....คือสนิมที่เกิดแต่เนื้อในตน....

จะเรียก “ระบบอุปถัมภ์” หรืออะไรก็แล้วแต่.....รู้เพียงแต่ว่าไม่ใช่เพียงแต่เราๆ ท่านๆ เท่านั้นที่ต้องทนหวานอมขมกลืนกับสิ่งเหล่านี้ ในอดีตกาล...เรื่องอย่างก็เคยเกิดมาอย่างต่อเนื่องในสังคมของเรา....หรือถ้าจะพูดให้แฟร์ขึ้นมาหน่อย ระบบนี้มันเกิดขึ้นทุกๆ สังคมไม่ว่าไทย แขก ฝรั่ง และดูเหมือนว่าสังคมส่วนอื่น(ยกเว้นสังคมไทย)จะตระหนักถึงภัยร้ายของระบบอุปถัมภ์นี้ที่เป็นเสมือนหนึ่ง “กาฝาก” คอยเกาะกินและค่อยๆ ทำลายระบบโครงสร้างของสังคมพวกเขา การพยายามลด “เด็กฝากและเด็กเส้น” จึงเป็นเรื่องใหญ่ถึงขั้นมีการออกกฏหมายในเรื่องนี้ หลายบริษัทและโดยเฉพาะสถานที่ข้าราชการ จะโปรโมท “สิทธิอันทัดเทียม” (Equal Opportunities)ไปพร้อมๆ กับการประกาศรับคนเข้ามาทำงาน....ในขณะที่สังคมไทยกลับเพาะบ่มระบบนี้แบบไม่มีการเคอะเขินต่อหมู่คนไทยด้วยกันเอง



ย้อนกลับไปที่อดีตกาล.....ใครเลยจะเชื่อว่าระบบอุปถัมภ์ “เด็กเส้น แอนด์ เด็กฝาก” นี้ได้เคยอุปการะและส่งเสริมสามัญชนคนหนึ่งได้ก้าวขึ้นเป็นถึงกษัติริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา เขาเคยมีตำแหน่งเป็น “คนเฝ้าหอพระ” (ตำแหน่งยาม?) ต่อมาได้กลายเป็นเด็กเส้นของนางพระยาแม่อยู่หัวท้าวศรีสุดาจันท์ ตามประวัติศาสตร์กล่าวว่า พระนางถึงกับลอบปลงพระชนม์พระสวามี(สมเด็จพระไชยราชาธิราช) และปลงพระโอรส(พระยอดฟ้า)ที่ยังเด็กอยู่เพื่อปูทางให้อดีตคนเฝ้าหอพระคนนี้ได้ก้าวขึ้นสู่ราชบรรลังก์เป็น ขุนวรวงศาธิราช แม้นักประวัติศาสตร์บางสำนักไม่นับเอาพระองค์ว่าเป็นกษัตริย์อยุธยา แต่ข้อเท็จจริงตามพงศาวดารก็คือ พระองค์ทรงผ่านการราชาภิเษกเป็นกษัตริย์อยุธยามาแล้ว .....



ระบบเด็กเส้นยังไม่หยุดเพียงแค่นี้....หลังจากก้าวขึ้นเป็นกษัตริย์อยุธยาแล้ว บุญยังหล่นทับน้องชายของพระองค์ที่เป็นช่างตีเหล็กในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งอีกด้วย ขุนวรงศาธิราชนำพี่ชายมาชุบตัวในพระบรมราชวังแล้วสถานปนาจากนายช่างตีเหล็กธรรมดาๆ คนหนึ่งขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคลพรวดเดียว นั่นก็คือตำแหน่งอุปราชที่จะสืบทอดอำนาจต่อจากกษัตริย์....นั่นอาจจะเรียกได้ว่าเป็น “ยุคทอง” ยุคหนึ่งของบรรดาเด็กเส้นก็ว่าได้ คือเรียกได้ว่าทำกันแบบเอิกเริกและโฉ่งฉ่างที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้



