ผมได้มีโอกาสดูรายการตีสิบเดย์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่เป็นเทปน้าต๋อย เซมเบ้
ตรงที่น้าต๋อยพูดถึงเรื่องที่คนชอบหาว่าการ์ตูนไร้สาระ มอมเมาเยาวชน โตขึ้นเด็กจะทำอะไร แล้วสุดท้ายคนคนนั้นก็เป็นหมอที่มารักษาน้าต๋อยตอนไม่สบาย และหลายคนก็มีการ์ตูนที่น้าต่อยพากย์เป็นแรงบันดาลใจในการที่จะประกอบอาชีพต่าง ๆ
ทำให้ผมนึกถึงตัวเองที่ก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน
ตอนเด็กผมก็ดูช่อง 9 การ์ตูน ทั้งที่ฉายตอนเย็นวันจันทร์-ศุกร์ รวมไปถึงตอนเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ แน่นอนว่ามันต้องมีน้าต๋อยพากย์ด้วย ที่จำได้อีกอย่างคือมีรายการการ์ตูน 9 เกมที่น้าต๋อยเป็นพิธีกรเอง ถามคำถามทั้งที่อยู่ในบทเรียนแล้วก็คำถามเกี่ยวกับการ์ตูน เป็นอีกหนึ่งความทรงจำของช่วงชีวิตวัยเด็กเลยแหละ
ส่วนใหญ่ผมจะเน้นดูไปทางพวกหนังฮีโร่ต่าง ๆ เช่น อุลตร้าแมน ไรเดอร์ เซ็นไต (ขบวนการห้าสี) ก็ดูทั้งที่ฉายช่อง 9 และไปเช่าวิดีโอมาดู ก็มีบ้างที่ไม่ใช่ทีมที่น้าต๋อยพากย์ จำได้เลยว่าช่วงอนุบาล 3 ผมจะบ้าดูอะไรพวกนี้มาก ทุกวันศุกร์จะต้องไปเช่าวิดีโอจากร้านแถวบ้านมาดู เพื่อนแถวบ้านก็มาดูด้วยเช่นกัน ในวิดีโอไม่ใช่ทีมพากย์ของน้าต๋อย แต่ก็เป็นทีมวิดีโอสแควร์ที่เป็นอีกทีมในตำนานของวงการหนังฮีโร่ในไทย (จริง ๆ นักพากย์ในทีมวิดีโอสแควร์ก็มาจากช่อง 9 นั่นแหละ)
ช่วง ม.1 ก็เป็นอีกช่วงที่ผมบ้าหนังพวกนี้มาก โดยเฉพาะขบวนการห้าสี พอดูแล้วมันก็เกิดความอยากรู้ว่าตัวหนังสือที่มันปรากฏทั้งในไตเติ้ลและป้ายในเรื่องต่าง ๆ มันอ่านว่าอะไร แปลว่าอะไร พอรู้ว่าโรงเรียนที่ผมเรียนมีแผนการเรียนภาษาญี่ปุ่นเลยทำให้ผมตั้งใจที่จะเรียนภาษาญี่ปุ่นมาตั้งแต่ตอน ม.1 เลย แล้วผมก็ทำตามนั้นเมื่อขึ้นชั้น ม.ปลาย หลังจากนั้นชีวิตผมก็เข้าสุ่โลกของภาษาญี่ปุ่น ซึ่งอาจารย์มักจะบอกเสมอว่าถูกทางแล้วที่เลือกมาเรียนภาษาญี่ปุ่น เพราะมีบริษัท มีงานรองรับเยอะแยะ และเงินเดือนในสายล่ามภาษาญี่ปุ่นก็สูงมาก พร้อมยกตัวอย่างรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จให้ฟัง
ปัจจุบันนี้ผมก็ทำงานเป็นล่ามภาษาญี่ปุ่นอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งจริง ๆ ผมเป็นคนที่ทำอะไรไม่ค่อยเป็นเท่าไร ถ้าไม่ได้เรียนภาษาญี่ปุ่น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ผมจะทำงานอะไรอยู่ และจะมีชีวิตเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้
ก่อนจะเรียนภาษาญี่ปุ่นผมต้องได้ยินคนว่าการ์ตูนมามากมาย แม้แต่เพื่อนวัยเดียวกับผมที่ชอบว่าว่า "ไร้สาระ" บ้าง "ปัญญาอ่อนบ้าง" อยากจะบอกว่าการ์ตูนมันก็ไม่ใช่ไร้สาระหรือมอมเมาเยาวชนเสมอไป อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งล่ะที่ใช้การ์ตูนเป็นแรงบันดาลใจในการเรียน และทำงานในตอนนี้
