ติดการพนันขั้นโคม่า คิดได้ แต่บังคับตัวเองไม่ได้ จนเป็นหนี้เกินจะรับไหว

สวัสดีค่ะ ตอนนี้เป็นทุกข์ใจมาก เนื่องจากพี่ชายแท้ๆของตัวเองติดการพนันค่ะ
เรยอยากขอคำปรึกษา ขอคำแนะนำจากทุกๆคน ไม่ว่าจะเป้นสถานบำบัดอาการติดการพนัน
หรือคุณหมอ หรือยา หรือวิธีการให้กำลังใจ หรือวิธีการจัดการกับคนป่วยค่ะ

ก่อนอื่นจะขอเล่าเรื่อง แบบคร่าวๆ ให้เพื่อนๆฟังก่อนนะคะ
คือมีพี่ชายวัยราวๆสามสิบกลางๆแล้วค่ะ ครอบครัวเราขาดคุณพ่อค่ะ เพราะคุณพ่อเสียไปตั้งแต่เรายังเล็กๆ
เรามีกันสามคนแม่ลูก : คุณแม่ พี่ชาย และน้องสาว ซึ่งก็คือตัวเราเอง ตอนนี้เราใช่ชีวิตอยู่ต่างประเทศ
ถือว่าเป็นเสาหลักของบ้านอยู่ ณ ช่วงเวลานี้ก็ว่าได้

พี่ชายเป็นคนที่ไม่เคยเจอความลำบากในชีวิตมาก่อนค่ะ เรียนจบโท มีหน้าที่การงานที่โอเค แต่งงาน และตอนนี้กำลังจะมีลูก....
แต่ด้วยความที่พี่ชายหวังจะหาเงินเพิ่มทางลัด เมื่อสองปีก่อนเลยไปเล่นหุ้นกับเพื่อน จนเสียไปล้านกว่าบาท ภายในเวลาชั่วพริบตา!!

คุณแม่ขายที่ทาง เกือบจะทุกๆอย่างที่เปนสมบัติ เพื่อช่วยพี่ชายใช้หนี จับก้อนนั้นไปโปะก้อนนี้ เพื่อให้เหลือหนี้น้อยที่สุด
จนตอนนี้คุณแม่ก็เหลือแค่บ้านกับรถยนต์.... ไม่กี่เดือนมานี้ พี่ชายเรื่มไปเล่นการพนันในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ที่มีตัวเลข เอ้ก เอ้ก...
จากวันนั้น... ใครจะคิดว่า จะนำมาสู่หายนะในวันนี้......... เล่นพนันจนสร้างหนี้ก้อนใหม่ มาอีกเกือบล้าน เศร้า

ณ วันนั้นที่พี่มาเล่าให้แม่ฟัง เพราะพี่เรื่มมีอาการเหมือนคนจะเป็นบ้าค่ะ ตัวสั่น ทุบหัวตัวเอง ตัวเหลืองๆ นอนไม่ได้
คุณแม่ก็เปนกังวลมาก มาเล่าให้เราฟังอีกที เราจึงนั่งอ่าน หาข้อมูลหลายๆอย่าง จนวิเคราะห์ด้วยตัวเองแน่ชัดว่า
พี่ชายป่วย และมีการอาการติดการพนันอย่างจริงจัง

เราบินกลับไทยไปเมื่อสองเดือนก่อน พาเค้าไปหาหมอ ช่วยเหลือเรื่องเงิน เท่าที่จะช่วยได้ คอยให้กำลังใจตลอด
จนเค้าเรื่มดีขึ้นเรื่อยๆ เราก็บินกลับมาทำงานต่อ.... โดยมีคุณแม่เข้ามาช่วยควบคุมเรื่องเงินให้พี่เรา

ทุกๆอย่างเหมือนจะเริ่มดี พี่ชายเราคิดว่าเค้าดีแล้ว หายแล้ว ไม่ได้เปนไร เค้าก็หยุดกินยาไปเอง ไม่ไปหาหมอตามนัด
เราก็คงผิดที่ไม่ค่อยได้ ทักเค้าไปบ่อยๆเหมือนเดิม เพราะคิดว่าเค้าคงดีขึ้นแล้ว ประกอบกับเชื่อในคำสัญญาที่พี่เคยให้ไว้ว่าจะไม่กลับไปเล่นอีก

เวลาผ่านไปเกือบเดือนกว่า..... เมื่อวานพี่ชายเราคงทนไม่ไหว บอกว่ามีเรื่องจะสารภาพ....................
พี่ชายเรากลับไปเล่นเว็บพนันนั่นอีก แล้วก้อยังเล่าไม่หมด ปิดนึ่นนี่ โกหกคนรอบข้างทุกๆคน

จนในที่สุดเราก้อพยายามถาม ได้ความว่า รอบนี้หมดไปอีก สามแสนสองหมื่นบาท T^T
ตอนนี้เราก็ไม่รู้แล้วว่า เค้าพูดความจริงหมดมั้ย.. แต่สิ่งเดียวที่เราพยายามบอกเค้าคือ

ขอให้ยอมรับความจริงว่าตัวเองป่วย แล้วต้องรักษาอย่างจริงจัง พี่เรายอมรับนะ แต่เค้ากลัวแม่เสียใจ
ไม่อยากให้เราบอกแม่เรื่องที่ไปสร้างหนี้มาอีก เราก็สงสารแม่เราใจจะขาด..... ตอนนี้ไม่รู้แล้วว่าควรเล่าให้แม่ฟังหรือไม่???

ปัญหาโลกแตกอีกอย่างนึงคือ พี่ชายเราเลือกที่จะไม่เล่าความจริงทั้งหมดให้ภรรยาฟัง ด้วยเหตุผลที่กลัวว่าภรรยาจะรับไม่ได้
คือเค้าใช้ชีวืตคู่กันมายังไง เราก็ไม่รู้มากมาย แล้วพี่เค้าตั้งท้องอยู่ด้วย เรยไม่กล้าที่จะเล่า.... ทำให้ไม่มีใครใกล้ตัวที่พี่เราคุยด้วยได้

พี่เราเกิดอาการกลัว ระแวง ย้ำคิดย้ำทำ เครียด ตัวสั่น ตัวชาบางที.... มีแค่เราที่พี่เค้าพอคุยได้ ก็จะเทคมาหาเราเรื่อยๆช่วงนี้
ตอนนี้คือเราบอกให้พี่ไปหาหมอจิตเวชคนเดิมที่สั่งยาให้ครั้งที่เราพาไป พี่เค้าจะไปวันพฤ นี้ค่ะ แต่เราก็ไม่รู้เรยว่า.. อนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไงต่อ

หากเพื่อนๆคนไหนได้ผ่านมาอ่านบทความนี้ อยากจะแนะนำอะไร เราจะขอขอบคุณเป็นอย่างมากเรยค่ะ
มาแบ่งปันความทุกข์ ความสุขกันก็ได้นะคะ หรือมาส่งยิ่มให้กันก็ยังดี ยิ้ม

ขอบคุณมากค่ะ
อมยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่