สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
โครงการอีสานเขียว การแก้ปัญหาดินเปรียวโดยวิธีการแกล้งดิน และพัฒนาดินโดยใช้ต้นหญ้าแฝกครับ สุดๆจริงๆ จากป่าหัวโล้นๆมีแต่ดินแห้งๆแตกๆไม่มีน้ำ พัฒนาจนเกิดป่าขึ้นมาได้ ลองคิดดูว่าเจ๋งแค่ไหน
สร้างโรงสีข้าวไว้ในเขตวังเพื่อทดลองพัฒนาพันธ์ข้าว โรงปลูกเห็ด โรงผลิตนมเม็ดจากน้ำนมที่ล้นตลาดโดยการนำมาเข้าประบวนการพ่นแห้งแล้วอัดเป็นเม็ด กังหันชัยพัฒนา
ย้อนเมื่อ 40-50ปีก่อนนะครับ สมัยนั้นอย่าว่าแต่อินเตอร์เนตหรือตารางสเปรด์ชีสในคอมพิวเตอร์ การสื่อสารยังใช้แค่โทรเลขส่งหากันอยู่เลย แต่ท่านก็หาองค์ความรู้ทั้งจากตำราต่างประเทศและนำมาค่อยๆทดลองหน้างานปรับลองไปเรื่อยๆจนสำเร็จผล
สร้างโรงสีข้าวไว้ในเขตวังเพื่อทดลองพัฒนาพันธ์ข้าว โรงปลูกเห็ด โรงผลิตนมเม็ดจากน้ำนมที่ล้นตลาดโดยการนำมาเข้าประบวนการพ่นแห้งแล้วอัดเป็นเม็ด กังหันชัยพัฒนา
ย้อนเมื่อ 40-50ปีก่อนนะครับ สมัยนั้นอย่าว่าแต่อินเตอร์เนตหรือตารางสเปรด์ชีสในคอมพิวเตอร์ การสื่อสารยังใช้แค่โทรเลขส่งหากันอยู่เลย แต่ท่านก็หาองค์ความรู้ทั้งจากตำราต่างประเทศและนำมาค่อยๆทดลองหน้างานปรับลองไปเรื่อยๆจนสำเร็จผล
ความคิดเห็นที่ 46
จริงต้องเรียกว่า สิ่งประดิษฐ์ของพระองค์ท่าน เป็นนวัตกรรมเชิง วิศวกรรมศาสตร์ มากกว่า เพราะเป็นการเอาวิทยาศาสตร์ ที่มีอยู่แล้ว มาประยุกต์ใช้งานได้จริง
จาก ที่ได้ดูพระราชประวัติ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ มาตลอด จนถึงช่วงที่พระเชษฐา (ในหลวง รัชกาลที่ 8) สวรรคต จึงได้เปลี่ยนมาศึกษาทางด้าน การปกครอง สังคมศาสตร์ ในช่วงที่พระองค์ท่านมีพระชนมพรรษา ประมาณ 19-20 พรรษา ดังนั้นจึงทรงมีพื้นฐานความรู้ในด้านนี้พอสมควรอยู่แล้ว ประกอบกับ ความเพียร การค้นคว้า ใฝ่ความรู้ ของพระองค์ท่าน เลยยิ่งทำให้ยิ่งมีพระอัจฉริยภาพในด้านนี้ยิ่งขึ้นไปอีก
อีกหนึ่งในพระผู้ทรงสร้าง ก็คือ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ที่เลี้ยงดูพระโอรส (รัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9) และพระราชธิดา (สมเด็จพระพี่นางฯ) ประหนึ่งดั่งสามัญชนทั่วไป รวมกับ ลักษณะนิสัยที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ (สงสัย ตั้งคำถาม สังเกต ทดลองทำ) ของพระองค์ท่าน ทำให้ฉายแววมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ครับ เช่น
- ไม่ซื้อของเล่นให้แบบตามพระทัย ทรงซื้อให้เฉพาะวันเกิด และวันปีใหม่ เท่านั้น - ทำให้ต้องประดิษฐ์ของเล่นเอง แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ ทรงหุ้นกับ รัชกาลที่ 8 ซื้อชิ้นส่วนวิทยุจากร้านของมือสอง มาประกอบกันจนได้เครื่องรับวิทยุคลื่นสั้น มาฟังวิทยุจนได้
- ปล่อยให้เล่นกับดินกับทรายกับน้ำ เลอะเทอะ เหมือนเด็กทั่วๆ ไป แต่ที่ต่างคือ การชอบสังเกตพฤติกรรมของน้ำ การบังคับน้ำให้ไหลไปที่ ที่ต้องการ เช่น การเล่นขุดคลองจากดินเหนียว ให้น้ำไหลจากที่สูงลงอ่างน้ำที่มารองไว้ ทรงทดลองเอากิ่งไม้ ใบไม้ มาปักไว้ข้างๆ คลองที่ทรงขุด เสมือนเป็นป่าข้างริมน้ำ แล้วสังเกตการไหลของน้ำ .... หรือตอนที่ไปเที่ยวทะเล ก็จะขุดทรายให้เป็นบ่อใหญ่ๆ แล้วรอให้คลื่นพัดน้ำทะเลขึ้นมา พอคลื่นลงไป น้ำก็เต็มบ่อที่ทรงขุดไว้ การเล่นเหล่านี้คือที่มาของโครงการ เขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ คลอง ต่างๆ มากมาย
