คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ตามที่ผมเข้าใจนะ
ความรู้สึกร้อนหรือหนาวอยู่ที่สมองที่ควบคุมเกี่ยวกับอุณหภูมิของร่างกาย ผมจำชื่อไม่ได้
ปกติ อุณหภูมิร่างกาย(core temperature) ที่สมองรับรู้จะถูกตั้งเป็น set point ไว้ที่ประมาณ 37C เพื่อควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย เหมือน thermostat
ถ้าอุณหภูมิร่างกายเกิดต่ำกว่านี้ก็จะหนาว ร่างกายก็จะพยายามสร้างความร้อนและลดการระบายความร้อน
ถ้าสูงกว่าก็ร้อน ร่างกายก็จะพยายามระบายความร้อนออกไป
เวลาเป็นไข้ค่า set point จะถูกขยับให้สูงขึ้น เพื่อที่อุณหภูมิร่างกายจะได้สูงขึ้นเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค
พอค่า set point ถูกเปลี่ยนจาก 37 C เป็น 38-40C แต่อุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ 37C ก็เลยรู้สึกหนาว สะท้าน การสั่นของกล้ามเนื้อช่วยในการสร้างความร้อนด้วยเช่นกัน
แต่พออุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น จนหายไข้ ตอนนั้น set point ถูกเปลี่ยนกลับไปที่ 37C แต่อุณหภูมิร่างกายสูงกกว่านั้น ก็เลยเหงื่ออกเพื่อระบายความร้อน
ความรู้สึกร้อนหรือหนาวอยู่ที่สมองที่ควบคุมเกี่ยวกับอุณหภูมิของร่างกาย ผมจำชื่อไม่ได้
ปกติ อุณหภูมิร่างกาย(core temperature) ที่สมองรับรู้จะถูกตั้งเป็น set point ไว้ที่ประมาณ 37C เพื่อควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย เหมือน thermostat
ถ้าอุณหภูมิร่างกายเกิดต่ำกว่านี้ก็จะหนาว ร่างกายก็จะพยายามสร้างความร้อนและลดการระบายความร้อน
ถ้าสูงกว่าก็ร้อน ร่างกายก็จะพยายามระบายความร้อนออกไป
เวลาเป็นไข้ค่า set point จะถูกขยับให้สูงขึ้น เพื่อที่อุณหภูมิร่างกายจะได้สูงขึ้นเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค
พอค่า set point ถูกเปลี่ยนจาก 37 C เป็น 38-40C แต่อุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ 37C ก็เลยรู้สึกหนาว สะท้าน การสั่นของกล้ามเนื้อช่วยในการสร้างความร้อนด้วยเช่นกัน
แต่พออุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น จนหายไข้ ตอนนั้น set point ถูกเปลี่ยนกลับไปที่ 37C แต่อุณหภูมิร่างกายสูงกกว่านั้น ก็เลยเหงื่ออกเพื่อระบายความร้อน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
ในภาวะที่ร่างกายมีเชื้อโรค หรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย ร่างกายจะมีการตอบสนองโดยการทำลายสิ่งแปลกปลอมนั้น
ซึ่งการทำลายสิ่งแปลกปลอมของร่างกายคือการใช้ enzyme จากเซลล์ในบริเวณนั้นและเซลล์เม็ดเลือดขาวในการสลายสิ่งแปลกปลอม
การทำงานของ enzyme ต้องอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม enzyme จึงจะทำงานได้มีประสิทธิภาพที่สุด โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการทำงานของ enzyme
ในการทำลายสิ่งแปลกปลอม จะสูงกว่าอุณหภูมิปกติของร่างกาย เซลล์บริเวณนั้นจึงส่งสัญญาณไปยังสมองส่วนไฮโปทาลามัส
สมองส่วนไฮโปทาลามัสจึงเพิ่ม set point อุณหภูมิของร่างกายให้สูงขึ้น
การเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายมีได้สองแบบคือ
1.)ลดการสูญเสียความร้อน : ร่างกายจะเกิดสภาวะหลอดเลือดแดงบริเวณผิวหนังหดตัว ลดการขับเหงื่อ(สังเกตุว่าตอนเราออกกำลังกายร่างกายเราจะร้อน จึงต้องลดความร้อนโดยการขับเหงื่อ) ร่างกายจะทำให้เรารู้สึกหนาวเพื่อที่เราจะได้หาเครื่องนุ่งห่มมาทำให้ร่างกายไม่สูญเสียความร้อน
2.)เพิ่มการสร้างความร้อน : ร่างกายจะเพิ่มกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกายมากขึ้น รวมถึงทำให้เกิดอาการสั่นเพื่อให้ร่างกายได้ใช้พลังงานในการสร้างความร้อน
เมื่อร่างกายสามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอมได้ทั้งหมด ไฮโปทาลามัสก็จะลด set point อุณหภูมิของร่างกายให้กลับมาสู่ภาวะปกติ
ทำให้ร่างกายต้อวระบายความร้อนออก (สังเกตุว่าตอนจะหายจากไข้เหงื่อจะออกนะ)
ซึ่งการทำลายสิ่งแปลกปลอมของร่างกายคือการใช้ enzyme จากเซลล์ในบริเวณนั้นและเซลล์เม็ดเลือดขาวในการสลายสิ่งแปลกปลอม
การทำงานของ enzyme ต้องอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม enzyme จึงจะทำงานได้มีประสิทธิภาพที่สุด โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการทำงานของ enzyme
ในการทำลายสิ่งแปลกปลอม จะสูงกว่าอุณหภูมิปกติของร่างกาย เซลล์บริเวณนั้นจึงส่งสัญญาณไปยังสมองส่วนไฮโปทาลามัส
สมองส่วนไฮโปทาลามัสจึงเพิ่ม set point อุณหภูมิของร่างกายให้สูงขึ้น
การเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายมีได้สองแบบคือ
1.)ลดการสูญเสียความร้อน : ร่างกายจะเกิดสภาวะหลอดเลือดแดงบริเวณผิวหนังหดตัว ลดการขับเหงื่อ(สังเกตุว่าตอนเราออกกำลังกายร่างกายเราจะร้อน จึงต้องลดความร้อนโดยการขับเหงื่อ) ร่างกายจะทำให้เรารู้สึกหนาวเพื่อที่เราจะได้หาเครื่องนุ่งห่มมาทำให้ร่างกายไม่สูญเสียความร้อน
2.)เพิ่มการสร้างความร้อน : ร่างกายจะเพิ่มกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกายมากขึ้น รวมถึงทำให้เกิดอาการสั่นเพื่อให้ร่างกายได้ใช้พลังงานในการสร้างความร้อน
เมื่อร่างกายสามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอมได้ทั้งหมด ไฮโปทาลามัสก็จะลด set point อุณหภูมิของร่างกายให้กลับมาสู่ภาวะปกติ
ทำให้ร่างกายต้อวระบายความร้อนออก (สังเกตุว่าตอนจะหายจากไข้เหงื่อจะออกนะ)
แสดงความคิดเห็น
ทำไมคนเป็นไข้ถึงรู้สึกหนาว
มันเป็นเพราะอะไรครับ กลไกการทำงานของร่างกายมันทำยังไงถึงเป้นแบบนี้ได้
ใครรู้ช่วยตอบที