เรามีโอกาสได้รับตั๋วเครื่องบินฟรีจากนกแอร์ ไป-กลับ โฮจิมินห์ เวียดนาม นกแอร์ให้เราสามารถเป็นคนเลือกไฟลท์บินเองได้ เราเลือกไฟลท์เช้าเลยค่ะ 07.35 น. เรามาถึงสนามบินเวลา 05.30 น.ค่ะ ก่อนที่จะไปเช็คอินแวะเข้าไปแลกเงินดอลลาร์ที่เคาน์เตอร์ ครั้งนี้แรกไป 5,500 บาท 2 คน ค่ะ เพื่อที่จะเอาเงินดอลลาร์ไปแลกเงินด่งที่เวียดนาม หลังจากเช็คอินเรียบร้อย (ได้น้ำหนักกระเป๋าคนละ 30 กก.)
ขาไปพกไปแค่ 9 กก. ค่อนข้างเสียดายน้ำหนักกระเป๋า ถึงเวลาผ่านเข้าไปข้างใน
ขอบอกว่าตอนเช้าคิวยาวมาก ยาวจนออกมาด้านนอก ใช้เวลารอผ่าน ตม.ไทย ประมาณ 45 นาที
นกแอร์จัดที่นั่ง Premium ให้ค่ะ ที่นั่งกว้างขึ้นนิดหน่อย มีเครื่องดื่มฟรี 1 รายการค่ะ ไฟลท์นี้ขนมเป็นบราวนี่ค่ะ บรรจุมาในกล่องนกเงือก ตัวกล่องทำเป็นเหมือนรังนกเงือก มีหัวนกเงือกโผล่มา น่ารักมากเลยค่ะ
ส่วนขวดน้ำก็เป็นนกเงือกเช่นเดียวกัน Limited Edition แบบนี้เก็บสิคะ
นั่งเปิดดูแค็ตตาล็อกช้อปปิ้งก็มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนกเงือกให้เลือกมากมายเลยค่ะ
รายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปสมทบทุนมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก
เราก็เลยจัดการซื้อเสื้อยืดมา 2 ตัว ราคาตัวละ 180 บาท ผ้าเนื้อดีมากเลยค่ะ
เรามาถึงสนามบินเตินเซินเญิ้ต ประมาณ 09.05 น. ค่ะ ที่นี่เราไม่ต้องกรอกใบเข้าเมืองนะคะ
เดินถือพาสปอร์ตผ่าน ตม.เข้าไปได้เลยค่ะ คนน้อยใช้เวลาไม่นาน หลังจากนั้นก็ไปรอรับกระเป๋า
แล้วก็มาแลกเงินและซื้อซิมการ์ดค่ะ บริเวณนี้มีเคาน์เตอร์เยอะแยะจนเลือกไม่ถูก
แต่เราเลือก BIDV FOREIGN EXCHAGE ค่ะ ได้เงินมา 2,144,000 ด่ง เป็นครั้งแรกที่จับเงินล้าน
ส่วนซิมการ์ดมาซื้อที่ VINAPHONE ซื้อแบบเล่นเน็ตอย่างเดียว 5 GB 100,000 ด่ง
ที่ร้านจัดแจงเปลี่ยนให้สมัครโปรโมชั่นให้เรียบร้อย เราใช้แชร์เน็ตกันค่ะ ประหยัดดี
ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ออกตะลุยโฮจิมินห์ค่ะ ออกจากสนามบินมองไปทางด้านขวามือ
จะเห็นรถเมล์จอดอยู่ 2 สายนะคะ มี 109 (สีเหลือง) 20,000 ด่ง และ 152 (สีเขียว)
เราลือกนั่ง 152 ค่ะ เพราะแค่ 5,000 ด่ง สายนี้แอร์ไม่ค่อยเย็นเท่าไร แต่ก็พอนั่งได้
ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็ถึงตลาดเบนถั่นค่ะ ซึ่งเป็นใจกลางในการต่อรถไปนั่นโน่นนี่ได้สะดวกสุดๆ
เราเลือกที่พักใกล้ตลาดเบนถั่นแบบสุดๆ เดินประมาณ 300 เมตร
ชื่อโรงแรมฮอง วีน่า เป็นโรงแรมขนาดเล็ก จองผ่านอโกด้า คืนละ 1,223 บาท
รวม 2 คืน บวกภาษีค่าบริการก็ตกประมาณ 2,700 บาท เราใช้แต้มของอโกด้าลดไปเหลือจ่าย 1,905 บาทค่ะ
การเดินทางหันหลังให้ตลาดเบนถั่น แล้วเดินข้ามถนนจากจุดจอดรถเมล์ เลี้ยวซ้ายซอยแรก โรงแรมจะอยู่ขวามือค่ะ
ห้องพักที่นี่สะอาดมาก เงียบสงบ พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ดีเลยค่ะ
เราพักชั้น 4 ห้องพักที่เลือกเป็นวิวเมือง เตียงค่อนข้างใหญ่นอน 2 คนสบายๆ
หมอนมีทั้งแบบแข็งและนุ่ม ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีทั้งตู้เย็น กาน้ำร้อน ไดร์เป่าผม และอุปกรณ์ในห้องน้ำค่ะ
ห้องน้ำก็จะแบ่งโซนเปียกโซนแห้ง ขอบอกว่าน้ำแรงมากสะใจที่สุด
หลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางค่ะ ขามาโรงแรมเห็นร้านข้าวร้านนึงน่ากินมาก
ก็เลยเลือกร้านนี้กินข้าวเที่ยวกันค่ะ ไม่ใช่อาหารพื้นเมืองนะคะ แต่เป็นข้าวมันไก่สิงคโปร์
สั่งข้าวหมูกรอบกับข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูกรอบอร่อยมาก น้ำราดก็อร่อย ทานแกล้มกับผักดอง
ส่วนเป็ดแข็งและเหนียวไปนิดนึงค่ะ มื้อนี้เราจ่ายไปประมาณ 110,000 ด่ง ที่นี่ไม่โกงนะคะ
แต่คิดยิบย่อยทั้งค่าผักดองถ้วยเล็กๆ ค่าแอร์ ค่าน้ำชาที่เผลอเทไป 1 ครั้ง




จากร้านข้าวเราเดินมาขึ้นรถสาย 152 เหมือนเดิมค่ะ
เพราะตอนมาจากสนามบินเห็นวัดนึงมีเจดีย์สวยมาก ก็เลยนั่งรถเมล์สายเดิมกลับไป
ดูจากด้านหน้าวัดแล้วสวยใช่มั้ยคะ ด้านในก็สวยเหมือนกัน แต่ยังไม่ค่อยมากเท่าไร
คนเฝ้าบอกว่าถ้ามาวันหยุดจะคึกคักกว่านี้ มีของขายมากมาย แต่เรามาวันนี้เงียบเหงามาก
ก็เลยใช้เวลาอยู่แค่ 15 นาที ข้ามถนนนั่ง 152 กลับไปตลาดเหมือนเดิมค่ะ
เราจะไปวัดเทียนห่าว อยู่ย่านไชน่าทาวน์ค่ะ การเดินทางจากตลาดเบนถั่น
รอรถเมล์ช่องแรก (หันหลังให้ตลาด) เราขึ้นสาย 01 สามารถเอารูปวัดให้กระเป๋ารถเมล์ดู
เค้าจะบอกจุดลงค่ะ แต่เราอยากนั่งไปจนสุดสายค่ะ เพื่อดูไชน่าทาวน์เวียดนาม
ปล.ที่เวียดนามรถเยอะมาก ทั้งมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ รถเมล์ อาศัยสกิลที่เชี่ยวชาญข้ามถนน แต่ต้องดูทั้งซ้ายขวาก่อนนะคะ
