วันนี้ เห็นโพสต์เรื่องเพลง "เหมือนเคย"ของบอย โกสิยพงษ์ ที่ในหลวงทรงเปิดให้พระราชินี ถ้าพูดภาษาบ้านๆ พระองค์ทรงโรแมนติก อ่านจากบทความ 60 เรื่องราวโรแมนติกขอพระองค์แล้วยิ้มทั้งน้ำตาเลย ....#ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ( ที่มาบทความ จาก
https://goo.gl/grQ8HL)

ในหลวงทรง "โรแมนติก"ไหม?
คำถามนี้เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้….
หนึ่งวันเต็มๆ กับการสืบค้นบันทึกลายลักษณ์อักษร ในห้อง 302 ชั้น 3 หอสมุดแห่งชาติ นอกจากอมยิ้มไปกับเรื่องราวรักแรกพบ ภาพฝีพระหัตถ์ บทเพลงพระราชนิพนธ์ มากไปกว่านั้นยังได้ประจักษ์ชัดถึงอีกหลายบริบทแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ อันเป็นความรักและหน้าที่ที่มาคู่กันของพระมหากษัตริย์และราชินีที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก…
และทั้งหมดนี้ เป็น 60 เหตุการณ์สำคัญและเกร็ดเรื่องราวน่าสนใจ บนเส้นทางแห่งรัก “สองดวงใจคู่แผ่นดิน” เนื่องในวโรกาส 60 ปีราชาภิเษกสมรส ( 28 เมษายน 2553)
1.แรกพบ ณ เมือง Fontainebleau ชานกรุงปารีส ในปีพ.ศ.2491 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์จะเสด็จฯเยี่ยมโรงงานต่อรถยนต์ในประเทศฝรั่งเศส ขณะนั้น ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร เป็นบุตรีของม.จ.นักขัตมงคลท่านทูตประจำกรุงปารีส ได้มาร่วมเฝ้ารับเสด็จฯด้วย
2.เป็นการพบกันครั้งแรกที่ผิดจากแบบนวนิยาย เพราะม.ร.ว.สิริกิติ์อยู่ในอารมณ์ทั้งหิวและรอนาน เนื่องจากรถยนต์พระราชพาหนะเกิดเครื่องเสียและน้ำมันหมด ต้องใช้เวลาแก้ไขนานกว่าจะเสด็จฯมาถึง
3.ทั้งสองพระองค์ยังทรงจำเหตุการณ์นี้ได้เป็นอย่างดี เวลารับสั่งถึงจะทรงพระสรวล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมักจะทรงล้อว่า “เดินตุปัดตุเป๋ หน้างอคอยถอนสายบัว”
4.จุดแรกเริ่มที่ทำให้ทรงพอพระราชหฤทัยม.ร.ว.สิริกิติ์ เพราะสนใจดนตรีเช่นเดียวกัน
5.หลังจากทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่นอกเมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในคืนวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2491 ในหลวงทรงมีพระราชกระแสรับสั่งกับม.จ.จักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ (พระฐานันดรในขณะนั้น)ว่า “ทรงรักม.ร.ว.สิริกิติ์อย่างแน่นอน” พระราชทานเหตุผลว่า เมื่อทรงฟื้นคืนพระสติครั้งแรกนั้น ทรงระลึกถึงบุคคลเพียง 2 คน คือ สมเด็จพระบรมราชชนนี และม.ร.ว.สิริกิติ์
6.ระหว่างที่ประทับรักษาพระองค์อยู่นั้น นอกจากสมเด็จพระบรมราชชนนี พระเชษฐภคินีแล้ว ยังมีม.ร.ว.สิริกิติ์ ร่วมเฝ้าอยู่ด้วย จึงเป็นผลให้ความสัมพันธ์ที่มีมาแต่เดิมแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
7.มีเรื่องเล่าจากบันทึกส่วนพระองค์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ถึงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรด เกล้าฯให้ประพันธ์คำร้องเพลงพระราชนิพนธ์ “เทวาพาคู่ฝัน” และ “อาทิตย์อับแสง” ถวายว่า ในช่วงที่ทรงเริ่มรู้จักชอบพอกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อยังทรงเป็น ม.ร.ว. สิริกิติ์ กิติยากร อยู่นั้น ต่างประทับห่างไกลกัน เมื่อต้องทรงจากกันก็เปรียบเหมือน “อาทิตย์อับแสง” และในพระราชหฤทัยของทั้งสองพระองค์ก็คงทรงหวังให้ “เทวาพาคู่ฝัน”มาให้

8.วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2492 ทรงหมั้นกับม.ร.ว.สิริกิติ์ โดยพิธีหมั้นจัดเป็นการภายใน ณ โรงแรมวินเซอร์ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
9.วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2492 วันเกิดครบ 17 ปีของม.ร.ว.สิริกิติ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯเป็นการส่วนพระองค์มาร่วมงานเลี้ยงด้วย ณ กรุงลอนดอน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ประกาศข่าวทรงหมั้นเพื่อคนไทยได้รับรู้
10.พระธำมรงค์เพชรรูปหัวใจที่ทรงหมั้น เป็นองค์เดียวกับที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงมอบแด่สมเด็จพระบรมราชชนนี โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสว่า“เป็นของมีค่ายิ่ง และเป็นที่ระลึกด้วย”
ในหลวงทรงโรแมนติกไหม ?
