ทําหลายคนทึ่งและอึ้งในความสามารถของนางเอกสาว "แต้ว"ณฐพร เตมีรักษ์ ที่ร่ายบท "คำแก้ว" และ "เจ้าแม่นาคี" ในละคร "นาคี" ช่อง 3 ได้อย่างยอดเยี่ยม
ทั้งท่าทาง อากัปกิริยา และการพูดจา ที่เว้าภาษาอีสานได้อย่างเข้าปาก รวมถึงท่วงท่าการร่ายรำที่ดูอ่อนช้อยงดงาม
งานนี้ไม่ตามตัวมาพูดคุยไม่ได้แล้ว
บทบาทในละคร "นาคี" เป็นอย่างไรบ้าง
แต้ว - "เรื่องนี้เล่นเป็น 2 คาแร็กเตอร์ คำแก้ว กับ เจ้าแม่นาคี ตอนได้รับการติดต่อให้เล่นรู้สึกหนัก รู้สึกงานเข้า เป็นอะไรที่ไม่เคยเล่นมาก่อน มีความหวั่นๆ อยู่นิดนึง แต่พอได้คุยกับพี่อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ ผู้กำกับฯ เขาก็พยายามทำให้เราเห็นว่ามีความเป็นไปได้ ให้เราค่อยๆ พัฒนาไปพร้อมกับตัวละคร เรื่องนาคีเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อ แต้วก็ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ แต่มันเป็นเรื่องตัวบท แต้วคิดว่าความเชื่อในบทมากกว่าที่ยาก เพราะเราไม่เคยต้องรอคอยใครนานขนาดนี้ และชีวิตจริงเรามีมุมมองความรักไม่เหมือนในละคร"
เรื่องนี้ประกบคู่กับ "เคน-ภูภูมิ" เป็นครั้งแรก
แต้ว - "ใช่ค่ะ รู้สึกดีนะ เขาเป็นคนสบายๆ เวลาทำงานเขาตั้งใจมาก ทำงานด้วยง่าย จริงๆ แต้วดูผลงานเขาอยู่แล้ว ตั้งแต่ลูกทาส, แรงเงา และอีกหลายเรื่อง รู้สึกอยากเห็นเขามาอยู่ในคาแร็กเตอร์นี้ คือเราก็มาเริ่มต้นกันใหม่ทั้งคู่กับละครเรื่องนี้"
แต่กับผู้กำกับฯ "อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์" เราร่วมงานมาหลายเรื่องแล้ว ยังคงทำงานง่ายเหมือนเดิมไหม
แต้ว - "มันยากในแง่การปรับจูนเข้าหาตัวละคร ซึ่งมันเป็นโจทย์ค่อนข้างยากของพี่อ๊อฟ ส่วนเรื่องการทำงานกับพี่อ๊อฟไม่ยาก เขาเป็นทั้งคนถ่ายและมีภาพอยู่แล้วในหัว เวลาเขาบรีฟงานเล่าอะไรให้ฟังเหมือนเขารู้ว่าจะพูดอะไร แต้วว่าคุณสมบัติตรงนี้ทำให้นักแสดงรัก พี่อ๊อฟไม่ใช่คนดุเพราะเขาเป็นนักแสดง จะรู้ว่านักแสดงต้องมีความมั่นใจ มีความสตรอง ถ้ากลัวโดนดุ ก็จะไม่มีความเป็นตัวละคร"
คิดว่าเรื่องนี้สำหรับตัวเองยากขนาดไหน
แต้ว - "ยากมาก ขนาดถ่ายแล้วยังมีรู้สึกว่ามัน โอเคหรือยัง ออกอากาศแล้วยังลุ้นเลย ฉากที่ยากมีเยอะช่วงหลังๆ ที่เป็นเจ้าแม่ โดนชาวบ้านรุม แต่แต้วชอบตอนแต่งเอฟเฟ็กต์แขนเป็นเกล็ดงู เพลินดี มันเหมือนรอยสัก"
ภาษาอีสานในเรื่องนี้แต้วเป๊ะมาก
