เกาะกระแสละครดัง “ นาคี ” ...กับที่เที่ยวเกี่ยวกับ “ พญานาค ”


สถานที่ในภาพ คือวัดร่องเสือเต้น จ.เชียงราย




          ความเชื่อเรื่องพญานาคในศาสนาพุทธที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน ละครเรื่อง “ นาคี ” ที่กำลังออนแอร์โด่งดังอยู่ในขณะนี้ นอกจากเรื่องของบทภาพยนตร์ ฉากประกอบละคร ดารา นักแสดง คู่พระ คู่นาง และเพลงประกอบละครแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คนพูดถึงกันไม่น้อยก็คือเรื่องของ “พญานาค” ที่มีการแตกหน่อต่อยอดประเด็นออกไปอีกมากมาย
       
       สำหรับบ้านเรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเรื่องเล่า ตำนาน ความเชื่อ รวมไปถึงจินตนาการเกี่ยวกับพญานาค อยู่พอสมควร โดยเฉพาะในภาคอีสาน เนื่องจากวิถีวัฒนธรรมของชาวอีสานนั้นมีความเชื่อ ประเพณี ที่เกี่ยวกับพญานาคอยู่ไม่น้อย

        และนี่ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับพญานาคในภาคอีสาน ที่มีตำนานความเชื่อและเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่น่าเที่ยวและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง


ป่าคำชะโนด อุดรธานี


ป่าคำชะโนด(ภาพ ททท.)



           เมืองคำชะโนด หรือ ป่าคำชะโนด ที่ตั้งอยู่ที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองพญานาค” หรือ “วังนาคินทร์” ซึ่งมีตำนานเรื่องเล่าอันลือลั่นเกี่ยวกับพญานาคว่า
       
       ...ในอดีตโบราณกาลย้อนไปในยุคที่แม่น้ำโขงยังไม่ถือกำเนิดเกิดขึ้น สมัยนั้นมีเหล่าพญานาคอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งมีผู้นำชื่อว่า “สุทโธนาค” ส่วนอีกกลุ่มมีผู้น้ำชื่อ “สุวรรณนาค”
       
       พญานาคทั้ง 2 กลุ่ม อาศัยอยู่ในอาณาจักรแห่งหนึ่งร่วมกันอย่างสงบสุขมาช้านาน โดยต่างฝ่ายต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน หากฝ่ายใดออกไปหาอาหารอีกฝ่ายจะต้องอยู่เฝ้าอาณาจักร และอาหารที่หามาได้จะต้องแบ่งครึ่งกันกิน
       
       ต่อมามีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อฝ่ายสุทโธนาคและบริวารออกหาอาหารได้ช้างมา 1 ตัว และจัดแจงแบ่งครึ่งให้อีกฝ่ายตามปกติ ครั้งต่อมาฝ่ายสุวรรณนาคออกหาอาหารแล้วได้เม่นมา 1 ตัว และก็ได้แบ่งครึ่งเม่นนั้นให้อีกฝ่ายเป็นปกติเช่นกัน

        แต่เมื่อสุทโธนาคเห็นเม่นครึ่งหนึ่งก็เกิดฉงนใจขึ้นว่า ช้างซึ่งขนเล็กๆสั้นๆตนกลับแบ่งให้อีกฝ่ายตั้งเยอะ แต่เม่นซึ่งขนใหญ่กว่าก็แปลว่าเม่นต้องตัวใหญ่กว่าช้างแน่ๆ ทำไมสุวรรณนาคจึงแบ่งมาให้ฝ่ายตนเพียงนิดเดียว ทำให้สุทโธนาคเกิดโมโห แม้สุวรรณนาคจะพยายามอธิบายเท่าไรสุทโธนาคก็ไม่ยอมฟัง มุทะลุดุดันจะหาเรื่องให้ได้
       
