มันเป็นความเข้าใจของผม แต่เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ ท่านผู้อ่านที่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ น่าจะให้ความเห็นข้อเท็จจริง ต่าง ๆ ในเรื่องนี้ได้ เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยที่ผมอายุราว ๆ 30 ตัน ๆ มันก็นานมาแล้วแต่ก็ยังจำได้ดีเหมือนเรื่องนี้เกิดขึ้นได้ไม่นาน ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ คืนวันศุกร์ ผมออกเดินทางไปบ้านแฟนที่จังหวัดนครราชสีมา มีอยู่คืนหนึ่งฝนตกหนักตอน 4 ทุ่มเศษ กว่าจะหยุดตกก็เกือบจะเที่ยงคืน แต่ชั้นล่าง หลังคารั่ว 3-4 จุด ผมก็เอากระมังมารองน้ำฝนไว้ และขึ้นไปนอนตอนนั้นเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ส่วนคนอื่น ๆ ก็หลับไปตั้งแต่ 3-4 ทุ่ม หลังสวดมนต์เสร็จก็ล้มตัวลงนอน อากาศคืนนี้มันช่างเย็นสบายน่านอนเสียจริง ๆ คิดในใจ เพลิน ๆ สักพักก็ได้ยินเสียง ติ๋ง ๆ เหมือนน้ำหยด ลงมาในกระมังที่รองไว้ ก็ไม่ได้สนใจอะไร เวลาผ่านไป 15 นาทีได้ เสียงหยดน้ำก็ยังไม่หยุด แต่เอ้! ฝนมันก็หยุดตกได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว มันไม่น่าจะมีน้ำหยดแล้วนี่หว่า คิดแล้วก็ลงไปเปิดไฟชั้นล่างหาต้นตอของเสียงน้ำที่ว่า ดูกระมังทุกใบผิวน้ำเรียบสนิท ไม่มีรอยกระเพิ่มแต่อย่างใด แต่เสียงน้ำหยดยังคงดังติ๋ง ๆ ชัดเจน เดินหาจนทั่วบริเวณชั้นล่างก็หาไม่พบ ดูนาฬิกาที่แขวนอยู่ ตอนนั้นเป็นเวลา เที่ยงคืนครึ่ง คิดในใจ (นาทีนั้น) ผีหลอกกรุหรือป่าวว่ะ ก็ไม่รู้คิดไปได้ยังไงตอนนั้น ปิดไฟขึ้นไปนอนต่อ แต่ตอนนั้นรู้สึกกลัวเล็ก ๆ เพราะหาสิ่งนั้นไม่เจอ ผมก็เลยนอนภาวนาพุทโธ ไปเรื่อย ๆ เสียงหยดน้ำยังคงดังสดใสขัดเจนเข้ามาในโสตประสาททั้งสองข้าง ติ๋ง ๆ เป็นจังหวะห่างกัน 2-3 วินาที ภาวนาไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ กลายเป็นว่าติ๋งหนึ่งพุท อีกติ๋งหนึ่งโท เกิดจังหวะสัมพันธ์กันโดยไม่รู้ตัว ผมภาวนาไปเรื่อย ๆ สติกับไปจับจด กับเสียงน้ำอย่างไม่ ตั้งใจ ในที่สุดเสียงน้ำหยดก็หายไปจากโสตประสาททั้งสอง ผมรู้สึกปิดิ แต่แล้วไม่ทันอึดใจ ก็รู้สึกว่ามีลมอ่อน ๆ พัดวน ๆ รอบศรีษะเรา แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ผมยังคงภาวนาพุทโธต่อไปโดยไม่สนใจใยดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ไม่สนใจไม่ได้แล้ว