ในเกมที่แทบจะไม่ต่างจากที่เล่นกับซาอุฯ UAE ไม่ได้แสดงความต่างอย่างโดดเด่นไปจากทีมจากตะวันออกกลางทีมอื่นในเกมนี้ ...
....สิ่งที่เกิดขึ้นกับเกมนี้ ล้วนเกิดจากทัศนคติที่ต้องการไปเอาแค่ "เสมอ" ... ทำให้ตั้งแต่แมทช์อุ่นเครื่องกับแคมเมอรูน มันสะท้อนวิสัยทัศน์ในการทำทีมที่ยึดเอาความเป็นรองมาก่อนของซิโก้เป็นอย่างดี ...มันไม่ได้เลวร้ายที่เรารู้ตัวว่าเรายังใหม่ เราเพิ่งกลับมายังจุดที่เคยมาได้เมื่อ 2002 ... แต่.. ฟุตบอลสมัยใหม่ มันไม่ได้มีแค่เกมรับ เกมรุก ผู้เล่นผึ้งงาน ผู้เล่นเกมบุก แบบแยกชัดเจนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ...
ฟุตบอลสมัยใหม่ มันเริ่มว่าด้วยแทคติกที่ผู้เล่นแทบจะมีส่วนในแทคติกทั้งกระดาน ไม่มีแค่แผงรับที่รับอย่างเดียวโดยไม่ยอมมีส่วนในการขึ้นเกม ไม่มีแค่ผู้เล่นที่จ้องจะรอบอลไปบุกอย่างเดียวโดยไม่ช่วยเกมรับ ...ไม่มีแค่การตั้งรับลึกหรือขึ้นเกมเฉพาะตอนอยู่ในแดนคู่ต่อสู้ .. หลายๆ อย่างเปลี่ยนไป ส่งผลให้แม้แต่เบสิคผู้เล่นต้องปรับตัวไปด้วย ...
แล้วเกมนี้เราแพ้เพราะอะไรหละ ...
- อย่างแรกเลย ...เราเริ่มด้วยทัศนคติที่เป็นรองอย่างเดียว ไม่มีแม้แต่ช่องว่างของการพยายามรับเป็นรุก ฉวยโอกาส เรารับด้วยสไตล์บอลเกือบจะเป็นแบบ 20 ปีก่อน ซึ่งเมื่อเทียบกับแทคติกสมัยใหม่ การรับของทีมจะใช้การเพรสซิ่งซึ่งมีหลากหลายแบบประยุกต์ในสมัยนี้ มันเป็นการรับที่ทำให้พร้อมกับมารุกได้ทันที ...นั่นคือ มันจะส่งผลต่อแม้กระทั้งเบสิคบอลด้วย การที่เราจะเอา 1 แต้มจากทีมที่ผู้เล่นได้เปรียบทั้งรูปร่างและเทคนิค หากยังใช้การยืนโซนรอดักบอลอย่างเดียว มันก็เท่ากับเราไม่ได้ก้าวไปตามยุคสมัยที่เค้าใช้การเพรสซิ่งเพื่อให้บอลคู่ต่อสู้คายออกมาเร็ว เพื่อให้เราดักเอาบอลแล้วเปลี่ยนเกมเป็นครองบอลหรือบุก ...มันส่งผลไปยังการจัดผุ้เล่นที่ต้องมาพึ่งนักเตะที่ไม่น่าจะทันเกมรุกกันแต่ขยันไล่บอลอย่างเดียว ...และนั่นอาจจะทำให้โอกาสหลายๆ ครั้งมันหลุดลอยไป ...ส่งบอลกันช้าคิดช้าทำช้า ...ยืนรอบอลไม่สร้างโอากาสด้วยการเคลื่อนที่ ...มองบอลอยู่ที่เท้าคู่ต่อสู้รอบอลออกจากเท้าเค้าโดยที่ไม่กดดันอะไรเค้าเลย (คนส่งถ้าไม่โดนกดดันก็จะมีสมาธิในการหาช่องจ่ายและวางแผนการวิ่งได้ เท่ากับปล่อยให้เค้าคิดล้ำหน้าเราไป 2 ก้าว) ...ทั้งหมดล้วนมาจากทัศนคติแบบเก่าที่มุ่งตั้งรับไว้ก่อน ...เราไม่ควรประมาท แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าได้
- วันนี้ แม้ไม่มีค่อยมีตัวมากดดันฝั่งเจ้าโดมาก ...แต่โดวันนี้กลับเล่นไม่สร้างมูลค่าให้ตัวเองเลย ...บอลโฉ่งฉ่าง ประกบตัวไม่สุด (ลูกแรกที่เสียไม่ยอมตาม ปล่อยให้เวลามีการครอสบอลแล้วผู้เล่นฝั่งตรงข้ามมาอยู่ตรงหน้าตัวเอง) จับบอลไม่เนียน พยายามเบียดเก๋าโดยไม่จำเป็น ... แต่ก็นั่นแหละ ชั่วโมงนี้ถ้าต้องหาคนที่วิ่งไม่มีหมด วิ่งสไตล์ไล่กัด ขึ้นเร็วลงเร็ว (แต่คนละเรื่องกับความเข้าในเกมในการประกบนะ) ก็คงยังหาที่โค้ชซิโก้จะไว้ใจมากกว่าโดยังไม่ได้ .. และเพราะข้อเสียของโด ทำให้ในแทคติกที่มาจากทัศนคติต้องการเล่นรับ ทำให้ต้องส่งปีกที่ไม่ทันเกมรุกของเจ้าเจ ตัง มุ้ย ...ทำให้ตั้งแต่เล่นทีมชีทแบบนี้ เกมรุกต้องมาเล่นที่ฝั่งอุ้มซะเป็นส่วนใหญ่ ...
- ต่อมา .. เพราะทัศนคติที่ต้องมาเล่นแบบเป็นรองอย่างเดียว ด้วยเบสิคที่เราต้องไม่หลอกตัวเองว่าใช้ได้แต่กับระดับอาเซียนเท่านั้น แต่เมื่อขึ้นระดับเอเชียแล้ว มันจะเป็นเกมสมัยใหม่ (ซึ่งจริงๆ ทีมที่เล่นด้วยแทคติกสมัยใหม่ในระดับเอเชียจริงๆ มีแค่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ กับออสซี่) การเลี้ยงกินตัวด้วยร่างกายที่เสียเปรียบ การครองบอลนาน การจับบอลก่อนค่อยมองช่องส่ง มันทำให้กลายเป็นบอลเด็กกับผู้ใหญ่ไปแทน ... จริงๆ แล้ว UAE ที่เล่นวันนี้ แทบไม่ได้ต่างอะไรมากมายจากซาอุฯ หรืออิรักที่เราเจอในช่วงนี้เลย ...ผู้เล่นได้เปรียบรูปร่าง เน้นเทคนิคเฉพาะตัว เล่นกับเราไม่รัดกุมมากมาย มาด้วยทัศนคติที่คิดว่าเหนือกว่าเรา ....ข้าเจ้าเคยบอกในกระทู้บอลโลกก่อนแล้วว่าเราอาจจะยังตามพวกญี่ปุ่น เกาหลีฯ ออสซี่อยู่เยอะ แต่ก็น่าจะพอวัดทีมจากอาหรับได้แล้ว ...เรากลัวอะไร? กลัวหมดเหรอ? หรือกลัวเจอเกมสวนกลับจากไข้ขึ้น .. ที่ข้าเจ้าเห็นในวันนี้ เราเล่นด้วยทัศนคติที่อ่อนแอไปนิด แต่ก็นั่นแหละ เราเพิ่งจะกลับมาเจอทีมอาหรับชุดใหญ่ในช่วงนี้ (ทั้งที่จริงๆ ทีมชุดนี้หลายคนที่ลุยมาตั้งแต่เอเชียนเกมส์ที่เกาหลีใต้ก็น่าจะเคยวัดกับจอร์แดนมาแล้ว น่าจะพอมีประสบการณ์บ้าง) บางคนยังนึกสภาพไม่ออกว่าถ้าเจอตัวใหญ่ๆ วิ่งเข้ามาเบียดควรจะต้องทำอย่างไร (จริงๆ นะ หลายคนแม้แต่เข้าอุ้มเองที่ควรจะเก๋าได้แล้วก็ยังมีอาการนะจังงังเมื่อเจอกดดันเข้ามา ขาตาย ทำอะไรไม่ถูก ...) บางคนรู้ทั้งรู้ว่าวิ่งเบียดเพื่อแย่งบอลเหลี่ยมแบบนี้จะกลายเป็นต้องทำฟาล์ว (เหลี่ยมบอลจากด้านนอกข้างหลัง ไม่ใช่เหลี่ยมในเพื่อเบียดออกนอกกรอบ ซึ่งเราจะสังเกตได้ว่าถ้าเป็นเหลี่ยมนี้ แม้แต่เจ้าตั้มเบียดในกรอบเขตโทษเรายังไม่เสียฟาล์วเลย ...แต่เจ้าโดไม่นำพา) ... เวลาในการเตรียมทีมที่อุตส่าห์ขอเพิ่มวันจาก 7 เป็น 10 วันล่วงหน้า กลับไม่เห็นผลของการพยายามซ้อมแทคติกสมัยใหม่ อย่างน้อยๆ ..กับการวิ่งหาช่อง กับการซ้อม Pass & Move วิ่งหาช่อง (ซึ่งคงมีแต่ธนากับปีโป้ที่ลงมาแล้วรู้เรื่อง) ของผู้เล่น First team ... ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา ..แต่ ... มันจะไม่พัฒนากันบ้างเลยเหรอ ตอนนี้กลายเป็นว่า ปัญหาเดิมๆ ของผู้เล่นต่างทีมที่ไม่ทันกันมันยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้น ..ทรัพยากรเราน้อย ...หรือเพราะเราไม่กล้าลองของใหม่
- จริงๆ เกมนี้ทำให้ข้าเจ้ามั่นใจได้อย่าง ว่าเราน่าจะ "ไม่ควร" กลัวทีมจากตะวันออกกลางได้แล้ว ไม่ใช่เพราะพวกเราเล่นดีขึ้น ...แต่เพราะพวกนั้นก็ไม่ได้เล่นพัฒนาไปถึงไหน ยังต้องพึ่งผู้เล่นเลียนแบบผู้เล่นระดับโลกในเรื่องความสามารถเฉพาะตัว ยังรับกันไม่เป็นฟอร์ม ยังต่างคนต่างเพรส ยังมีลน ยังมีมั่ว ... ก็คงต้องพิสูจน์กับเกมกับอิรักกับเกมในบ้านที่เหลือ ... ลูกที่ 2 กับ 3 ข้าเจ้าไม่อะไรมากนะ มันเป็นไปตามจังหวะเกม ..ลูก 2 เราอยากจะเร่งเกมชิงความได้เปรียบต้นเกม แต่ทำไม่ได้ ก็ต้องรับผลกันไป ...ลูก 3 เนี่ยไม่ต่างจากการเล่น Open play ของฟุตซอลแล้ว ถ้าจะน่าตำหนิข้าเจ้าบ่นลูกแรกลูกเดียว ... ส่วนลูกที่เราควรยิงได้ มันก็เป็นไปตามทัศนคติกับความสามารถเท่าที่มี ไม่ถึงกับอ่อนด้อยกว่า UAE หรือทีมอาหรับใดๆ มากนักแบบที่โดนญี่ปุ่น ...(แต่มีอย่างที่ไหน ได้เตะมุมติดต่อกัน แต่ผู้เล่นเราไม่มีส่วนในเกมตรงนี้เลย ในวงล้อมที่บอลตกลงมา มีแต่ UAE สกัดสะเปะสะปะไปหมด) ลูกที่ยิงเข้าแต่ล้ำหน้านั่นก็ล้ำนิดเดียวจริงๆ เสียดายที่ธนาเองก็ยอมรับว่าไม่สามารถเล่นได้ 90 นาทีได้แล้ว ทำให้โค้ชซิโก้ไม่เคยมั่นใจอีกเลยที่จะเอาธนาเล่นตั้งแต่ครึ่งแรก ...แต่เจ้าปีโป้เนี่ย ข้าเจ้ารอเซอร์ไพรซ์กับเกมอิรักนะ ... เสียวอย่างเดียวกับเจ้าตั้มที่โดนเปลี่ยนตัวเร็ว น่าจะมีอาการบาดเจ็บรบกวน ต้องลุ้นอีกที
...
แพ้นัดนี้ เป็นการแพ้ที่น่าเสียดาย เพราะเราไม่ได้แพ้ในเรื่องสู้เขาไม่ได้ แต่เราแพ้ใจตัวเองมากกว่า ... ถ้าเราตั้งต้นทัศนคติต่างไปจากนี้ อาจจะได้ผลการแข่งขันที่แตกต่างไปจากนี้ก็ได้ ... เส้นกั้นระหว่างทีมอาเซียนกับทีมระดับเอเชีย เราจะข้ามได้เมื่อไหร่ ...คงต้องรอดูเมื่อทีมชุดใหญ่ของเราเริ่มชนะทีมจากอาหรับได้จริงๆ เมื่อนั้นแหละ ...
(อนึ่ง ..ไอ้เบอร์ 11 UAE ส่งลงมาอย่างกับ Martial แหนะ ...แต่ไอ้อับดูร รามาลไม่ได้ถึงกับโหดอะไรมาก ...เราประกบห่างกับเพรสไม่ดีเอง แต่ก็นะ เราไม่มีกลางรับอาชีพหนิในตอนนี้) ...
บทสรุปนัดที่สาม UAE 3-1 ไทย FIFA World Cup Asian Qualifiers ...
ในเกมที่แทบจะไม่ต่างจากที่เล่นกับซาอุฯ UAE ไม่ได้แสดงความต่างอย่างโดดเด่นไปจากทีมจากตะวันออกกลางทีมอื่นในเกมนี้ ...
....สิ่งที่เกิดขึ้นกับเกมนี้ ล้วนเกิดจากทัศนคติที่ต้องการไปเอาแค่ "เสมอ" ... ทำให้ตั้งแต่แมทช์อุ่นเครื่องกับแคมเมอรูน มันสะท้อนวิสัยทัศน์ในการทำทีมที่ยึดเอาความเป็นรองมาก่อนของซิโก้เป็นอย่างดี ...มันไม่ได้เลวร้ายที่เรารู้ตัวว่าเรายังใหม่ เราเพิ่งกลับมายังจุดที่เคยมาได้เมื่อ 2002 ... แต่.. ฟุตบอลสมัยใหม่ มันไม่ได้มีแค่เกมรับ เกมรุก ผู้เล่นผึ้งงาน ผู้เล่นเกมบุก แบบแยกชัดเจนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ...
ฟุตบอลสมัยใหม่ มันเริ่มว่าด้วยแทคติกที่ผู้เล่นแทบจะมีส่วนในแทคติกทั้งกระดาน ไม่มีแค่แผงรับที่รับอย่างเดียวโดยไม่ยอมมีส่วนในการขึ้นเกม ไม่มีแค่ผู้เล่นที่จ้องจะรอบอลไปบุกอย่างเดียวโดยไม่ช่วยเกมรับ ...ไม่มีแค่การตั้งรับลึกหรือขึ้นเกมเฉพาะตอนอยู่ในแดนคู่ต่อสู้ .. หลายๆ อย่างเปลี่ยนไป ส่งผลให้แม้แต่เบสิคผู้เล่นต้องปรับตัวไปด้วย ...
แล้วเกมนี้เราแพ้เพราะอะไรหละ ...
- อย่างแรกเลย ...เราเริ่มด้วยทัศนคติที่เป็นรองอย่างเดียว ไม่มีแม้แต่ช่องว่างของการพยายามรับเป็นรุก ฉวยโอกาส เรารับด้วยสไตล์บอลเกือบจะเป็นแบบ 20 ปีก่อน ซึ่งเมื่อเทียบกับแทคติกสมัยใหม่ การรับของทีมจะใช้การเพรสซิ่งซึ่งมีหลากหลายแบบประยุกต์ในสมัยนี้ มันเป็นการรับที่ทำให้พร้อมกับมารุกได้ทันที ...นั่นคือ มันจะส่งผลต่อแม้กระทั้งเบสิคบอลด้วย การที่เราจะเอา 1 แต้มจากทีมที่ผู้เล่นได้เปรียบทั้งรูปร่างและเทคนิค หากยังใช้การยืนโซนรอดักบอลอย่างเดียว มันก็เท่ากับเราไม่ได้ก้าวไปตามยุคสมัยที่เค้าใช้การเพรสซิ่งเพื่อให้บอลคู่ต่อสู้คายออกมาเร็ว เพื่อให้เราดักเอาบอลแล้วเปลี่ยนเกมเป็นครองบอลหรือบุก ...มันส่งผลไปยังการจัดผุ้เล่นที่ต้องมาพึ่งนักเตะที่ไม่น่าจะทันเกมรุกกันแต่ขยันไล่บอลอย่างเดียว ...และนั่นอาจจะทำให้โอกาสหลายๆ ครั้งมันหลุดลอยไป ...ส่งบอลกันช้าคิดช้าทำช้า ...ยืนรอบอลไม่สร้างโอากาสด้วยการเคลื่อนที่ ...มองบอลอยู่ที่เท้าคู่ต่อสู้รอบอลออกจากเท้าเค้าโดยที่ไม่กดดันอะไรเค้าเลย (คนส่งถ้าไม่โดนกดดันก็จะมีสมาธิในการหาช่องจ่ายและวางแผนการวิ่งได้ เท่ากับปล่อยให้เค้าคิดล้ำหน้าเราไป 2 ก้าว) ...ทั้งหมดล้วนมาจากทัศนคติแบบเก่าที่มุ่งตั้งรับไว้ก่อน ...เราไม่ควรประมาท แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าได้
- วันนี้ แม้ไม่มีค่อยมีตัวมากดดันฝั่งเจ้าโดมาก ...แต่โดวันนี้กลับเล่นไม่สร้างมูลค่าให้ตัวเองเลย ...บอลโฉ่งฉ่าง ประกบตัวไม่สุด (ลูกแรกที่เสียไม่ยอมตาม ปล่อยให้เวลามีการครอสบอลแล้วผู้เล่นฝั่งตรงข้ามมาอยู่ตรงหน้าตัวเอง) จับบอลไม่เนียน พยายามเบียดเก๋าโดยไม่จำเป็น ... แต่ก็นั่นแหละ ชั่วโมงนี้ถ้าต้องหาคนที่วิ่งไม่มีหมด วิ่งสไตล์ไล่กัด ขึ้นเร็วลงเร็ว (แต่คนละเรื่องกับความเข้าในเกมในการประกบนะ) ก็คงยังหาที่โค้ชซิโก้จะไว้ใจมากกว่าโดยังไม่ได้ .. และเพราะข้อเสียของโด ทำให้ในแทคติกที่มาจากทัศนคติต้องการเล่นรับ ทำให้ต้องส่งปีกที่ไม่ทันเกมรุกของเจ้าเจ ตัง มุ้ย ...ทำให้ตั้งแต่เล่นทีมชีทแบบนี้ เกมรุกต้องมาเล่นที่ฝั่งอุ้มซะเป็นส่วนใหญ่ ...
- ต่อมา .. เพราะทัศนคติที่ต้องมาเล่นแบบเป็นรองอย่างเดียว ด้วยเบสิคที่เราต้องไม่หลอกตัวเองว่าใช้ได้แต่กับระดับอาเซียนเท่านั้น แต่เมื่อขึ้นระดับเอเชียแล้ว มันจะเป็นเกมสมัยใหม่ (ซึ่งจริงๆ ทีมที่เล่นด้วยแทคติกสมัยใหม่ในระดับเอเชียจริงๆ มีแค่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ กับออสซี่) การเลี้ยงกินตัวด้วยร่างกายที่เสียเปรียบ การครองบอลนาน การจับบอลก่อนค่อยมองช่องส่ง มันทำให้กลายเป็นบอลเด็กกับผู้ใหญ่ไปแทน ... จริงๆ แล้ว UAE ที่เล่นวันนี้ แทบไม่ได้ต่างอะไรมากมายจากซาอุฯ หรืออิรักที่เราเจอในช่วงนี้เลย ...ผู้เล่นได้เปรียบรูปร่าง เน้นเทคนิคเฉพาะตัว เล่นกับเราไม่รัดกุมมากมาย มาด้วยทัศนคติที่คิดว่าเหนือกว่าเรา ....ข้าเจ้าเคยบอกในกระทู้บอลโลกก่อนแล้วว่าเราอาจจะยังตามพวกญี่ปุ่น เกาหลีฯ ออสซี่อยู่เยอะ แต่ก็น่าจะพอวัดทีมจากอาหรับได้แล้ว ...เรากลัวอะไร? กลัวหมดเหรอ? หรือกลัวเจอเกมสวนกลับจากไข้ขึ้น .. ที่ข้าเจ้าเห็นในวันนี้ เราเล่นด้วยทัศนคติที่อ่อนแอไปนิด แต่ก็นั่นแหละ เราเพิ่งจะกลับมาเจอทีมอาหรับชุดใหญ่ในช่วงนี้ (ทั้งที่จริงๆ ทีมชุดนี้หลายคนที่ลุยมาตั้งแต่เอเชียนเกมส์ที่เกาหลีใต้ก็น่าจะเคยวัดกับจอร์แดนมาแล้ว น่าจะพอมีประสบการณ์บ้าง) บางคนยังนึกสภาพไม่ออกว่าถ้าเจอตัวใหญ่ๆ วิ่งเข้ามาเบียดควรจะต้องทำอย่างไร (จริงๆ นะ หลายคนแม้แต่เข้าอุ้มเองที่ควรจะเก๋าได้แล้วก็ยังมีอาการนะจังงังเมื่อเจอกดดันเข้ามา ขาตาย ทำอะไรไม่ถูก ...) บางคนรู้ทั้งรู้ว่าวิ่งเบียดเพื่อแย่งบอลเหลี่ยมแบบนี้จะกลายเป็นต้องทำฟาล์ว (เหลี่ยมบอลจากด้านนอกข้างหลัง ไม่ใช่เหลี่ยมในเพื่อเบียดออกนอกกรอบ ซึ่งเราจะสังเกตได้ว่าถ้าเป็นเหลี่ยมนี้ แม้แต่เจ้าตั้มเบียดในกรอบเขตโทษเรายังไม่เสียฟาล์วเลย ...แต่เจ้าโดไม่นำพา) ... เวลาในการเตรียมทีมที่อุตส่าห์ขอเพิ่มวันจาก 7 เป็น 10 วันล่วงหน้า กลับไม่เห็นผลของการพยายามซ้อมแทคติกสมัยใหม่ อย่างน้อยๆ ..กับการวิ่งหาช่อง กับการซ้อม Pass & Move วิ่งหาช่อง (ซึ่งคงมีแต่ธนากับปีโป้ที่ลงมาแล้วรู้เรื่อง) ของผู้เล่น First team ... ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา ..แต่ ... มันจะไม่พัฒนากันบ้างเลยเหรอ ตอนนี้กลายเป็นว่า ปัญหาเดิมๆ ของผู้เล่นต่างทีมที่ไม่ทันกันมันยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้น ..ทรัพยากรเราน้อย ...หรือเพราะเราไม่กล้าลองของใหม่
