เห็นเค้าเล่ากันเยอะแยะ โดนด่าบ้าง โดนตะคอกบ้าง โดนสาดน้ำบ้างเราก็อยากเล่าในมุมของเราบ้าง
คนเล่าจะมีสองคนนะคะ เรากับเพื่อน หวังว่าคงไม่งงกันเน๊อะ

บอกก่อนนะคะ กระทู้แรก ถ้าจัดหน้ากระดาษไม่สบายตาขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
น้องเขียว ..
เรามีแพลนไปเกาหลีคือวันที่ 24-28 กันยายนที่ผ่านมา มีเวลาเตรียมตัว ประมาณ 1 เดือน เออเราเป็นคนจัดทริปนี้เอง 5 วัน
ส่วนเพื่อนจะเป็นคนนำทาง ซึ่งมันขี้เกียจจัด เราก็กลัวตม.ด้วยแหละเผื่อเขาจะถามอะไร ก็จัดทริปปริ้นใบเอกสารนู่นนี่ไปหน่อย
เพื่อความอุ่นใจ (ติ่งด้วยเที่ยวด้วย จขกท.เป็นเอลฟ์นะคะ 555555)
พี่หอย..
ส่วนเรานี่คือเป็นคนจอง จ่ายแหลก กดตั๋วไม่รอบอกเพื่อนด้วย เป็นติ่งมาเป็น 10 ปีละ ตอนนี้ (ตอนนี้ติ่งลุงๆ เอสเจกับวงเด็กไทย
ค่ายเอสเอมค่ะ) ซึ่งเรากับเพื่อนสองคนก็จองตั๋วเครื่องบิน+ที่พักกับแอร์เอเชียเรียบร้อยไว้หลายเดือนแล้ว เราเป็นคนจอง ทุกอย่าง
เป็นชื่อเรา แต่พาสปอร์ตเรากับเพื่อนเป็นหน้าขาวนะ เราเพิ่งไปทำใหม่ค่ะเพราะเปลี่ยนชื่อ แต่เราเคยไปสิงคโปร์มาแล้ว
------------------------------------
ก่อนเดินทาง ------------------------------------
น้องเขียว ..
ลืมบอกไป นี่เป็นการไปต่างประเทศครั้งแรกของเรา ที่แหละที่ทำให้กลัวตม.ประเทศนี้ เพราะใครๆ ก็บอกว่าโหด และทริปนี้ก็เป็นทริป
ฉุกเฉิน อยากไปก็ไปเลย เรามีเวลาไม่มากด้วยหน้าที่การงานอะไรหลายๆอย่าง ช่วงก่อนที่จะไปก็มีคนส่งข่าวเรื่องตม.เกาหลีมาให้อ่าน
มีพี่ๆที่เคยไปแนะนำว่า ไม่ต้องกลัว สบายๆ เราไปเที่ยว อย่าคิดมาก ใช่ๆ เราไปเที่ยว เราจะไม่คิดมากแต่มันก็อดคิดไม่ได้ป่าววะ
ตม.เป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้เลย คุยกันคนละภาษาอีกต่างหาก ภาษาอังกฤษเราก็ใช่ว่าจะแข็งแรง แล้วที่สำคัญไม่สบายไข้ขึ้น
ก่อนเดินทางด้วย จนต้องเกือบจะยกเลิกทริปนี้ กะว่าให้เพื่อนมันไปคนเดียว แต่เนื่องด้วยความอึดและความงก เราเสียเงินไปแล้ว
เราจะตายไม่ได้ ห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดฝืนสังขารมาสนามบินแบบเละๆเทะๆ เอาวะเป็นไงเป็นกัน ตอนนั้นกังวลอยู่ 2 อย่าง กลัวไข้ขึ้น
กับกลัวตม. เออก่อนจะมาสนามบินเพื่อนก็มาบอกว่าเราต้องแต่งตัวแบบดีๆ มีมารยาทอะไรแบบนี้แต่งสุภาพแต่งแบบนักท่องเที่ยว
อะไรก็จัดกันไปให้แน่น ยกเว้นสติที่ริบหลี่จากไข้หวัด ตอนนั้นก็ไม่ได้นึกว่าจะไปเที่ยวอะไร นึกแค่ว่า ง่วงไม่ไหวแล้วอยากขึ้นเครื่อง
อยากนอนอยากไปถึงที่พักอยากไปถึงเกาหลีเร็วๆ และแล้วเราก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง ตีหนึ่งกว่าๆ จำเวลาไม่ได้แล้ว 555555
พี่หอย..