สิ่งที่ว่าหมุนเร็วขึ้น และความรุ้สึกสัมผัสแรงขึ้น (เอาอีกแล้วหรือนี่) ผมไม่มีเวลาที่จะคิดว่ามันคืออะไรและใครทำให้มันเกิด สิ่งเดียวที่ผมทำได้ คือภาวนาพุทโธต่อไป ยิ่งภาวนาพุทโธ ลมที่ว่าก็หมุนเร็วขึ้นไปเรื่อย ๆ และมีกำลังดูดสูงขึ้น ๆ เหมือนจะจงใจดูดศรีษะผมให้ขาดออกจากบ่าประมาณนั้น ขอให้ท่านนึกภาพพายุทอนาโดที่เป็นรูปดำ ๆ เหมือนงวงช้าง แล้วดูดทุกอย่างขึ้นไป มันอาการนั้นเลย ผมภาวนาต่อไปได้ไม่นาน รู้สึกว่าไม่สามารถ ที่จะทานทนต่อสิ่งที่กำลังดึงดูดศรีษะผมอย่างรุนแรงได้ ผมรู้สึกอ่อนแรง ความสามารถในการภาวนาเริ่มอ่อนล้า เสี่ยววินาทีที่ผมคิด นี่เรากำลังจะตาย โดยไม่มีโอกาสได้ร่ำลาใครหรือนี่ อาการนี้เปรียบเหมือนคนที่โหนกิ่งไม้อยู่ได้ไม่นาน และไม่สามารถทานทนต่อแรงดึงดูดของโลกได้ ไม่นานก็ต้อง ปล่อยมือตกลงมายังพื้น ฉันใดก็ฉันนั้น ผมเองก็ไม่อาจจะทานทนต่อสิ่งนั้นได้เช่นกัน มันเป็นวินาทีที่อยู่บนความเป็นกับความตายและในที่สุดผมก็ ตัดสินใจ เลือกที่จะยอมตาย (ตายเป็นตาย) ผมอ่อนหล้าและไม่สามารถจะทนต่อไปได้อีก ผมหยุดภาวนาพุทโธและปล่อยจิตไปตามแรงดึงดูด (วาร์ป) ....ไม่ถึงเสี่ยววินาที ผมมายืนอยู่ที่ใหนไม่รู้.....
มันมืดมิดดำสนิทมองไม่เห็นอะไรเลย แม้แต่พื้นที่เราเหยียบก็ยังมองไม่เห็น นี่มันที่ใหนกันนี่ทำไมมันมืดขนาดนี้ อากาศที่นั่นไม่หนาว ไม่ร้อนเหมือนตอนตีสองตีสามในหน้าร้อน เป็นความรู้สึกที่รับรู้ได้อย่างหนึ่ง ผมยังคงยืนนิ่งไม่ได้ขยับตัวแต่อย่างใด พยายามรวบรวมสมาธิอีกครั้ง มองออกไปเบื้องหน้ารู้สึกว่า
สถานที่นั้นกว้างสุดลูกหูลูกตา เหมือนดั่งผืนทะเลที่มองหาฝั่งไม่เจอ มันมืดมิดดำสนิท ไม่มีต้นไม้ใหญ่แม้แต่ต้นเดียว เป็นพื้นดินแตกระแหงมีขึ้เถ้าสีขาวและสีดำ มีต้นหญ้าหรือฟางที่ถูกเผาเหมือนไฟลามทุ่ง แต่มันมอดดับสนิทไปนานแล้ว ไม่มีลมพัด แต่ตอนนั้นรู่สึกว่าตัวเองไม่ได้หายใจด้วยซ้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างรับรุ้ได้ จากจิตล้วน ๆ สถานที่นั้นเรามองไม่เห็นใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ แล้วเราจะทำอย่างไร จะกลับอย่างไร แล้วเราจะไปใหน ขณะที่ยืนคิดอยู่นั้น ก็เหมือนสวรรค์มาโปรด ผมมองเห็นแสงริบ ๆ เท่าปลายเข็ม อยู่เหนือจากพื้นประมาณ 40 องศา คือแสงนั้นไม่สูงมาก แต่ใกลสุดลูกหูลูกตา