ว่าไปทำไมมี?......เรื่องอย่างนี้ประวัติศาสตร์ใกล้ๆ ตัวเราช่วงก่อนเข้าสู่ยุครัตนโกสินทร์ก็ยังพอมีให้เห็น หรือใกล้เข้ามามากๆ ก็อย่างเรื่องของลูกเหลิม และล่าสุดก็บางคนที่เลื่อนตำแหน่งราชการเร็วผิดปรกติจากร้อยตรีขึ้นเป็นพันตรีเป็นต้น เรื่องทำนองนี้จะไม่มีวันหยุดหรือถูกทำลายลงไปได้หากเรายังมีท่าทีต่อเรื่องอย่างนี้ในทำนองว่า "เอร็งทำได้ ขร้าก็ทำได้" พูดง่ายๆ ก็คือ.....หากยึดเอาธรรมะของพระพุทธองค์ว่าด้วย หิริและโอตัปปะมานำทาง กระแสเด็กเด็กเส้นแอนด์เด็กฝากน่าจะลดความเชี่ยวกรากได้ระดับหนึ่ง แต่ก็อย่างว่าละครับ....คนไทยส่วนใหญ่เป็นพุทธกันแต่ในนาม   เห็นบางคนไปนั่งพนมมือแต้ยิ้มแฉ่งให้ "สมี" แถวๆ นครปฐมเจิมหน้าผากให้ก็มี



สุดท้าย...ที่สะเทือนใจที่สุดเห็นจะเป็น ความแตกต่างของสองข่าวนี้....คือข่าวเจ้าชายแฮรี่แห่งอังกฤษโดนตำรวจจับปรับฐานเมาแล้วขับกับข่าวลูกไฮโซจากตระกูลคนหนึ่งขับรถและเป็นเหตุทำให้คนตายหลายคน...แต่เธอคนนั้นยังคงอยู่ได้ในสังคม(ที่มีระบบอุปถัมภ์เป็นแบ๊คอัพให้)....เฮ้อ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ประวัติศาสตร์มักเขียนโดยผู้ชนะครับ

เรื่องราวในสมัยก่อน มันมีเหตุมีผลมากกว่าในสมัยนี้
ประวัติศาสตร์ก็มักจะทับถมผู้ที่พ่ายแพ้
ความจริงความคิดเห็นนี้ อาจจะไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในกระทู้นี้
เพียงแต่ขอแยกเกร็ดประวัติศาสตร์ออกมานิดหนึ่ง
อยากให้หลายๆ คนได้พิจารณาเป็นกรณีศึกษา

บทวิเคราะห์จากพงศาวดาร "คำให้การชาวกรุงเก่า".....
แม่หยัวศรีสุดาจันทร์นั้น เป็นพระราชธิดาที่สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์อู่ทอง
พันบุตรศรีเทพ หรือขุนเชียรราช ตามภาษาเก่า ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่สืบเชื่อสายมาจากราชวงศ์อู่ทองเช่นกัน
ในชั้นแรก แม่หยัวศรีสุดาจันทร์เพียงแค่มีจิตเสน่หาด้วยความเหงา ที่สวามีออกศึกเป็นแรมเดือน
(ตามคำให้การนั้น ไม่ได้กล่าวถึงการมีสัมพันธ์ชู้สาว และไม่ได้กล่าวว่าพระนางทรงครรภ์กับพันบุตรศรีเทพก่อนราชาภิเษก)
แต่หลังจากสืบสาวราวเรื่อง จึงรู้ว่าเป็นเชื้อสายราชวงศ์อู่ทองเช่นเดียวกับพระนาง
ซึ่งเชื่อสายราชวงศ์อู่ทองนั้น ใกล้จะสิ้นสูญเต็มทีแล้ว
อีกทั้งพระนางยังได้แรงยุ ที่ให้สำนึกต่อการสืบสายราชวงศ์
นั่นคือเหตุผลที่พระนางต้องยกพันบุตรศรีเทพเป็นกษัตริย์ให้ได้
อุปราชจัน ซึ่งเป็นน้องชายของขุนวรวงศาธิราช ก็เช่นกัน
ในภาวะที่ไม่อาจไว้วางใจใครได้ ก็จำเป็นที่สุด ที่จะต้องตั้งคนใกล้ชิดที่สุด เข้ามาร่วมงาน แม้จะไม่เหมาะสมก็ตาม
(อ่านดูแล้ว ต่างจากประวัติศาสตร์ที่เคยอ่านทั่วๆ ไปอย่างสิ้นเชิง)

ผิดจากสมัยนี้ ความเหมาะสมของสมัยนี้คือ ใครมีทรัพย์มาก ก็มีเส้นสายมาก
เพราะเส้นสายเหล่านั้น ผูกมัดกลมเกลียวกันก็ด้วยทรัพย์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่