- จริงๆ เกมนี้ทำให้ข้าเจ้ามั่นใจได้อย่าง ว่าเราน่าจะ "ไม่ควร" กลัวทีมจากตะวันออกกลางได้แล้ว ไม่ใช่เพราะพวกเราเล่นดีขึ้น ...แต่เพราะพวกนั้นก็ไม่ได้เล่นพัฒนาไปถึงไหน ยังต้องพึ่งผู้เล่นเลียนแบบผู้เล่นระดับโลกในเรื่องความสามารถเฉพาะตัว ยังรับกันไม่เป็นฟอร์ม ยังต่างคนต่างเพรส ยังมีลน ยังมีมั่ว ... ก็คงต้องพิสูจน์กับเกมกับอิรักกับเกมในบ้านที่เหลือ ... ลูกที่ 2 กับ 3 ข้าเจ้าไม่อะไรมากนะ มันเป็นไปตามจังหวะเกม ..ลูก 2 เราอยากจะเร่งเกมชิงความได้เปรียบต้นเกม แต่ทำไม่ได้ ก็ต้องรับผลกันไป ...ลูก 3 เนี่ยไม่ต่างจากการเล่น Open play ของฟุตซอลแล้ว ถ้าจะน่าตำหนิข้าเจ้าบ่นลูกแรกลูกเดียว ... ส่วนลูกที่เราควรยิงได้ มันก็เป็นไปตามทัศนคติกับความสามารถเท่าที่มี ไม่ถึงกับอ่อนด้อยกว่า UAE หรือทีมอาหรับใดๆ มากนักแบบที่โดนญี่ปุ่น ...(แต่มีอย่างที่ไหน ได้เตะมุมติดต่อกัน แต่ผู้เล่นเราไม่มีส่วนในเกมตรงนี้เลย ในวงล้อมที่บอลตกลงมา มีแต่ UAE สกัดสะเปะสะปะไปหมด) ลูกที่ยิงเข้าแต่ล้ำหน้านั่นก็ล้ำนิดเดียวจริงๆ เสียดายที่ธนาเองก็ยอมรับว่าไม่สามารถเล่นได้ 90 นาทีได้แล้ว ทำให้โค้ชซิโก้ไม่เคยมั่นใจอีกเลยที่จะเอาธนาเล่นตั้งแต่ครึ่งแรก ...แต่เจ้าปีโป้เนี่ย ข้าเจ้ารอเซอร์ไพรซ์กับเกมอิรักนะ ... เสียวอย่างเดียวกับเจ้าตั้มที่โดนเปลี่ยนตัวเร็ว น่าจะมีอาการบาดเจ็บรบกวน ต้องลุ้นอีกที
...
แพ้นัดนี้ เป็นการแพ้ที่น่าเสียดาย เพราะเราไม่ได้แพ้ในเรื่องสู้เขาไม่ได้ แต่เราแพ้ใจตัวเองมากกว่า ... ถ้าเราตั้งต้นทัศนคติต่างไปจากนี้ อาจจะได้ผลการแข่งขันที่แตกต่างไปจากนี้ก็ได้ ... เส้นกั้นระหว่างทีมอาเซียนกับทีมระดับเอเชีย เราจะข้ามได้เมื่อไหร่ ...คงต้องรอดูเมื่อทีมชุดใหญ่ของเราเริ่มชนะทีมจากอาหรับได้จริงๆ เมื่อนั้นแหละ ...
(อนึ่ง ..ไอ้เบอร์ 11 UAE ส่งลงมาอย่างกับ Martial แหนะ ...แต่ไอ้อับดูร รามาลไม่ได้ถึงกับโหดอะไรมาก ...เราประกบห่างกับเพรสไม่ดีเอง แต่ก็นะ เราไม่มีกลางรับอาชีพหนิในตอนนี้) ...