ทีเดียว ผมจ้องมองไปที่แสงสีขาวนั้น 4-5 วินาที แสงนั้นพุ่งตรงมาที่ผมใหญ่ขึ้น ๆ และสว่างสไวขึ้น ห่างจากตัวผมประมาณ 10 วาเห็นจะได้ แสงนั้นก็ปรากฏเป็นรูปพระพุทธเจ้า ปางห้ามญาติ ผมรุ้สึกปิติ ดีใจเป็นอย่างมาก (นี่เรารอดตายแล้ว) ผมจ้องมองรูปพระศาสดาได้ไม่ถึง 10 วินาที รูปนั้นก็หายไป กลับมีรูปเจ้าแม่กวนอิมขึ้นมาแทน สักพักก็มีรูปเทพเจ้ากวนอู และอีกหลายรูปสลับขึ้นทีละรูป ประมาณ 4-5 องค์ จากนั้นก็หายไป ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความมืดเหมือนเดิม อ้าวฝันสลาย แล้วนี่ฉันจะกลับอย่างไงเล่า ผมยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยุ่เหมือนเดิมสักพักก็เห็นตัวอะไรไม่รู้แต่กลับจำไม่ได้ว่ามันคืออะไร มันตรงเข้ามาหาเรา ตอนนั้นรุ้สึกกลัวสุดขีด (วาร์ป) ผมกลับเข้าร่างแล้วรู้สึกตัวทันที ผมลืมตาขึ้น อ้าวนี่เรายังไม่ตายหรือนี่ ลองเช็คตัวเองดู สักอึดใจผมลงจากเตียงไปเปิดไฟข้างล่าง ดูนาฬิกาข้างผนังเป็นเวลา ตี 3.15 น. เหตุการณ์ที่เกิดอยู่ในช่วง เวลา 3 ชม. กลับขึ้นไปนอนต่อ ยันรุ่งเช้า ก็เลยเล่าเรื่องนี้ให้คนที่บ้านฟัง คนที่นั่นก็เลยบอกว่าเมื่อ 2-3 วันมานี้มีตำหนักจีนมาตั้งอยู่ไม่ใกลจากที่นี่เท่าใดให้เรา ไปไหว้ดู มีเจ้าแม่กวนอิมและเทพต่าง ๆ เหมือนที่เราเล่ามา พวกเราก็เลยไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่นั่น ผมก็เห็นมีเทพเจ้าต่าง ๆ เหมือนที่ผมเห็นไม่มีผิด จากนั้น ก็เข้าพิธีอะไรสักอย่าง เห็นเขาบอกว่าจะทำพิธีเปิดสุญญตา ที่อยู่ตรงกลางหว่างคิ้วทำเสร็จก็เดินทางกลับมาบ้านแบบ งง ๆ เอ้เราไปทำอะไร แล้วมันเกี่ยวกันมั้ย ผมก็ไม่รู้ว่าพิธีนั้นผมไปรับขันธ์อะไรขึ้นมาหรือป่าว
รายละเอียดตอนทำพิธีกลับจำไม่ได้ทุกขั้นตอนมันน่าแปลก
สิ่งที่ผมจะถามต่อไปนี้คือ
1 จิตผมออกจากร่างจริงหรือไม่ จะว่าผมฝันไปก็คงไม่ใช่เพราะผมทำสมาธิอยู่ และรับรู้อารณม์ตลอดสมาธิ จนกระทั่งตัดสินใจเลือกที่
จะยอมตาย
2 ผมกลับมาได้อย่างไร ในขณะที่ผมหาทางไม่เจอ
3 ผมนึกถึงผีหลอก และความตาย ในช่วงสุดท้าย ทำให้จิตพุ่งไปสู่ยมโลกและที่นั่นเป็นปากทางไปสู่ยมโลกหรือไม่ ใครเคยไปบ้าง
มันจะเหมือนกับ สถานที่ ๆ ผมอธิบายไปหรือไม่
