"MUSEO SAN AGUSTIN" ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

ประสบการณ์จากการเดินทาง
เรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านสถาปัตยกรรมจากยุคอาณานิคม


แต่ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะครับ ผมไม่ใช่ตากล้องมืออาชีพ ภาพชัดบ้างเบลอบ้างตามประสา เพียงอยากเล่าประสบการณ์การเดินทางในช่วงที่ไปแลกเปลี่ยนงานที่ฟิลิปปินส์ หากใครมีโอกาสได้เดินทางไปที่มะนิลา ที่นี่เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด

มะนิลา (Manila) ประเทศฟิลิปปินส์ เคยเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้า และอุตสาหกรรมมาก่อน อดีตฟิลิปปินส์ เคยตกเป็นเมืองอาณานิคมของสเปน และมีการเข้ามาของคนหลายชนชาติอยู่หลายช่วง ทำให้ที่นี่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมผสมผสานปรับตัวตามยุคสมัย และยังคงหลงเหลือให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ "ซึ่งมะนิลาเมืองที่นักเดินทางหลายคนไฝ่ฝันว่าต้องมาเยือน"




ก้าวแรกที่เดินลงจากรถเหลียวเห็นอาคารเก่าดูงดงามมีเสน่ห์มาก เป็นอาคารที่มีรูปร่างคล้ายอาคารในประเทศแถบตะวันตก  ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันจากธรรมชาติที่ผ่านพ้นเวลามาค่อนข้างยาวนาน หลังคาสีฟ้าโทนเดียวกันกับท้องฟ้าเบื้องบนสดใส



เราทุกคนเดินเป็นกลุ่มใหญ่ได้พร้อมกันตามแนวถนนซึ่งมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นเป็นคนนำขบวน ระหว่างเดินไปเขาก็เล่าเรื่องราวต่างๆ อย่างเชี่ยวชาญ ราวกับว่าเขาอยู่ในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต อาจเป็นเพราะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาที่นี่ จำทำให้เขาได้เล่าข้อมูลต่างๆ ซ้ำๆ จนเชี่ยวชาญก็เป็นได้



ระหว่างทางมัคคุเทศน์เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของทีนี่ แต่ผมวุ่นอยู่กับการถ่ายภาพมากกว่า เพราะฟัง English สำเนียงฟิลิปปินส์ไม่ค่อยเข้าใจ

สองข้างทางมีอาคาร และกำแพงเก่าแก่เต็มไปหมด มีการประยุกต์ผสมผสานกับบ้านเรือนของผู้คนในปัจจุบันที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ หินที่โดนแดดฝนเป็นพื้นที่อาศัยชั้นดีของเหล่าเห็ด รา เฟิร์น ตะไคร้น้ำเกาะ เสมือนธรรมชาติเป็นศิลปินช่วยพิทักษ์ประดับตกแต่งรักษาเมืองแห่งนี้ให้คงความงามไว้



ขณะที่กำลังเดินไปตามแนวถนนเห็นเจ้าม้ายืนเฝ้ารถลิ้นห้อยรอเจ้าของที่กำลังนั่งจิบกาแฟสบายใจในร้าน เห็นแล้วก็อดจินตนาการถึงสภาพการคมนาคมในอดีตที่มีรถม้าวิ่งสวนทางกันไปมาเต็มไปหมดบริเวณนี้ไม่ได้ คงมีพ่อค้า แม่ค้า นักเดินทาง นักธุรกิจ นักบวช และผู้คนเดินทางสัญจรกันให้วุ่น ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางสำคัญทางเศรษฐกิจ ด้วยความเป็นประเทศหมู่เกาะที่เหมาะสำหรับเรือสินค้าขึ้นเทียบท่าพักที่นี่

เห็นแล้วก็คิดเชื่อมโยงไปถึงภาพยนต์ เรื่องแฮรี่พอตเตอร์ ที่ เจ. เค. โรว์ลิง นักประพันธ์วรรณกรรมแฟนตาซีชื่อดัง ที่เล่าเกี่ยวกับมหานครรุ่งเรืองที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ภาพเหล่าพ่อมด แม่มด สวมเสื้อโค้ชสีดำ เดินทางด้วยรถม้าสัญจรไปมาบริเวณนี้เต็มไปหมด นักเรียนมากมายเดินทางไปเรียนวิชาเวทย์มนต์ วิ่งทะลุเข้า-ออก จากกำแพงหินโบราณ



