ขอพูดตามตรงนะค่ะ เราอ่านมาหลายกระทู้แล้ว บางกระทู้เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็แย่ แต่บางกระทู้คนไปร่วมงานก็ไม่ค่อยโอเคนะ
ขอเล่ากรณีเรา ที่เพื่อนในกลุ่มแต่งงานไปเกือบหมด
คู่ที่ 1 เพื่อนสาวคนแรกของกลุ่มแต่งงานไปเมื่อ 5-6 ปี ที่ต่างจังหวัด จัดงานที่บ้านเจ้าสาว งานนี้เจ้าสาวเจ้าบ่าวประหยัดมาก
ทุกอย่างเน้นประหยัด ไม่บังคับให้ใครแต่งตัวแบบไหน สีอะไร แต่พอคนถามเยอะๆว่าสีอะไร จะได้หาชุดถูก เจ้าสาวบอก สีพาสเทล
เป็นแนวกว้างๆ ก็หาชุดมาตามนั้น เจ้าสาวจัดห้องพักและออกค่าใช้จ่ายให้ เพราะถือว่าเพื่อนอุตส่าห์มา ส่วนเรากะเพื่อนอีกคน
นั่งรถทัวร์ มาต่อสองแถว ไปลงตลาดของอำเภอนั้น แล้วให้เจ้าสาวมารับ เพราะที่นั่นไม่มีสนามบิน และถ้าเราขับรถไปเอง
มันไกลมาก เป็นวัน ของก็พะรุงพะรัง แต่เพื่อเพื่อน ยอม เรากะเพื่อนอีกคนไปก่อนวันงาน 1 วัน ไปช่วยเจ้าสาวเตรียมงานทุกอย่าง
และใส่ซองหลายพัน เพราะรู้ว่า คู่นี้ต้องใช้เงิน ในงานก็มีกระทบกระทั่งกะอะไรหลายๆอย่าง แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยดี
เพราะเราคิดถึงเจ้าสาวและครอบครัว อะไรยอมได้ เรายอม อะไรรู้ว่าพูดแล้วจะเกิดเรื่อง เราเงียบ เพื่อเพื่อนที่เรารัก
คู่ที่ 2 คนนี้เป็นคนที่ 2 ในกลุ่ม เจ้าบ่าวเข้ากับกลุ่มเพื่อนเจ้าสาวไม่ได้ พวกเราเลยไม่ไปยุ่ง ไปแค่งานแต่ง ช่วยแค่พอที่จะช่วยได้
งานนี้ก็บอกแค่ธีมสี ก็หาชุด เอาแค่หลักร้อยที่แพลททินั่ม เพราะใส่ครั้งเดียว คือ ถึงเจ้าบ่าวจะไม่ชอบพวกเรา แต่เราเห็นเจ้าบ่าว
รักเพื่อนเรามาก ทำอะไรให้เพื่อนเราหลายอย่าง เราก็ยอมเป็นฝ่ายถอยออกมาดูอยู่ห่างๆนะ คือ อะไรก็ได้ แค่เพื่อนเรามีความสุข
คู่ที่ 3 เจ้าสาวขี้เกรงใจ อะไรก็ได้ เพื่อนๆ เลยแอบไปตัดชุดเพื่อนเจ้าสาวเป็นเซ็ตเดียวกันใส่ไปงาน แต่พอเจ้าสาวรู้ ก็เลยออกค่าผ้า
แล้วคู่นี้แต่ง ตจว เหมือนกัน เจ้าสาวก็จองห้องพักและออกค่าใช้จ่ายเรื่อง ที่พัก ให้ เพื่อนๆก็ใส่ซองเยอะกว่าคู่แรก เพราะรู้เรื่องค่าใช้จ่าย
ต่อหัว ก็เลยใส่เยอะ ส่วนเรื่อง เตรียมงาน เพื่อนๆไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะเจ้าสาวเห็นมาจากคู่แรกแล้ว ไม่อยากให้ทุกคนลำบาก
เลยจ้างออร์แกไนซ์
คู่ที่ 4 คู่นี้ก็ต่างจังหวัด แล้วก็จ้างออร์แกไนซ์ เพราะกลัวทุกคนจะเหนื่อย แต่งานนี้ เจ้าสาวขอชุดเพื่อนเจ้าสาวสีทอง เจ้าสาวซื้อผ้าให้
และให้ไปตัดกันเอง เพราะเป็นความฝันของเจ้าสาวที่จะให้เพื่อนๆ ใส่ชุดสีทอง แล้วโปรยดอกไม้ ซึ่งก็เหมือนเดิม เจ้าสาวออกค่าที่พักให้
เพื่อนๆก็ใส่ซองกันเท่าคู่ที่ 3 แต่สุดท้าย เจ้าสาวคืนเงินให้ ครั้งนี้เพื่อนทุกคน ขึ้นเครื่องไปลงที่จังหวัดนึง แล้วเช่ารถขับไปต่ออีกที่จังหวัดที่จัดงาน