คำถามนี้เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้….
หนึ่งวันเต็มๆ กับการสืบค้นบันทึกลายลักษณ์อักษร ในห้อง 302 ชั้น 3 หอสมุดแห่งชาติ นอกจากอมยิ้มไปกับเรื่องราวรักแรกพบ ภาพฝีพระหัตถ์ บทเพลงพระราชนิพนธ์ มากไปกว่านั้นยังได้ประจักษ์ชัดถึงอีกหลายบริบทแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ อันเป็นความรักและหน้าที่ที่มาคู่กันของพระมหากษัตริย์และราชินีที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก…
และทั้งหมดนี้ เป็น 60 เหตุการณ์สำคัญและเกร็ดเรื่องราวน่าสนใจ บนเส้นทางแห่งรัก “สองดวงใจคู่แผ่นดิน” เนื่องในวโรกาส 60 ปีราชาภิเษกสมรส ( 28 เมษายน 2553)
1.แรกพบ ณ เมือง Fontainebleau ชานกรุงปารีส ในปีพ.ศ.2491 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์จะเสด็จฯเยี่ยมโรงงานต่อรถยนต์ในประเทศฝรั่งเศส ขณะนั้น ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร เป็นบุตรีของม.จ.นักขัตมงคลท่านทูตประจำกรุงปารีส ได้มาร่วมเฝ้ารับเสด็จฯด้วย
2.เป็นการพบกันครั้งแรกที่ผิดจากแบบนวนิยาย เพราะม.ร.ว.สิริกิติ์อยู่ในอารมณ์ทั้งหิวและรอนาน เนื่องจากรถยนต์พระราชพาหนะเกิดเครื่องเสียและน้ำมันหมด ต้องใช้เวลาแก้ไขนานกว่าจะเสด็จฯมาถึง
3.ทั้งสองพระองค์ยังทรงจำเหตุการณ์นี้ได้เป็นอย่างดี เวลารับสั่งถึงจะทรงพระสรวล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมักจะทรงล้อว่า “เดินตุปัดตุเป๋ หน้างอคอยถอนสายบัว”
4.จุดแรกเริ่มที่ทำให้ทรงพอพระราชหฤทัยม.ร.ว.สิริกิติ์ เพราะสนใจดนตรีเช่นเดียวกัน
5.หลังจากทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่นอกเมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในคืนวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2491 ในหลวงทรงมีพระราชกระแสรับสั่งกับม.จ.จักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ (พระฐานันดรในขณะนั้น)ว่า “ทรงรักม.ร.ว.สิริกิติ์อย่างแน่นอน” พระราชทานเหตุผลว่า เมื่อทรงฟื้นคืนพระสติครั้งแรกนั้น ทรงระลึกถึงบุคคลเพียง 2 คน คือ สมเด็จพระบรมราชชนนี และม.ร.ว.สิริกิติ์
6.ระหว่างที่ประทับรักษาพระองค์อยู่นั้น นอกจากสมเด็จพระบรมราชชนนี พระเชษฐภคินีแล้ว ยังมีม.ร.ว.สิริกิติ์ ร่วมเฝ้าอยู่ด้วย จึงเป็นผลให้ความสัมพันธ์ที่มีมาแต่เดิมแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
7.มีเรื่องเล่าจากบันทึกส่วนพระองค์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ถึงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรด เกล้าฯให้ประพันธ์คำร้องเพลงพระราชนิพนธ์ “เทวาพาคู่ฝัน” และ “อาทิตย์อับแสง” ถวายว่า ในช่วงที่ทรงเริ่มรู้จักชอบพอกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อยังทรงเป็น ม.ร.ว. สิริกิติ์ กิติยากร อยู่นั้น ต่างประทับห่างไกลกัน เมื่อต้องทรงจากกันก็เปรียบเหมือน “อาทิตย์อับแสง” และในพระราชหฤทัยของทั้งสองพระองค์ก็คงทรงหวังให้ “เทวาพาคู่ฝัน”มาให้
8.วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2492 ทรงหมั้นกับม.ร.ว.สิริกิติ์ โดยพิธีหมั้นจัดเป็นการภายใน ณ โรงแรมวินเซอร์ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
9.วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2492 วันเกิดครบ 17 ปีของม.ร.ว.สิริกิติ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯเป็นการส่วนพระองค์มาร่วมงานเลี้ยงด้วย ณ กรุงลอนดอน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ประกาศข่าวทรงหมั้นเพื่อคนไทยได้รับรู้
10.พระธำมรงค์เพชรรูปหัวใจที่ทรงหมั้น เป็นองค์เดียวกับที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงมอบแด่สมเด็จพระบรมราชชนนี โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสว่า“เป็นของมีค่ายิ่ง และเป็นที่ระลึกด้วย”