เราเดินมาถึง "MUSEO SAN AGUSTIN" โบสถ์โบราณที่ถูกสร้างขึ้นราว ปี ค.ศ.1599 ตามแบบสถาปัตยกรรมของประเทศสเปน รูปร่างของโบสถ์ยังคงความสมบูรณ์ราวกับว่าถูกสร้างขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ในโบสถ์เต็มไปด้วยสมบัติโบราณล้ำค่ามากมายจัดแสดงให้ชื่นชม ทั้งหินแกะสลัก ไม้แกะสลัก ตำราสอนศาสนา เครื่องทรงเครื่องประดับของกษัตริย์สมัยก่อนมากมาย มีแบบจำลองเรือเดินสมุทร โล่ ดาบ และอาวุธสำหรับการต่อสู้ทำสงครามมากมาย ฯลฯ



ภาพแกะสลักนาดใหญ่ด้านหน้าตัวอาคาร ดูมีมนต์ขลังสะกดสายตามาก ผมรู้สึกคุ้นชินคล้ายกับเทพเจ้าในหนังกรีกโบราณในภาพยนตร์แฟนตาซีที่ฉายบ่อยๆ ในโรงภาพยนต์ ความยิ่งใหญ่ของหินแกะสลักสะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองทางศาสนาคริสต์ที่เข้ามามีอิทธิพลในฟิลิปปินส์ ยังคงยืนสง่าสมบูรณ์และมีอิทธิพลทางความเชื่อของคนที่นี่



ประตูไม้แกะสลักลวดลายบอกเล่าเรื่องราวทางศาสนา และความเชื่อ มีความสูงราว 3 คน ยืนต่อตัวกัน ด้านบนมีรูปแกะสลักรูปเทพเจ้ามีปีกบินอยู่ ยืนจ้องมองแล้วก็อดจินตนาการเห็นภาพแกะสลักบนบานประตูค่อยๆ เลื่อนเป็นกลไกปลดล๊อกประตู เปิดออกให้ผู้มาเยือนเดินทะลุความมืดสู่แสงสว่างภายในที่สวยงาม





ดูเหมือนว่าทุกคนตกอยู่ในมนต์สะกดของหินแกะสลักที่สวยงามเบื้องหน้าที่สามารถเอื้อมมือสัมผัส ความเงาของหินดึงดูดให้หลายคนหยุดยืนพิจารณา ถ้าหินเหล่านี้มีชีวิตถ้าไม่คำรามขู่เยี่ยงราชสีห์ หรืออาจจะวิ่งมาเลียกระแซะขอความรักเยี่ยงสัตว์เลี้ยง เพราะมองดูใบหน้าไม่ชัด เนื่องจากบางส่วนของใบหน้าแตกหลุดหายไป



เมื่อเดินเข้าในตัวอาคารจะเห็นความงามที่ตรึงสะกดอย่างมาก เรื่องเล่าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์สำคัญของฟิลิปปินส์ถูกรวบรวมและจัดแสดงที่นี่ มีทั้งข้อมูลที่เป็นภาษาฟิลิปปินส์ และภาษาอังกฤษติดไว้เต็มไปหมด (ข้อมูลค่อนข้างมีหลากหลายพร้อมให้คนที่สนใจมาศึกษา)



ภายในโบสถ์มีภาพเรื่องเล่าเกี่ยวกับเมืองการปกครองหลายภาพที่สะท้อนให้เห็นสังคมอดีต มีหลายภาพแสดงให้เห็นความทุกยากลำบากของทาส การเป็นแรงงาน สภาวะสงคราม และความไม่เท่าเทียมทางสังคมในสมัยนั้น เพราะฟิลิปปินส์ ต้องเผชิญกับการล่าอาณานิคมไม่ต่างจากหลายๆ ประเทศในแถบภูมิภาคเอเชีย มีการทำสงครามแย่งชิงดินแดนและทรัพยากรธรรมชาติที่นี่ รวมถึงการเข้ามาเพื่อเผยแพร่ทางศาสนาในบริเวณนี้ กว่าจะเป็นประเทศฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มากมายเคยเกิดขึ้น



