เพิ่งได้ผลมาวันนี้ไปสอบมาครั้งแรกเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ได้รวม7.5 คะแนนแยกคือ  L 7.5  R 9  W 6.5  S 6.5

ส่วนตัวเราคิดว่าภาษาอังกฤษต้องอาศัยการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ การติวในระยะเวลาสั้นๆไม่สามารถทำให้คะแนนสูงได้เท่าไหร่
เพราะฉะนั้นตอบยากค่ะ ว่าคุณเจ้าของกระทู้ควรทำอย่างไร เพราะไม่รู้พื้นฐานของคุณว่าอยู่ระดับไหน และไม่รู้ว่าอ่อนตรงไหน แข็งตรงไหน
ถ้าเพิ่มข้อมูลตรงนี้มา อาจจะตอบได้ตรงประเด็นขึ้น

1. ไม่ได้เรียนอินเตอร์มาก่อน
พื้นฐานของเราก็ไม่เคยเรียนอินเตอร์ เรียนโรงเรียนไทยมาตลอด ไม่เคยคุยกับฝรั่ง ไม่ได้ไปเรียนกวดวิชาเพิ่ม
แต่ชอบเล่นเกมคอนโซลพวกplaystationแล้วก็ดูคลิปยูทูปชาแนลต่างประเทศ และก็อ่านเวปบอร์ดฝรั่งทุกวัน (เรื่องเกมเนี่ยล่ะ)
เลยคุ้นเคยกับการฟังและอ่านค่ะ ถ้ามีเวลาเตรียมตัวเยอะ ให้หาเรื่องที่ชอบ อ่านและฟังทุกวันๆ ช่วยได้มาก

2. ระยะเวลาเตรียมตัวและฝึกหัด & หนังสือหรือเว็บไซต์ที่แนะนำ
เรามีเวลาเตรียมตัวราวๆเดือนครึ่ง ตอนแรกนึกว่าทุนปิดรับปลายปี แต่จริงๆแล้วปิดรับสิ้นเดือนนี้
เลยต้องตาหูตาแหก 555 เราทำงานเป็นกราฟฟิคดีไซเนอร์ วันๆแทบไม่ได้ใช้ภาษาเลย และก็ไม่มีเวลาไปเรียนตามโรงเรียนด้วย
ต้องอ่านเองที่บ้านหลังเลิกงานและเสาร์อาทิตย์
วันธรรมดา พยายามติวตัวเองให้ได้เวลาประมาณ2ชั่วโมง เสาร์อาทิตย์ก็เพิ่มไปตามสะดวก ปรับตามที่สบายใจ โฟกัสมากไปก็ไม่เข้าหัว ไปตามจังหวะของเรา
อย่างที่บอกว่าพื้นฐานแต่ละคนต่างกัน ระยะเวลาก็ต้องต่างกันไป เอามาตรฐานคนอื่นมาใช้แล้วเราคิดว่าไม่น่าจะได้ผลค่ะ
เคยอ่านเจอบางคนอ่านนิดๆหน่อยๆก็ได้เยอะๆแล้ว หรือบางคนโหมอ่านอย่างโหด ไปทำตามเค้าคงออกมาเงิบน่าดู

เราเน้นทำแบบฝึกหัดกับอ่านทริคในเนตมากกว่าอ่านหนังสือ เพราะลองอ่านไปวันนึงแล้วไม่เข้าหัว -*- อ่านแล้วจับประเด็นไม่ค่อยได้
เหมือนอ่านไปเรื่อยๆ แบบทดสอบในหนังสือมันก็ไม่เหมือนข้อสอบจริง ทำไปแล้วรู้สึกเสียเวลา เราอาจจะโง่ในการจับใจความเองก็เป็นได้
เลยไปเน้นทำข้อสอบ แล้ววิเคราะห์ว่าผิดเพราะอะไร ต้องระวังเรื่องไหนเป็นพิเศษ แล้วก็ดูคลิปยูทูปชาเนลต่างๆที่แนะนำเทคนิคการทำข้อสอบ

แบบฝึกหัดที่ใช้คือของ Cambridge English IELTS 8,9,10,11 เล่มแรกๆไม่ได้ใช้เลยเพราะคนบอกว่าง่ายเกินไป
ตอนฝึกทำก็จับเวลาเท่าตอนสอบ แล้วก็ฝึกกับกระดาษคำตอบแบบเดียวกับของจริงค่ะ ไปหาโหลดในเนตได้
ปริ้นมานั่งทำไปเรื่อยๆวันละชุดสองชุด เสร็จละก็ตรวจ ผิดตรงไหนก็ลิสต์บุลเลตพ๊อยท์เอาไว้ไปหาtipsในเนตเพิ่ม
เช่น พาร์ทฟังชอบพลาดตรงการลงเสียงS ED พาร์ทอ่านพลาดตรง T F NG แก้ไปทีละจุดๆ ซึ่งวิธีนี้เวิร์คกับเรา รู้สึกว่ามีพัฒนาการก้าวหน้าชัดเจน

หนังสือเล่มเดียวที่เราใช้คือ The Official Cambridge Guide to IELTS คนแนะนำมาว่าดี
แต่คนขี้เกียจอย่างเราก็อ่านแค่พาร์ทเขียนเป็นไกด์ไลน์ ที่เหลืออ่านไม่จบ 55 แต่แบบฝึกหัดที่มีให้ในเล่มนี้ก็เหมือนข้อสอบจริง ใช้ทำเพิ่มจากเล่ม 8,9,10,11ได้

เราคิดว่าสิ่งสำคัญคือการติวตัวเองอย่างมีสติ (คิดวิเคราะห์แยกแยะว่าเราอ่อนตรงไหน ควรใช้เวลากับพาร์ทไหนมากกว่า)
และมีจุดหมาย (วันนี้จะไม่พลาดเรื่องเดิมนะ จะแก้ไขด้วยวิธีนี้ๆ)

เวปที่แนะนำมากๆคือ

http://www.ieltsliz.com นางเคยเป็นคนตรวจมาก่อน ฉะนั้นเรื่องมาตรฐานการให้คะแนนนางจะแม่นมาก รู้ว่าคนให้คะแนนจะดูตรงไหน จะอยากเห็นอะไร
และที่สำคัญ มันฟรี! ทั้งคลิปทั้งไกด์  เราใช้ตัวอย่างการเขียนและโครงสร้างการเขียนในเวปนี้เป็นหลัก (แต่ละเวปก็บอกไม่เหมือนกัน ให้เลือกฝึกแบบใดแบบหนึ่งไปเลย จะได้ไม่งง)

http://www.ieltsadvantage.com อันนี้ก็ใช้ดูไรท์ติ้ง และเทคนิคสปีกกิ้ง มีรับตรวจไรท์ติ้งแบบละเอียดด้วย แต่แพงเหมือนกัน

http://www.ielts-blog.com/ เพื่อนเราใช้เวปนี้ตรวจไรท์ติ้ง บอกว่าถูกและดี แล้วมันมีโควต้าเหลือ เราเลยสวมรอยซะเลย คะแนนที่ตรวจให้ก็ตรงกับคะแนนที่ได้ค่ะ

http://www.allearsenglish.com/ ถ้าอ่อนสปีกกิ้ง กรุณาเข้าเวปนี้และชาเนลในยูทูปของที่นี่ ส่วนตัวแล้วเราว่ามันดีมากกกกก ก.ไก่ล้านตัว
เพราะนางเฮฮาปาจิงโกะดี และก็ให้tipsตรงประเด็น นำมาใช้ได้จริง มีขายคอร์สออนไลน์ด้วย ถ้าเจอที่นี่ตั้งแต่เนิ่นๆอาจจะลองซื้อเรียนดู แต่มาเจอตอนเหลือเวลาอาทิตย์เดียวเลยไม่ได้ซื้อ

http://ielts-simon.com/ คนแนะนำกันเยอะ เราใช้ดูแต่ตัวอย่างการเขียน อย่างอื่นไม่ค่อยได้ดู
พี่แกชอบโพสต์ทีละนิดทีละหน่อยแล้วปล่อยให้ค้างคารอตอนต่อไป ไม่เหมาะกับผู้ต้องเร่งรัด