4 ทำไมผมกลับมาและตื่นได้ทันที ไม่เหมือนกับตอนที่ผมนั่งสมาธิจนได้ถึงฌานครั้งแรกแต่ไม่รุ้ระดับใหน ตอนนั้นผมนึกจะออกจากสมาธิ
จะลืมตา ก็ไม่ได้ขยับตัวก็ไม่ได้ มันนานประมาณ เกือบ 5 นาทีกว่าจะลืมตาและขยับตัวได้ เรื่องฌานครั้งแรกเกิดหลังจากเรืองนี้ 7-8 ปี
แล้วจะเล่าเรื่องนี้ ต่อไปนะคับ
5 ถ้าจิตผมออกจากร่างจริง ทำไมมันออกแบบพิศดาร ผมไม่เคยอ่านเจอที่ใหนว่าจิตจะออกจากร่างโดยวิธีนี้ ทั้งหมดนี้คือความสับสนที่ผม
ยังไม่เข้าใจ...ใครช่วยที
6 เสียงน้ำหยดที่ผมหาแหล่งที่มาไม่เจอ จนนำไปสู่การทำสมาธิ จนจิตออกจากร่าง เสียงนี้เกิดขึ้นเอง หรือสิ่งใดจงใจทำให้เกิด
เมื่อจิตออกจากร่างโดยบังเอิญ
มันมืดมิดดำสนิทมองไม่เห็นอะไรเลย แม้แต่พื้นที่เราเหยียบก็ยังมองไม่เห็น นี่มันที่ใหนกันนี่ทำไมมันมืดขนาดนี้ อากาศที่นั่นไม่หนาว ไม่ร้อนเหมือนตอนตีสองตีสามในหน้าร้อน เป็นความรู้สึกที่รับรู้ได้อย่างหนึ่ง ผมยังคงยืนนิ่งไม่ได้ขยับตัวแต่อย่างใด พยายามรวบรวมสมาธิอีกครั้ง มองออกไปเบื้องหน้ารู้สึกว่า
สถานที่นั้นกว้างสุดลูกหูลูกตา เหมือนดั่งผืนทะเลที่มองหาฝั่งไม่เจอ มันมืดมิดดำสนิท ไม่มีต้นไม้ใหญ่แม้แต่ต้นเดียว เป็นพื้นดินแตกระแหงมีขึ้เถ้าสีขาวและสีดำ มีต้นหญ้าหรือฟางที่ถูกเผาเหมือนไฟลามทุ่ง แต่มันมอดดับสนิทไปนานแล้ว ไม่มีลมพัด แต่ตอนนั้นรู่สึกว่าตัวเองไม่ได้หายใจด้วยซ้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างรับรุ้ได้ จากจิตล้วน ๆ สถานที่นั้นเรามองไม่เห็นใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ แล้วเราจะทำอย่างไร จะกลับอย่างไร แล้วเราจะไปใหน ขณะที่ยืนคิดอยู่นั้น ก็เหมือนสวรรค์มาโปรด ผมมองเห็นแสงริบ ๆ เท่าปลายเข็ม อยู่เหนือจากพื้นประมาณ 40 องศา คือแสงนั้นไม่สูงมาก แต่ใกลสุดลูกหูลูกตา
ทีเดียว ผมจ้องมองไปที่แสงสีขาวนั้น 4-5 วินาที แสงนั้นพุ่งตรงมาที่ผมใหญ่ขึ้น ๆ และสว่างสไวขึ้น ห่างจากตัวผมประมาณ 10 วาเห็นจะได้ แสงนั้นก็ปรากฏเป็นรูปพระพุทธเจ้า ปางห้ามญาติ ผมรุ้สึกปิติ ดีใจเป็นอย่างมาก (นี่เรารอดตายแล้ว) ผมจ้องมองรูปพระศาสดาได้ไม่ถึง 10 วินาที รูปนั้นก็หายไป กลับมีรูปเจ้าแม่กวนอิมขึ้นมาแทน สักพักก็มีรูปเทพเจ้ากวนอู และอีกหลายรูปสลับขึ้นทีละรูป ประมาณ 4-5 องค์ จากนั้นก็หายไป ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความมืดเหมือนเดิม อ้าวฝันสลาย แล้วนี่ฉันจะกลับอย่างไงเล่า ผมยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยุ่เหมือนเดิมสักพักก็เห็นตัวอะไรไม่รู้แต่กลับจำไม่ได้ว่ามันคืออะไร มันตรงเข้ามาหาเรา ตอนนั้นรุ้สึกกลัวสุดขีด (วาร์ป) ผมกลับเข้าร่างแล้วรู้สึกตัวทันที ผมลืมตาขึ้น อ้าวนี่เรายังไม่ตายหรือนี่ ลองเช็คตัวเองดู สักอึดใจผมลงจากเตียงไปเปิดไฟข้างล่าง ดูนาฬิกาข้างผนังเป็นเวลา ตี 3.15 น. เหตุการณ์ที่เกิดอยู่ในช่วง เวลา 3 ชม. กลับขึ้นไปนอนต่อ ยันรุ่งเช้า ก็เลยเล่าเรื่องนี้ให้คนที่บ้านฟัง คนที่นั่นก็เลยบอกว่าเมื่อ 2-3 วันมานี้มีตำหนักจีนมาตั้งอยู่ไม่ใกลจากที่นี่เท่าใดให้เรา ไปไหว้ดู มีเจ้าแม่กวนอิมและเทพต่าง ๆ เหมือนที่เราเล่ามา พวกเราก็เลยไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่นั่น ผมก็เห็นมีเทพเจ้าต่าง ๆ เหมือนที่ผมเห็นไม่มีผิด จากนั้น ก็เข้าพิธีอะไรสักอย่าง เห็นเขาบอกว่าจะทำพิธีเปิดสุญญตา ที่อยู่ตรงกลางหว่างคิ้วทำเสร็จก็เดินทางกลับมาบ้านแบบ งง ๆ เอ้เราไปทำอะไร แล้วมันเกี่ยวกันมั้ย ผมก็ไม่รู้ว่าพิธีนั้นผมไปรับขันธ์อะไรขึ้นมาหรือป่าว
รายละเอียดตอนทำพิธีกลับจำไม่ได้ทุกขั้นตอนมันน่าแปลก
สิ่งที่ผมจะถามต่อไปนี้คือ
1 จิตผมออกจากร่างจริงหรือไม่ จะว่าผมฝันไปก็คงไม่ใช่เพราะผมทำสมาธิอยู่ และรับรู้อารณม์ตลอดสมาธิ จนกระทั่งตัดสินใจเลือกที่
จะยอมตาย
2 ผมกลับมาได้อย่างไร ในขณะที่ผมหาทางไม่เจอ
3 ผมนึกถึงผีหลอก และความตาย ในช่วงสุดท้าย ทำให้จิตพุ่งไปสู่ยมโลกและที่นั่นเป็นปากทางไปสู่ยมโลกหรือไม่ ใครเคยไปบ้าง
มันจะเหมือนกับ สถานที่ ๆ ผมอธิบายไปหรือไม่
4 ทำไมผมกลับมาและตื่นได้ทันที ไม่เหมือนกับตอนที่ผมนั่งสมาธิจนได้ถึงฌานครั้งแรกแต่ไม่รุ้ระดับใหน ตอนนั้นผมนึกจะออกจากสมาธิ
จะลืมตา ก็ไม่ได้ขยับตัวก็ไม่ได้ มันนานประมาณ เกือบ 5 นาทีกว่าจะลืมตาและขยับตัวได้ เรื่องฌานครั้งแรกเกิดหลังจากเรืองนี้ 7-8 ปี
แล้วจะเล่าเรื่องนี้ ต่อไปนะคับ
5 ถ้าจิตผมออกจากร่างจริง ทำไมมันออกแบบพิศดาร ผมไม่เคยอ่านเจอที่ใหนว่าจิตจะออกจากร่างโดยวิธีนี้ ทั้งหมดนี้คือความสับสนที่ผม
ยังไม่เข้าใจ...ใครช่วยที
6 เสียงน้ำหยดที่ผมหาแหล่งที่มาไม่เจอ จนนำไปสู่การทำสมาธิ จนจิตออกจากร่าง เสียงนี้เกิดขึ้นเอง หรือสิ่งใดจงใจทำให้เกิด