สวัสดีค่ะ ถ้าแท็กผิดห้องขออภัยนะคะ
จุดประสงค์ที่ตั้งกระทู้คืออยากได้คำปรึกษา คำแนะนำ และแนวทางชีวิตค่ะ เป็นเรื่องราวของเพื่อน จขกท เอง
เข้าเรื่องเลยนะ เพื่อนในเอกของเราเอง ของแทนชื่อว่า ก
ก เรียนนิเทศ เอกการแสดง แต่ ก มีความประสงค์อยากเรียนเอกสื่อสาร ซึ่งอยู่ในคณะนิเทศเหมือนกัน ก ตอนลงทะเบียน ก เลยลงวิชาของฝั่งสื่อสารตั้งแต่ปี1 ซึ่ง ก ตั้งใจจะลงเรียนไปก่อน ละค่อยทำเรื่องย้ายเอกในภายภาคหลัง คิดว่าคงทำตอนปี2 ไรงี้
แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า พอ ก ขึ้นปี2 เกรด ก ต่ำกว่า 2.00 ซึ่งตามระเบียบแล้วไม่สามารถทำเรื่องย้ายเอกได้ ต้องรอให้เกรดอัพก่อน เทอมต่อมา เกรด ก อัพขึ้น สามารถทำเรื่องได้ แต่ ก ชะล่าใจ ยังไม่ทำ ชิวไปก่อน
นอกจากจะยังไม่ย้ายเอกแล้ว ก ยังต้องระวังเกรดอย่าให้ต่ำไปกว่า 2.00 ด้วย เนื่องจากถ้าไม่ผ่าน 2 สามเทอมติดถูกไทร์
ปัจจุบัน ก อยู่ปี 4 เทอม1 เทอมนี้ถ้าเกรด ก ไม่ถึง 2.00 จะถูกไทร์ทันที ก ลงวิชาช่วย 2-3ตัวเทอมนี้ และไม่ลงวิชาเอกเลย
ที่สำคัญคือ เมื่ออยู่ปี4 แล้ว การที่จะทำเรื่องย้ายเอกจะต้องถูกสอบสวนระดับคณะ ถือเป็นเรื่องใหญ่พอควร และอาจจะทำเรื่องย้ายเอกไม่ได้ เท่ากับว่าวิชาเอกที่เรียนมาตั้งแต่แรกเท่ากับศูนย์ ต้องกลับไปเรียนเอกเดิม ซึ่งต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ตั้งแต่ปี 5 ขึ้นไป และต้องจบภายใน 8 ปี เนื่องจากโควต้าเต็มให้แค่ 8 ปีเท่านั้น และ ก ก็ไม่มั่นใจด้วยว่าจะสามารถจบภายใน8 ปีมั้ยย
อยากถามว่า ก ควรจะเอายังไงต่อไปกับชีวิตดี ระหว่าง
1. ตั้งใจเรียนเทอมนี้ให้เกรดผ่าน 2.00 เทอมหน้าทำเรื่องย้ายเอก ถ้าทำได้ คือไม่ถูกไทร์ แต่ต้องกลับไปเรียนเอกเดิม (เริ่มนับ1ใหม่ เพราะวิชาคณะ วิชามหาลัยยังไม่เก็บค่อนข้างหลายตัว)
2. ซิ่วไปเรียนที่ใหม่ ถ้าต้องเริ่มเรียนใหม่ ไหนๆก็ต้องเริ่มใหม่
3. ลาออกเอง ก่อนที่จะถูกเชิญออก เพื่อไม่ให้เสียประวัติ
4. คำแนะนำอื่นๆ จากทุกๆคนในที่นี้
ปัญหาของ ก คือ ก ติดโซเชี่ยว เล่นมันทั้งวันทั้งคืน ก เป็นคนเรียนเก่งแต่ ก ไม่พยายาม อะไรๆก็ ใจๆ เทเป็นเท ซึ่งเทจนเป็นดังปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น
เพื่อนๆในแก๊งพยายามดึง ก พยายามช่วย ก กระตุ้น ก อยู่บ่อยๆ แต่ ก เอง นางเฉยๆ ยังไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร ยังเฮฮาได้อีก หรือนางอาจจะคิดมากในใจแต่ไม่บอกใคร อันนี้ก้ไม่อาจทราบได้
ตอนนี้เพื่อนๆเครียดมาก เครียดแทนค่ะบอกตรงๆ ไม่รู้จะดังยังไง อุปนิสัยของ ก เป็นคนใจๆคะ ถึงไหนถึงกัน
ที่น่าสงสารที่สุดคือที่บ้าน ก แม่นางป่วยออดๆแอดๆ แม่ ก เข้าใจว่าลูกอยู่ปีสุดท้ายแล้ว ใกล้จบแล้ว ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วก็นะ