ไชน่าทาวน์ที่นี่ไม่ค่อยเหมือนเยาวราชบ้านเรานะคะ ไม่คึกคัก ไม่มีอาหารขนมขาย
มีผักผลไม้วางบนพื้น ไก่เป็นๆ ใส่เล้าวางขาย ขอบอกว่าวันนี้อากาศร้อนอบอ้าวมากๆ
เดินตรงต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ โชคดีเจอแฟมิลี่ มาร์ท ก็เลยอาศัยเข้าไปนั่งตากแอร์
เราจำได้ว่าพวกแฟมิลี่ มาร์ท ตามต่างประเทศ จะมีอาหารแปลกๆ ขาย เป็นจริงด้วยค่ะ
ที่เวียดนามมีก๋วยเตี๋ยวค่ะ เราสั่ง Pho มากิน ราคา 25,000 ด่ง รสชาติเหมือนมาม่าต้มยำกุ้ง อร่อยมาก
ที่แฟมิลี่ มาร์ท สาขานี้มีชั้นลอยให้นั่งกินด้วยนะคะ
จากจุดนี้ไปเดินประมาณ 1 กม. จะเจอวัดเทียนห่าวค่ะ เป็นวัดจีน
ช่วงนี้ใกล้วันเกิดเราก็เลยถือโอกาสมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ วัดค่อนข้างเงียบสงบร่มเย็นมาก
มีธูปเทียนขายราคาชุดละ 10,000 ด่ง บริเวณรอบๆ วัดก็จะเป็นที่นั่งใต้ร่มไม้
แล้วก็มีด้านในที่ตกแต่งสไตล์จีนเอาไว้นั่งพักผ่อนเพลินๆ ค่ะ
ออกจากวัดมากลายเป็นว่าฝนตั้งเค้ามามืดมาก ก็เลยตัดสินใจนั่งแท็กซี่กลับโรงแรมค่ะ
เราใช้ VINASUN TAXI ค่ะ เพราะเค้าแนะนำมาว่าไม่โกงแน่นอน คิดตามมิเตอร์
แต่แนะนำเลยค่ะควรจะให้เงินแบบพอดี เพราะถ้าต้องทอน 1,000-2,000 ด่ง
เค้าจะไม่ทอน ค่าแท็กซี่จะเริ่มต้นที่ 11,000-12,000 ด่งค่ะ ส่วนระยะทางนั้น 200 เมตร ต่อ 3,000 ด่ง
พอถึงโรงแรมขอเวลาพัก 1 ชม.ค่ะ แต่กลายเป็น 3 ชม.ซะงั้น
เพราะฝนตกหนักมาก จากแพลนเดิมที่เราจะไปโบสถ์ ก็เลยเปลี่ยนไปดินเนอร์ที่
Saigon Sky Deck ช่วงค่ำแทน เราก็เลยใส่เสื้อกันฝนตะลุยเลย ปกติแม่มณีพกเสื้อกันฝนติดกระเป๋าเดินทางตลอดค่ะ
ที่ Saigon Sky Deck เราต้องซื้อบัตรค่าเข้าชมวิวเมืองยามค่ำคืนในราคา 200,000 ด่ง
แต่สำหรับเราแล้ว ถ้าต้องเสีย 2 คน ยอมขึ้นไปทานอาหารที่ชั้น 50 ดีกว่าค่ะ
อย่างน้อยก็ได้ทานอาหารด้วย ชั้น 50-51 จะเป็นร้าน EON ค่ะ
ชั้น 50 เป็นร้านอาหารเวียดนาม และคาเฟ่ ส่วนชั้น 51 เป็นอาหารยุโรป
เราเลือกชั้น 50 ราคาอาหารจะอยู่ที่ 100,000 กว่าไปจนถึงหลักล้านค่ะ
เราเลือกเมนูซี่โครงหมูย่างน้ำผึ้ง เสิรฟ์พร้อมข้าวผัด และกุ้งพันอ้อยค่ะ
ส่วนเครื่องดื่มมีเบียร์ 2 แก้ว น้ำแร่ 1 ขวด และเลือกเครปฝรั่งเศสเป็นขนมหวานค่ะ
