สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
อยากจะบอกอะไรอย่างนึงครับ ชีวิตคนเรามันสั้นมาก บางทีการที่ต้องทำงานแบบซังกะตายไปวันๆ
อยู่กับระบบเรื่อยๆ เอื่อยๆ เพื่อนร่วมงานสิ่งแวดล้อมทำให้ตัวเราเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงครับ
ผมเคยทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง มีลักษณะงานแบบที่คุณว่า ทำอะไรก็ต้องรออนุมัติ เอกสารเดินช้าเป็นเต่า
งานไม่มีอะไรกดดันหรือเครียดเลย เพื่อนร่วมงานดี หัวหน้าไม่กดดัน แต่มันทำให้ชีวิตเราเฉาลงเรื่อยๆครับ
ถ้าเป็นคนที่มีภาระ หรือไม่คิดอะไรก็คงสนุกสนานเฮฮา มีความสุขดี เพราะงานสบาย มีเวลาเยอะ ทำงาน Routine ให้จบไปวันๆ
สำหรับผมงานหลายๆอย่างผมทำแค่ครึ่งวันก็เสร็จ ที่เหลือคือนั่งเฉยๆเลยครับ น่าเบื่อมาก นั่งรอเวลาเลิกงาน
คนอื่นๆเขาก็ไม่คิดอะไรนะ อยู่ไปวันๆ สบายๆ มาทำงานรับรายได้เป็นเดือนๆไปแล้วไปหาความสุขอย่างอื่นๆนอกเหนือจากงาน
แต่สำหรับตัวผมมันไม่ใช่ ผมมีความสุขเพราะการทำงาน ผมมีความสุขที่ได้คิดวิเคราะห์ ได้คิดวิธีการปรับปรุงการทำงาน
มันทำให้ผมพัฒนาความคิดตัวเอง มีความเป็นผู้นำมากขึ้น
ถึงจะบอกว่าก็ให้ทำงานแบบสบายๆไปเรื่อยๆ แล้วไปหาความรู้เพิ่มเติมข้างนอก แต่คุณเชื่อไหมว่าสังคมสิ่งแวดล้อมมันเปลี่ยนตัวเราได้จริงๆ
เหมือนที่มีคนเคยบอกผมว่าถ้าคุณอยากรวย คุณต้องไปคุยกับคนรวย ดูแนวคิดว่าเขาคิดอย่างไร เขาทำอย่างไร
แต่ถ้าเรายังอยู่กับสังคมเดิมๆ อ่านหนังสือแบบเดิม ทำงานแบบเดิม เราก็จะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย
อาจจะมีบ้างบางคนที่ฝืนได้ แต่เชื่อเถอะครับว่าถ้าใจคุณไม่เข้มแข็งพอ ยังไงก็จะกลายเป็นเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม
ตัวผมเองพอคิดได้แล้วผมก็ตัดสินใจลาออกเลย และก็ย้ายมาทำงานอีกหลายที่ แต่มันทำให้ตัวผมมีความคิดและบุคลิคที่เปลี่ยนไป
ได้พัฒนาตัวเอง ได้เผชิญโลกอื่นๆที่เราไม่เคยสัมผัส ผมก็คล้ายๆคุณคือตัวผมยังโสดและไม่มีภาระอะไร เลยตัดสินใจง่ายมาก
ก็ลองคิดดูอีกทีครับว่าจะทำอย่างไร ความเห็นที่มาแนะนำเขาก็แนะนำจากตัวของเขา , นิสัยของเขา
แต่ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวคุณหรอกครับ ตัดสินใจให้ดี
เป็นกำลังใจให้ครับ
อยู่กับระบบเรื่อยๆ เอื่อยๆ เพื่อนร่วมงานสิ่งแวดล้อมทำให้ตัวเราเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงครับ
ผมเคยทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง มีลักษณะงานแบบที่คุณว่า ทำอะไรก็ต้องรออนุมัติ เอกสารเดินช้าเป็นเต่า
งานไม่มีอะไรกดดันหรือเครียดเลย เพื่อนร่วมงานดี หัวหน้าไม่กดดัน แต่มันทำให้ชีวิตเราเฉาลงเรื่อยๆครับ
ถ้าเป็นคนที่มีภาระ หรือไม่คิดอะไรก็คงสนุกสนานเฮฮา มีความสุขดี เพราะงานสบาย มีเวลาเยอะ ทำงาน Routine ให้จบไปวันๆ
สำหรับผมงานหลายๆอย่างผมทำแค่ครึ่งวันก็เสร็จ ที่เหลือคือนั่งเฉยๆเลยครับ น่าเบื่อมาก นั่งรอเวลาเลิกงาน
คนอื่นๆเขาก็ไม่คิดอะไรนะ อยู่ไปวันๆ สบายๆ มาทำงานรับรายได้เป็นเดือนๆไปแล้วไปหาความสุขอย่างอื่นๆนอกเหนือจากงาน
แต่สำหรับตัวผมมันไม่ใช่ ผมมีความสุขเพราะการทำงาน ผมมีความสุขที่ได้คิดวิเคราะห์ ได้คิดวิธีการปรับปรุงการทำงาน
มันทำให้ผมพัฒนาความคิดตัวเอง มีความเป็นผู้นำมากขึ้น
