▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ข่าวในพระราชสำนัก
นิทรรศการ
เที่ยวไทย
บันทึกนักเดินทาง
การออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม
[CR] พาเที่ยวบ้านของพ่อ พระราชวังที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก
หลายๆคนยังอยู่ในอาการโศกเศร้า และอีกหลายๆคนก็กำลังจะพยายามลุกขึ้นเดินหน้าต่อไป โดยมีพระราชดำรัสของพระองค์เป็นหลักชัยในการดำเนินชีวิตนะคะ จขกท.ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ
วันนี้ จขกท.จึงขออนุญาตมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสไปศึกษาดูงาน ณ โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดาค่ะ ซึ่ง โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงริเริ่มดำเนินการทดลองการแปรรูปผลิตผลการเกษตรขึ้นในพระราชวังตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย วันที่ 19 ต.ค. 2559. เวลา 18.52 น.) ซึ่งสถานที่ตั้งก็ไม่ใช่ที่ไหนไกลเลยค่ะ อยู่ที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิตที่ประทับของพระองค์นั่นเองค่ะ
ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าการศึกษาดูงานที่เจ้าของกระทู้ไปมานั้นเป็นปี พ.ศ. 2554 แอบบอกว่าเมื่อสมัยที่จขกท.เรียนปีหนึ่งนั่นเองค่ะ
ขนาดและคุณภาพของรูปถ่ายจึงไม่ชัดตามอัตภาพของคุณภาพกล้องโทรศัพท์มือถือในสมัยนั้นนะคะ
ถ้าไม่บอกจะมีใครทราบคะว่าภาพต้นไม้ที่เขียวชอุ่มนี้จะอยู่ในใจกลางเมืองหลวง และที่สำคัญ
อยู่ในพระราชวัง อันเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ด้วยค่ะ
การรีวิววันนี้จะค่อยข้างสะเปะสะปะ เพราะจขกท.เองจำไม่ได้จริงๆค่ะว่าเริ่มต้นเดินจากจุดไหน
(มีหลายโครงการในนี้จนละลานตาไปหมด TT)
เริ่มต้นกันที่...
บ่อปลานิลในตำนาน...
ถัดมาจากบ่อปลานิลอีกนิด เราจะพบแปลงนาสาธิตค่ะ ที่นี่มีการวิจัยพันธ์ุข้าวและทดลองปลูกข้าวพันธ์ุใหม่ๆอยู่เสมอค่ะ
ส่วนข้าวที่ได้ก็จะนำไปแจกจ่ายในประชาชนได้ทดลองปลูกกันด้วยค่ะ
ในส่วนของบรรยากาศและความร่มรื่นนั้น เอาไปเลยสิบเต็มค่ะ
มีนาแล้วก็ต้องมีโรงสีข้าวค่ะ...นี่คือโรงสีข้าวในพระราชวัง
ความเบลอของภาพประมาณสามล้านพิคเซล แต่ความจงรักภัคดี มีให้เต็มล้าน
ผลผลิตจากนาในพระราชวังของประเทศเราเอง
นอกจากนั้นยังมีการนำเอาเทคโนโลยีในการทำนาใหม่ๆมาจัดแสดงด้วยเช่นกันค่ะ
เดินย่ำต๊อกอีกสักหน่อยก็จะพบกับโรงเพาะเลี้ยงเห็ดหลินจือค่ะ
ซึ่งโรงเพาะเห็ดแห่งนี้จะมีระบบจ่ายน้ำอัตโนมัติจากสปริงเกอร์ที่อยู่บนหลังคาค่ะ
ถ้าจขกท.จำไม่ผิดจะเป็นช่วงบ่ายๆนะคะ เพราะตอนที่เดินถึงตรงนี้ มีการรดน้ำพอดีค่ะ
ซึ่งเห็ดที่เพาะเลี้ยงได้ก็จะนำมาวิจัย พัฒนา เป็นอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์อื่นๆค่ะ
เเวะมาต่อกันที่นี่ค่ะ โรงกระดาษสาค่ะ
