จากเรื่องที่เศร้าที่สุดในชีวิตคนไทยที่เกิดขึ้นในวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา มีเพื่อน ๆ ท่านใดเปลี่ยนความโศกเศร้ามาเป็นพลังใจในการปรับปรุงตัวเอง ตามรอยพระราชดำริที่พ่อใช้ทั้งชีวิตของพระองค์ทำให้พวกเราดูตลอด 70 ปีที่ผ่านมาบ้างค่ะ
เท้าความย้อนหลังเล็กน้อย..... หลังจากเหตุการณ์สวรรคต เราอยู่ในโหมดเศร้าซึม ร้องไห้เรื่อยๆ นั่งน้ำตาไหล ไร้ความรู้สึก เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน จนปวดหัว ปวดกระบอกตา มือก็เลื่อน FB ดูไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งจมดิ่งกับความเศร้า จนกระทั่งถึง post ของเพื่อนห่างๆคนนึง เค้าโพสท์ว่าเป็นวันนี้เกิดเค้าแต่เค้าไม่จัดงานวันเกิด ไม่รับของขวัญวันเกิด เพื่อเริ่มต้นชีวิตพอเพียงตามรอยเท้าพ่อ ถึงจุดนั้น.....เราหยุดคิด อืม.....เรารักในหลวงมาก.....แต่ใช้ชีวิตห่างไกลคำว่า "ลูกที่ดีของพ่อ" มากเลย
เราเป็นคนใจร้อน ปากไม่ดี บางเรื่องก็ประหยัด บางเรื่องก็ยังฟุ่มเฟือยอยู่ เช้านี้ (อาจจะคิดช้ากว่าหลาย ๆ ท่านเพราะมัวแต่เศร้าอยู่) เราเลยมานั่งนึกว่าเราจะทำอะไรที่ทำให้สังคมดีขึ้นได้บ้าง ทำอะไรที่ทำให้เราเข้าใกล้คำว่า "ลูกที่ดีของพ่อ" ได้บ้าง อาจจะไม่ยิ่งใหญ่อะไรนัก แต่อย่างน้อยก็เริ่มปรับที่ตัวเรานี่ล่ะพอแล้ว ตอนนี้นั่ง list ออกมาในใจได้ตามด้านล่างนี้ค่ะ อยากทราบว่าเพื่อน ๆ แต่ละท่านใครมีความคิดนี้บ้าง แล้วคิดจะปรับเปลี่ยนยังไงบ้าง ส่วนใครที่ทำอยู่ก่อนแล้ว ทำอะไรกันบ้าง เราเหมือนบัวใต้น้ำมีก้อนหินทับไว้อีกทีด้วยซ้ำ อยากขอแรงขอไอเดียเพื่อน ๆ เผื่อจะยกก้อนหินออกจากตัวเราให้โผล่พ้นน้ำให้พ่อชื่นชมได้บ้างค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ
เรื่องที่คิดว่าจะเริ่มทำตั้งแต่วันนี้
1. เอาป้ายมาติดหน้าบ้าน ใครอยากมาจอดรถหน้าบ้านยินดีแชร์พื้นที่หน้าบ้านให้ แต่ช่วยทิ้งเบอร์โทรไว้ เผื่อเราเอารถเข้า-ออกจะได้โทรตามมาเลื่อน เพราะที่บ้านเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ มีที่จอดรถได้บ้านละ 2 คัน แต่บางทีคนมาติดต่อไม่มีที่จอดก็แอบมาจอดหน้าบ้านเรา แล้วก็ทิ้งรถไว้หายไปเลย เราจะเอารถเข้า-ออกบ้านก็ลำบากทั้งที่เอารถเข้าออกแค่เช้าครั้งเย็นครั้งเอง แต่เรากลับกลายเป็นคนใจคับแคบไม่อยากให้ใครมาจอดเพราะขี้เกียจตามคนมาเลื่อน เราจะเอากระดานมาติดหน้าบ้านพร้อมปากกาต่อไปอยากมาจอดก็ยินดี แค่ทิ้งเบอร์ไว้ให้ตามมาเลื่อนได้ก็พอค่ะ