1.55 am แงะนี่จำได้ นี่นัดกัน 4 ทุ่มคือ 2 ทุ่มมันโทรมาบอก
เขียว : ถ้ากูไม่ไปเป็นไรปะวะ
หอย : กลับมาแล้วค่อยตายแต่ห้ามตายตอนนี้ จ่ายตังไปหมดแล้วจะเทไม่ได้ -_-
ตั้งแต่สนามบินที่ไทยแล้ว บรรยากาศมันก็แปลกๆ เราไม่ได้มองดูถูกหรืออะไรนะ แต่เราคิดว่าหลายคนนี่ดูทรงไม่เหมือนมาเที่ยว
เข้าใจฟิลมั้ย (มันมีหลายอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้มาก คิดว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน) แล้วคนก็เยอะมาก ตัวเราเนี่ยก็คุยกับเพื่อนว่า
“ กูจะแต่งตัวธีมไปประชุมโอเป็กเลย” เพราะเราก็คิดไปเองว่าเออน่าจะผ่านง่ายถ้าแต่งตัวดูน่าเชื่อถือ 55555555555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขออธิบายธีมโอเป็กหน่อย คือเราใส่เสื้อยืดแขนกุดข้างใน แล้วก็มี Blazer Uniqlo สี Navy คลุม (แต่ไม่ได้ถอดออกมาเลย) การเกงสเลค (พ่อตัด) กับรองเท้าอดิดาสซุปเปอร์สตาร์ลิ้นทอง สะพายประเป๋ากล้องค่ะ ลิปสติกไคลี่ ถถถถถถถ
----------------------------
ตัดภาพมาที่เกาหลีเลย ----------------------------
(ถึงอินชอนตอน 9.30am ประมาณนี้ค่ะจำไม่ได้)
น้องเขียว...
9 โมงกว่าๆ ตอนนั้นนอนก็ไม่อิ่มหลับๆ ตื่นๆ หน้าก็คงจะพังจะผีไปพบตม. เราก็เดินไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศเกาหลีกัน จำได้ว่าวันนั้นคนเยอะมาก คนโดนเข้าห้องเย็นก็เยอะมากๆ นี่เราจะโดนปะวะ แต่แบบคิดว่าถ้าโดนจะทำยังไง คิดไม่ออกคือมีความมึนๆ ว่านี่เรามาเที่ยวแล้วหรอ นี่ลางานมาเที่ยวแล้วโว๊ยยยช่วยมีความรู้สึกตื่นเต้นดีใจอะไรหน่อย แต่ก็ไม่รู้สึกอะไร เฉยมาก เฉยจนงงตัวเอง เราเดินนำหน้าเพื่อนไป ใกล้จะถึงตม.และ เราก็ไปต่อแถว จนไปถึงหน้าเจ้าหน้าที่ เราก็ไปก่อนเพื่อน เจ้าหน้าที่ตม.ก็ให้สแกนนิ้วมือ มองกล้องปกติ นึกในใจ ทำไมจะให้กูผ่านอะไรง่ายดายเบอร์นั้น แทงหวยไม่ถูกแหม่ นึกยังไม่ทันขาดคำ คุณลุงเจ้าหน้าที่ก็มาถามว่า มาคนเดียวหรอ เราก็บอกเปล่า มากับเพื่อน แล้วถามว่าพักที่ไหนเราก็ตอบๆไป ขอดูใบบุ๊กกิ้งหน่อย เราก็ยื่นให้ดู แล้วก็ถามว่า ทำไมไม่มีชื่อเราในใบบุ๊กกิ้ง ตอนนั้นคืองงมาก ต้องมีชื่อเราหรอวะ เลยบอกว่าใช้บัตรเครดิตเพื่อนจ่าย เนี่ยเราจองห้องแบบทวินรูมนะ แล้วนางก็ถามว่าเพื่อนเราคนไหน เราก็ชี้ไป จากนั้น ก็เชิญเรากับเพื่อนไปที่ห้องเย็นทันที โอยยยยยยอยากจะบ้า
พี่หอย..
ตอนต่อแถวเราเห็นคนโดนเรียกเยอะมาก คนไทยทั้งนั้นเหลยยย เราก็สังเกตุดูทรงคนที่ถูกเรียกอยู่ว่าเป็นยังไง ซึ่งมันก็หลากหลายมาก
เดาไม่ถูกดวงล้วนๆ ส่วนตัวก็มั่นหน้าในหน้าที่การงานระดับนึงว่าทางเรามั่นคงพอสมควร 555555 เอกสารที่เราเตรียมไปคือ
ใบเช่าพ็อกเกต Wifi ใบจองที่พัก ไฟท์กลับ แพลนเที่ยว (มีความปริ้นสีไปด้วย) หลักๆ ก็ประมาณนี้
เค้าก็ถาม มากี่วันมากับใคร ทำงานอะไร เราก็ตอบๆ ว่า 5 วัน ตอบชื่อตำแหน่งไปว่า Software Eng. เฮ้ยมันเหมือนจะผ่านหวะแต่…
อ้าว!! จนทของเพื่อนชี้มาที่นี่ด้วย ตะโกนเรียกชื่อนี่ แล้วเค้าก็คุยกัน
คุณไม่ได้ไปต่อ เชิญค่ะ
ผลีมากกก!!