กระดาษสาที่ได้ก็จะมีการนำไปผลิตเป็นงานฝีมือต่างๆ โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ในโครงการฯค่ะ ไม่แน่ใจว่ามีการนำออกมาจำหน่ายหรือเปล่านะคะ
นี่คือกรอบรูปที่ผลิตจากกระดาษสาค่ะ
เดินมาอีกนิด...หลายๆนิด ก็จะพบกับโรงหล่อเทียนหลวงค่ะ เทียนที่ผลิตจากที่นี่จะใช้ในพระราชพิธีสำคัญๆต่างๆมากมายเลยค่ะ
นอกจากนั้นยังมีไว้จำหน่ายด้วยค่ะ
ที่นี่มีรายละเอียด ขั้นตอนวิธีการหล่อเทียนไว้สำหรับผู้ที่สนใจด้วยค่ะ
รวมไปถึง มีการจัดแสดงวิธีการหล่อเทียนด้วยค่ะ
จากนั้นเข้าสู่ส่วนที่หลายๆคนรู้จักกันดีนะคะ กับโครงการวิจัยผลิตภัณฑ์พลังงานเชื้อเพลิง
มีป้ายให้ความรู้สำหรับผู้ที่สนใจตลอดเส้นทางเลยค่ะ
ในส่วนของโครงการถัดมาที่จะรีวิวนั้น กว่าจะได้แต่ละภาพ ต้องพบกับควันและเขม่ามากมาย นั่นคือ...แท่นแท้นนนน
โรงผลิตถ่านแกลบค่ะ
ถ่านแกลบคืออะไรน้าาาาาา...ลากเสียงยาวประหนึ่งว่าตัวเองน่ารัก
เป็นการนำเอาแกลบที่ได้จากการสีข้าวมาใช้ต่อให้เกิดประโยชน์นั่นเองค่ะ
ถ่านแกลบติดไฟดีมากๆเลยนะคะ ควันรบกวนก็น้อยอยากให้ลองใช้กัน แล้วจะติดใจ
ปิ๊งป่องงงง น้ำมะเขือเทศอยู่ที่นี่ไหมน้าาาา...
โซนอาคารน้ำผลไม้ ถ่ายรูปมาน้อยค่ะ เพราะมัวเเต่ชิมน้ำผลไม้หลายรสชาติ ชิมเพลินหมดเวลาในส่วนนี้ อ้าว แล้วรูปชั้นละ
ไม่เป็นไร เรามาเริ่มกันใหม่ในส่วนของอาคารเก็บนมค่ะ
นมอัดเม็ดอยู่ไหนน้าาา
โรงผลิตนมอัดเม็ด...นมอัดเม็ดทั้งหมดต้องเป็นของข้า อิอิ
สำหรับส่วนนี้ จขกท.แอบปลื้มเบาๆ ชอบการนั่งมองต้นอ่อนของต้นไม้ผ่านตู้กระจก เลยถือว่าเป็นมุมพักผ่อนหลังจากการเดินอย่างทรหดมาเกือบทั้งวันไปในตัวค่ะ
และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ว่ามีการคิดค้นวิจัยพัฒนาใน โครงการฯนี้นั่นก็คือผลิตภัณฑ์จากสาหร่ายเกลียวทองค่ะ...
สาหร่ายเกลียวทอง หรือชื่อที่หลายคนคุ้นเคยก็คือ สาหร่าย สไปรูลินา นั่นเองค่ะ
เดินไปเดินมาดูเวลา นี่ก็จะหนึ่งวันแล้ว ถึงเวลาสมควรที่จะต้องกลับกันเเล้วนะคะ สุดท้ายก็ได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านมาสองอย่าง
สำหรับประสบการณ์ที่ได้จากการเดินเยี่ยมชมพระราชวังของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในครั้งนี้ ทำให้เรารู้ว่าเจ็ดสิบปีที่ผ่านมา พระองค์คิด พระองค์ทำ พระองค์พัฒนาเพื่อใคร...ถ้าไม่ใช่เพื่อคนไทยทุกคน จากวันนั้น 2554 จนถึงวันนี้ 2559 จขกท.รัก และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณมากขึ้น (จากปกติก็รักพระองค์ท่านอยู่แล้ว) เลยอยากแชร์ประสบการณ์ ที่ครั้งนึง เคยมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมบ้านของท่านค่ะ และถ้าเป็นไปได้ อยากเก็บกระทู้นี้เอาไว้เผื่อในอนาคต คนรุ่นหลังๆจะได้มีโอกาสเรียนรู้พระราชกรณียกิจอันมากมายมหาศาลของพระองค์ค่ะ
บ้านพ่อไม่เหมือนใคร...แต่สุขใจที่ได้อยู่อาศัยในทุกๆวันค่ะ
จบการรีวิว...ทริป...ภาพเบลอมากแค่ไหน...ความซาบซึ้งใจมีมากกว่า สวัสดีค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น