[CR] พาเที่ยวบ้านของพ่อ พระราชวังที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก

สวัสดีค่ะ วันพรุ่งนี้ก็จะครบเจ็ดวันที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ที่เรารักทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย
หลายๆคนยังอยู่ในอาการโศกเศร้า และอีกหลายๆคนก็กำลังจะพยายามลุกขึ้นเดินหน้าต่อไป โดยมีพระราชดำรัสของพระองค์เป็นหลักชัยในการดำเนินชีวิตนะคะ จขกท.ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ
วันนี้ จขกท.จึงขออนุญาตมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสไปศึกษาดูงาน ณ โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดาค่ะ ซึ่ง โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงริเริ่มดำเนินการทดลองการแปรรูปผลิตผลการเกษตรขึ้นในพระราชวังตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย วันที่ 19 ต.ค. 2559. เวลา 18.52 น.)  ซึ่งสถานที่ตั้งก็ไม่ใช่ที่ไหนไกลเลยค่ะ อยู่ที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิตที่ประทับของพระองค์นั่นเองค่ะ

ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าการศึกษาดูงานที่เจ้าของกระทู้ไปมานั้นเป็นปี พ.ศ. 2554 แอบบอกว่าเมื่อสมัยที่จขกท.เรียนปีหนึ่งนั่นเองค่ะ ยิ้ม
ขนาดและคุณภาพของรูปถ่ายจึงไม่ชัดตามอัตภาพของคุณภาพกล้องโทรศัพท์มือถือในสมัยนั้นนะคะ

  
ถ้าไม่บอกจะมีใครทราบคะว่าภาพต้นไม้ที่เขียวชอุ่มนี้จะอยู่ในใจกลางเมืองหลวง และที่สำคัญ
อยู่ในพระราชวัง อันเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ด้วยค่ะ


การรีวิววันนี้จะค่อยข้างสะเปะสะปะ เพราะจขกท.เองจำไม่ได้จริงๆค่ะว่าเริ่มต้นเดินจากจุดไหน
(มีหลายโครงการในนี้จนละลานตาไปหมด TT)

เริ่มต้นกันที่...


บ่อปลานิลในตำนาน... อมยิ้ม05 ปลานิลที่เรารับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อยนั้น มีจุดเริ่มต้นมาจากที่นี่ค่ะ


ถัดมาจากบ่อปลานิลอีกนิด เราจะพบแปลงนาสาธิตค่ะ ที่นี่มีการวิจัยพันธ์ุข้าวและทดลองปลูกข้าวพันธ์ุใหม่ๆอยู่เสมอค่ะ
ส่วนข้าวที่ได้ก็จะนำไปแจกจ่ายในประชาชนได้ทดลองปลูกกันด้วยค่ะ



ในส่วนของบรรยากาศและความร่มรื่นนั้น เอาไปเลยสิบเต็มค่ะ
มีนาแล้วก็ต้องมีโรงสีข้าวค่ะ...นี่คือโรงสีข้าวในพระราชวัง ประหลาดใจ




ความเบลอของภาพประมาณสามล้านพิคเซล แต่ความจงรักภัคดี มีให้เต็มล้าน เยี่ยม







ผลผลิตจากนาในพระราชวังของประเทศเราเอง นานาชอบ

หาบเงินหาบทองที่ใช้ในพระราชพิธีจรดพระนางคัลแรกนาขวัญก็มีจัดแสดงในส่วนของโรงสีนี้ด้วยค่ะ
นอกจากนั้นยังมีการนำเอาเทคโนโลยีในการทำนาใหม่ๆมาจัดแสดงด้วยเช่นกันค่ะ



เดินย่ำต๊อกอีกสักหน่อยก็จะพบกับโรงเพาะเลี้ยงเห็ดหลินจือค่ะ


ซึ่งโรงเพาะเห็ดแห่งนี้จะมีระบบจ่ายน้ำอัตโนมัติจากสปริงเกอร์ที่อยู่บนหลังคาค่ะ
ถ้าจขกท.จำไม่ผิดจะเป็นช่วงบ่ายๆนะคะ เพราะตอนที่เดินถึงตรงนี้ มีการรดน้ำพอดีค่ะ
ซึ่งเห็ดที่เพาะเลี้ยงได้ก็จะนำมาวิจัย พัฒนา เป็นอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์อื่นๆค่ะ






เเวะมาต่อกันที่นี่ค่ะ โรงกระดาษสาค่ะ




กระดาษสาที่ได้ก็จะมีการนำไปผลิตเป็นงานฝีมือต่างๆ โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ในโครงการฯค่ะ ไม่แน่ใจว่ามีการนำออกมาจำหน่ายหรือเปล่านะคะ


นี่คือกรอบรูปที่ผลิตจากกระดาษสาค่ะ
ตุ๊กตาก็น่ารัก...