ภายในโบสถ์มีการตกแต่งลวดลายงดงาม ซึ่งยังคงเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาถึงปัจจุบัน การตกแต่งเป็นลักษณะของการออกแบบภายในเหมือนโบสถ์ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมของคนที่นับถือศาสนาคริสต์ในบ้านเรา แต่ที่นี่มีความพิเศษตรงที่ภายในเป็นศิลปะที่ถูกรักษาไว้ตั้งแต่อดีตที่ยังคงความสมบูรณ์มาก เครื่องแก้วโคมไฟ ห้อยเบื้องบนกระพริบสวยงามเมื่อต้องกับแสงอาทิตย์จากภายนอกที่ส่องเข้าภายใน



หนังสือ คัมภีร์ ตำราเล่มหน้ามากมายถูกจัดวางเรียงไว้ในตู้กระจก กระดาษแต่ละแผ่นหมองคล้ำ คงเป็นเพราะถูกเก็บไว้ที่นี่มาหลายสิบปีแล้ว
เห็นแล้วอยากเอามือยื่นทะลุกระจกหยิบออกมาอ่าน เนื้อหาในหนังสือแต่ละเล่มมีเรื่องราวแตกต่างกันออกไป

บ้างเป็นภาพของพระเยซู พระบิดาแห่งศาสนาคริสต์ บ้างเป็นภาพวาดคล้ายนักบวชแสวงบุญออกเดินทางปลดปล่อยผู้คนจากความทุกข์ยากลำบากด้วยควำสอนทางศาสนา บ้างเสมือนเป็นนิทานเกี่ยวกับเทพเทวดาผู้มีฤทธิ์วิเศษที่เล่าต่อกัน ฯลฯ



นอกจากนี้...
ที่นี่ยังมีรูปปั้นจำลองชีวิตของพระเยซูที่ถูกตรึงบนไม้กางเขนใหญ่ ก้มหน้าหลับไหลด้วยความเจ็บปวดอยู่บนนั้นอย่างเดียวดาย เห็นแล้วอดคิดถึงเรื่องราวการส้นพระชนของพระเยซูที่เคยอ่านผ่านๆ มาที่กล่าวถึง การสิ้นพระชนม์ของพระองค์เป็นเหตุการณ์หัวใจสำคัญ ส่งอิทธิพลให้เกิดเป็นสัญลักษณ์ทางปรัชญาความเชื่อหลายอย่าง



เราทุกคนใช้เวลาเดินเยี่ยมชนที่นี่เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงได้ ทุกคนแยกย้ายเดินชมตามความสนใจ และผมก็เดินถ่ายภาพตามที่ผมสนใจเช่นกัน



การได้มีโอกาสมาเดินเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของมะนิลา ฟิลิปปินส์ เป็นภาพประทับใจหนึ่งที่สำคัญ เพราะคงไม่มีโอกาสบ่อยมากสำหรับการเดินทางมาที่นี่ ความงดงามของศิลปะหลงยุคยังคงยืนสง่าให้เราทุกคนได้เยี่ยมชม และจินตนาการ

กว่าหมู่เกาะบริเวณนี้จะรวมตัวเป็นประเทศได้ในปัจจุบัน คงเป็นหมู่เกาะที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของผู้คน เส้นทางการคมนาคมคงโยงใยเต็มไปหมด สินค้า วัฒนธรรม ความเชื่อ และประเพณี รวมถึงชุดความรู้ต่างๆ คงเลื่อนไหลไปมาตลอดเวลา และไม่แน่ บรรพบุรุษของเราอาจจะเคยเดินทางมาที่นี่ หรือไม่ก็อาจจะเดินทางไปจากที่นี่ "ก็เป็นได้"



***ข้อมูลอาจไม่ละเอียดมาก มีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่