เชียงใหม่ เชียงดาว ระเบียงดาว 4 วัน 4 คืน

แรงบันดาลใจที่อยากจะไปก็ดูจากเว็บนู่นนี่นั่น รีวิวนี่นั่นนู่น ทริปนี้ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนกว่าในการวางแผนกันไปเพราะอยากพาลูกชายไปด้วย ต้องรอไปช่วงปิดเทอม และพร้อมทั้งให้เพื่อนคนอื่นลางานได้ เราวางแผนว่าเราอยากไประเบียงดาว แน่นอน ว่าเราจอง 2 เดือนล่วงหน้าจร้า ไม่งั้นเหรอ เต็มๆๆๆๆ

ทริปนี้มีผู้ร่วมทีม ทั้งหมด 4 คน ผู้ใหญ่ 3 ละอ่อน 1

เราจองตั๋วรถทัวร์เฟิร์สคลาสของนครชัยแอร์ เอ้าออกเดินทางจาก กทม. คืนวันพฤหัสที่ 6 ต.ค. เวลา 20.20 เป็นครั้งแรกที่ใช้บริการของที่นี่ รู้สึกดีมากมาย ชอบ อ่ะ มีทีวีส่วนตัว หนังเยอะทั้งพากย์ไทย/Soundtrack  มีเกมส์ด้วย (สบายไอ้ตัวแสบเราเลย นั่งจิ้มวนไป) มีเพลงให้ฟัง มีหูฟังให้ พนักพิงปรับเอน ที่วางขาปรับขึ้นได้  ดีงามโดยเฉพาะของกิน ทั้งน้ำเปล่า,น้ำอัดลม,น้ำผมไม้ ทั้งนม ทั้งขนม รวมถึงข้าวกล่อง ฟินค่ะ สายกินอย่างเรา  






ถึงเชียงใหม่ตอนเช้า วันศุกร์ที่ 7 ต.ค. เวลา 7 โมง โดยประมาณ ก็เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา แปรงฟัน ทำธุระกันให้เสร็จและเดินไปกินกาแฟกันร้านใกล้ๆ แล้ววิวดีมากกลุ่มหนุ่มๆฝรั่งนั่งหน้าร้านคือดีงาม วิวดี๊ดี อ่ะแก



พอกินกาแฟกระชากความสดใสเรียบร้อย เราเรียกเหมาสามล้อต่อไปขนส่งช้างเผือก เพื่อขึ้นรถเมล์ เชียงใหม่-ท่าตอน  ไปเชียงดาว ค่ารถนั้น 40 บาทต่อคน ละอ่อน 20บาทเจ้า มีระบุที่นั่งเรียบร้อย อ่อๆ ถ้ามาถึงที่นี่ประมาณ 8 โมงเช้า เราจะได้ยินน้องหมาร้องเพลงชาติด้วย ร้องทั้งเพลง น่าร๊ากก






เดินทางประมาณ ชม.เศษ  ถึงโลตัสเชียงดาว ลงรถมาอย่างแรกที่ทำคือ มองหาร้านข้าวขาหมูจร้า เดินรี่เข้าไปเลย สั่งกันกระหน่ำ แกงฮังเล แกงเนื้อ ตือฮวน ขาหมู1 ขา ( ปลอบใจตัวเองกินไปเถอะเด๋วกลับมาค่อยลด )





กินเสร็จนั่งอืดสักพัก ก็เดินไปขึ้นรถกระบะขึ้นระเบียงดาว ค่าโดยสารคนละ 50 บาท ระหว่างทางนั้นไม่ต้องพูดถึง  มันสวยงามเห็นยอดเขาไกลๆมีเมฆระยอดเขาตลอด เสียค่าผ่านเข้าอุทยานดอยหลวงคนละ20บาท





มาเรื่อยๆจะเจอศาลเจ้าที่ ป้าคนขับรถขอลงมาไหว้เจ้าที่ เจ้าป่า เจ้าเขา กันสักหน่อย ถือว่าเป็นเป็นสิริมงคล ขับต่อขึ้นไปถึงระเบียงดาว พอลงรถก็จะเห็นเป็นบันไดลดหลั่นตามลงไปตามไหล่เขา






จนในที่สุด เย๊  ระเบียงดาว ที่รอคอย โอ๊ยแก ที่นอนหลักร้อย วิวหลักล้าน เราได้พักห้องใหญ่เพราะนอนกัน 4 คน แต่เค้าเก็บแต่ผู้ใหญ่นะคนละ 500 บาท + อาหารเช้าและเย็น ส่วนเด็กไม่เสีย  ถูกเวอร์วังอลังการ ส่วนวิวหน้าห้องพาโนรามามากมาย เราเอาของไปวางที่ห้องนั่งพักสักครู่ และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ขอบอกเลยว่ายะเยือก น้ำเย็นโฮกไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะแจ๊ะ สั่นๆ แต่อาบเสร็จก็รีเฟรช สดชื่น จนช่วงเที่ยงกว่า เราเลยเดินสำรวจตามทางถนนไปเรื่อยๆ ประเด็นคือ หาของกินอีกแล้วววว ได้ไปนั่งกินร้านป้าคนนึง ใจดีมาก อาหารใช้ได้ วิวดี๊ ดี ให้เพื่อนอีก2คน ไปสั่ง เหมือนเดิมจร้า สั่งกระหน่ำกันไปเลย กับข้าว 5-6อย่าง กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ท่องไว้ๆ  ป้าเจ้าของร้านให้ยืมชุดชาวเผ่าเข้าใส่ถ่าบรูปด้วย น่าร๊าก กินเสร็จ จ่ายเงิน เราก็เดินลัดกลับมาที่ระเบียงดาว สั่งกาแฟ ชมวิว ที่ระเบียงหน้าห้อง สำรับมื้อเย็นเรานั้นเริ่มตั้งแต่ 5 โมง ถึง 6 โมง ในสำรับนั้นมีแกงจืด น้ำพริกระเบียงดาว ไข่เจียว ผัดผัก ข้าวเปล่ามาเป็นโถ กินกันสนุกสนานอิ่มจุก อร่อยเลยทีเดียว กับข้าวอร่อยๆพร้อมวิวดีๆ กินเสร็จก็เดินกลับมาที่ห้อง ปูเสื่อที่ระเบียงนั่งคุยกัน พอมืดหน่อยก็เอาหมอนผ้าห่มมานอนดูดาว ที่ระยิบระยับเต็มท้องฟ้า เห็นหมอกมาปกคลุม เป็นระรอกๆ มันช่างดีงาม พอถึงเวลาอันสมควรสัก 4-5 ทุ่มเราก็เข้านอนจร้า เพื่อที่จะตื่นมาดูหมอก  













เดี๋ยวมาต่อนะคะ .. ทำงานต่อ เจ้านายมองละ