

วันนี้เราไปเที่ยวแอฟริกาใต้แก้เหงากันดีกว่านะคะ
มีเรื่องประทับใจมาเล่าสู่กันฟังค่ะ มาจากบทความของคุณ Maria Crawford (บรรณาธิการหนังสือฉบับหนึง)
เป็นที่รู้กันนะว่าเวลาไมเคิลเดินทางไปที่ไหนในโลกนี้ก็ตาม เค้าก็ต้องไปเยี่ยมเด็กๆตามโรงพยาบาลตลอดเวลา
และที่แอฟริกาใต้นี่ก็เช่นกันค่ะ เรื่องนี้เหตุเกิดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน Cape Town ค่ะ
**************** ************* *************
พอไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอและพยาบาลก็มาต้อนรับและพาไมเคิลเดินเยี่ยมทักทายเด็กๆและเดินคุยกันไปเรื่อยๆ...
...ดูแลเด็กยังไง ค่าใช้จ่ายเป็นยังไง สัพเพเหระต่างๆนาๆ...เดินไปหาเด็กเตียงโน้นเตียงนี้...และก็มีห้องที่แยกออกไปต่างหากอยู่ห้องหนึ่ง...
ไมเคิลเลยถามว่า...นั่นห้องอะไร?? ทำไมเด็กถึงต้องอยู่ในห้องนั้นตามลำพังล่ะ??...คุณหมอตอบว่า เป็นห้องกักตัวครับ เด็กคนนี้กำลังป่วยหนักและเป็นโรคติดต่อครับ...
และคุณหมอก็จะพาไมเคิลเดินต่อไป แต่ไมเคิลไม่เดินตาม หันกลับมาพร้อมกับหลบเข้าไปหาเด็กในห้องนั้นเลยค่ะ เท่านั้นล่ะค่ะ คุณหมอและพยาบาลพากันตื่นตระหนกตกใจกันแบบสุดๆ(ร้องกันลั่นโรงพยาบาลเลยล่ะ) แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะตามไมเคิลเข้าไปซักคนเลยค่ะ (เพราะทุกคนก็ไม่มีเครื่องป้องกัน)
ตากล้องของไมเคิลชื่อโจบอกว่า...พวกเขามองไมเคิลกันผ่านทางหน้าต่าง เห็นไมเคิลนั่งอยู่กับเด็กบนเตียงผู้ป่วยนั่นล่ะ พูดคุยกับเด็กและหอมเด็กที่หน้าผากด้วยค่ะ และก็อยู่อย่างใจเย็นแบบนั้นอยู่ซักพักนึงถึงจะออกมา
แต่ทั้งหมอและพยาบาลไม่มีใครกล้าตำหนิไมเคิลเลยค่ะ ก็เพราะเค้าคือ "Michael Jackson"... แต่โจก็บอกว่า เห็นหน้าตาของพวกเค้า(หมอและพยาบาล)มีความรู้สึกกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ
หลังจากนั้น ตากล้องโจ (Joe Wilcots ) เลยถามไมเคิลว่า...ทำไมคุณถึงทำแบบนั้นล่ะ?? มันเสี่ยงต่อสุขภาพของคุณอย่างร้ายแรงหากเกิดอะไรขึ้นแล้วคุณจะทำอย่างไร??...
ไมเคิลตอบว่า...ผมอยากให้แม่ของเด็กเห็น (หากหล่อนอยู่ที่นี่) คนที่เป็นแม่คนเค้าต้องทำกันแบบนี้...ไมเคิลบอกว่าเค้ารู้ว่ามันไม่อันตรายหรอก และก็จะได้เป็นตัวอย่างให้ผู้ปกครองที่อยู่ที่นั่นได้เห็นด้วยว่า การเป็นแม่คนควรจะเรียนรู้ที่จะเอาใจใส่ให้ความรักกับลูกหลานของตัวเองให้มากกว่านี้ คนเป็นแม่ไม่มีความเสี่ยงที่จะติดต่อหรอก...
โจบอกว่า...นี่คือเรื่องดีๆระหว่างไมเคิลกับเด็กๆที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในชีวิตของเค้า...