2. แยกขยะ recycle reuse รู้นะว่าอะไรเอาไปใช้ต่อได้ แต่ไม่ทำ ขี้เกียจ เมื่อวานนี้เลยนั่งแยกขยะ แล้วโทรเรียกคนเก็บของเก่ามารับซื้อไป (ได้มา 600 บาทเอาไปยอดกระปุก) ส่วนของอะไรไม่ใช้แล้วก็ให้คนเก็บของเก่าดูว่าเค้าเอาไปใช้ต่อได้มั๊ย ถ้าได้ก็ยกให้เลยไม่เอาเงิน และต่อไปจะทำเป็นประจำทุกเดือนเพื่อให้บ้านสะอาดและการ recycle ก็ช่วยลดการผลิตใหม่ ลดโลกร้อนได้ด้วย
3. เสื้อดำ คิดก่อนซื้อ รื้อดูก่อนว่าที่บ้านมีกี่ตัว ใส่ทำงานได้กี่ตัว ใส่ในบ้านเอาเสื้อสีใส่ก็ได้ไม่เป็นไร ใส่ออกนอกบ้านค่อยเปลี่ยนเป็นสีสุภาพ ไปซื้อสีย้อมผ้ามา ย้อมเสื้อยืดเก่า ๆ สีอ่อนให้เป็นสีดำ ทำได้หลายตัวอยู่ อาจจะไม่สวยมาก แต่เอาไว้ใส่ไปเดินเล่นแถวบ้าน ไปห้างได้ไม่น่าเกลียด ไม่ต้องซื้อใหม่ ใช้ชีวิตพอเพียงมากขึ้น
4. เลิกใช้กระเป๋า brandname เคยมานั่งนับ ๆ ดูที่บ้านมีถุงผ้าได้รับแจกมาตั้งเยอะ ส่วนใหญ่คุณภาพดีใช้งานได้ ทำไมเราต้องจ่ายเงินซื้อกระเป๋า brandname เพื่อถือโชว์ด้วย บางใบโดนฝน โดนน้ำไม่ได้ จะใช้ทีต้องระวังจนประสาท (กลับกลายเป็นเราตกเป็นทาสของมัน) ไร้สาระมาก ต่อไปจะไม่ซื้อแล้วใช้เท่าที่มี ถือถุงผ้าไปตลาด ไปทำงานก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร สะดวกดีด้วยซ้ำ
5. ใช้ชีวิตให้มีสติ คิดก่อนทำให้มากขึ้น เปิดใจฟังในความเห็นต่างอย่างแท้จริง ข้อนี้ทำยากที่สุด บอกตรง ๆ เป็นคนใจร้อน มีอีโก้เยอะ (ยิ่งแก่ ยิ่งบ้า คิดว่ารู้ดี) ยกตัวอย่างเช่น เมือ่วานนี้เห็นคนใส่เสื้อแดง เดินไปซื้อผลไม้ริมถนนกับแฟน แฟนเห็นโมโหมาก ถ้าเราไม่ใช้สติ พิจารณาจะโกรธมาก คงจะผสมโรงด่าพวกไม่รู้กาลเทศะ ไม่มีจิตสำนึก แต่พอตั้งสติได้บอกแฟนว่า อย่าไปโกรธเค้าเลย เค้าอาจจะมีเหตุผลของเค้า แฟนยังฉุนอยู่ เลยเดินไปถามคนขายผลไม้ ได้ความว่าเค้าเป็นคนจีน พูดไทยก็ไม่ได้ คงไม่รู้ข่าวและไม่เข้าใจ ก็ปล่อยเค้าไปเถอะ แล้วยังมีอีกหลายเรื่อง ซึ่งจะทำแบบนี้ได้ ต้องมีสติ พิจารณาให้ถ้วนถี่ก่อนจะลงมือทำอะไร ต้องใจกว้าง ต้องคิดให้รอบคอบ - ในหลวงท่านทรงอัจฉริยะภาพมากเลย เราลงมือทำแล้ว รู้สึกขัดกับนิสัยมักง่าย ปากไวของตัวเองมาก แต่ก็จะพยายามฝึกฝนและทำต่อไปเรื่อย ๆ เผื่อจะเข้าใกล้คำว่า "ลูกที่ดีของพ่อ" ได้มากขึ้นนะคะ
นี่คือบางส่วนที่สมองหางอึ่งของเราคิดได้ เพื่อน ๆ ล่ะค่ะ ปรับเปลี่ยนอะไรกันบ้าง แชร์กันมานะคะ เผื่อเราจะได้เอามาปรับใช้กับตัวเองบ้าง สังคมเราจะได้น่าอยู่มากขึ้นด้วย
ไม่รู้ว่าต้อง tag ห้องไหน เลย tag ตามที่พันธุ์ทิพย์แนะนำมา หากผิดพลาดประการใดแจ้งให้แก้ไขได้นะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
***ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 59 มีเพื่อนคนใดตั้งใจจะปรับเปลี่ยนตัวเอง เพื่อเป็นลูกที่ดียิ่งขึ้นบ้างค่ะ แชร์ไอเดียกันหน่อย***
เท้าความย้อนหลังเล็กน้อย..... หลังจากเหตุการณ์สวรรคต เราอยู่ในโหมดเศร้าซึม ร้องไห้เรื่อยๆ นั่งน้ำตาไหล ไร้ความรู้สึก เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน จนปวดหัว ปวดกระบอกตา มือก็เลื่อน FB ดูไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งจมดิ่งกับความเศร้า จนกระทั่งถึง post ของเพื่อนห่างๆคนนึง เค้าโพสท์ว่าเป็นวันนี้เกิดเค้าแต่เค้าไม่จัดงานวันเกิด ไม่รับของขวัญวันเกิด เพื่อเริ่มต้นชีวิตพอเพียงตามรอยเท้าพ่อ ถึงจุดนั้น.....เราหยุดคิด อืม.....เรารักในหลวงมาก.....แต่ใช้ชีวิตห่างไกลคำว่า "ลูกที่ดีของพ่อ" มากเลย
เราเป็นคนใจร้อน ปากไม่ดี บางเรื่องก็ประหยัด บางเรื่องก็ยังฟุ่มเฟือยอยู่ เช้านี้ (อาจจะคิดช้ากว่าหลาย ๆ ท่านเพราะมัวแต่เศร้าอยู่) เราเลยมานั่งนึกว่าเราจะทำอะไรที่ทำให้สังคมดีขึ้นได้บ้าง ทำอะไรที่ทำให้เราเข้าใกล้คำว่า "ลูกที่ดีของพ่อ" ได้บ้าง อาจจะไม่ยิ่งใหญ่อะไรนัก แต่อย่างน้อยก็เริ่มปรับที่ตัวเรานี่ล่ะพอแล้ว ตอนนี้นั่ง list ออกมาในใจได้ตามด้านล่างนี้ค่ะ อยากทราบว่าเพื่อน ๆ แต่ละท่านใครมีความคิดนี้บ้าง แล้วคิดจะปรับเปลี่ยนยังไงบ้าง ส่วนใครที่ทำอยู่ก่อนแล้ว ทำอะไรกันบ้าง เราเหมือนบัวใต้น้ำมีก้อนหินทับไว้อีกทีด้วยซ้ำ อยากขอแรงขอไอเดียเพื่อน ๆ เผื่อจะยกก้อนหินออกจากตัวเราให้โผล่พ้นน้ำให้พ่อชื่นชมได้บ้างค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ
เรื่องที่คิดว่าจะเริ่มทำตั้งแต่วันนี้
1. เอาป้ายมาติดหน้าบ้าน ใครอยากมาจอดรถหน้าบ้านยินดีแชร์พื้นที่หน้าบ้านให้ แต่ช่วยทิ้งเบอร์โทรไว้ เผื่อเราเอารถเข้า-ออกจะได้โทรตามมาเลื่อน เพราะที่บ้านเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ มีที่จอดรถได้บ้านละ 2 คัน แต่บางทีคนมาติดต่อไม่มีที่จอดก็แอบมาจอดหน้าบ้านเรา แล้วก็ทิ้งรถไว้หายไปเลย เราจะเอารถเข้า-ออกบ้านก็ลำบากทั้งที่เอารถเข้าออกแค่เช้าครั้งเย็นครั้งเอง แต่เรากลับกลายเป็นคนใจคับแคบไม่อยากให้ใครมาจอดเพราะขี้เกียจตามคนมาเลื่อน เราจะเอากระดานมาติดหน้าบ้านพร้อมปากกาต่อไปอยากมาจอดก็ยินดี แค่ทิ้งเบอร์ไว้ให้ตามมาเลื่อนได้ก็พอค่ะ