โดนไทร์ตอนปี 4
จุดประสงค์ที่ตั้งกระทู้คืออยากได้คำปรึกษา คำแนะนำ และแนวทางชีวิตค่ะ เป็นเรื่องราวของเพื่อน จขกท เอง
เข้าเรื่องเลยนะ เพื่อนในเอกของเราเอง ของแทนชื่อว่า ก
ก เรียนนิเทศ เอกการแสดง แต่ ก มีความประสงค์อยากเรียนเอกสื่อสาร ซึ่งอยู่ในคณะนิเทศเหมือนกัน ก ตอนลงทะเบียน ก เลยลงวิชาของฝั่งสื่อสารตั้งแต่ปี1 ซึ่ง ก ตั้งใจจะลงเรียนไปก่อน ละค่อยทำเรื่องย้ายเอกในภายภาคหลัง คิดว่าคงทำตอนปี2 ไรงี้
แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า พอ ก ขึ้นปี2 เกรด ก ต่ำกว่า 2.00 ซึ่งตามระเบียบแล้วไม่สามารถทำเรื่องย้ายเอกได้ ต้องรอให้เกรดอัพก่อน เทอมต่อมา เกรด ก อัพขึ้น สามารถทำเรื่องได้ แต่ ก ชะล่าใจ ยังไม่ทำ ชิวไปก่อน
นอกจากจะยังไม่ย้ายเอกแล้ว ก ยังต้องระวังเกรดอย่าให้ต่ำไปกว่า 2.00 ด้วย เนื่องจากถ้าไม่ผ่าน 2 สามเทอมติดถูกไทร์
ปัจจุบัน ก อยู่ปี 4 เทอม1 เทอมนี้ถ้าเกรด ก ไม่ถึง 2.00 จะถูกไทร์ทันที ก ลงวิชาช่วย 2-3ตัวเทอมนี้ และไม่ลงวิชาเอกเลย
ที่สำคัญคือ เมื่ออยู่ปี4 แล้ว การที่จะทำเรื่องย้ายเอกจะต้องถูกสอบสวนระดับคณะ ถือเป็นเรื่องใหญ่พอควร และอาจจะทำเรื่องย้ายเอกไม่ได้ เท่ากับว่าวิชาเอกที่เรียนมาตั้งแต่แรกเท่ากับศูนย์ ต้องกลับไปเรียนเอกเดิม ซึ่งต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ตั้งแต่ปี 5 ขึ้นไป และต้องจบภายใน 8 ปี เนื่องจากโควต้าเต็มให้แค่ 8 ปีเท่านั้น และ ก ก็ไม่มั่นใจด้วยว่าจะสามารถจบภายใน8 ปีมั้ยย
อยากถามว่า ก ควรจะเอายังไงต่อไปกับชีวิตดี ระหว่าง
1. ตั้งใจเรียนเทอมนี้ให้เกรดผ่าน 2.00 เทอมหน้าทำเรื่องย้ายเอก ถ้าทำได้ คือไม่ถูกไทร์ แต่ต้องกลับไปเรียนเอกเดิม (เริ่มนับ1ใหม่ เพราะวิชาคณะ วิชามหาลัยยังไม่เก็บค่อนข้างหลายตัว)
2. ซิ่วไปเรียนที่ใหม่ ถ้าต้องเริ่มเรียนใหม่ ไหนๆก็ต้องเริ่มใหม่
3. ลาออกเอง ก่อนที่จะถูกเชิญออก เพื่อไม่ให้เสียประวัติ
4. คำแนะนำอื่นๆ จากทุกๆคนในที่นี้
ปัญหาของ ก คือ ก ติดโซเชี่ยว เล่นมันทั้งวันทั้งคืน ก เป็นคนเรียนเก่งแต่ ก ไม่พยายาม อะไรๆก็ ใจๆ เทเป็นเท ซึ่งเทจนเป็นดังปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น
เพื่อนๆในแก๊งพยายามดึง ก พยายามช่วย ก กระตุ้น ก อยู่บ่อยๆ แต่ ก เอง นางเฉยๆ ยังไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร ยังเฮฮาได้อีก หรือนางอาจจะคิดมากในใจแต่ไม่บอกใคร อันนี้ก้ไม่อาจทราบได้
ตอนนี้เพื่อนๆเครียดมาก เครียดแทนค่ะบอกตรงๆ ไม่รู้จะดังยังไง อุปนิสัยของ ก เป็นคนใจๆคะ ถึงไหนถึงกัน
ที่น่าสงสารที่สุดคือที่บ้าน ก แม่นางป่วยออดๆแอดๆ แม่ ก เข้าใจว่าลูกอยู่ปีสุดท้ายแล้ว ใกล้จบแล้ว ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วก็นะ