เป็นคนนึงที่เคยมีความคิดว่า ถ้าพ่อแม่ของเราเสียชีวิตไป เราจะไม่เสียใจหรือรู้สึกผิดเลย เพราะเราได้ดูแลท่านทั้งสองอย่างดีที่สุด
ยอมทิ้งงานเอกชนในกรุงเทพฯ มาทำงานข้าราชการที่บ้านเพื่อดูแลท่านทั้งสอง
เคยนึกเสียใจ เสียดายเงินเดือนเอกชนหลายหมื่น แต่กลับมารับราชการเงินเดือนเริ่มต้นไม่ถึงหมื่น
เสียดายเงิน...
แต่มาวันนี้ หลังจากวันที่ 13 ตุลาคมเป็นต้นมา
ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลที่ว่า เราจะไม่รู้สึกเสียใจหรือรู้สึกผิดเลยถ้าพ่อแม่ของเราเสียชีวิตไป ว่าเราดูแลท่านไม่ดี
แต่ความรู้สึกเหล่านี้ เรากลับรู้สึกถึงได้อย่างรุนแรง เมื่อ "พ่อของแผ่นดิน" สวรรคต
ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม น้ำตายังไม่หยุดไหล
หลังจากได้ดูพระราชกรณียกิจต่างต่าง ดูพระบรมฉายาลักษณ์ในอิริยาบถต่างต่าง ข้อมูลมากมายหลั่งไหลเข้ามา
อยากดู อยากรู้ว่าพระองค์ทรงทำอะไรบ้าง ท่านทรงดำเนินไปที่ไหน ไปทำอะไร ตรัสกับใครว่าอย่างไรบ้าง
ยิ่งดูยิ่งรู้สึกรักพระองค์มากขึ้น คิดถึงมากขึ้น และสงสารพระองค์มากขึ้นที่ต้องเห็นลูกของท่านทะเลาะแบ่งแยกกัน
ได้แต่เฝ้าถามตัวเองว่า...
ทำไมก่อนหน้านี้ เราถึงไม่ค่อยรู้ว่าพระองค์ทรงทำอะไรเพื่อประชาชนของท่านบ้าง
ทำไมเราถึงไม่รู้ถึงความตั้งพระทัยในการทรงงานของท่านแม้ยามท่านทรงพระประชวร
ทำไมเราถึงไม่เคยรู้ว่าพระองค์ทรงมีพระราชดำริต่อแผ่นดินหรือต่อประชาชนของพระองค์อย่างไร (ดูจากคลิปที่มีฝรั่งมาสัมภาษณ์พระองค์ท่าน)
ทำไมในวันฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เราถึงไม่ไปงานนั้น ทั้งที่อยู่ในกรุงเทพฯ
ทำไมเราถึงไม่เคยไปรอรับเสด็จฯ
ทำไมเราถึงรู้น้อยเหลือเกิน ข้อมูลที่เกี่ยวกับพระองค์ท่าน
ที่เสียใจที่สุด
ทำไมเราถึงไม่เคยภูมิใจในอาชีพ "ข้าราชการ" ที่เป็นข้าของแผ่นดิน
ทำไมเราถึงบ่น บ่น บ่นเวลางานหนัก
ความรู้สึกผิด ประเดประดังเข้ามา
เราจะทำอะไรให้พระองค์ท่านได้บ้าง ในวันที่สายไปเช่นนี้
เสียใจเหลือเกิน
ได้แต่พูดคำว่า "ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป"
ลูกสำนึกแล้ว
ยอมทิ้งงานเอกชนในกรุงเทพฯ มาทำงานข้าราชการที่บ้านเพื่อดูแลท่านทั้งสอง
เคยนึกเสียใจ เสียดายเงินเดือนเอกชนหลายหมื่น แต่กลับมารับราชการเงินเดือนเริ่มต้นไม่ถึงหมื่น
เสียดายเงิน...
แต่มาวันนี้ หลังจากวันที่ 13 ตุลาคมเป็นต้นมา
ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลที่ว่า เราจะไม่รู้สึกเสียใจหรือรู้สึกผิดเลยถ้าพ่อแม่ของเราเสียชีวิตไป ว่าเราดูแลท่านไม่ดี
แต่ความรู้สึกเหล่านี้ เรากลับรู้สึกถึงได้อย่างรุนแรง เมื่อ "พ่อของแผ่นดิน" สวรรคต
ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม น้ำตายังไม่หยุดไหล
หลังจากได้ดูพระราชกรณียกิจต่างต่าง ดูพระบรมฉายาลักษณ์ในอิริยาบถต่างต่าง ข้อมูลมากมายหลั่งไหลเข้ามา
อยากดู อยากรู้ว่าพระองค์ทรงทำอะไรบ้าง ท่านทรงดำเนินไปที่ไหน ไปทำอะไร ตรัสกับใครว่าอย่างไรบ้าง
ยิ่งดูยิ่งรู้สึกรักพระองค์มากขึ้น คิดถึงมากขึ้น และสงสารพระองค์มากขึ้นที่ต้องเห็นลูกของท่านทะเลาะแบ่งแยกกัน
ได้แต่เฝ้าถามตัวเองว่า...
ทำไมก่อนหน้านี้ เราถึงไม่ค่อยรู้ว่าพระองค์ทรงทำอะไรเพื่อประชาชนของท่านบ้าง
ทำไมเราถึงไม่รู้ถึงความตั้งพระทัยในการทรงงานของท่านแม้ยามท่านทรงพระประชวร
ทำไมเราถึงไม่เคยรู้ว่าพระองค์ทรงมีพระราชดำริต่อแผ่นดินหรือต่อประชาชนของพระองค์อย่างไร (ดูจากคลิปที่มีฝรั่งมาสัมภาษณ์พระองค์ท่าน)
ทำไมในวันฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เราถึงไม่ไปงานนั้น ทั้งที่อยู่ในกรุงเทพฯ
ทำไมเราถึงไม่เคยไปรอรับเสด็จฯ
ทำไมเราถึงรู้น้อยเหลือเกิน ข้อมูลที่เกี่ยวกับพระองค์ท่าน
ที่เสียใจที่สุด
ทำไมเราถึงไม่เคยภูมิใจในอาชีพ "ข้าราชการ" ที่เป็นข้าของแผ่นดิน
ทำไมเราถึงบ่น บ่น บ่นเวลางานหนัก
ความรู้สึกผิด ประเดประดังเข้ามา
เราจะทำอะไรให้พระองค์ท่านได้บ้าง ในวันที่สายไปเช่นนี้
เสียใจเหลือเกิน
ได้แต่พูดคำว่า "ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป"