หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ประโยชน์ของความขี้เกียจ
กระทู้สนทนา
แต่งเรื่องสั้น
บทความ
ปัญหาชีวิต
ประโยชน์ของความขี้เกียจ
สวัสดีครับ ที่เกริ่นมาแบบนี้ใช่ว่าการขี้เกียจนั้นจะมีความดีอะไรมากมายนะครับ
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
ขี้เกียจ เป็นคำกริยา แปลว่า มีนิสัยไม่ชอบทำงาน เช่น เด็กคนนี้ขี้เกียจ, เกียจคร้าน ก็ว่า, รู้สึกไม่อยากทำเพราะไม่เห็นประโยชน์เป็นต้น เช่น ขี้เกียจเถียง; เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น (ใช้ในความประชดประชัน), ใช้เข้าคู่กับคำ จะ เป็น ขี้เกียจจะ เช่น พอให้เงินเข้าหน่อย ขี้เกียจจะรีบทำเสียอีก, ขี้คร้าน หรือ ขี้คร้านจะ ก็ว่า.
แต่ผมจะพูดในมุมมองที่ว่าความขี้เกียจมันก่อให้เกิดนวัตกรรมวิวัฒนาการต่างๆขึ้นมา สำหรับบางคนนะเมื่อความขี้เกียจเข้าสิงร่าง มันจะก่อให้เกิดแนวคิดที่ว่าเราขี้เกียจทำอย่างนั้นขี้เกียจทำอย่างนี้ ในเมื่อขี้เกียจแล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อตอบสนองความขี้เกียจตัวเอง
ทางออกที่ง่ายที่สุดคือ การคิดคิดหาแนวทางนั้นๆ ถ้าเราอยากคุยกับคนทางไกลแต่ขี้เกียจเดินทางก็สร้างโทรศัพท์ ขี้เกียจนั่งรถไฟเดินทางข้ามทวีป ก็คิดค้นเครื่องบิน ขี้เกียจนั่นขี้เกียจนี่ก็สร้างอุปกรณ์นู่นนี่นั่นเพื่อมาตอบสนองความขี้เกียจของตน สำหรับคนอื่นที่ขี้เกียจสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเองหรือล้มเลิกเพราะทำไม่ได้ทำไม่เป็นก็เลือกที่จะเสพสิ่งนั้นด้วยการเช่าซื้อมาใช้งาน
เห็นไหมครับความขี้เกียจมันร้ายแรงขนาดไหน ร้ายแรงจนก่อให้เกิดความคิดแปลกๆใหม่ๆ สำหรับคนที่นิยมขวาจัดจะมองว่าคนๆนั้นว่าเขากำลังทำอะไรเป็นบ้าหรือเปล่า ทำไมชอบทำอะไรที่มันแปลกๆ ใครจะไปคิดว่าโทรศัพท์กับกล้องหรือแม้แต่เครื่องเสียงจะรวมกันได้ หากย้อนกลับไปสัก 10 กว่าปีที่แล้วเคยมีคนคิดว่าจะทำมือถือให้เป็นจอสัมผัสสั่งงานด้วยเสียงได้เพียงเพราะขี้เกียจกดปุ่ม แล้วเราพร้อมหรือยังที่จะขี้เกียจเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆหรือสิ่งเหล่านั้นสำหรับตัวเองเพื่อตอบสนองความขี้เกียจ
ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านครับ
ขี้เกียจโว๊ยยยยยยยย!! >.<
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เพิ่งรู้ที่มา! ทำไมคนไทยเรียก "เนื้อ" ถึงเข้าใจได้ว่าเป็น "เนื้อวัว" ไม่ใช่เนื้อสัตว์อื่น
ทำไมคนไทยเรียก "เนื้อ" แล้วมักหมายถึง "เนื้อวัว" โดยเฉพาะ? เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเวลาเราพูดถึงคำว่า "เนื้อ" คนไทยจำนวนมากถึงเข้าใจว่าเป็น เนื้อวัว ทั้งที่จริง ๆ แล้ว เนื้อหม
สมาชิกหมายเลข 2469579
กิน ,รับประทาน, และทาน🌶️🧄🌿✌️🤤😋😃😄😁 🍽✌️ ในทัศนะของผม สำหรับห้องครัว
กิน ,รับประทาน, และ ทาน+.... 🌶️🧄🌿✌️🤤😋😃😄😁 🍽✌️ ในทัศนะของผม สำหรับห้องครัว ในหลายช่วง
กานต์(วีระพัฒน์)
หงุดหงิดกับการปลอกผักผลไม้
เห็นหลายๆ คนในห้องก้นครัวมักจะเข้าใจผิดระหว่าง ปอกผลไม้ กับ ปลอกผลไม้ ว่าคำไหนกันแน่ที่ถูกต้อง วันนี้จึงอยากนำความหมายจากพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน มาฝากทุกคนครับ คำว่า ปอก เป็นคำกริยา แปลว่า เอาเปล
สมาชิกหมายเลข 1373488
วันวิสาขบูชา คือ วันอะไร ?
วิสาขบูชาทำได้มากกว่าเวียนเทียนอ่านว่า วิ-สา-ขะ-บู-ชาแยกศัพท์เป็น วิสาข + บูชา(๑) “วิสาข”ศัพท์เดิมเป็น “วิสาขา” (วิ-สา-ขา) (เป็น “วิสาข” ก็มี) รากศัพ
สมาชิกหมายเลข 8748707
ทำไมต้องเรียกการประกวดภาพถ่าย ที่ใช้ยอด like ตัดสิน ว่าการประกวดครับ ^_^
ความหมายจาก พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน ประกวด ก. แข่งขันเพื่อเลือกเฟ้นเอาดี โดยมีการตัดสิน เช่น ประกวดนางงาม ประกวดบทความ. ความหมายจาก Google ประกวด คำกริยา แข่งขันเพื่อคัดเลือกสิ่งที่ดีที่
สมาชิกหมายเลข 1067621
แต่งประโยคจากคำว่า เถื่อน ถ่อย :)
เถื่อน หมายถึง นอกกฎหมาย ถ่อย หมายถึง ว.ชั่ว เลว ทราม. ตรงข้ามกับกริยาที่ดี :) หมายถึง ว. หยาบ, ตํ่าช้า, เลวทราม(ใช้เป็นคำด่า) ที่มา : พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน เมื่อเราเอา 3คำนี้มาแต่งป
เพื่อนชวนไปแอบดู
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542
พจนานุกรมเล่มนี้เป็นพจนานุกรมฉบับล่าสุดที่ใช้ในไทยแล้วใช่มั้ยคะ เคยเห็นในวิกิพีเดียว่ามีของปี 2554 ออกมาแล้ว แต่หาข้อมูลไม่ได้เลย อยากรบกวนถามผู้รู้ว่าทางราชบัณฑิตยสถานยังไม่มีนโยบายในการชำระพจนานุกร
wanz
อิทธิบาท ตามพระไตรปิฎก
หลายครั้งที่ผู้ศึกษา อาจสับสนในเรื่องของ อิทธิบาท ๔ ซึ่งอาจเป็นผลจากคำสอนยุคหลัง ที่นำเอาหลักธรรมไปปรับกับการงานในปัจจุบัน จึงขอให้ข้อมูลสำหรับศึกษาในกระทู้นี้ อิทธิบาท (บาลีวันละคำ 3,386)
ทำหมู
กลอน วารีแยกสาย toshare
กฺลอน น. คำประพันธ์ ซึ่งแต่เดิมเรียก. คำเรียงที่มีสัมผัสทั่วไป จะเป็นโคลง ฉันท์ กาพย์ หรือร่าย ก็ตาม เช่นในคำว่า ชุมนุมตำรากลอน ครั้นเรียกเฉพาะคำประพันธ์ เฉพา
สมาชิกหมายเลข 6522132
ร้อยกรอง 3 toshare
ประเด็น ร้อยกรอง ที่นำเสนอ จะขอ เน้น "ง่าย" เป็นสำคัญ จึงขอเสนอ ร่ายสุภาพ ที่ลดเกณฑ์ ครับ https://m.pantip.com/topic/35094674/comment1?sc=Jgmklqv พจนานุกรมศัพท์วรรณกรรมไทย ภาค ฉันทลักษณ์
สมาชิกหมายเลข 6522132
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
แต่งเรื่องสั้น
บทความ
ปัญหาชีวิต
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ประโยชน์ของความขี้เกียจ
สวัสดีครับ ที่เกริ่นมาแบบนี้ใช่ว่าการขี้เกียจนั้นจะมีความดีอะไรมากมายนะครับ
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
ขี้เกียจ เป็นคำกริยา แปลว่า มีนิสัยไม่ชอบทำงาน เช่น เด็กคนนี้ขี้เกียจ, เกียจคร้าน ก็ว่า, รู้สึกไม่อยากทำเพราะไม่เห็นประโยชน์เป็นต้น เช่น ขี้เกียจเถียง; เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น (ใช้ในความประชดประชัน), ใช้เข้าคู่กับคำ จะ เป็น ขี้เกียจจะ เช่น พอให้เงินเข้าหน่อย ขี้เกียจจะรีบทำเสียอีก, ขี้คร้าน หรือ ขี้คร้านจะ ก็ว่า.
แต่ผมจะพูดในมุมมองที่ว่าความขี้เกียจมันก่อให้เกิดนวัตกรรมวิวัฒนาการต่างๆขึ้นมา สำหรับบางคนนะเมื่อความขี้เกียจเข้าสิงร่าง มันจะก่อให้เกิดแนวคิดที่ว่าเราขี้เกียจทำอย่างนั้นขี้เกียจทำอย่างนี้ ในเมื่อขี้เกียจแล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อตอบสนองความขี้เกียจตัวเอง
ทางออกที่ง่ายที่สุดคือ การคิดคิดหาแนวทางนั้นๆ ถ้าเราอยากคุยกับคนทางไกลแต่ขี้เกียจเดินทางก็สร้างโทรศัพท์ ขี้เกียจนั่งรถไฟเดินทางข้ามทวีป ก็คิดค้นเครื่องบิน ขี้เกียจนั่นขี้เกียจนี่ก็สร้างอุปกรณ์นู่นนี่นั่นเพื่อมาตอบสนองความขี้เกียจของตน สำหรับคนอื่นที่ขี้เกียจสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเองหรือล้มเลิกเพราะทำไม่ได้ทำไม่เป็นก็เลือกที่จะเสพสิ่งนั้นด้วยการเช่าซื้อมาใช้งาน
เห็นไหมครับความขี้เกียจมันร้ายแรงขนาดไหน ร้ายแรงจนก่อให้เกิดความคิดแปลกๆใหม่ๆ สำหรับคนที่นิยมขวาจัดจะมองว่าคนๆนั้นว่าเขากำลังทำอะไรเป็นบ้าหรือเปล่า ทำไมชอบทำอะไรที่มันแปลกๆ ใครจะไปคิดว่าโทรศัพท์กับกล้องหรือแม้แต่เครื่องเสียงจะรวมกันได้ หากย้อนกลับไปสัก 10 กว่าปีที่แล้วเคยมีคนคิดว่าจะทำมือถือให้เป็นจอสัมผัสสั่งงานด้วยเสียงได้เพียงเพราะขี้เกียจกดปุ่ม แล้วเราพร้อมหรือยังที่จะขี้เกียจเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆหรือสิ่งเหล่านั้นสำหรับตัวเองเพื่อตอบสนองความขี้เกียจ
ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านครับ
ขี้เกียจโว๊ยยยยยยยย!! >.<