ธีมโอเป็กไม่ได้ช่วยอะไร
แต่เราก็ชิวนะ จำได้ว่า ยังเดินฮัมเพลงเดินเข้าห้องเย็นไป ด้วยความมั่นหน้านี้ 555555
----
เข้าไปที่ห้องแรก ---
เค้าก็ให้รอเรียกชื่อตามพาสปอร์ต สแกนนิ้ว ถ่ายรูปแล้วก็ให้กระดาษมา 1 แผ่น คือใบพิสูจน์ตัวตน ตามข้อกฎหมาย ของเกาหลี ถ้าเราสามารถพิสูจน์ตัวตนตัวเองได้ ก็ผ่านค่ะ แล้วเค้าก็ให้เข้าไปอีกห้องนึง ไปเขียนแล้วก็รอสัมภาษณ์ (เรียกว่าสัมภาษณ์มั้ยนะ) อีใบนี้ต้องกรอกนะคะคุณขา ไม่ใช่ดื้อดึง เห็นบางคนบอกไม่กรอกกลัวโดนส่งกลับ ใบส่งกลับอีกใบนึงค่ะไม่ใช่ใบนี้
----
เข้าไปที่ห้องข้างใน ---
ระหว่างที่เรารอเรียกชื่อเรา เราค่อนข้างชิวค่ะ แต่หิวข้าวมาก (ก่อนออกจากบ้านแม่บอกให้กินไรลองท้องก่อน นี่ก็บอกเดี๋ยวไปกินหนามบินแม่ ลืมไปว่ามันดึก ร้านเค้าปิดหมดแล้ว ได้กินแค่พายไก่ในสตาร์บั๊ค เงินไทยก็ไม่มี ซื้ออาหารบนเครื่องก็ไม่พอ T_T ) เห็นหลายคนเครียด เราก็อ่านกระทู้ไปเยอะเหมือนกัน หัวหน้าเรา เพื่อนเราไม่มีใครโดนเรียกเลย เราน่าจะเป็นคนแรกในคนรอบๆ ตัว สะเทือนใจ 55555555555555
ตอนอยู่ในนั้นก็แอบฟังคนอื่นตอบคำถามกัน คือบางคนมันก็ไม่น่าผ่านไง แบบ บางคนตอบแบบ มาหาเพื่อน เพื่อนเป็นคนเกาหลี พอเค้าถามว่าเพื่อนชื่อไร ก็บอกว่าไม่รู้ เจอกันในผับ แบบนี้มันควรผ่านป้ะ เอาจริง ถ้าเราเป็นตม เราก็ไม่ให้ผ่าน โกโฮมเลยคุณ
หลายคนกังวลว่า เฮ้ยเราจะตอบคำถามได้หรอ น่าจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี จะอธิบายตรงนี้ว่า คุณ ตม. เนี่ยเค้าจะให้เรายกหูโทรศัพท์ขึ้นมา ในสายจะเป็นคนไทย (น่าจะคนไทยพูดได้ดีทั้งสองภาษา) ที่คุยกับเราเป็นภาษาไทยค่ะ คุณ ตม. เนี่ยเค้าจะถามเรา แล้วให้คนในสายแปลให้เราฟัง แล้วเค้าก็จะแปลที่เราพูดให้คุณ ตม. ฟังค่ะ
-- ตลอดเวลาที่เราอยู่ในนั้น ยังไม่เห็นท่าทีรุนแรง การกระทำที่ไม่เหมาะสม หรือการพูดจาไม่ดีของเจ้าหน้าที่เลยนะคะ --
เราโดนเรียกก่อนน้องเขียวค่ะ
--
คุณตม ก็ให้สแกนนิ้ว ถ่ายรูป แล้วก็ให้ยกหูโทรศัพท์ค่ะ –
เราจะเล่าคำถามคร่าวๆ นะคะ เค้าถามเยอะกว่าแม่เรา ถามชนิดที่ คนที่เข้ามาจีบยังไม่อยากรู้เยอะขนาดนี้อะ คุณพระ!
ถามละเอียดมากกกกกกก เราจำไม่ได้หมด คือเยอะมากจริง จนนี่สะตั้นอะ
คุณมาเกาหลีทำไม : มาเที่ยวค่ะ
ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง : ตามแพลน ก็มี มยองดง ฮงแด อีแทวอน คยองรีดัล SM Coex คลองกเยชอน คังนัม
(จริงๆ มีมากกว่านี้แต่จำไม่ได้ว่าตอบไรไปบ้าง ตอบเท่าที่นึกได้ ตอบความติ่งใส่ลงไปหน่อยนึง)
พักที่ไหน : XXเกสเฮาส์ แถวฮงแดค่ะ
ออกจากสนามบินจะไปที่ไหนก่อน ไปเที่ยวหรือไปที่พัก : ไปที่พักเอากระเป๋าไปเก็บค่ะ
ไปที่พักยังไง รถอะไร : รถไฟค่ะ
ทำงานอะไร : เป็น Software Engineer
เงินเดือนเท่าไหร่ : XX,XXX โบนัสทุก 3 เดือน (ตอบเพิ่มความน่าเชื่อถือ แต่ไม่รู้เค้าแปลให้ป่าว เราได้ยินไม่ถนัด)
มากี่วัน : มา 5 วันค่ะ (อยู่ได้แค่นี้ ถ้าลาได้มากกว่านี้ก็จะลานะ ._. )
มากับใคร : มากับเพื่อนค่ะ
กี่คน : เพื่อน 1 คนค่ะ
เพื่อนชื่อไร : ชื่อXXค่ะ