4. Guide การเขียน Writing Task1 & Task2
วางแผนให้ดี เขียนให้ทันและมีเวลาตรวจทาน เป็นเรื่องสำคัญมาก
น่าแปลกใจ ว่าคำง่ายๆบางคำ เวลารีบๆทำข้อสอบเราก็เขียนผิด
โครงสร้างประธานที่ยาวๆบางทีก็สับสนจนเขียนผิดความหมาย ถ้าไม่ได้ตรวจแก้ล่ะแย่เลย
(เช่น อัตราการใช้รถไฟเพื่อเดินทางของประเทศเยอรมัน ดันไปเขียนเป็น อัตราการเดินทางของรถไฟในเยอรมัน)
จงระลึกเสมอว่าเวลามีจำกัด จงรู้ก่อนเขียนว่าจะเขียนเกี่ยวกับอะไร อย่าเขียนไปนึกไป เพราะมันจะออกมาไม่ดี เสียเวลาแก้ เนื้อหาชวนสับสน

ตอนฝึกที่บ้านให้นับไว้เลยว่าประโยคนึงเราเขียนได้กี่คำ ส่วนตัวเราเขียนตัวใหญ่เท่าบ้าน บรรทัดนึงได้แค่9-10คำ
ตอนสอบก็ทำเครื่องหมายเล็กๆนับบรรทัดไว้ตั้งแต่ตอนจนท.ให้เขียนชื่อบนกระดาษสอบ เพราะไม่มีเวลานับคำแน่ๆ นับได้แค่บรรทัดนั่นล่ะ
พาร์ท 1 ต้องเขียน 150 คำขึ้นไป ก็ราวๆ 17 บรรทัด
พาร์ท 2 ต้องเขียน 250 คำขึ้นไป ก็ราวๆ 28 บรรทัด
ฝึกให้เขียนไม่ขาดจำนวนคำ เพราะจะโดนหักคะแนน แต่ก็อย่าเกินจำนวนไปเยอะ ยิ่งเขียนเยอะยิ่งมีโอกาสผิดเยอะ และจะเขียนไม่ทันด้วย

เราแบ่งเวลาประมาณนี้ค่ะ
พาร์ท 1 มีเวลา 20นาที
อ่านโจทย์ วางแผน เขียนอินโทร 5 นาที
เขียนโอเวอร์วิว (สรุปรวมประเด็นเด่น) 3 นาที
เขียนพารากราฟแรก 5 นาที
เขียนพารากราฟแรก 5 นาที
ตรวจทานคำผิด 2 นาที

พาร์ท 2 มีเวลา 40นาที
อ่านโจทย์ วางแผน เขียนอินโทร 10 นาที
เขียนพารากราฟแรก 10 นาที
เขียนพารากราฟแรก 10 นาที
เขียนสรุป 5 นาที่
ตรวจทานคำผิด 3-4 นาที

เศษเวลาที่เหลือเอาไว้เผื่อเวลาตื่นตูมในห้องสอบ

โดยรวมก็ประมาณนี้ หวังว่าจะช่วยเจ้าของกระทู้และคนอื่นที่มาอ่านเจอได้บ้างนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ

ป.ล. เราสอบที่idp เดี๋ยวนี้ใช้หูฟังในการสอบฟังแล้ว ไม่ใช่ลำโพง อาจารย์ที่สอบสปีกกิ้งด้วยใจดีมว๊าก