- เลี้ยงสัตว์มากมาย ทั้ง สุนัข แมว กระต่าย แม้กระทั่ง งู แต่หนึ่งในสัตว์ที่เคยเลี้ยงครั้งหนึ่ง คือ ลิง ... สมัยพระชนมายุ 5 พรรษา ให้กล้วยลิงกิน และทรงสังเกตเห็นพฤติกรรม ที่ลิงเก็บกล้วยไว้ในกระพุ้งแก้ม จนเต็มแล้วค่อยนำออกมาเคี้ยวทีละนิด .... นี่ก็คือจุดกำเนิดแนวคิดโครงการ แก้มลิง
จะเห็นว่าพระองค์ท่านฉายแวว มาทางสายวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ครับ
จาก ที่ได้ดูพระราชประวัติ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ มาตลอด จนถึงช่วงที่พระเชษฐา (ในหลวง รัชกาลที่ 8) สวรรคต จึงได้เปลี่ยนมาศึกษาทางด้าน การปกครอง สังคมศาสตร์ ในช่วงที่พระองค์ท่านมีพระชนมพรรษา ประมาณ 19-20 พรรษา ดังนั้นจึงทรงมีพื้นฐานความรู้ในด้านนี้พอสมควรอยู่แล้ว ประกอบกับ ความเพียร การค้นคว้า ใฝ่ความรู้ ของพระองค์ท่าน เลยยิ่งทำให้ยิ่งมีพระอัจฉริยภาพในด้านนี้ยิ่งขึ้นไปอีก
อีกหนึ่งในพระผู้ทรงสร้าง ก็คือ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ที่เลี้ยงดูพระโอรส (รัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9) และพระราชธิดา (สมเด็จพระพี่นางฯ) ประหนึ่งดั่งสามัญชนทั่วไป รวมกับ ลักษณะนิสัยที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ (สงสัย ตั้งคำถาม สังเกต ทดลองทำ) ของพระองค์ท่าน ทำให้ฉายแววมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ครับ เช่น
- ไม่ซื้อของเล่นให้แบบตามพระทัย ทรงซื้อให้เฉพาะวันเกิด และวันปีใหม่ เท่านั้น - ทำให้ต้องประดิษฐ์ของเล่นเอง แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ ทรงหุ้นกับ รัชกาลที่ 8 ซื้อชิ้นส่วนวิทยุจากร้านของมือสอง มาประกอบกันจนได้เครื่องรับวิทยุคลื่นสั้น มาฟังวิทยุจนได้
- ปล่อยให้เล่นกับดินกับทรายกับน้ำ เลอะเทอะ เหมือนเด็กทั่วๆ ไป แต่ที่ต่างคือ การชอบสังเกตพฤติกรรมของน้ำ การบังคับน้ำให้ไหลไปที่ ที่ต้องการ เช่น การเล่นขุดคลองจากดินเหนียว ให้น้ำไหลจากที่สูงลงอ่างน้ำที่มารองไว้ ทรงทดลองเอากิ่งไม้ ใบไม้ มาปักไว้ข้างๆ คลองที่ทรงขุด เสมือนเป็นป่าข้างริมน้ำ แล้วสังเกตการไหลของน้ำ .... หรือตอนที่ไปเที่ยวทะเล ก็จะขุดทรายให้เป็นบ่อใหญ่ๆ แล้วรอให้คลื่นพัดน้ำทะเลขึ้นมา พอคลื่นลงไป น้ำก็เต็มบ่อที่ทรงขุดไว้ การเล่นเหล่านี้คือที่มาของโครงการ เขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ คลอง ต่างๆ มากมาย
- เลี้ยงสัตว์มากมาย ทั้ง สุนัข แมว กระต่าย แม้กระทั่ง งู แต่หนึ่งในสัตว์ที่เคยเลี้ยงครั้งหนึ่ง คือ ลิง ... สมัยพระชนมายุ 5 พรรษา ให้กล้วยลิงกิน และทรงสังเกตเห็นพฤติกรรม ที่ลิงเก็บกล้วยไว้ในกระพุ้งแก้ม จนเต็มแล้วค่อยนำออกมาเคี้ยวทีละนิด .... นี่ก็คือจุดกำเนิดแนวคิดโครงการ แก้มลิง
จะเห็นว่าพระองค์ท่านฉายแวว มาทางสายวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ครับ
ความคิดเห็นที่ 1
ผมชอบเพลงที่ในหลวงแต่งครับ...ใกล้รุ่ง(ขอนอกคำถามนะครับ)
ตอนฟังเพลงนี้ จะคิดถึงบรรยากาศ อยู่บ้านตามท้องทุ่ง ยามเช้า มีเสียงไก่ขัน มีความเป็นธรรมชาติ (ทั้งที่ชีวิตจริงอยู่แต่ในเมือง)
เพลงนี้ ผมฟังมาไม่ต่ำกว่า พันๆครั้ง (ผมฝันว่า ถ้ามีโอกาสจะไปปลูกบ้านตาม ตจว. จะเปิดเพลงนี้ฟังทุกๆเช้า)
ตอนฟังเพลงนี้ จะคิดถึงบรรยากาศ อยู่บ้านตามท้องทุ่ง ยามเช้า มีเสียงไก่ขัน มีความเป็นธรรมชาติ (ทั้งที่ชีวิตจริงอยู่แต่ในเมือง)
เพลงนี้ ผมฟังมาไม่ต่ำกว่า พันๆครั้ง (ผมฝันว่า ถ้ามีโอกาสจะไปปลูกบ้านตาม ตจว. จะเปิดเพลงนี้ฟังทุกๆเช้า)
แสดงความคิดเห็น
สิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ของพ่อหลวงของเรา ทุกคนจำชิ้นใดได้บ้างครับ ?