ขอบอกว่าอาหารอร่อยมาก โดยเฉพาะกุ้งพันอ้อย คุ้มมากๆ ที่ขึ้นมาค่ะ
แต่โชคไม่ดีตรงฝนตกทำให้เรามองเห็นวิวไม่ค่อยชัดสักเท่าไร เบ็ดเสร็จมื้อนี้รวมเซอร์วิสชาร์จ และภาษี อยู่ที่ 1,068,375 ด่งค่ะ
ก่อนกลับเข้าโรงแรมเราเดินไปที่จัตุรัสโฮจิมินห์ค่ะ ตอนกลางคืนแถมฝนตกแบบนี้ไม่มีคนเลย
เราก็เลยถือโอกาสถ่ายภาพตอนกลางคืนไว้ก่อน แล้วค่อยมาชมภาคกลางวันในวันรุ่งขึ้น
จากนั้นก็เดินดูอะไรไปเรื่อยๆ ส่วนมากที่นี่ผับ และร้านกาแฟเยอะมากค่ะ
คืนนี้นอนฟังเสียงฝนกันต่อไปค่ะ เช้านี้เราตื่นกัน 6 โมงเช้าแล้วลงมากินอาหารเช้าที่ห้องอาหารตอน 7 โมง
เป็นห้องอาหารเล็กๆ อาหารมีให้เลือกไม่มาก มีทั้งอาหารพื้นเมือง และ American Breakfast
มื้อนี้เราเลือกมาม่าไข่ค่ะ อารมณ์อยากกินอะไรร้อนๆ รสชาติเหมือนมาม่าต้มยำกุ้งอีกแล้ว
ส่วนอีกจานเป็น American Breakfast เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังฝรั่งเศสอันใหญ่มาก ขอบอกว่ามื้อนี้อิ่มสุดๆ
เดี๋ยวมาต่อนะคะ
[SR] กินเกือบหรู อยู่เกือบดี ที่โฮจิมินห์ ปล.รูปเยอะมากค่ะ :)
ขาไปพกไปแค่ 9 กก. ค่อนข้างเสียดายน้ำหนักกระเป๋า ถึงเวลาผ่านเข้าไปข้างใน
ขอบอกว่าตอนเช้าคิวยาวมาก ยาวจนออกมาด้านนอก ใช้เวลารอผ่าน ตม.ไทย ประมาณ 45 นาที
ส่วนขวดน้ำก็เป็นนกเงือกเช่นเดียวกัน Limited Edition แบบนี้เก็บสิคะ
นั่งเปิดดูแค็ตตาล็อกช้อปปิ้งก็มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนกเงือกให้เลือกมากมายเลยค่ะ
รายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปสมทบทุนมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก
เราก็เลยจัดการซื้อเสื้อยืดมา 2 ตัว ราคาตัวละ 180 บาท ผ้าเนื้อดีมากเลยค่ะ
เดินถือพาสปอร์ตผ่าน ตม.เข้าไปได้เลยค่ะ คนน้อยใช้เวลาไม่นาน หลังจากนั้นก็ไปรอรับกระเป๋า
แล้วก็มาแลกเงินและซื้อซิมการ์ดค่ะ บริเวณนี้มีเคาน์เตอร์เยอะแยะจนเลือกไม่ถูก
แต่เราเลือก BIDV FOREIGN EXCHAGE ค่ะ ได้เงินมา 2,144,000 ด่ง เป็นครั้งแรกที่จับเงินล้าน
ส่วนซิมการ์ดมาซื้อที่ VINAPHONE ซื้อแบบเล่นเน็ตอย่างเดียว 5 GB 100,000 ด่ง
ที่ร้านจัดแจงเปลี่ยนให้สมัครโปรโมชั่นให้เรียบร้อย เราใช้แชร์เน็ตกันค่ะ ประหยัดดี
จะเห็นรถเมล์จอดอยู่ 2 สายนะคะ มี 109 (สีเหลือง) 20,000 ด่ง และ 152 (สีเขียว)
