ขอระบายผู้จัดการจ้า

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ นี่คือกระทู้แรกของเรา ซึ่งเป็นกระทู้ที่เราแบบอัดอั้นมากเลยอยากมาระบาย และขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นค่ะ
...เรื่องมันมีอยู่ว่าเราพึ่งเปลี่ยนงานค่ะ เป็นงานขายคสอ.ในห้างแห่งหนึ่ง ร้านเราจะมีทั้งหมดสี่คนรวมผจก.นะคะ คือตัวเราเองเนี่ยพึ่งย้ายงานมาได้ไม่ถึงเดือน ปกติงานของเราเค้าจะต้องมีอบรมก่อนลงร้านแต่เราไม่ได้อบรมเหมือนคนอื่นเค้าค่ะ(ซวยไปอีก) เราเลยไม่ค่อยรู้งานเท่าไหร่ต้องให้คนที่ร้านคอยสอนให้ ขอเข้าประเด็นเลยนะคะ คือก่อนที่เราจะมาทำงานนี้เนี่ย เรารู้ตัวเองว่าเราเป็นคนยังไง คือเรานิสัยไม่ค่อยยอมใคร ถ้าอะไรไม่ยุติธรรม หรือไม่ได้ผิดจริงๆเนี่ยสู้สุดใจเลยค่ะ ก่อนที่จะมาทำที่นี่เราก็เปลี่ยนตัวเองนะคะพยายามปรับตัวเองหลายอย่างเพื่อให้ไม่เป็นปัญหากับการทำงาน แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเราคือสีหน้าค่ะ คือเราไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเราชักสีหน้าตอนไหน คือถ้าอารมณ์เราเป็นไงหน้ามันจะออกก่อนเลยค่ะ อันนี้คือเราไม่รู้ตัวจริงๆนะคะ เรื่องมันก็มีอยู่ว่า วันที่เรามาทำงานที่นี่วันแรกเนี่ย เราก็พยายามเฟรนลี่และเป็นมิตรกับทุกคนสุดๆ เพื่อความอยู่รอดค่ะ แต่เราไม่ได้คุยเล่นอะไรกับใครขนาดนั้นนะ คือเราก็ยิ้มก็คุยเรื่องไหนหัวเราะได้ก็หัวเราะ(อีกอย่างนะคะเราเป็นคนสะตอไม่เก่งเรื่องไหนไม่ขำจริงๆเนี่ยเราจะฝืนหัวเราะยากมาก) แล้วผจก.ร้านเนี้ยชีก็บอกกับเราว่าชีจะไม่ค่อยอยู่ส่วนมากจะให้คนที่ร้านช่วยสอนงานมากกว่า เราก็ค่ะๆ รับรู้ที่ผจก.ตรัสไว้ ผ่านไปประมาณวันสองวัน ชีก็ไปดูอีกร้านนึงค่ะ แต่ชีได้โทรศัพท์มาที่ร้าน ชีขอคุยกับเรา เราก็รับสาย ชีถามเราว่าเราไหวไหม เราก็คิดในใจเออดีวะเป็นห่วงเราด้วย เป็นพี่เป็นน้องดี เราก็ตอบไปว่าไหวค่ะ แต่ประโยคถัดไปชีถามเราว่าถ้าโดนพี่ด่าจะอยู่ได้ไหม? อินี่งงเลยจ้า ในหัวก็คิดคนปกติมีใครเค้าพูดยังงี้กันด้วยหรอวะ แล้วคำตอบมันก็ต้องเป็นได้อยู่แล้วใช่ไหมคะ เราก็ตอบไปได้ค่ะ แล้วชีก็ขอคุยกับคนอื่น นั้นแหละค่ะประเด็นแรกที่ทำให้เราอคติไปละ หลังจากนั้นไม่กี่วันชีก็กลับมาที่ร้านที่เราทำอยู่ค่ะ เอาจริงๆคือเราสัมผัสได้นะว่าชีไม่ชอบหน้าเรา และเราก็เชื่อว่าชีต้องรู้ว่าเราก็ไม่ชอบชี แล้วพอนางกลับมาวันนั้นเราลืมทาปากเราไปทาปากที่ร้านแต่เราตอกบัตรไปก่อนแล้วไปเติมปาก ข้างๆเรามีพี่ที่ร้านยืนเติมหน้าอีกคน แต่ว่า อินี่คนเดียวเลยจ้าที่โดนเรียกไปว่า ชีเรียกชื่อเราละบอกว่ามานี่ซิ แล้วชีก็เรียกพี่ที่ร้านมา ชีถามเราว่าพี่เค้าไม่ได้บอกหรอว่าห้ามแต่งหน้าในร้านเราก็บอกว่าไม่ค่ะ ชีก็บอกๆๆๆเราว่าห้ามทำไรมั้งนู้นนี่นั่น ละก็ถามพี่ที่ร้านว่าไม่ได้บอกน้องหรอ พี่เค้าก็บอกว่าเพื่อนเราอีกคน(คนที่ทำงานมาก่อนแต่อายุเท่าเรา)เค้าบอกละนิ เราก็อ่อ ค่ะๆ (ในใจก็คิดก็เค้าถามว่ายิ้มบอกตูรึยัง ยิ้มยังไม่เคยพูดนิตูพูดผิดตรงไหนวะ) วันนั้นผ่านไปเราว่าวันนั้นเราเก็บสีหน้าได้ดี เพราะฝืนๆยิ้มไป แล้ววันต่อๆมาที่ทำให้เราคิดว่าชีไม่ชอบเราคือ เราถามชีเรื่องงานชีทำเป็นไม่ได้ยินจ้า ทั้งๆที่เรายืนอยู่ข้างๆ ละที่พีคกว่านั้นคือเรายืนมือไปชีกระดาษที่อยู่ตรงหน้าชี ชีจะไม่เห็นไม่ได้ยินจริงๆหรอเป็นไปไม่ไดดดดดด้ รอบแรกผ่านไปเพื่อนเราปลอบเราด้วยคำที่ว่าเราพูดเบา โอเค เราปล่อยผ่าน รอบสองเราจะถามงานนางอีก นางก็ไม่ตอบเราอีกจ้า เหมือนเดิมกิริยาและอริยาบถเดิมทุกประการจ้าาาาาา เอดรอกไปอีก เราก็เริ้มรู้ละว่าชีต้องไม่ชอบหน้าเราแน่ๆ และประเด็นล่าสุดที่ทำให้เรารู้แน่ชัดว่า ชีไม่ชอบเราจริงๆคือ ลูกค้าขอคืนสินค้า แล้วเราทำไม่เป็น เราก็ไปถามนาง นางไม่ตอบจ้า และชักสีหน้าไม่พอใจสุดๆที่เดินมาแก้ปัญหาให้เรา คือเรานี่แบบเห้ย ยิ้มถ้าตูรู้ทุกอย่างอะ ตูไม่มาถามให้ยิ้มดึงหน้าใส่ตูหรอก และอีกอย่างคือยิ้มไม่มีวันได้เป็นผจก.หรอกย่ะ เพราะไม่มีแม้แต่ความเสียสละเลย เราก็โมโหมากนะคะเพราะลูกค้าก็ไม่พอใจและผจก.ชียังไม่คิดจะยื่นมือเค้ามาช่วยอีก ตอนนั้นเราสัมผัสได้เลยว่าหน้าเรามันก็เริ่มชักสีหน้าแล้วเหมือนกัน ในใจเรานี่แบบอยากระเบิดใส่หน้ามากๆ พอแก้ปัญหาทุกอย่างจบชีก็ไล่เราไปกินข้าว พอเรากินข้าวลงมา เพื่อนเราก็มาเล่าให้เราฟังว่าตอนที่เราไปกินข้างเนี่ย ชีพูดว่าชีจะทดสอบเรา ดูซิว่าเราจะอยู่ได้นานไหม พอเราได้ยินก็แบบเห้ยคือไรวะ คนเราเป็นหัวหน้าคนตั้งหลายคนมีความคิดต่ำๆอย่างนี้ด้วยหรอวะ นี่แหละที่ทำให้เรามั่นใจว่าเซ้นเราที่คิดว่าชีไม่ชอบเรามันถูกจริงๆด้วย นางพูดกับเพื่อนเราว่ามันต้องโทรฟ้องผัวมันแน่ๆเลย แล้วเพื่อนเราก็บอกว่าพี่จะไปแกล้งมันทำไม ชีบอกว่าจะทดสอบว่ามันจะอยู่ได้นานไหม?! บอกตรงๆคือเราปรี้ดมากแบบอ่อคือยิ้มตั้งใจทุกอย่างตั้งแต่แรกใช่มะ คือแบบเสียความรู้สึกมากกกกกกก คือเราขอเล่าถึงพฤติกรรมของผจก.คนนี้ที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผจก.แม้แต่ข้อเดียว เรื่องแรกคือวันที่เราพึ่งมาทำงานได้อาทิตย์นึง มีการเช็คสต็อค แล้วมีของใกล้จะหมดอายุ ชีพูดว่าเราอยู่ร้านเดียวกันกินค่าคอมด้วยกันก็ต้องช่วยเหลือกันคือรีบช่วยกันขายเพราะถ้าไม่งั้นเราก็ต้องช่วยกันซื้อเอง คือเรานี่งงมาก เห้ยคือตูพึ่งมาและไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยต้องมาโดนด้วยหรอ เราเคยทำงานแบบนี้มาแล้ว แต่ที่ทำงานเก่าเราไม่ใช่แบบนี้นะคะ คือพี่ที่ร้านที่มีอายุงานมากสุดเค้าขออาสาจ่ายเยอะสุดเพราะอายุงานและตำแหน่ง ทั้งๆที่เค้าไม่ได้มีตำแหน่งเป็นผจก.ร้านด้วยซ้ำ ซึ่งมันต่างจากชีมากกกกกกกก เราก็โอเคๆเรามาอยู่ร้านนี้ละก็ต้องช่วยๆเค้าเว่ย แล้วพอมาวันนี้เราทำงานผิดการเงินโทรมา เราก็แจ้งให้ชีทราบในฐานะ ผจก.ร้าน รู้ไหมคะชีพูดว่าไร ชีบอกว่าพีทำหรอ เราบอกว่าไม่ค่ะหนูทำ อืม พี่ไม่ได้ทำแล้วทำไมพี่ต้องรับผิดชอบละ เราทำเราก็ต้องรับผิดชอบสิ อื้มหื้มย้อนไปคำพูดวันนับสต็อกเลยจ้าแบบเอดรอกไหนความเป็นผู้นำและความเสียสละวะ เราก็ไม่พูดอะไรค่ะ ทำๆและก็ส่งการเงินไป แล้วชีพูดกับเราว่าห้ามกินอะไรในร้าน ห้ามเล่นโทรศัพท์ ห้ามพกโทรศัพท์ แต่ชีทำเองหมดทุกข้อเลยจ้าาาาา ไอเรื่องโทรศัพท์เราไม่ค่อยคาใจเท่าไหร่เพราะเข้าใจว่างาน แต่กินของในร้านนี่สิ คุณเป็นผจก.ไม่ใช่หรอคะ ในเมื่อตรัสแล้วทำไมถึงไม่ทำตัวเป็นตัวอย่างให้ลูกน้องดู แล้วเรื่องสุดท้ายที่เราคาใจมาก ร้านเรามันคอมรวม เราไม่รู้ว่าชีหารค่าคอทด้วยหรือไม่หาร แต่ชีไม่เคยขายของเลยจ้าวันๆมัวแต่เล่นโทรศัพท์เม้ามอย และก็ออกไปเดินเล่นข้างนอก นี่คืออีกปัญหานึงที่ทำให้เราไม่พอใจเพราะถ้าชีหารค่าคอมจริงมันไม่แฟร์มากๆเพราะชีไม่เคยขายของเลย แล้วอีกอน่างนะคะชีร้ายมากถ้าใครมีปัญหากับชีเนี่ย ชีจะเอาไปเล่าให้คนอื่นในบริษัทฟังหมดเลยจ้า แล้วก็จะแอบใส่ความนิดๆเหมือนสุภาษิต เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น พูดตรงๆคือเราก็อคติกับชีนะ แต่เราว่าความคิดเรามันยุติธรรมที่สุดแล้วคือเราคิดว่าชีเห็นแก่ตัวละไม่สมเป็นหัวหน้าจริงๆข้อนี้คือไม่เกี่ยวกับอคติแน่ๆ ถ้าใครที่ทำงานแบบเราช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมคะว่าจริงๆแล้วผจก.เค้ามีหน้าที่ขายของด้วยไหมถ้าหารค่าคอม คือเราเคยได้ยินมาว่าชีบอกว่าหน้าที่ชีคือ ยืนเฉยๆไม่ได้มีหน้าที่ขาย มีแค่คอยดูแลร้านอย่างเดียว เราว่ามันไม่แฟร์นะคะ รบกวนใครรู้ตอบเราทีค่ะ ขอบคุณสำหรับการได้ระบาย...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่