แต้ว - "ก็เรียนค่ะ จากเรื่องที่แล้ว คุณชายรัชชานนท์ ครั้งนี้พี่อ๊อฟเลยมีครูอยู่ในกองถ่าย จะสตริกต์มากอยู่กับเราทุกคิว และให้ครูอ่านบทแต่ละคนแล้วอัดเสียงใส่ไฟล์ให้พวกเราไปฟัง เพื่อทวนได้ตลอด ภาษาอีสานเรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องก่อนที่เคยเล่น ครั้งก่อนยังมีแปร่งๆ แต่เรื่องนี้จะมีภาพที่ชัดเจนเพราะเราอยู่อุบลฯ จะเป็นภาษาอีสานของที่นั่น จะมีเส้นชัดเจนขึ้น"
ยากไหมกับการที่คนกรุงเทพฯต้องมาพูดภาษาอีสานให้เป๊ะขนาดนี้
แต้ว - "ยากนะ ยังรู้สึกว่าเราไม่ได้สำเนียงแท้ๆ พอ แต่พี่อ๊อฟพยายามไม่ให้กังวลตรงนั้น อยากให้อยู่กับความเป็นตัวละคร ถ่ายละครมันเทกได้แต่เราควรทำการบ้าน เพื่อความมั่นใจเลยต้องใช้เวลาอยู่กับบทมากกว่าอันอื่น เพื่อให้การพูดภาษาอีสานมีความเป็นธรรมชาติ เพราะถ้าพูดผิดจะออกมาทางแววตาเลยถ้าเราไม่มั่นใจ"
คนอีสานที่ดูละครเรื่องนี้หลายคนชมว่าเราพูดสำเนียงดี รู้สึกยังไงบ้าง
แต้ว - "ภูมิใจค่ะ ขอบคุณที่ให้โอกาสคนกรุงเทพฯ ได้พูด แค่เราทำแล้วคนกรุงเทพฯ หันมาอยากพูดภาษาอีสานได้ก็ประสบความสำเร็จแล้ว แต่นี่คนอีสานเองยอมรับตรงนี้ได้ เราอาจพูดได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เขาเห็นถึงความพยายามและเปิดใจดู รู้สึกขอบคุณมากๆ"
นอกจากเรื่องนี้ถ่ายละครอะไรอยู่
แต้ว - "รากนครา ซึ่งเป็นสาวเหนือ ตอนถ่ายรากนคราก็มีสับสนกับที่เราพูดภาษาอีสานบ้าง แต่ก็พยายามทำให้เต็มที่ที่สุด เรื่องนี้จะเป็นการฝึกภาษาแบบเดิม มีทั้งครูแล้วมีการอัดเสียง แต่เรื่องนี้คาแร็กเตอร์ยาก เป็นความนิ่งคนละแบบกับคาแร็กเตอร์คำแก้ว ต้องรอดูค่ะ"
แต้วอยู่วงการบันเทิงมากี่ปีแล้ว
แต้ว - "10 กว่าปีแล้วค่ะ ช่วงที่อยู่ในวงการแต้วได้ความไม่ยึดติด อย่างละครเรื่องที่แล้ว มีกระแสตอบรับดี แต่พอเรื่องใหม่ก็ต้องเริ่มใหม่ ถ้ายึดติดเรื่องเดิมว่าโอเคแล้ว มันจะอยู่กับที่ ยิ่งอยู่ตรงนี้ทำให้รู้สึกว่ายังมีอะไรให้ต้องเรียนรู้อีกเยอะมาก ทำให้ไม่อยู่นิ่ง คิดว่าเป็นกำไรของคนทำอาชีพนี้ อยู่ตรงนี้มีทั้งคนชอบและไม่ชอบมีท้อบ้าง แต่เราต้องรู้จักการจัดการอารมณ์ เพราะความรู้สึกของเราต้องนำมาใช้การทำงาน"
มองอนาคตในวงการบันเทิงไว้ยังไง
แต้ว - "ตอนนี้อายุ 27 ปีแล้ว พอบอกว่าอยู่ในวงการมา 10 ปีมันดูเยอะมาก แต่สำหรับแต้วเหมือนเพิ่งเริ่มทำงานเอง เพราะมีอะไรให้ต้องเรียนรู้ ยิ่งเราทำงานยิ่งรู้สึกว่าเรายังไม่เก่ง คิดว่า 10 ปีมันน้อยมากสำหรับเรา"
"แต้ว"เรียนรู้ไม่อยู่นิ่ง อยู่มายา10ปีเหมือนเพิ่งเริ่ม
ทั้งท่าทาง อากัปกิริยา และการพูดจา ที่เว้าภาษาอีสานได้อย่างเข้าปาก รวมถึงท่วงท่าการร่ายรำที่ดูอ่อนช้อยงดงาม
งานนี้ไม่ตามตัวมาพูดคุยไม่ได้แล้ว
บทบาทในละคร "นาคี" เป็นอย่างไรบ้าง
แต้ว - "เรื่องนี้เล่นเป็น 2 คาแร็กเตอร์ คำแก้ว กับ เจ้าแม่นาคี ตอนได้รับการติดต่อให้เล่นรู้สึกหนัก รู้สึกงานเข้า เป็นอะไรที่ไม่เคยเล่นมาก่อน มีความหวั่นๆ อยู่นิดนึง แต่พอได้คุยกับพี่อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ ผู้กำกับฯ เขาก็พยายามทำให้เราเห็นว่ามีความเป็นไปได้ ให้เราค่อยๆ พัฒนาไปพร้อมกับตัวละคร เรื่องนาคีเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อ แต้วก็ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ แต่มันเป็นเรื่องตัวบท แต้วคิดว่าความเชื่อในบทมากกว่าที่ยาก เพราะเราไม่เคยต้องรอคอยใครนานขนาดนี้ และชีวิตจริงเรามีมุมมองความรักไม่เหมือนในละคร"
เรื่องนี้ประกบคู่กับ "เคน-ภูภูมิ" เป็นครั้งแรก
แต้ว - "ใช่ค่ะ รู้สึกดีนะ เขาเป็นคนสบายๆ เวลาทำงานเขาตั้งใจมาก ทำงานด้วยง่าย จริงๆ แต้วดูผลงานเขาอยู่แล้ว ตั้งแต่ลูกทาส, แรงเงา และอีกหลายเรื่อง รู้สึกอยากเห็นเขามาอยู่ในคาแร็กเตอร์นี้ คือเราก็มาเริ่มต้นกันใหม่ทั้งคู่กับละครเรื่องนี้"
แต่กับผู้กำกับฯ "อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์" เราร่วมงานมาหลายเรื่องแล้ว ยังคงทำงานง่ายเหมือนเดิมไหม
แต้ว - "มันยากในแง่การปรับจูนเข้าหาตัวละคร ซึ่งมันเป็นโจทย์ค่อนข้างยากของพี่อ๊อฟ ส่วนเรื่องการทำงานกับพี่อ๊อฟไม่ยาก เขาเป็นทั้งคนถ่ายและมีภาพอยู่แล้วในหัว เวลาเขาบรีฟงานเล่าอะไรให้ฟังเหมือนเขารู้ว่าจะพูดอะไร แต้วว่าคุณสมบัติตรงนี้ทำให้นักแสดงรัก พี่อ๊อฟไม่ใช่คนดุเพราะเขาเป็นนักแสดง จะรู้ว่านักแสดงต้องมีความมั่นใจ มีความสตรอง ถ้ากลัวโดนดุ ก็จะไม่มีความเป็นตัวละคร"
คิดว่าเรื่องนี้สำหรับตัวเองยากขนาดไหน
แต้ว - "ยากมาก ขนาดถ่ายแล้วยังมีรู้สึกว่ามัน โอเคหรือยัง ออกอากาศแล้วยังลุ้นเลย ฉากที่ยากมีเยอะช่วงหลังๆ ที่เป็นเจ้าแม่ โดนชาวบ้านรุม แต่แต้วชอบตอนแต่งเอฟเฟ็กต์แขนเป็นเกล็ดงู เพลินดี มันเหมือนรอยสัก"
ภาษาอีสานในเรื่องนี้แต้วเป๊ะมาก