รู้จักกันยังไง : รู้จักกันสมัยมัธยมค่ะ
มัธยมต้นหรือมัธยมปลาย : (ตกใจ แบบนี้ก็ได้หรอ) มัธยมปลายค่ะ
เพื่อนทำงานอะไร : เป็นกราฟฟิคดีไซน์ค่ะ
บริษัทอะไร : XXX (บริษัทนางเป็นสื่อที่มีชื่อเสียงอยู่ค่ะ)
จริงๆ เยอะกว่านี้อีก เอาแค่นี้ก่อนเน้อ จำทั้งหมดไม่ได้จริงๆ ขอเบอร์มั้ยคุ๊ณ คุยกันวันหลังบ้างวันนี้ไม่ค่อยว่าง เผื่ออยากรู้จัก
คาท่กมั้ยยยยย คือ ตม. ผู้หญิงนะคะ เล่าให้ใครฟังก็ถามว่า เค้าจะจีบแล้วปะ ถามเยอะขนาดเน้ แต่เรายังชิวอยู่ค่ะ
ตอบคำถามฉะฉาน ทุกข้อ เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องจริงก็ไม่ต้องคิดมากก่อนตอบ แค่ตอบความจริงไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ
เรียกน้องเขียวมา แล้วก็ถามเขียวแบบ ถามนิดหน่อยอะ ถามเขียวแบบ ทำงานอะไร รู้จักเราได้ไง แค่นี้เองมั้ง
เกทปะถามเราแบบ 15 นาทีได้ เสร็จก็อะให้ไปนั่งรอ… แต่เรามั่นใจอะว่าผ่าน นึกออกปะ เอ้า หน้าที่การงานเรา
ก็ดีอยู่แล้วปะวะ ต้องมาใช้แรงงานบ้านคุณ ทำทำไม เราทำงานในห้องแอร์หน้าคอมเย็นๆ ก็สบายอยู่แล้วปะวะ
มองนาฬิกาอีกที นี่เที่ยงแล้ววว เอ้าเฮ้ยยยย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า ไม่ใช่ละ!!
มีแพลนไปดูโชว์เคสน้อง คุณพี่จะมาทำร้ายหนูแบบนี้ไม่ได้ หนูนกมาหลายเรื่องแล้วงานนี้จะเป็นงานเดียวทีหนูไม่นก
ใช้เวลาในนี้จนคุ้นเคยเหมือนอยู่บ้าน
แล้วก็เรียกอีกค่ะ รอบนี้พีคไม่แพ้รอบที่แล้ว
สแกนนิ้ว ถ่ายรูปเหมือนเดิมค่ะ โดนสแกนนิ้วไปทั้งหมด 4 5 รอบได้
ทำงานอะไร : เป็น Software Engineer
แล้วทำอะไรอะ : (เหมือนเค้าจะไม่เข้าใจ) เป็น Programmer อะค่ะ
งานที่ทำเกี่ยวกับอะไรมีหน้าที่อะไร : ดูแลระบบ….ให้….(ซึ่งค่อนข้างมีชื่อเสียงทั่วโลก
เราตอบแบบกว้างๆ อะไม่คิดว่าเค้าจะอยากรู้มาก)
ไม่เข้าใจอะ ทำไมXเนี่ยต้องมาจ้างบริษัทคุณอะ ทำไมไม่ทำเอง : เป็นบริษัทในเครือกันค่ะ
ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมีหน้าที่ของตัวเอง บลาาาาา....
แล้วทำอะไร ดูแลระบบให้ลูกค้าของXอะหรอ : เราก็อธิบายงานของเรา
เราอธิบายจนแทบจะอธิบายโครงสร้างองค์กรเลยค่ะ
มีนามบัตรหรือบัตรพนักงานมั้ย : จริงๆ แล้วบัตรพนง มันหายไปพร้อมประเป๋าสตางค์ค่ะ
ซึ่ง HR เค้าก็ออกบัตรมาให้ใช้ชั่วคราวก่อน ได้มั้ยคะ
(แล้วบัตรนี่ผีมากค่ะคุณ เป็นบัตรพนง ที่มีแถบแม่เหล็กแต่มีกระดาษเขียนชื่อกับตำแหน่ง แล้วก็รูป แปะสก๊อตเทปไว้กับบัตร
แถมชื่อไม่ตรงอีกค่ะ ถ้านี่เป็นตม นี่คิดว่า แกหลอกชั้นแน่นอนแบบนี้ แต่เค้าเชื่อหวะ นี่งงมาก)
ขอดูใบจองที่พักหน่อย : -ก็ให้ไป- ให้ไปทุกอย่างที่มี ให้ไปดูแพลนด้วย เพราะแพลนที่น้องเขียวเป็นคนทำจะรู้เลยค่ะว่าติ่ง ถถถถถถ
เอาเงินมาเท่าไหร่ : - ให้เค้าไปดูทั้งซองเลยค่ะ เพราะนี่ก็ไม่แน่ใจ แลกมาแบ่งกันแล้วก็ลืม –
แต่งงานรึยัง : ยังค่ะ
มีแฟนรึยัง : ยังค่ะ
มีลูกรึยัง : ยังค่ะ T___________T (ถามแค่แฟนนี่ก็ปวดใจและปะ ย้ำสเตตัสเหลือเกิน)
แนบรูปแพลน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เรียกเพื่อนมา..
เรียกน้องเขียวมา เพื่อถามย้ำสเตตัสเราไปอีกค่ะ ถามว่าเรา แต่งงานยัง อะไรบลาๆ โถ่ววว คุณพรี่เจ้าหน้าที่ค่ะ
เชื่อหนู เอาไอดี Kakao Talk หนูไปเหลยยยยย
บ่ายโมงกว่าค่ะคุ๊ณณณณณณณณณณณ
นี่อยู่ในนั้น 4 ชม ค่ะคุณ
หนทางที่ตม.เกาหลีช่างยากลำบากพอกับการเดินขึ้นเนินเขาที่อีแทวอน ヽ(´Д`;)
คนเล่าจะมีสองคนนะคะ เรากับเพื่อน หวังว่าคงไม่งงกันเน๊อะ
บอกก่อนนะคะ กระทู้แรก ถ้าจัดหน้ากระดาษไม่สบายตาขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
น้องเขียว ..
เรามีแพลนไปเกาหลีคือวันที่ 24-28 กันยายนที่ผ่านมา มีเวลาเตรียมตัว ประมาณ 1 เดือน เออเราเป็นคนจัดทริปนี้เอง 5 วัน
ส่วนเพื่อนจะเป็นคนนำทาง ซึ่งมันขี้เกียจจัด เราก็กลัวตม.ด้วยแหละเผื่อเขาจะถามอะไร ก็จัดทริปปริ้นใบเอกสารนู่นนี่ไปหน่อย
เพื่อความอุ่นใจ (ติ่งด้วยเที่ยวด้วย จขกท.เป็นเอลฟ์นะคะ 555555)
พี่หอย..
ส่วนเรานี่คือเป็นคนจอง จ่ายแหลก กดตั๋วไม่รอบอกเพื่อนด้วย เป็นติ่งมาเป็น 10 ปีละ ตอนนี้ (ตอนนี้ติ่งลุงๆ เอสเจกับวงเด็กไทย
ค่ายเอสเอมค่ะ) ซึ่งเรากับเพื่อนสองคนก็จองตั๋วเครื่องบิน+ที่พักกับแอร์เอเชียเรียบร้อยไว้หลายเดือนแล้ว เราเป็นคนจอง ทุกอย่าง
เป็นชื่อเรา แต่พาสปอร์ตเรากับเพื่อนเป็นหน้าขาวนะ เราเพิ่งไปทำใหม่ค่ะเพราะเปลี่ยนชื่อ แต่เราเคยไปสิงคโปร์มาแล้ว
------------------------------------ ก่อนเดินทาง ------------------------------------
น้องเขียว ..
ลืมบอกไป นี่เป็นการไปต่างประเทศครั้งแรกของเรา ที่แหละที่ทำให้กลัวตม.ประเทศนี้ เพราะใครๆ ก็บอกว่าโหด และทริปนี้ก็เป็นทริป
ฉุกเฉิน อยากไปก็ไปเลย เรามีเวลาไม่มากด้วยหน้าที่การงานอะไรหลายๆอย่าง ช่วงก่อนที่จะไปก็มีคนส่งข่าวเรื่องตม.เกาหลีมาให้อ่าน
มีพี่ๆที่เคยไปแนะนำว่า ไม่ต้องกลัว สบายๆ เราไปเที่ยว อย่าคิดมาก ใช่ๆ เราไปเที่ยว เราจะไม่คิดมากแต่มันก็อดคิดไม่ได้ป่าววะ
ตม.เป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้เลย คุยกันคนละภาษาอีกต่างหาก ภาษาอังกฤษเราก็ใช่ว่าจะแข็งแรง แล้วที่สำคัญไม่สบายไข้ขึ้น
ก่อนเดินทางด้วย จนต้องเกือบจะยกเลิกทริปนี้ กะว่าให้เพื่อนมันไปคนเดียว แต่เนื่องด้วยความอึดและความงก เราเสียเงินไปแล้ว
เราจะตายไม่ได้ ห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดฝืนสังขารมาสนามบินแบบเละๆเทะๆ เอาวะเป็นไงเป็นกัน ตอนนั้นกังวลอยู่ 2 อย่าง กลัวไข้ขึ้น
กับกลัวตม. เออก่อนจะมาสนามบินเพื่อนก็มาบอกว่าเราต้องแต่งตัวแบบดีๆ มีมารยาทอะไรแบบนี้แต่งสุภาพแต่งแบบนักท่องเที่ยว
อะไรก็จัดกันไปให้แน่น ยกเว้นสติที่ริบหลี่จากไข้หวัด ตอนนั้นก็ไม่ได้นึกว่าจะไปเที่ยวอะไร นึกแค่ว่า ง่วงไม่ไหวแล้วอยากขึ้นเครื่อง
อยากนอนอยากไปถึงที่พักอยากไปถึงเกาหลีเร็วๆ และแล้วเราก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง ตีหนึ่งกว่าๆ จำเวลาไม่ได้แล้ว 555555
พี่หอย..