แถมลางานอีกหลายวัน
แค่อยากจะบอกว่า คำว่า "เพื่อนเจ้าสาว/เพื่อนเจ้าบ่าว" อย่าไปคิดเล็กคิดน้อย แม่เราสอนตลอดว่า ถ้าเจอเพื่อนแท้ให้ดูแลกันดีๆ เพราะ
เพื่อนบางคนเป็นยิ่งกว่าพี่น้อง คือ ถ้าเพื่อนเค้าให้ไปเพื่อนเจ้าสาว/เจ้าบ่าว หรือเชิญไปงาน แล้ว แสดงว่า เราสำคัญสำหรับเค้า ยกเว้น
กรณีที่ชวนตามมารยาทนะคะ ส่วนเรื่อง ธีมสี มันอาจจะมีอะไรมากกว่าแค่ธีมสี คือ บางคนเค้ามีสีถูกโฉลก และไม่ถูกโฉลก บางบ้านที่เชื่อ
เรื่อง โชคลาง เค้าก็ถือ ถ้าไม่สะดวกใส่สีตามที่เค้ากำหนด ก็ลองบอก ลองถามเค้าก่อนไปงานไหม เค้าจะได้หาวิธีจัดการ แก้ไข
แล้วข้อดีอีกอย่าง ของการกำหนดธีมสี คือ จะได้รู้ว่าควรใส่สีอะไร เวลาเราเจอบอกว่า สีอะไรก็ได้ เราหาเสื้อผ้ายากกว่า กำหนดสีมาอีกค่ะ
ส่วนบางคนที่ใส่ซองน้อย เราก็เข้าใจนะว่า อาจจะไม่ค่อยมีเงิน แต่มีเพื่อนสนิทเราอีกคู่ ที่จัดงานโรงแรม 5 ดาว คือ ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็พอมีเงิน
อยู่แล้ว เค้าก็ไม่ได้อยากได้กำไรจากการแต่งงานหรอก แต่บางคนก็มาหวังกินอย่างเดียวเลย มาทั้งครอบครัวใส่ซอง 200 อย่างเงี้ย แล้วเค้าเลี้ยง
โต๊ะจีน หัวนึงเกือบ 2 พัน มากันทั้งบ้าน จ่าย 200 มันก็เอาเปรียบกันเกินไป
ทำอะไร ก็ทำให้มันพอดี คำนึงถึงความเหมาะสม ใจเค้าใจเราค่ะ
ทำไมชอบบ่นกันว่า เสียเพื่อนเพราะงานแต่ง
ขอเล่ากรณีเรา ที่เพื่อนในกลุ่มแต่งงานไปเกือบหมด
คู่ที่ 1 เพื่อนสาวคนแรกของกลุ่มแต่งงานไปเมื่อ 5-6 ปี ที่ต่างจังหวัด จัดงานที่บ้านเจ้าสาว งานนี้เจ้าสาวเจ้าบ่าวประหยัดมาก
ทุกอย่างเน้นประหยัด ไม่บังคับให้ใครแต่งตัวแบบไหน สีอะไร แต่พอคนถามเยอะๆว่าสีอะไร จะได้หาชุดถูก เจ้าสาวบอก สีพาสเทล
เป็นแนวกว้างๆ ก็หาชุดมาตามนั้น เจ้าสาวจัดห้องพักและออกค่าใช้จ่ายให้ เพราะถือว่าเพื่อนอุตส่าห์มา ส่วนเรากะเพื่อนอีกคน
นั่งรถทัวร์ มาต่อสองแถว ไปลงตลาดของอำเภอนั้น แล้วให้เจ้าสาวมารับ เพราะที่นั่นไม่มีสนามบิน และถ้าเราขับรถไปเอง
มันไกลมาก เป็นวัน ของก็พะรุงพะรัง แต่เพื่อเพื่อน ยอม เรากะเพื่อนอีกคนไปก่อนวันงาน 1 วัน ไปช่วยเจ้าสาวเตรียมงานทุกอย่าง
และใส่ซองหลายพัน เพราะรู้ว่า คู่นี้ต้องใช้เงิน ในงานก็มีกระทบกระทั่งกะอะไรหลายๆอย่าง แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยดี
เพราะเราคิดถึงเจ้าสาวและครอบครัว อะไรยอมได้ เรายอม อะไรรู้ว่าพูดแล้วจะเกิดเรื่อง เราเงียบ เพื่อเพื่อนที่เรารัก
คู่ที่ 2 คนนี้เป็นคนที่ 2 ในกลุ่ม เจ้าบ่าวเข้ากับกลุ่มเพื่อนเจ้าสาวไม่ได้ พวกเราเลยไม่ไปยุ่ง ไปแค่งานแต่ง ช่วยแค่พอที่จะช่วยได้