" สรุปว่า...ไมเคิลต้องการให้ผู้ปกครองควรจะต้องเรียนรู้วิธีเลียงดูและให้ความรักและรับผิดชอบต่อลูกหลานของตัวเองให้มากกว่านี้ค่ะ"
*ขอแปลคร่าวๆพอเข้าใจเพียงแค่นี้นะคะ ส่วนรายละเอียดติดตามที่ลิงค์ข้างล่างนี้ค่ะ*
https://twitter.com/xbenotalways/status/651742532196540416
Michael Jackson in South Africa, History Tour 1997
วันนี้เราไปเที่ยวแอฟริกาใต้แก้เหงากันดีกว่านะคะ
มีเรื่องประทับใจมาเล่าสู่กันฟังค่ะ มาจากบทความของคุณ Maria Crawford (บรรณาธิการหนังสือฉบับหนึง)
เป็นที่รู้กันนะว่าเวลาไมเคิลเดินทางไปที่ไหนในโลกนี้ก็ตาม เค้าก็ต้องไปเยี่ยมเด็กๆตามโรงพยาบาลตลอดเวลา
และที่แอฟริกาใต้นี่ก็เช่นกันค่ะ เรื่องนี้เหตุเกิดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน Cape Town ค่ะ
**************** ************* *************
พอไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอและพยาบาลก็มาต้อนรับและพาไมเคิลเดินเยี่ยมทักทายเด็กๆและเดินคุยกันไปเรื่อยๆ...
...ดูแลเด็กยังไง ค่าใช้จ่ายเป็นยังไง สัพเพเหระต่างๆนาๆ...เดินไปหาเด็กเตียงโน้นเตียงนี้...และก็มีห้องที่แยกออกไปต่างหากอยู่ห้องหนึ่ง...
ไมเคิลเลยถามว่า...นั่นห้องอะไร?? ทำไมเด็กถึงต้องอยู่ในห้องนั้นตามลำพังล่ะ??...คุณหมอตอบว่า เป็นห้องกักตัวครับ เด็กคนนี้กำลังป่วยหนักและเป็นโรคติดต่อครับ...
และคุณหมอก็จะพาไมเคิลเดินต่อไป แต่ไมเคิลไม่เดินตาม หันกลับมาพร้อมกับหลบเข้าไปหาเด็กในห้องนั้นเลยค่ะ เท่านั้นล่ะค่ะ คุณหมอและพยาบาลพากันตื่นตระหนกตกใจกันแบบสุดๆ(ร้องกันลั่นโรงพยาบาลเลยล่ะ) แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะตามไมเคิลเข้าไปซักคนเลยค่ะ (เพราะทุกคนก็ไม่มีเครื่องป้องกัน)
ตากล้องของไมเคิลชื่อโจบอกว่า...พวกเขามองไมเคิลกันผ่านทางหน้าต่าง เห็นไมเคิลนั่งอยู่กับเด็กบนเตียงผู้ป่วยนั่นล่ะ พูดคุยกับเด็กและหอมเด็กที่หน้าผากด้วยค่ะ และก็อยู่อย่างใจเย็นแบบนั้นอยู่ซักพักนึงถึงจะออกมา
แต่ทั้งหมอและพยาบาลไม่มีใครกล้าตำหนิไมเคิลเลยค่ะ ก็เพราะเค้าคือ "Michael Jackson"... แต่โจก็บอกว่า เห็นหน้าตาของพวกเค้า(หมอและพยาบาล)มีความรู้สึกกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ
หลังจากนั้น ตากล้องโจ (Joe Wilcots ) เลยถามไมเคิลว่า...ทำไมคุณถึงทำแบบนั้นล่ะ?? มันเสี่ยงต่อสุขภาพของคุณอย่างร้ายแรงหากเกิดอะไรขึ้นแล้วคุณจะทำอย่างไร??...
ไมเคิลตอบว่า...ผมอยากให้แม่ของเด็กเห็น (หากหล่อนอยู่ที่นี่) คนที่เป็นแม่คนเค้าต้องทำกันแบบนี้...ไมเคิลบอกว่าเค้ารู้ว่ามันไม่อันตรายหรอก และก็จะได้เป็นตัวอย่างให้ผู้ปกครองที่อยู่ที่นั่นได้เห็นด้วยว่า การเป็นแม่คนควรจะเรียนรู้ที่จะเอาใจใส่ให้ความรักกับลูกหลานของตัวเองให้มากกว่านี้ คนเป็นแม่ไม่มีความเสี่ยงที่จะติดต่อหรอก...
โจบอกว่า...นี่คือเรื่องดีๆระหว่างไมเคิลกับเด็กๆที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในชีวิตของเค้า...
" สรุปว่า...ไมเคิลต้องการให้ผู้ปกครองควรจะต้องเรียนรู้วิธีเลียงดูและให้ความรักและรับผิดชอบต่อลูกหลานของตัวเองให้มากกว่านี้ค่ะ"
*ขอแปลคร่าวๆพอเข้าใจเพียงแค่นี้นะคะ ส่วนรายละเอียดติดตามที่ลิงค์ข้างล่างนี้ค่ะ*
https://twitter.com/xbenotalways/status/651742532196540416