ถึงจะบอกว่าก็ให้ทำงานแบบสบายๆไปเรื่อยๆ แล้วไปหาความรู้เพิ่มเติมข้างนอก แต่คุณเชื่อไหมว่าสังคมสิ่งแวดล้อมมันเปลี่ยนตัวเราได้จริงๆ
เหมือนที่มีคนเคยบอกผมว่าถ้าคุณอยากรวย คุณต้องไปคุยกับคนรวย ดูแนวคิดว่าเขาคิดอย่างไร เขาทำอย่างไร
แต่ถ้าเรายังอยู่กับสังคมเดิมๆ อ่านหนังสือแบบเดิม ทำงานแบบเดิม เราก็จะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย
อาจจะมีบ้างบางคนที่ฝืนได้ แต่เชื่อเถอะครับว่าถ้าใจคุณไม่เข้มแข็งพอ ยังไงก็จะกลายเป็นเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม
ตัวผมเองพอคิดได้แล้วผมก็ตัดสินใจลาออกเลย และก็ย้ายมาทำงานอีกหลายที่ แต่มันทำให้ตัวผมมีความคิดและบุคลิคที่เปลี่ยนไป
ได้พัฒนาตัวเอง ได้เผชิญโลกอื่นๆที่เราไม่เคยสัมผัส ผมก็คล้ายๆคุณคือตัวผมยังโสดและไม่มีภาระอะไร เลยตัดสินใจง่ายมาก
ก็ลองคิดดูอีกทีครับว่าจะทำอย่างไร ความเห็นที่มาแนะนำเขาก็แนะนำจากตัวของเขา , นิสัยของเขา
แต่ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวคุณหรอกครับ ตัดสินใจให้ดี
เป็นกำลังใจให้ครับ
แสดงความคิดเห็น
รู้สึกเบื่องานประจำทีทำ แต่หลายๆคนบอกว่างานที่นี่ดีแล้ว เราควรไปต่อยังไงดีคะ
ทีนี้ใจเราจริงๆไม่ได้อยากทำที่นี้แต่แรกแล้ว แต่ด้วยว่าลองมาสอบ สอบแล้วติด ติดแล้วที่บ้านชอบกันมาก เพราะที่บ้านก็เป็นข้าราชการ รัฐวิสาหกิจค่ะ แล้วเค้าก็บอกกันว่าดีแล้วที่เธอทำที่นี่ สบาย แต่ส่วนตัวเราตอนนี้อยากได้อะไรที่ท้าทาย
ที่นี้เรามีเพื่อนทำงานที่ต่างประเทศ (สิงคโปร์) แล้วเพื่อนเล่าชีวิตการทำงาน และเราได้มีโอกาสไปเที่ยว แล้วเยี่ยมเพื่อน เรารู้สึกชอบการใช้ชีวิตของคนที่นั่นมาก คือ เรารู้ว่าคนไทยหลายๆคนจะไม่ค่อยชอบ เพราะเป็นประเทศเล็กๆน่าเบื่อ มีอัตราการแข่งขันสูง แต่ส่วนตัวเราชอบ ชอบอะไรที่ control ได้ ยิ่งเฉพาะในเรื่องเวลา เราชอบทุกอย่างที่เป็น pattern ซึ่งตามประสบการณ์การทำงานของเรา และเราเป็นคนที่มีทักษะด้านภาษาอังกฤษดีประมาณนึง เราค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าสมัครงานไปที่นั่นย่อมมีที่ตอบรับกลับมาแน่นอน (เพื่อนเราประเมินให้เราค่ะ)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคือ เราทำในหน่วยงานที่ถ้าเราลาออกจากที่นี่ เราคงไม่มีโอกาสกลับมาอีกแน่นอน เราก็คิดไม่ตกเลยนะคะกับเรื่องนี้ อยากลองก็อยากลอง เพราะจริงๆช่วงที่เราจบใหม่ๆเราตั้งใจไปทำที่นั่น แต่ด้วยว่าเราดันสมัครได้งานที่ไทยแล้วเรียกไปสัมภาษณ์แล้ว มันเหมือนตอนนี้เราอยากทำตามฝัน แต่ก็ผ่านมาจนถึงป่านนี้แล้ว เลยเลือกไม่ถูกจริงๆ
ปล ข้อมูลส่วนตัว จขกท จบมหาวิทยาลัยรัฐ อายุ 30 ยังโสดไม่มีพันธะ ไม่ว่าจะสามี ลูก หรือแฟน อาศัยอยู่กับคุณแม่ที่ยังแข็งแรงดีค่ะ
ขอเพิ่มเติมในส่วนที่ทำงานนะคะ
เป็นองค์กรขนาดใหญ่ หลายๆคนฝ่าฟันที่จะได้เข้ามาทำงานที่นี่ พนง ส่วนใหญ่ จบ มรัฐ มีชื่อกันประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของคนในองค์กร และอีกอีกหลายคนก็เป็นระดับหัวกะทิตอนเรียน ได้เกียรตินิยมกันมากมาย รวมถึงตัวเราด้วย ตอนเรียนเราเป็นคนcompetitive มาก รวมถึงตอนทำงานช่วงแรกๆ แต่เราก็ไม่ได้อยากโทษองค์กรนะคะ ก็เป็นที่ตัวเราคงรักสบายด้วย พอเวลาล่วงเลยไป เรากลายเป็นเฉื่อยเป็นหนืดเอามากๆเลยค่ะ ซึ่งเพื่อนร่วมๆรุ่นเราหลายคนก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน มันเหมือนโดนน้ำ ราดด้วยขี้เถ้า มากลบไฟเรา