1.55 am แงะนี่จำได้ นี่นัดกัน 4 ทุ่มคือ 2 ทุ่มมันโทรมาบอก
เขียว : ถ้ากูไม่ไปเป็นไรปะวะ
หอย : กลับมาแล้วค่อยตายแต่ห้ามตายตอนนี้ จ่ายตังไปหมดแล้วจะเทไม่ได้ -_-
ตั้งแต่สนามบินที่ไทยแล้ว บรรยากาศมันก็แปลกๆ เราไม่ได้มองดูถูกหรืออะไรนะ แต่เราคิดว่าหลายคนนี่ดูทรงไม่เหมือนมาเที่ยว
เข้าใจฟิลมั้ย (มันมีหลายอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้มาก คิดว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน) แล้วคนก็เยอะมาก ตัวเราเนี่ยก็คุยกับเพื่อนว่า
“ กูจะแต่งตัวธีมไปประชุมโอเป็กเลย” เพราะเราก็คิดไปเองว่าเออน่าจะผ่านง่ายถ้าแต่งตัวดูน่าเชื่อถือ 55555555555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
---------------------------- ตัดภาพมาที่เกาหลีเลย ----------------------------
(ถึงอินชอนตอน 9.30am ประมาณนี้ค่ะจำไม่ได้)
น้องเขียว...
9 โมงกว่าๆ ตอนนั้นนอนก็ไม่อิ่มหลับๆ ตื่นๆ หน้าก็คงจะพังจะผีไปพบตม. เราก็เดินไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศเกาหลีกัน จำได้ว่าวันนั้นคนเยอะมาก คนโดนเข้าห้องเย็นก็เยอะมากๆ นี่เราจะโดนปะวะ แต่แบบคิดว่าถ้าโดนจะทำยังไง คิดไม่ออกคือมีความมึนๆ ว่านี่เรามาเที่ยวแล้วหรอ นี่ลางานมาเที่ยวแล้วโว๊ยยยช่วยมีความรู้สึกตื่นเต้นดีใจอะไรหน่อย แต่ก็ไม่รู้สึกอะไร เฉยมาก เฉยจนงงตัวเอง เราเดินนำหน้าเพื่อนไป ใกล้จะถึงตม.และ เราก็ไปต่อแถว จนไปถึงหน้าเจ้าหน้าที่ เราก็ไปก่อนเพื่อน เจ้าหน้าที่ตม.ก็ให้สแกนนิ้วมือ มองกล้องปกติ นึกในใจ ทำไมจะให้กูผ่านอะไรง่ายดายเบอร์นั้น แทงหวยไม่ถูกแหม่ นึกยังไม่ทันขาดคำ คุณลุงเจ้าหน้าที่ก็มาถามว่า มาคนเดียวหรอ เราก็บอกเปล่า มากับเพื่อน แล้วถามว่าพักที่ไหนเราก็ตอบๆไป ขอดูใบบุ๊กกิ้งหน่อย เราก็ยื่นให้ดู แล้วก็ถามว่า ทำไมไม่มีชื่อเราในใบบุ๊กกิ้ง ตอนนั้นคืองงมาก ต้องมีชื่อเราหรอวะ เลยบอกว่าใช้บัตรเครดิตเพื่อนจ่าย เนี่ยเราจองห้องแบบทวินรูมนะ แล้วนางก็ถามว่าเพื่อนเราคนไหน เราก็ชี้ไป จากนั้น ก็เชิญเรากับเพื่อนไปที่ห้องเย็นทันที โอยยยยยยอยากจะบ้า
พี่หอย..
ตอนต่อแถวเราเห็นคนโดนเรียกเยอะมาก คนไทยทั้งนั้นเหลยยย เราก็สังเกตุดูทรงคนที่ถูกเรียกอยู่ว่าเป็นยังไง ซึ่งมันก็หลากหลายมาก
เดาไม่ถูกดวงล้วนๆ ส่วนตัวก็มั่นหน้าในหน้าที่การงานระดับนึงว่าทางเรามั่นคงพอสมควร 555555 เอกสารที่เราเตรียมไปคือ
ใบเช่าพ็อกเกต Wifi ใบจองที่พัก ไฟท์กลับ แพลนเที่ยว (มีความปริ้นสีไปด้วย) หลักๆ ก็ประมาณนี้
เค้าก็ถาม มากี่วันมากับใคร ทำงานอะไร เราก็ตอบๆ ว่า 5 วัน ตอบชื่อตำแหน่งไปว่า Software Eng. เฮ้ยมันเหมือนจะผ่านหวะแต่…
อ้าว!! จนทของเพื่อนชี้มาที่นี่ด้วย ตะโกนเรียกชื่อนี่ แล้วเค้าก็คุยกัน
คุณไม่ได้ไปต่อ เชิญค่ะ
ผลีมากกก!!