สาระจากเรื่องไร้สาระ แรงบันดาลใจที่ทำให้ผมเรียนภาษาญี่ปุ่น
ตรงที่น้าต๋อยพูดถึงเรื่องที่คนชอบหาว่าการ์ตูนไร้สาระ มอมเมาเยาวชน โตขึ้นเด็กจะทำอะไร แล้วสุดท้ายคนคนนั้นก็เป็นหมอที่มารักษาน้าต๋อยตอนไม่สบาย และหลายคนก็มีการ์ตูนที่น้าต่อยพากย์เป็นแรงบันดาลใจในการที่จะประกอบอาชีพต่าง ๆ
ทำให้ผมนึกถึงตัวเองที่ก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน
ตอนเด็กผมก็ดูช่อง 9 การ์ตูน ทั้งที่ฉายตอนเย็นวันจันทร์-ศุกร์ รวมไปถึงตอนเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ แน่นอนว่ามันต้องมีน้าต๋อยพากย์ด้วย ที่จำได้อีกอย่างคือมีรายการการ์ตูน 9 เกมที่น้าต๋อยเป็นพิธีกรเอง ถามคำถามทั้งที่อยู่ในบทเรียนแล้วก็คำถามเกี่ยวกับการ์ตูน เป็นอีกหนึ่งความทรงจำของช่วงชีวิตวัยเด็กเลยแหละ
ส่วนใหญ่ผมจะเน้นดูไปทางพวกหนังฮีโร่ต่าง ๆ เช่น อุลตร้าแมน ไรเดอร์ เซ็นไต (ขบวนการห้าสี) ก็ดูทั้งที่ฉายช่อง 9 และไปเช่าวิดีโอมาดู ก็มีบ้างที่ไม่ใช่ทีมที่น้าต๋อยพากย์ จำได้เลยว่าช่วงอนุบาล 3 ผมจะบ้าดูอะไรพวกนี้มาก ทุกวันศุกร์จะต้องไปเช่าวิดีโอจากร้านแถวบ้านมาดู เพื่อนแถวบ้านก็มาดูด้วยเช่นกัน ในวิดีโอไม่ใช่ทีมพากย์ของน้าต๋อย แต่ก็เป็นทีมวิดีโอสแควร์ที่เป็นอีกทีมในตำนานของวงการหนังฮีโร่ในไทย (จริง ๆ นักพากย์ในทีมวิดีโอสแควร์ก็มาจากช่อง 9 นั่นแหละ)
ช่วง ม.1 ก็เป็นอีกช่วงที่ผมบ้าหนังพวกนี้มาก โดยเฉพาะขบวนการห้าสี พอดูแล้วมันก็เกิดความอยากรู้ว่าตัวหนังสือที่มันปรากฏทั้งในไตเติ้ลและป้ายในเรื่องต่าง ๆ มันอ่านว่าอะไร แปลว่าอะไร พอรู้ว่าโรงเรียนที่ผมเรียนมีแผนการเรียนภาษาญี่ปุ่นเลยทำให้ผมตั้งใจที่จะเรียนภาษาญี่ปุ่นมาตั้งแต่ตอน ม.1 เลย แล้วผมก็ทำตามนั้นเมื่อขึ้นชั้น ม.ปลาย หลังจากนั้นชีวิตผมก็เข้าสุ่โลกของภาษาญี่ปุ่น ซึ่งอาจารย์มักจะบอกเสมอว่าถูกทางแล้วที่เลือกมาเรียนภาษาญี่ปุ่น เพราะมีบริษัท มีงานรองรับเยอะแยะ และเงินเดือนในสายล่ามภาษาญี่ปุ่นก็สูงมาก พร้อมยกตัวอย่างรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จให้ฟัง
ปัจจุบันนี้ผมก็ทำงานเป็นล่ามภาษาญี่ปุ่นอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งจริง ๆ ผมเป็นคนที่ทำอะไรไม่ค่อยเป็นเท่าไร ถ้าไม่ได้เรียนภาษาญี่ปุ่น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ผมจะทำงานอะไรอยู่ และจะมีชีวิตเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้
ก่อนจะเรียนภาษาญี่ปุ่นผมต้องได้ยินคนว่าการ์ตูนมามากมาย แม้แต่เพื่อนวัยเดียวกับผมที่ชอบว่าว่า "ไร้สาระ" บ้าง "ปัญญาอ่อนบ้าง" อยากจะบอกว่าการ์ตูนมันก็ไม่ใช่ไร้สาระหรือมอมเมาเยาวชนเสมอไป อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งล่ะที่ใช้การ์ตูนเป็นแรงบันดาลใจในการเรียน และทำงานในตอนนี้