แต้ว - "ก็เรียนค่ะ จากเรื่องที่แล้ว คุณชายรัชชานนท์ ครั้งนี้พี่อ๊อฟเลยมีครูอยู่ในกองถ่าย จะสตริกต์มากอยู่กับเราทุกคิว และให้ครูอ่านบทแต่ละคนแล้วอัดเสียงใส่ไฟล์ให้พวกเราไปฟัง เพื่อทวนได้ตลอด ภาษาอีสานเรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องก่อนที่เคยเล่น ครั้งก่อนยังมีแปร่งๆ แต่เรื่องนี้จะมีภาพที่ชัดเจนเพราะเราอยู่อุบลฯ จะเป็นภาษาอีสานของที่นั่น จะมีเส้นชัดเจนขึ้น"
ยากไหมกับการที่คนกรุงเทพฯต้องมาพูดภาษาอีสานให้เป๊ะขนาดนี้
แต้ว - "ยากนะ ยังรู้สึกว่าเราไม่ได้สำเนียงแท้ๆ พอ แต่พี่อ๊อฟพยายามไม่ให้กังวลตรงนั้น อยากให้อยู่กับความเป็นตัวละคร ถ่ายละครมันเทกได้แต่เราควรทำการบ้าน เพื่อความมั่นใจเลยต้องใช้เวลาอยู่กับบทมากกว่าอันอื่น เพื่อให้การพูดภาษาอีสานมีความเป็นธรรมชาติ เพราะถ้าพูดผิดจะออกมาทางแววตาเลยถ้าเราไม่มั่นใจ"
คนอีสานที่ดูละครเรื่องนี้หลายคนชมว่าเราพูดสำเนียงดี รู้สึกยังไงบ้าง
แต้ว - "ภูมิใจค่ะ ขอบคุณที่ให้โอกาสคนกรุงเทพฯ ได้พูด แค่เราทำแล้วคนกรุงเทพฯ หันมาอยากพูดภาษาอีสานได้ก็ประสบความสำเร็จแล้ว แต่นี่คนอีสานเองยอมรับตรงนี้ได้ เราอาจพูดได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เขาเห็นถึงความพยายามและเปิดใจดู รู้สึกขอบคุณมากๆ"
นอกจากเรื่องนี้ถ่ายละครอะไรอยู่
แต้ว - "รากนครา ซึ่งเป็นสาวเหนือ ตอนถ่ายรากนคราก็มีสับสนกับที่เราพูดภาษาอีสานบ้าง แต่ก็พยายามทำให้เต็มที่ที่สุด เรื่องนี้จะเป็นการฝึกภาษาแบบเดิม มีทั้งครูแล้วมีการอัดเสียง แต่เรื่องนี้คาแร็กเตอร์ยาก เป็นความนิ่งคนละแบบกับคาแร็กเตอร์คำแก้ว ต้องรอดูค่ะ"
แต้วอยู่วงการบันเทิงมากี่ปีแล้ว
แต้ว - "10 กว่าปีแล้วค่ะ ช่วงที่อยู่ในวงการแต้วได้ความไม่ยึดติด อย่างละครเรื่องที่แล้ว มีกระแสตอบรับดี แต่พอเรื่องใหม่ก็ต้องเริ่มใหม่ ถ้ายึดติดเรื่องเดิมว่าโอเคแล้ว มันจะอยู่กับที่ ยิ่งอยู่ตรงนี้ทำให้รู้สึกว่ายังมีอะไรให้ต้องเรียนรู้อีกเยอะมาก ทำให้ไม่อยู่นิ่ง คิดว่าเป็นกำไรของคนทำอาชีพนี้ อยู่ตรงนี้มีทั้งคนชอบและไม่ชอบมีท้อบ้าง แต่เราต้องรู้จักการจัดการอารมณ์ เพราะความรู้สึกของเราต้องนำมาใช้การทำงาน"
มองอนาคตในวงการบันเทิงไว้ยังไง
แต้ว - "ตอนนี้อายุ 27 ปีแล้ว พอบอกว่าอยู่ในวงการมา 10 ปีมันดูเยอะมาก แต่สำหรับแต้วเหมือนเพิ่งเริ่มทำงานเอง เพราะมีอะไรให้ต้องเรียนรู้ ยิ่งเราทำงานยิ่งรู้สึกว่าเรายังไม่เก่ง คิดว่า 10 ปีมันน้อยมากสำหรับเรา"