       ในที่สุดพญานาคทั้ง 2 กลุ่มก็ทะเลาะกันถึงขั้นรบราฆ่าฟันกันนานถึง 7 ปี ผลพวงจากการสู้รบ ทำให้แผ่นดินสะเทือน เหล่าเทวดาฟ้าดินทั้งหลายอยู่ไม่เป็นสุข ความรู้ไปถึงพระอินทร์ จึงได้เรียกพญานาคทั้ง 2 ฝ่ายไปเจรจาสงบศึกโดยให้แต่ละฝ่ายแข่งกันสร้างแม่น้ำ หากฝ่ายใดสร้างไปออกทะเลก่อนเป็นฝ่ายชนะ และจะให้รางวัลเป็นปลาบึกไปประจำที่แม่น้ำแห่งนั้น
       
       ด้วยความที่สุทโธนาคเป็นพญานาคที่มีนิสัยอารมณ์ร้อน มุทะลุ ขณะที่สร้างแม่น้ำหากมีอุปสรรคเช่นภูเขากั้นขวางทาง ก็จะระเบิดภูเขาหรือไม่ก็สร้างลดเลี้ยวไปโดยไม่พยายามที่จะแก้ปัญหา จึงได้แม่น้ำที่มีโขดหิน เกาะแก่งมากมายระเกะระกะ และมีเส้นทางที่ลดเลี้ยวเคียวคดโค้งไปโค้งมามากที่สุด ต่อมาจึงได้ชื่อว่า “แม่น้ำโขง”
       
       ส่วนฝ่ายสุวรรณนาคเป็นพญานาคที่มีนิสัยสุภาพสุขุมใจเย็น จึงค่อยๆสร้างไปเรื่อยๆคิดไปเรื่อย ทำให้แม่น้ำที่สร้างเป็นเส้นตรง แต่ก็ต้องใช้เวลาในการสร้างนานมากจนกลายเป็นที่มาของชื่อ “แม่น้ำน่าน” ซึ่งผลก็คือฝ่ายสุทโธนาคเป็นผู้ชนะ และได้ปลาบึกจากพระอินทร์เป็นรางวัลตามสัญญา จึงได้ถือว่าแม่น้ำนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของพญานาค


สะพานพญานาคนำไปสู่ป่าคำชะโนด



       ต่อมาเนื่องจากพญานาคเป็นสัตว์เมืองบาดาล ไม่สามารถอยู่บนโลกมนุษย์ได้นาน สุทโธนาคจึงได้ขอให้พระอินทร์กำหนดสถานที่อยู่ให้ชัดเจนและมีทางขึ้นลงระหว่างเมืองบาดาลกับเมืองมนุษย์ ซึ่งพระอินทร์ก็ได้กำหนดจุดที่เป็นประตูเชื่อมต่อไว้ 3 แห่งด้วยกันคือที่เวียงจันทน์ ประเทศลาว 2 แห่ง และแห่งที่ 3 ให้เป็นที่พำนักของสุทโธนาคคือที่ “คำชะโนด” อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในนาม“ป่าคำชะโนด” หรือ “เมืองคำชะโนด”...
       
       ป่าคำชะโนด หรือ วังนาคินทร์ ปัจจุบันมีลักษณะเป็นเกาะ บริเวณรอบๆเกาะคำชะโนดเป็นทุ่งนาโล่งกว้าง โดยมีเฉพาะที่บนเกาะคำชะโนดเท่านั้นที่มีลักษณะเป็นป่าดิบประมาณ 20 กว่าไร่ บนนี้มีไม้หลักคือ“ไม้ชะโนด” ที่เป็นต้นไม้ที่มีลักษณะเป็นลูกผสมระหว่างต้นตาล ต้นมะพร้าว และต้นหมาก ดูสูงชะรูด

       บนเกาะคำชะโนดมีทางเดินพญานาคนำทางมาถึงยังเมืองคำชะโนด หรือวังนาคินทร์ หรือ “วัดสิริสุทโธ” ซึ่งทางด้านซ้ายมือจะมีศาลาที่ประดิษฐานของเจ้าพ่อปู่ศรีสุทโธ หรือสุทโธนาค และเจ้าย่าปทุมมา ส่วนทางด้านขวามือหากเดินตามทางเดินไปเรื่อยๆจะเจอกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งในตำนานก็คือทางขึ้นลงระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์ของเหล่าพญานาคที่พระอินทร์ทรงประทานให้


บ่อพญานาคที่สร้างเชื่อมต่อกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์