เดินมาอีกนิด...หลายๆนิด ก็จะพบกับโรงหล่อเทียนหลวงค่ะ เทียนที่ผลิตจากที่นี่จะใช้ในพระราชพิธีสำคัญๆต่างๆมากมายเลยค่ะ





นอกจากนั้นยังมีไว้จำหน่ายด้วยค่ะ


ที่นี่มีรายละเอียด ขั้นตอนวิธีการหล่อเทียนไว้สำหรับผู้ที่สนใจด้วยค่ะ


รวมไปถึง มีการจัดแสดงวิธีการหล่อเทียนด้วยค่ะ



จากนั้นเข้าสู่ส่วนที่หลายๆคนรู้จักกันดีนะคะ กับโครงการวิจัยผลิตภัณฑ์พลังงานเชื้อเพลิง


มีป้ายให้ความรู้สำหรับผู้ที่สนใจตลอดเส้นทางเลยค่ะ หัวใจ

ในส่วนของโครงการถัดมาที่จะรีวิวนั้น กว่าจะได้แต่ละภาพ ต้องพบกับควันและเขม่ามากมาย นั่นคือ...แท่นแท้นนนน

โรงผลิตถ่านแกลบค่ะ
ถ่านแกลบคืออะไรน้าาาาาา...ลากเสียงยาวประหนึ่งว่าตัวเองน่ารัก
เป็นการนำเอาแกลบที่ได้จากการสีข้าวมาใช้ต่อให้เกิดประโยชน์นั่นเองค่ะ
หน้าตาแบบสวยงาม
ถ่านแกลบติดไฟดีมากๆเลยนะคะ ควันรบกวนก็น้อยอยากให้ลองใช้กัน แล้วจะติดใจ จุ๊บๆ

ปิ๊งป่องงงง น้ำมะเขือเทศอยู่ที่นี่ไหมน้าาาา...

โซนอาคารน้ำผลไม้ ถ่ายรูปมาน้อยค่ะ เพราะมัวเเต่ชิมน้ำผลไม้หลายรสชาติ ชิมเพลินหมดเวลาในส่วนนี้ อ้าว แล้วรูปชั้นละ ร้องไห้

ไม่เป็นไร เรามาเริ่มกันใหม่ในส่วนของอาคารเก็บนมค่ะ มีน้องวัวมายืนคอยต้อนรับค่ะ
นมอัดเม็ดอยู่ไหนน้าาา  

โรงผลิตนมอัดเม็ด...นมอัดเม็ดทั้งหมดต้องเป็นของข้า อิอิ


สำหรับส่วนนี้ จขกท.แอบปลื้มเบาๆ ชอบการนั่งมองต้นอ่อนของต้นไม้ผ่านตู้กระจก เลยถือว่าเป็นมุมพักผ่อนหลังจากการเดินอย่างทรหดมาเกือบทั้งวันไปในตัวค่ะ หัวใจ

ต้นไม้จากการเพาะเลี้ยง มีขายให้ประชาชนที่สนใจด้วยนะคะ อยู่ข้างๆกับตัวอาคารนั่นแหละค่ะ

และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ว่ามีการคิดค้นวิจัยพัฒนาใน โครงการฯนี้นั่นก็คือผลิตภัณฑ์จากสาหร่ายเกลียวทองค่ะ...

สาหร่ายเกลียวทอง หรือชื่อที่หลายคนคุ้นเคยก็คือ สาหร่าย สไปรูลินา นั่นเองค่ะ
หลากหลายผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากสาหร่ายเกลียวทอง แต่ที่จขกท.ยกให้เป็นที่สุดเลยก็คือ ข้าวเกรียบสาหร่ายค่ะ อร่อยมาก แนะนำให้หามาชิมกัน อมยิ้ม16

เดินไปเดินมาดูเวลา นี่ก็จะหนึ่งวันแล้ว ถึงเวลาสมควรที่จะต้องกลับกันเเล้วนะคะ สุดท้ายก็ได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านมาสองอย่าง


สำหรับประสบการณ์ที่ได้จากการเดินเยี่ยมชมพระราชวังของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในครั้งนี้ ทำให้เรารู้ว่าเจ็ดสิบปีที่ผ่านมา พระองค์คิด พระองค์ทำ พระองค์พัฒนาเพื่อใคร...ถ้าไม่ใช่เพื่อคนไทยทุกคน จากวันนั้น 2554 จนถึงวันนี้ 2559 จขกท.รัก และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณมากขึ้น (จากปกติก็รักพระองค์ท่านอยู่แล้ว) เลยอยากแชร์ประสบการณ์ ที่ครั้งนึง เคยมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมบ้านของท่านค่ะ และถ้าเป็นไปได้ อยากเก็บกระทู้นี้เอาไว้เผื่อในอนาคต คนรุ่นหลังๆจะได้มีโอกาสเรียนรู้พระราชกรณียกิจอันมากมายมหาศาลของพระองค์ค่ะ
บ้านพ่อไม่เหมือนใคร...แต่สุขใจที่ได้อยู่อาศัยในทุกๆวันค่ะ ยิ้ม
จบการรีวิว...ทริป...ภาพเบลอมากแค่ไหน...ความซาบซึ้งใจมีมากกว่า สวัสดีค่ะ
ชื่อสินค้า:   โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่