เราลือกนั่ง 152 ค่ะ เพราะแค่ 5,000 ด่ง สายนี้แอร์ไม่ค่อยเย็นเท่าไร แต่ก็พอนั่งได้
ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็ถึงตลาดเบนถั่นค่ะ ซึ่งเป็นใจกลางในการต่อรถไปนั่นโน่นนี่ได้สะดวกสุดๆ
ชื่อโรงแรมฮอง วีน่า เป็นโรงแรมขนาดเล็ก จองผ่านอโกด้า คืนละ 1,223 บาท
รวม 2 คืน บวกภาษีค่าบริการก็ตกประมาณ 2,700 บาท เราใช้แต้มของอโกด้าลดไปเหลือจ่าย 1,905 บาทค่ะ
การเดินทางหันหลังให้ตลาดเบนถั่น แล้วเดินข้ามถนนจากจุดจอดรถเมล์ เลี้ยวซ้ายซอยแรก โรงแรมจะอยู่ขวามือค่ะ
เราพักชั้น 4 ห้องพักที่เลือกเป็นวิวเมือง เตียงค่อนข้างใหญ่นอน 2 คนสบายๆ
หมอนมีทั้งแบบแข็งและนุ่ม ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีทั้งตู้เย็น กาน้ำร้อน ไดร์เป่าผม และอุปกรณ์ในห้องน้ำค่ะ
ห้องน้ำก็จะแบ่งโซนเปียกโซนแห้ง ขอบอกว่าน้ำแรงมากสะใจที่สุด
ก็เลยเลือกร้านนี้กินข้าวเที่ยวกันค่ะ ไม่ใช่อาหารพื้นเมืองนะคะ แต่เป็นข้าวมันไก่สิงคโปร์
สั่งข้าวหมูกรอบกับข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูกรอบอร่อยมาก น้ำราดก็อร่อย ทานแกล้มกับผักดอง
ส่วนเป็ดแข็งและเหนียวไปนิดนึงค่ะ มื้อนี้เราจ่ายไปประมาณ 110,000 ด่ง ที่นี่ไม่โกงนะคะ
แต่คิดยิบย่อยทั้งค่าผักดองถ้วยเล็กๆ ค่าแอร์ ค่าน้ำชาที่เผลอเทไป 1 ครั้ง
เพราะตอนมาจากสนามบินเห็นวัดนึงมีเจดีย์สวยมาก ก็เลยนั่งรถเมล์สายเดิมกลับไป
ดูจากด้านหน้าวัดแล้วสวยใช่มั้ยคะ ด้านในก็สวยเหมือนกัน แต่ยังไม่ค่อยมากเท่าไร
คนเฝ้าบอกว่าถ้ามาวันหยุดจะคึกคักกว่านี้ มีของขายมากมาย แต่เรามาวันนี้เงียบเหงามาก
ก็เลยใช้เวลาอยู่แค่ 15 นาที ข้ามถนนนั่ง 152 กลับไปตลาดเหมือนเดิมค่ะ
เราจะไปวัดเทียนห่าว อยู่ย่านไชน่าทาวน์ค่ะ การเดินทางจากตลาดเบนถั่น
รอรถเมล์ช่องแรก (หันหลังให้ตลาด) เราขึ้นสาย 01 สามารถเอารูปวัดให้กระเป๋ารถเมล์ดู
เค้าจะบอกจุดลงค่ะ แต่เราอยากนั่งไปจนสุดสายค่ะ เพื่อดูไชน่าทาวน์เวียดนาม
ปล.ที่เวียดนามรถเยอะมาก ทั้งมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ รถเมล์ อาศัยสกิลที่เชี่ยวชาญข้ามถนน แต่ต้องดูทั้งซ้ายขวาก่อนนะคะ
มีผักผลไม้วางบนพื้น ไก่เป็นๆ ใส่เล้าวางขาย ขอบอกว่าวันนี้อากาศร้อนอบอ้าวมากๆ
เดินตรงต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ โชคดีเจอแฟมิลี่ มาร์ท ก็เลยอาศัยเข้าไปนั่งตากแอร์
