2 พี่น้องนักร้องลูกทุ่ง
"กระแต-กระต่าย อาร์สยาม" เดินทางไปท้องสนามหลวงเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เพื่อร่วมทำจิตอาสาถวายแด่พ่อหลวง รัชกาลที่ 9 ในพิธีอาลัยแด่พระบาทสมเด็ตพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกับร่วมแจกรูปพ่อหลวงให้กับประชาชน ประทับใจที่ได้ถวายงานตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก
วันนี้เราสองคนมาทำอะไรบ้าง ?
กระแต - "เรามาในนามของมูลนิธิป่อเต๊กตึ้ง มาช่วยดูและประชาชนของพ่อค่ะ ใครให้ทำอะไรก็ทำหมดเลย วันนี้เราได้ช่วยแจกรูปของพ่อให้กับทุกคนจำนวนหลายพันรูปเลยค่ะ และก็ตั้งใจว่าจะอยู่จนดึกเลย"
ก่อนหน้านี้เรามีโอกาสได้มาที่นี่บ้างหรือยัง ?
กระแต - "มาแล้วค่ะ มาทีไรคนก็ยังมาเยอะเหมือนเดิมเลย ยิ่งตอนกลางคืนคนยิ่งเยอะเพราะบางคนเพิ่งเลิกงานเขาก็จะมา มีอยู่ครั้งเรากลับบ้านตีสามแต่คนก็ยังเยอะอยู่ คือปกติเราสองคนเป็นคนที่ทำงานเลิกดึกอยู่แล้ว ถ้าให้เรากลับเร็วเขาก็คงนอนไม่หลับ เราเลยคิดว่าเราอยากมาอยู่ใกล้พ่อให้ได้มากที่สุด "
กระต่าย - "สิ่งที่เราเห็นก็คือความสามัคคีของทุกๆ คนที่อาสามาช่วย เราเห็นแล้วเราก็ชื่นใจค่ะ อีกอย่างดาราไม่ใช่มีแค่กลุ่มเรานะแต่ยังมีอีกหลายๆ กลุ่ม มาช่วยกันเกือบทั้งวงการแล้วมั้งคะ
มีโอกาสได้เข้าไปลงนามถวายความอาลัยแล้วหรือยัง ?
กระต่าย - "ได้ลงนามหลายที่แล้วค่ะ แต่ที่นี่ยังไม่มีโอกาสได้เข้าไป คือเรามาทุกวันเราเข้าไปวันไหนก็ได้ วันนี้เลยอยากตั้งใจมาช่วยเหลือทุกคนก่อน"
มีโอกาสเคยถวายงานให้พระองค์ท่านบ้างไหม ?
กระแต - "ถ้าอยู่ในมูลนิธิเราก็ทำเพื่อพ่อหลวงเยอะเหมือนกัน แต่ถ้าในส่วนของตัวกระแตเอง ในหน้าที่ของศิลปินมันก็เป็นหน้าที่ๆ ยิ่งใหญ่มากๆ เพราะหนึ่งในเพลงของกระแต เพลงใต้ร่มพระบารมี ก็เป็นเพลงที่ถูกประพันธ์ขึ้นให้พ่อหลวง เป็นอัลบั้มแรกซึ่งตอนนั้นกระแตยังเด็กมากๆ อายุแค่ 14-15 เอง ดีใจมากๆ เลยในตอนนั้นที่ได้ร้อง แต่พอตอนนี้ได้กลับไปฟังอีกครั้ง มันสลดมันเสียใจ แต่มันเป็นเพลงที่มีความหมายดีมากๆ ค่ะฟังทุกครั้งก็เพราะทุกครั้ง เมื่อวานได้เปิดฟังอีกน้ำตาก็ไหล"
มีคำสอนไหนของพ่อไหมที่เราได้นำมาปรับใช้กับชีวิตตัวเอง ?
กระต่าย - "จะมีอยู่สองคำสอนที่นำมาใช้หลักๆ เลยค่ะ คือการทำความดี ทำความดีมันทำยากแต่เราก็ต้องทำ เพราะถ้าหากเราทำแล้วจิตใจเราจะสูงขึ้น แต่ก็อยากให้ทำออกมาจากความรู้สึกถ้าหากเราทำตามกระแสเราก็จะไม่รู้สักอะไร แต่ถ้าเราทำจากความรู้สึกถึงแม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยความดีก็จะเบิกบานในใจของเรา ส่วนอีกหนึ่งคำสอนก็คือการเป็นศิลปิน"

กระแต - "ถ้าพูดถึงหน้าที่ของศิลปินในหลวงท่านเคยตรัสไว้ คำว่าศิลปินก็คือผู้สร้างสรรค์ความสุขให้กับประชาชน เราต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในเรื่องของ
ตัวเอง ในการสร้างประโยชน์และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน ซึ่งหนูมั่นใจว่าทุกครั้งที่หนูได้ทำหน้าที่ศิลปิน หนูจะทำเต็มที่เพื่อให้ประชาชนหน้าเวทีมีความสุข"
ในตอนนี้ประชาชนกำลังโศกเศร้ากับการสวรรคตของพระองค์ เรามีอะไรอยากจะบอกประชาชนด้วยกันไหม ?