ธีมโอเป็กไม่ได้ช่วยอะไร
แต่เราก็ชิวนะ จำได้ว่า ยังเดินฮัมเพลงเดินเข้าห้องเย็นไป ด้วยความมั่นหน้านี้ 555555
---- เข้าไปที่ห้องแรก ---
เค้าก็ให้รอเรียกชื่อตามพาสปอร์ต สแกนนิ้ว ถ่ายรูปแล้วก็ให้กระดาษมา 1 แผ่น คือใบพิสูจน์ตัวตน ตามข้อกฎหมาย ของเกาหลี ถ้าเราสามารถพิสูจน์ตัวตนตัวเองได้ ก็ผ่านค่ะ แล้วเค้าก็ให้เข้าไปอีกห้องนึง ไปเขียนแล้วก็รอสัมภาษณ์ (เรียกว่าสัมภาษณ์มั้ยนะ) อีใบนี้ต้องกรอกนะคะคุณขา ไม่ใช่ดื้อดึง เห็นบางคนบอกไม่กรอกกลัวโดนส่งกลับ ใบส่งกลับอีกใบนึงค่ะไม่ใช่ใบนี้
---- เข้าไปที่ห้องข้างใน ---
ระหว่างที่เรารอเรียกชื่อเรา เราค่อนข้างชิวค่ะ แต่หิวข้าวมาก (ก่อนออกจากบ้านแม่บอกให้กินไรลองท้องก่อน นี่ก็บอกเดี๋ยวไปกินหนามบินแม่ ลืมไปว่ามันดึก ร้านเค้าปิดหมดแล้ว ได้กินแค่พายไก่ในสตาร์บั๊ค เงินไทยก็ไม่มี ซื้ออาหารบนเครื่องก็ไม่พอ T_T ) เห็นหลายคนเครียด เราก็อ่านกระทู้ไปเยอะเหมือนกัน หัวหน้าเรา เพื่อนเราไม่มีใครโดนเรียกเลย เราน่าจะเป็นคนแรกในคนรอบๆ ตัว สะเทือนใจ 55555555555555
ตอนอยู่ในนั้นก็แอบฟังคนอื่นตอบคำถามกัน คือบางคนมันก็ไม่น่าผ่านไง แบบ บางคนตอบแบบ มาหาเพื่อน เพื่อนเป็นคนเกาหลี พอเค้าถามว่าเพื่อนชื่อไร ก็บอกว่าไม่รู้ เจอกันในผับ แบบนี้มันควรผ่านป้ะ เอาจริง ถ้าเราเป็นตม เราก็ไม่ให้ผ่าน โกโฮมเลยคุณ
หลายคนกังวลว่า เฮ้ยเราจะตอบคำถามได้หรอ น่าจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี จะอธิบายตรงนี้ว่า คุณ ตม. เนี่ยเค้าจะให้เรายกหูโทรศัพท์ขึ้นมา ในสายจะเป็นคนไทย (น่าจะคนไทยพูดได้ดีทั้งสองภาษา) ที่คุยกับเราเป็นภาษาไทยค่ะ คุณ ตม. เนี่ยเค้าจะถามเรา แล้วให้คนในสายแปลให้เราฟัง แล้วเค้าก็จะแปลที่เราพูดให้คุณ ตม. ฟังค่ะ
-- ตลอดเวลาที่เราอยู่ในนั้น ยังไม่เห็นท่าทีรุนแรง การกระทำที่ไม่เหมาะสม หรือการพูดจาไม่ดีของเจ้าหน้าที่เลยนะคะ --
เราโดนเรียกก่อนน้องเขียวค่ะ
-- คุณตม ก็ให้สแกนนิ้ว ถ่ายรูป แล้วก็ให้ยกหูโทรศัพท์ค่ะ –
เราจะเล่าคำถามคร่าวๆ นะคะ เค้าถามเยอะกว่าแม่เรา ถามชนิดที่ คนที่เข้ามาจีบยังไม่อยากรู้เยอะขนาดนี้อะ คุณพระ!
ถามละเอียดมากกกกกกก เราจำไม่ได้หมด คือเยอะมากจริง จนนี่สะตั้นอะ
คุณมาเกาหลีทำไม : มาเที่ยวค่ะ
ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง : ตามแพลน ก็มี มยองดง ฮงแด อีแทวอน คยองรีดัล SM Coex คลองกเยชอน คังนัม
(จริงๆ มีมากกว่านี้แต่จำไม่ได้ว่าตอบไรไปบ้าง ตอบเท่าที่นึกได้ ตอบความติ่งใส่ลงไปหน่อยนึง)
พักที่ไหน : XXเกสเฮาส์ แถวฮงแดค่ะ
ออกจากสนามบินจะไปที่ไหนก่อน ไปเที่ยวหรือไปที่พัก : ไปที่พักเอากระเป๋าไปเก็บค่ะ
ไปที่พักยังไง รถอะไร : รถไฟค่ะ
ทำงานอะไร : เป็น Software Engineer
เงินเดือนเท่าไหร่ : XX,XXX โบนัสทุก 3 เดือน (ตอบเพิ่มความน่าเชื่อถือ แต่ไม่รู้เค้าแปลให้ป่าว เราได้ยินไม่ถนัด)
มากี่วัน : มา 5 วันค่ะ (อยู่ได้แค่นี้ ถ้าลาได้มากกว่านี้ก็จะลานะ ._. )
มากับใคร : มากับเพื่อนค่ะ
กี่คน : เพื่อน 1 คนค่ะ
เพื่อนชื่อไร : ชื่อXXค่ะ
รู้จักกันยังไง : รู้จักกันสมัยมัธยมค่ะ
มัธยมต้นหรือมัธยมปลาย : (ตกใจ แบบนี้ก็ได้หรอ) มัธยมปลายค่ะ
เพื่อนทำงานอะไร : เป็นกราฟฟิคดีไซน์ค่ะ
บริษัทอะไร : XXX (บริษัทนางเป็นสื่อที่มีชื่อเสียงอยู่ค่ะ)
จริงๆ เยอะกว่านี้อีก เอาแค่นี้ก่อนเน้อ จำทั้งหมดไม่ได้จริงๆ ขอเบอร์มั้ยคุ๊ณ คุยกันวันหลังบ้างวันนี้ไม่ค่อยว่าง เผื่ออยากรู้จัก
คาท่กมั้ยยยยย คือ ตม. ผู้หญิงนะคะ เล่าให้ใครฟังก็ถามว่า เค้าจะจีบแล้วปะ ถามเยอะขนาดเน้ แต่เรายังชิวอยู่ค่ะ
ตอบคำถามฉะฉาน ทุกข้อ เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องจริงก็ไม่ต้องคิดมากก่อนตอบ แค่ตอบความจริงไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ
เรียกน้องเขียวมา แล้วก็ถามเขียวแบบ ถามนิดหน่อยอะ ถามเขียวแบบ ทำงานอะไร รู้จักเราได้ไง แค่นี้เองมั้ง
เกทปะถามเราแบบ 15 นาทีได้ เสร็จก็อะให้ไปนั่งรอ… แต่เรามั่นใจอะว่าผ่าน นึกออกปะ เอ้า หน้าที่การงานเรา
ก็ดีอยู่แล้วปะวะ ต้องมาใช้แรงงานบ้านคุณ ทำทำไม เราทำงานในห้องแอร์หน้าคอมเย็นๆ ก็สบายอยู่แล้วปะวะ
มองนาฬิกาอีกที นี่เที่ยงแล้ววว เอ้าเฮ้ยยยย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า ไม่ใช่ละ!!
มีแพลนไปดูโชว์เคสน้อง คุณพี่จะมาทำร้ายหนูแบบนี้ไม่ได้ หนูนกมาหลายเรื่องแล้วงานนี้จะเป็นงานเดียวทีหนูไม่นก
ใช้เวลาในนี้จนคุ้นเคยเหมือนอยู่บ้าน
แล้วก็เรียกอีกค่ะ รอบนี้พีคไม่แพ้รอบที่แล้ว
สแกนนิ้ว ถ่ายรูปเหมือนเดิมค่ะ โดนสแกนนิ้วไปทั้งหมด 4 5 รอบได้
ทำงานอะไร : เป็น Software Engineer
แล้วทำอะไรอะ : (เหมือนเค้าจะไม่เข้าใจ) เป็น Programmer อะค่ะ
งานที่ทำเกี่ยวกับอะไรมีหน้าที่อะไร : ดูแลระบบ….ให้….(ซึ่งค่อนข้างมีชื่อเสียงทั่วโลก
เราตอบแบบกว้างๆ อะไม่คิดว่าเค้าจะอยากรู้มาก)
ไม่เข้าใจอะ ทำไมXเนี่ยต้องมาจ้างบริษัทคุณอะ ทำไมไม่ทำเอง : เป็นบริษัทในเครือกันค่ะ
ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมีหน้าที่ของตัวเอง บลาาาาา....
แล้วทำอะไร ดูแลระบบให้ลูกค้าของXอะหรอ : เราก็อธิบายงานของเรา
เราอธิบายจนแทบจะอธิบายโครงสร้างองค์กรเลยค่ะ
มีนามบัตรหรือบัตรพนักงานมั้ย : จริงๆ แล้วบัตรพนง มันหายไปพร้อมประเป๋าสตางค์ค่ะ
ซึ่ง HR เค้าก็ออกบัตรมาให้ใช้ชั่วคราวก่อน ได้มั้ยคะ
(แล้วบัตรนี่ผีมากค่ะคุณ เป็นบัตรพนง ที่มีแถบแม่เหล็กแต่มีกระดาษเขียนชื่อกับตำแหน่ง แล้วก็รูป แปะสก๊อตเทปไว้กับบัตร
แถมชื่อไม่ตรงอีกค่ะ ถ้านี่เป็นตม นี่คิดว่า แกหลอกชั้นแน่นอนแบบนี้ แต่เค้าเชื่อหวะ นี่งงมาก)
ขอดูใบจองที่พักหน่อย : -ก็ให้ไป- ให้ไปทุกอย่างที่มี ให้ไปดูแพลนด้วย เพราะแพลนที่น้องเขียวเป็นคนทำจะรู้เลยค่ะว่าติ่ง ถถถถถถ
เอาเงินมาเท่าไหร่ : - ให้เค้าไปดูทั้งซองเลยค่ะ เพราะนี่ก็ไม่แน่ใจ แลกมาแบ่งกันแล้วก็ลืม –
แต่งงานรึยัง : ยังค่ะ
มีแฟนรึยัง : ยังค่ะ
มีลูกรึยัง : ยังค่ะ T___________T (ถามแค่แฟนนี่ก็ปวดใจและปะ ย้ำสเตตัสเหลือเกิน)
แนบรูปแพลน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรียกเพื่อนมา..
เรียกน้องเขียวมา เพื่อถามย้ำสเตตัสเราไปอีกค่ะ ถามว่าเรา แต่งงานยัง อะไรบลาๆ โถ่ววว คุณพรี่เจ้าหน้าที่ค่ะ
เชื่อหนู เอาไอดี Kakao Talk หนูไปเหลยยยยย
บ่ายโมงกว่าค่ะคุ๊ณณณณณณณณณณณ
นี่อยู่ในนั้น 4 ชม ค่ะคุณ