เราจำได้ว่าพวกแฟมิลี่ มาร์ท ตามต่างประเทศ จะมีอาหารแปลกๆ ขาย เป็นจริงด้วยค่ะ
ที่เวียดนามมีก๋วยเตี๋ยวค่ะ เราสั่ง Pho มากิน ราคา 25,000 ด่ง รสชาติเหมือนมาม่าต้มยำกุ้ง อร่อยมาก
ที่แฟมิลี่ มาร์ท สาขานี้มีชั้นลอยให้นั่งกินด้วยนะคะ
ช่วงนี้ใกล้วันเกิดเราก็เลยถือโอกาสมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ วัดค่อนข้างเงียบสงบร่มเย็นมาก
มีธูปเทียนขายราคาชุดละ 10,000 ด่ง บริเวณรอบๆ วัดก็จะเป็นที่นั่งใต้ร่มไม้
แล้วก็มีด้านในที่ตกแต่งสไตล์จีนเอาไว้นั่งพักผ่อนเพลินๆ ค่ะ
เราใช้ VINASUN TAXI ค่ะ เพราะเค้าแนะนำมาว่าไม่โกงแน่นอน คิดตามมิเตอร์
แต่แนะนำเลยค่ะควรจะให้เงินแบบพอดี เพราะถ้าต้องทอน 1,000-2,000 ด่ง
เค้าจะไม่ทอน ค่าแท็กซี่จะเริ่มต้นที่ 11,000-12,000 ด่งค่ะ ส่วนระยะทางนั้น 200 เมตร ต่อ 3,000 ด่ง
เพราะฝนตกหนักมาก จากแพลนเดิมที่เราจะไปโบสถ์ ก็เลยเปลี่ยนไปดินเนอร์ที่
Saigon Sky Deck ช่วงค่ำแทน เราก็เลยใส่เสื้อกันฝนตะลุยเลย ปกติแม่มณีพกเสื้อกันฝนติดกระเป๋าเดินทางตลอดค่ะ
แต่สำหรับเราแล้ว ถ้าต้องเสีย 2 คน ยอมขึ้นไปทานอาหารที่ชั้น 50 ดีกว่าค่ะ
อย่างน้อยก็ได้ทานอาหารด้วย ชั้น 50-51 จะเป็นร้าน EON ค่ะ
ชั้น 50 เป็นร้านอาหารเวียดนาม และคาเฟ่ ส่วนชั้น 51 เป็นอาหารยุโรป
เราเลือกชั้น 50 ราคาอาหารจะอยู่ที่ 100,000 กว่าไปจนถึงหลักล้านค่ะ
ส่วนเครื่องดื่มมีเบียร์ 2 แก้ว น้ำแร่ 1 ขวด และเลือกเครปฝรั่งเศสเป็นขนมหวานค่ะ
ขอบอกว่าอาหารอร่อยมาก โดยเฉพาะกุ้งพันอ้อย คุ้มมากๆ ที่ขึ้นมาค่ะ
แต่โชคไม่ดีตรงฝนตกทำให้เรามองเห็นวิวไม่ค่อยชัดสักเท่าไร เบ็ดเสร็จมื้อนี้รวมเซอร์วิสชาร์จ และภาษี อยู่ที่ 1,068,375 ด่งค่ะ
เราก็เลยถือโอกาสถ่ายภาพตอนกลางคืนไว้ก่อน แล้วค่อยมาชมภาคกลางวันในวันรุ่งขึ้น
จากนั้นก็เดินดูอะไรไปเรื่อยๆ ส่วนมากที่นี่ผับ และร้านกาแฟเยอะมากค่ะ
เป็นห้องอาหารเล็กๆ อาหารมีให้เลือกไม่มาก มีทั้งอาหารพื้นเมือง และ American Breakfast
มื้อนี้เราเลือกมาม่าไข่ค่ะ อารมณ์อยากกินอะไรร้อนๆ รสชาติเหมือนมาม่าต้มยำกุ้งอีกแล้ว
ส่วนอีกจานเป็น American Breakfast เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังฝรั่งเศสอันใหญ่มาก ขอบอกว่ามื้อนี้อิ่มสุดๆ
เดี๋ยวมาต่อนะคะ