กระแต - "หนูเชื่อว่าความโศกเศร้าของแต่ละคนมีไม่แพ้กัน ทุกคนเสียใจเหมือนกัน ทุกคนรักพ่อหลวงไม่แพ้กัน ความโศกเศร้าเราห้ามกันไม่ได้แต่ก็อยากให้กำลังใจดวงเล็กๆ จากเราทั้งสองคน และอยากให้ทุกคนมาให้กำลังใจเราด้วย แบ่งปันซึ่งกันและกัน เปลี่ยนจากความโศกเศร้ามาเป็นความสามัคคี ความปรองดอง ให้ชาติบ้านเมืองเราเข้มแข็ง เพราะเชื่อว่าตอนนี้เราเปราะบาง หนูอยากให้เรากลับมาเข้มแข็งเร็วๆ หนูเชื่อว่าพ่อหลวงไม่อยากเห็นเราเศร้าโศกเสียใจอีกแล้ว อยากให้ทุกคนกลับมาจับมือกันให้แน่นเข้าไว้ สามาคคีเข้าไว้ นำชาติบ้านเมืองให้เจริญและพัฒนาอย่างที่พ่อเคยหวัง"
กระต่าย - "ถ้าอยากจะร้องก็ร้องนะคะ ไม่ตั้งอั้นร้องให้พอ เพราะน้ำตาที่เราร้องไห้เราร้องให้กับคนที่รักเรามากที่สุด เขาจากเราไปเราก็สมควรที่จะร้องไห้แล้ว แต่ในเมื่อเราร้องไห้เสร็จแล้วก็อยากให้ทุกคนมีสติ และร่วมทำความดีเอาความเศร้าโศกเสียใจตอนนั้นมาร่วมกันรักและสามัคคี เพราะนั่นคือสิ่งที่พ่อหลวงพยายามบอกกับลูกทุกคนมาตลอด"
http://news.sanook.com/2086922/
พี่น้อง "กระแต-กระต่าย อาร์สยาม" ซึ้งใจเคยถวายงานตั้งแต่เด็กๆ
2 พี่น้องนักร้องลูกทุ่ง "กระแต-กระต่าย อาร์สยาม" เดินทางไปท้องสนามหลวงเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เพื่อร่วมทำจิตอาสาถวายแด่พ่อหลวง รัชกาลที่ 9 ในพิธีอาลัยแด่พระบาทสมเด็ตพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกับร่วมแจกรูปพ่อหลวงให้กับประชาชน ประทับใจที่ได้ถวายงานตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก
วันนี้เราสองคนมาทำอะไรบ้าง ?
กระแต - "เรามาในนามของมูลนิธิป่อเต๊กตึ้ง มาช่วยดูและประชาชนของพ่อค่ะ ใครให้ทำอะไรก็ทำหมดเลย วันนี้เราได้ช่วยแจกรูปของพ่อให้กับทุกคนจำนวนหลายพันรูปเลยค่ะ และก็ตั้งใจว่าจะอยู่จนดึกเลย"
ก่อนหน้านี้เรามีโอกาสได้มาที่นี่บ้างหรือยัง ?
กระแต - "มาแล้วค่ะ มาทีไรคนก็ยังมาเยอะเหมือนเดิมเลย ยิ่งตอนกลางคืนคนยิ่งเยอะเพราะบางคนเพิ่งเลิกงานเขาก็จะมา มีอยู่ครั้งเรากลับบ้านตีสามแต่คนก็ยังเยอะอยู่ คือปกติเราสองคนเป็นคนที่ทำงานเลิกดึกอยู่แล้ว ถ้าให้เรากลับเร็วเขาก็คงนอนไม่หลับ เราเลยคิดว่าเราอยากมาอยู่ใกล้พ่อให้ได้มากที่สุด "
กระต่าย - "สิ่งที่เราเห็นก็คือความสามัคคีของทุกๆ คนที่อาสามาช่วย เราเห็นแล้วเราก็ชื่นใจค่ะ อีกอย่างดาราไม่ใช่มีแค่กลุ่มเรานะแต่ยังมีอีกหลายๆ กลุ่ม มาช่วยกันเกือบทั้งวงการแล้วมั้งคะ
มีโอกาสได้เข้าไปลงนามถวายความอาลัยแล้วหรือยัง ?