งานนี้ก็บอกแค่ธีมสี ก็หาชุด เอาแค่หลักร้อยที่แพลททินั่ม เพราะใส่ครั้งเดียว คือ ถึงเจ้าบ่าวจะไม่ชอบพวกเรา แต่เราเห็นเจ้าบ่าว
รักเพื่อนเรามาก ทำอะไรให้เพื่อนเราหลายอย่าง เราก็ยอมเป็นฝ่ายถอยออกมาดูอยู่ห่างๆนะ คือ อะไรก็ได้ แค่เพื่อนเรามีความสุข
คู่ที่ 3 เจ้าสาวขี้เกรงใจ อะไรก็ได้ เพื่อนๆ เลยแอบไปตัดชุดเพื่อนเจ้าสาวเป็นเซ็ตเดียวกันใส่ไปงาน แต่พอเจ้าสาวรู้ ก็เลยออกค่าผ้า
แล้วคู่นี้แต่ง ตจว เหมือนกัน เจ้าสาวก็จองห้องพักและออกค่าใช้จ่ายเรื่อง ที่พัก ให้ เพื่อนๆก็ใส่ซองเยอะกว่าคู่แรก เพราะรู้เรื่องค่าใช้จ่าย
ต่อหัว ก็เลยใส่เยอะ ส่วนเรื่อง เตรียมงาน เพื่อนๆไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะเจ้าสาวเห็นมาจากคู่แรกแล้ว ไม่อยากให้ทุกคนลำบาก
เลยจ้างออร์แกไนซ์
คู่ที่ 4 คู่นี้ก็ต่างจังหวัด แล้วก็จ้างออร์แกไนซ์ เพราะกลัวทุกคนจะเหนื่อย แต่งานนี้ เจ้าสาวขอชุดเพื่อนเจ้าสาวสีทอง เจ้าสาวซื้อผ้าให้
และให้ไปตัดกันเอง เพราะเป็นความฝันของเจ้าสาวที่จะให้เพื่อนๆ ใส่ชุดสีทอง แล้วโปรยดอกไม้ ซึ่งก็เหมือนเดิม เจ้าสาวออกค่าที่พักให้
เพื่อนๆก็ใส่ซองกันเท่าคู่ที่ 3 แต่สุดท้าย เจ้าสาวคืนเงินให้ ครั้งนี้เพื่อนทุกคน ขึ้นเครื่องไปลงที่จังหวัดนึง แล้วเช่ารถขับไปต่ออีกที่จังหวัดที่จัดงาน
แถมลางานอีกหลายวัน
แค่อยากจะบอกว่า คำว่า "เพื่อนเจ้าสาว/เพื่อนเจ้าบ่าว" อย่าไปคิดเล็กคิดน้อย แม่เราสอนตลอดว่า ถ้าเจอเพื่อนแท้ให้ดูแลกันดีๆ เพราะ
เพื่อนบางคนเป็นยิ่งกว่าพี่น้อง คือ ถ้าเพื่อนเค้าให้ไปเพื่อนเจ้าสาว/เจ้าบ่าว หรือเชิญไปงาน แล้ว แสดงว่า เราสำคัญสำหรับเค้า ยกเว้น
กรณีที่ชวนตามมารยาทนะคะ ส่วนเรื่อง ธีมสี มันอาจจะมีอะไรมากกว่าแค่ธีมสี คือ บางคนเค้ามีสีถูกโฉลก และไม่ถูกโฉลก บางบ้านที่เชื่อ
เรื่อง โชคลาง เค้าก็ถือ ถ้าไม่สะดวกใส่สีตามที่เค้ากำหนด ก็ลองบอก ลองถามเค้าก่อนไปงานไหม เค้าจะได้หาวิธีจัดการ แก้ไข
แล้วข้อดีอีกอย่าง ของการกำหนดธีมสี คือ จะได้รู้ว่าควรใส่สีอะไร เวลาเราเจอบอกว่า สีอะไรก็ได้ เราหาเสื้อผ้ายากกว่า กำหนดสีมาอีกค่ะ
ส่วนบางคนที่ใส่ซองน้อย เราก็เข้าใจนะว่า อาจจะไม่ค่อยมีเงิน แต่มีเพื่อนสนิทเราอีกคู่ ที่จัดงานโรงแรม 5 ดาว คือ ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็พอมีเงิน
อยู่แล้ว เค้าก็ไม่ได้อยากได้กำไรจากการแต่งงานหรอก แต่บางคนก็มาหวังกินอย่างเดียวเลย มาทั้งครอบครัวใส่ซอง 200 อย่างเงี้ย แล้วเค้าเลี้ยง
โต๊ะจีน หัวนึงเกือบ 2 พัน มากันทั้งบ้าน จ่าย 200 มันก็เอาเปรียบกันเกินไป
ทำอะไร ก็ทำให้มันพอดี คำนึงถึงความเหมาะสม ใจเค้าใจเราค่ะ