2. แยกขยะ recycle reuse รู้นะว่าอะไรเอาไปใช้ต่อได้ แต่ไม่ทำ ขี้เกียจ เมื่อวานนี้เลยนั่งแยกขยะ แล้วโทรเรียกคนเก็บของเก่ามารับซื้อไป (ได้มา 600 บาทเอาไปยอดกระปุก) ส่วนของอะไรไม่ใช้แล้วก็ให้คนเก็บของเก่าดูว่าเค้าเอาไปใช้ต่อได้มั๊ย ถ้าได้ก็ยกให้เลยไม่เอาเงิน และต่อไปจะทำเป็นประจำทุกเดือนเพื่อให้บ้านสะอาดและการ recycle ก็ช่วยลดการผลิตใหม่ ลดโลกร้อนได้ด้วย
3. เสื้อดำ คิดก่อนซื้อ รื้อดูก่อนว่าที่บ้านมีกี่ตัว ใส่ทำงานได้กี่ตัว ใส่ในบ้านเอาเสื้อสีใส่ก็ได้ไม่เป็นไร ใส่ออกนอกบ้านค่อยเปลี่ยนเป็นสีสุภาพ ไปซื้อสีย้อมผ้ามา ย้อมเสื้อยืดเก่า ๆ สีอ่อนให้เป็นสีดำ ทำได้หลายตัวอยู่ อาจจะไม่สวยมาก แต่เอาไว้ใส่ไปเดินเล่นแถวบ้าน ไปห้างได้ไม่น่าเกลียด ไม่ต้องซื้อใหม่ ใช้ชีวิตพอเพียงมากขึ้น
4. เลิกใช้กระเป๋า brandname เคยมานั่งนับ ๆ ดูที่บ้านมีถุงผ้าได้รับแจกมาตั้งเยอะ ส่วนใหญ่คุณภาพดีใช้งานได้ ทำไมเราต้องจ่ายเงินซื้อกระเป๋า brandname เพื่อถือโชว์ด้วย บางใบโดนฝน โดนน้ำไม่ได้ จะใช้ทีต้องระวังจนประสาท (กลับกลายเป็นเราตกเป็นทาสของมัน) ไร้สาระมาก ต่อไปจะไม่ซื้อแล้วใช้เท่าที่มี ถือถุงผ้าไปตลาด ไปทำงานก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร สะดวกดีด้วยซ้ำ
5. ใช้ชีวิตให้มีสติ คิดก่อนทำให้มากขึ้น เปิดใจฟังในความเห็นต่างอย่างแท้จริง ข้อนี้ทำยากที่สุด บอกตรง ๆ เป็นคนใจร้อน มีอีโก้เยอะ (ยิ่งแก่ ยิ่งบ้า คิดว่ารู้ดี) ยกตัวอย่างเช่น เมือ่วานนี้เห็นคนใส่เสื้อแดง เดินไปซื้อผลไม้ริมถนนกับแฟน แฟนเห็นโมโหมาก ถ้าเราไม่ใช้สติ พิจารณาจะโกรธมาก คงจะผสมโรงด่าพวกไม่รู้กาลเทศะ ไม่มีจิตสำนึก แต่พอตั้งสติได้บอกแฟนว่า อย่าไปโกรธเค้าเลย เค้าอาจจะมีเหตุผลของเค้า แฟนยังฉุนอยู่ เลยเดินไปถามคนขายผลไม้ ได้ความว่าเค้าเป็นคนจีน พูดไทยก็ไม่ได้ คงไม่รู้ข่าวและไม่เข้าใจ ก็ปล่อยเค้าไปเถอะ แล้วยังมีอีกหลายเรื่อง ซึ่งจะทำแบบนี้ได้ ต้องมีสติ พิจารณาให้ถ้วนถี่ก่อนจะลงมือทำอะไร ต้องใจกว้าง ต้องคิดให้รอบคอบ - ในหลวงท่านทรงอัจฉริยะภาพมากเลย เราลงมือทำแล้ว รู้สึกขัดกับนิสัยมักง่าย ปากไวของตัวเองมาก แต่ก็จะพยายามฝึกฝนและทำต่อไปเรื่อย ๆ เผื่อจะเข้าใกล้คำว่า "ลูกที่ดีของพ่อ" ได้มากขึ้นนะคะ
นี่คือบางส่วนที่สมองหางอึ่งของเราคิดได้ เพื่อน ๆ ล่ะค่ะ ปรับเปลี่ยนอะไรกันบ้าง แชร์กันมานะคะ เผื่อเราจะได้เอามาปรับใช้กับตัวเองบ้าง สังคมเราจะได้น่าอยู่มากขึ้นด้วย
ไม่รู้ว่าต้อง tag ห้องไหน เลย tag ตามที่พันธุ์ทิพย์แนะนำมา หากผิดพลาดประการใดแจ้งให้แก้ไขได้นะคะ
ขอบคุณมากค่ะ