนี้จะไปขายใคร ?!? เรากับแฟนคิดว่าบ้านเราก็ไม่ได้หายากนะ แล้วเดี๋ยวนี้ก็มีร้านดีๆดังๆเปิดในตรอกซอกซอยตั้งเยอะแยะ เค้ายังทำกันได้ เราก็น่าจะทำได้นะ แล้วเดี๋ยวนี้คนก็ใช้โซเชียลกันเยอะมาก ไม่น่าจะหาร้านเรายากนะ...

พอได้สถานที่ ต่อไปก็คิดต่อว่า...เราต้องทำยังไงให้ร้านน่าสนใจ... ถนนเส้นที่เราอยู่ มีร้านกาแฟดังอยู่ 2 ร้าน ที่ใครมาเขาใหญ่ก็ต้องไปถ่ายรูป check-in ตามประสาคน in trend แฟนเราบอกว่าก็ไม่ต้องทำยังไงหรอก แค่ทำในสิ่งที่เรารัก นำเสนอร้านในแบบที่ตัวเราเป็น ขายกาแฟคุณภาพดี ขนมเราทำเอง เราใช้แต่วัตถุดิบมีคุณภาพ ทำเหมือนแบบที่เราทำให้คนในครอบครัวเรากิน แค่นี้ก็พอ .... เอาจริงๆ ตอนแรกเราคิดหนักและลังเลมากว่าร้านออกมาจะโอเคหรือเปล่า จะมีลูกค้าเข้ามากินที่ร้านมั้ย แต่มีพี่คนหนึ่งที่เรารู้จักเค้าพูดว่า อยากทำอะไรก็ทำเลย อย่ามัวแต่มโน ถ้าไม่ทำก็ไม่รู้หรอก เราเลยคิดว่า เอาวะ ได้ทำในสิ่งที่เรารัก (เราและสามีเป็นคนชอบกินกาแฟมาก ชอบกลิ่นกาแฟหอมๆในคาเฟ่เก๋ๆ) มีความสุขกับสิ่งที่ทำ ถ้าทำได้ดีก็เป็นกำไร ถ้าทำแล้วไม่โอเคก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ อย่างน้อยก็ได้ทำ ดีกว่ามานั่งมโนเอาเองแล้วปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆแล้วมานั่งเสียใจที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ

เอาล่ะ ร่ายมายืดยาว มาดูร้านกาแฟของเรากันเลย ร้านนี้สามีเราตั้งใจทำมาก ออกแบบเองทุกอย่าง ตั้งแต่แบบร้าน เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์เครื่องใช้ที่เป็นไม้เกือบทุกอย่างทำเองหมด ร้านนี้เดิมมีโครงสร้างอยู่แล้ว อย่างที่เราบอกไว้แต่แรกว่ามีห้องนอน 1 ห้องนอกตัวบ้าน ห้องนอนนั้นก็เอามาทำเป็นหนึ่งในห้องให้ลูกค้านั่ง



นี่คือโครงสร้างเดิม ห้องที่เห็นคือห้องนอนที่สามีเรานอนตอนดูแลโซฮอล คอกไม้ที่อยู่หน้าห้องคือที่ที่กั้นไว้ให้โซฮอลอยู่ มีมุ้งกันยุงและพื้นในคอกปูผ้ายางนิ่มๆ ถ้าไม่กั้นบริเวณ เค้าก็จะคลานไปทั่ว และคลานเร็วมาก ทำให้เกิดแผลได้ง่าย บริเวณที่โล่งเดิมเราใช้เป็นที่จอดรถ
มาเริ่มก่อสร้างกัน........


ก่อผนัง ก่อเคาน์เตอร์ ปูพื้น ทำฝ้า

สามีเราอยากได้ร้านที่ดู minimal เรียบง่าย แต่ดูเท่ห์ สีที่ใช้เลยเป็นสีขาว ดำ ไม้ เหล็ก ปูน

เคาน์เตอร์ใช้หินแกรนิต (ที่เขาใหญ่มีให้เลือกเยอะแยะ) ส่วนพื้นกระเบื้องเราไปเลือกซื้อที่บุญถาวร


งานฝ้าทาสีดำ ผนังสีขาว


โคมไฟเราใช้ของเดิมที่เป็นสีเหลือง สามีเราสั่งให้ช่างพ่นสีดำ

และเนื่องจากงบประมาณที่มีอย่างจำกัด งานหลายอย่างสามีเราจึงเป็นคนทำ


โลโก้ร้าน สามีเราออกแบบเอง สั่งร้านป้ายทำป้ายไฟ


ติดป้ายหน้าร้าน และที่หน้าปากซอย


เฟอร์นิเจอร์ไม้สามีก็เราก็ทำเอง


อุปกรณ์ของใช้ในร้าน สามีเราก็ออกแบบเองทำเอง

เอาละ......เรามาดูร้าน หลังจากทำเสร็จกัน








ปิดท้ายด้วยรูปเจ้าของร้าน
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่