กระต่าย - "ได้ลงนามหลายที่แล้วค่ะ แต่ที่นี่ยังไม่มีโอกาสได้เข้าไป คือเรามาทุกวันเราเข้าไปวันไหนก็ได้ วันนี้เลยอยากตั้งใจมาช่วยเหลือทุกคนก่อน"
มีโอกาสเคยถวายงานให้พระองค์ท่านบ้างไหม ?
กระแต - "ถ้าอยู่ในมูลนิธิเราก็ทำเพื่อพ่อหลวงเยอะเหมือนกัน แต่ถ้าในส่วนของตัวกระแตเอง ในหน้าที่ของศิลปินมันก็เป็นหน้าที่ๆ ยิ่งใหญ่มากๆ เพราะหนึ่งในเพลงของกระแต เพลงใต้ร่มพระบารมี ก็เป็นเพลงที่ถูกประพันธ์ขึ้นให้พ่อหลวง เป็นอัลบั้มแรกซึ่งตอนนั้นกระแตยังเด็กมากๆ อายุแค่ 14-15 เอง ดีใจมากๆ เลยในตอนนั้นที่ได้ร้อง แต่พอตอนนี้ได้กลับไปฟังอีกครั้ง มันสลดมันเสียใจ แต่มันเป็นเพลงที่มีความหมายดีมากๆ ค่ะฟังทุกครั้งก็เพราะทุกครั้ง เมื่อวานได้เปิดฟังอีกน้ำตาก็ไหล"
มีคำสอนไหนของพ่อไหมที่เราได้นำมาปรับใช้กับชีวิตตัวเอง ?
กระต่าย - "จะมีอยู่สองคำสอนที่นำมาใช้หลักๆ เลยค่ะ คือการทำความดี ทำความดีมันทำยากแต่เราก็ต้องทำ เพราะถ้าหากเราทำแล้วจิตใจเราจะสูงขึ้น แต่ก็อยากให้ทำออกมาจากความรู้สึกถ้าหากเราทำตามกระแสเราก็จะไม่รู้สักอะไร แต่ถ้าเราทำจากความรู้สึกถึงแม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยความดีก็จะเบิกบานในใจของเรา ส่วนอีกหนึ่งคำสอนก็คือการเป็นศิลปิน"
กระแต - "ถ้าพูดถึงหน้าที่ของศิลปินในหลวงท่านเคยตรัสไว้ คำว่าศิลปินก็คือผู้สร้างสรรค์ความสุขให้กับประชาชน เราต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในเรื่องของ
ตัวเอง ในการสร้างประโยชน์และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน ซึ่งหนูมั่นใจว่าทุกครั้งที่หนูได้ทำหน้าที่ศิลปิน หนูจะทำเต็มที่เพื่อให้ประชาชนหน้าเวทีมีความสุข"
ในตอนนี้ประชาชนกำลังโศกเศร้ากับการสวรรคตของพระองค์ เรามีอะไรอยากจะบอกประชาชนด้วยกันไหม ?
กระแต - "หนูเชื่อว่าความโศกเศร้าของแต่ละคนมีไม่แพ้กัน ทุกคนเสียใจเหมือนกัน ทุกคนรักพ่อหลวงไม่แพ้กัน ความโศกเศร้าเราห้ามกันไม่ได้แต่ก็อยากให้กำลังใจดวงเล็กๆ จากเราทั้งสองคน และอยากให้ทุกคนมาให้กำลังใจเราด้วย แบ่งปันซึ่งกันและกัน เปลี่ยนจากความโศกเศร้ามาเป็นความสามัคคี ความปรองดอง ให้ชาติบ้านเมืองเราเข้มแข็ง เพราะเชื่อว่าตอนนี้เราเปราะบาง หนูอยากให้เรากลับมาเข้มแข็งเร็วๆ หนูเชื่อว่าพ่อหลวงไม่อยากเห็นเราเศร้าโศกเสียใจอีกแล้ว อยากให้ทุกคนกลับมาจับมือกันให้แน่นเข้าไว้ สามาคคีเข้าไว้ นำชาติบ้านเมืองให้เจริญและพัฒนาอย่างที่พ่อเคยหวัง"
กระต่าย - "ถ้าอยากจะร้องก็ร้องนะคะ ไม่ตั้งอั้นร้องให้พอ เพราะน้ำตาที่เราร้องไห้เราร้องให้กับคนที่รักเรามากที่สุด เขาจากเราไปเราก็สมควรที่จะร้องไห้แล้ว แต่ในเมื่อเราร้องไห้เสร็จแล้วก็อยากให้ทุกคนมีสติ และร่วมทำความดีเอาความเศร้าโศกเสียใจตอนนั้นมาร่วมกันรักและสามัคคี เพราะนั่นคือสิ่งที่พ่อหลวงพยายามบอกกับลูกทุกคนมาตลอด"
http://news.sanook.com/2086922/