        สำหรับเหตุที่เชื่อว่าบ่อน้ำแห่งนี้เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากน้ำในบ่อน้ำแห่งนี้ก็ไม่เคยลดแห้งลง จะรักษาระดับอยู่เท่าเดิมตลอดทั้งปี และเคยมีคนเอาไม้ไผ่ 2 ลำมาต่อกันแล้วหยั่งลงไปวัดความลึกของน้ำแต่หยั่งไม่ถึง
       
       และเชื่อกันว่าน้ำในบ่อนี้จะไปทะลุที่ “แก่งอาฮง” แห่ง จ.บึงกาฬ ในปัจจุบัน



แก่งอาฮง บึงกาฬ


แก่งอาฮง จ.บึงกาฬ


       แก่งอาฮง อ.เมือง จ.บึงกาฬ เป็นจุดที่มีความเชื่อว่าเป็นเส้นทางเชื่อมต่อกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เมืองคำชะโนด จ.อุดรธานี ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น
       
       แก่งอาฮง ได้ชื่อว่าเป็น“สะดือแม่น้ำโขง” มีความเชื่อว่าเป็นจุดที่แม่น้ำโขงมีความลึกที่สุด เคยวัดความลึกในหน้าแล้งได้ถึง 99 วา โดยกระแสน้ำบริเวณนี้จะไหลเชี่ยวมากในฤดูน้ำหลาก และมีกระแสน้ำไหลวนเป็นรูปกรวยขนาดใหญ่
       
       นอกจากนี้ชาวบ้านยังเชื่อว่าบริเวณแก่งอาฮงนั้นเป็นถ้ำของพญานาค ซึ่งมีปากถ้ำอยู่ที่ฝั่งลาว ปัจจุบันถ้ำดังกล่าวมีการสร้างเจดีย์ครอบไว้เพื่อไม่ให้เกิดการบุกรุกเข้าไปภายในถ้ำอีกด้วย


วัดอาฮงศิลาวาส


       ขณะที่บริเวณแก่งอาฮงทางฝั่งไทยนั้นเป็นที่ตั้งของ “วัดอาฮงศิลาวาส” หรือ “วัดอาฮง”ที่ตั้งอยู่ที่บ้านอาฮง ต.ไคศี
       
       วัดอาฮง เป็นวัดริมแม่น้ำโขงที่มีทิวทัศน์อันสวยงาม ตั้งอยู่ติดกับแก่งอาฮง ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นสะดือแม่น้ำโขงที่ถือเป็นส่วนที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขง อีกทั้งยังเชื่อกันว่ามีเส้นทางของพญานาคหรือรูพญานาคอยู่บริเวณนี้
       
       วัดอาฮง เป็นหนึ่งในจุดชมบั้งไฟพญานาคของจังหวัดบึงกาฬ ภายในวัดโดดเด่นไปด้วยการก่อสร้างวัดสอดรับไปกับสภาพพื้นที่ที่มีก้อนหินขนาดยักษ์อยู่เป็นจำนวนมาก


พระพุทธคุวานันท์ศาสดา วัดอาฮง


        สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลำดับสุดท้ายที่วัดแห่งนี้ก็คือ “พระพุทธคุวานันท์ศาสดา” พระพุทธรูปที่งดงามลักษณะเดียวกันกับพระพุทธชินราช ซึ่งเชื่อกันว่าใครที่มาสักการบูชาจะประสบความสำเร็จด้านโชคลาภ และเมตตามหานิยม
       
       นอกจากพระพุทธคุวานันท์ฯแล้ว บริเวณภายในผนังโบสถ์ด้านหลังองค์พระยังมี พระพุทธรูปทองคำศักดิ์สิทธิ์องค์เล็กประดิษฐานอยู่อีก 2 องค์ ซ้าย-ขวา ส่วนภายในบริเวณวัดก็มีรูปปั้นของเทพธิดาสะดือแม่น้ำโขง ซึ่งชาวบ้านนิยมมาบนบานศาลกล่าว เพราะเชื่อว่าจะให้โชคดีด้านความรักและโชคลาภ




มีต่อค่ะ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่