ปรึกษาครับ พอดีมีเรื่องของญาติครับ พอดีญาตได้ไปค้ำประกันสินเชื่อกรุงไทยธนวัฒน์ให้เพื่อนร่วมงาน สมัยทำงานกันปีแรก ทีนี้ปัจจุบันเพื่อนคนนั้นได้ลาออกจากราชการแล้ว ทางญาติเค้าก็กลัวว่าลูกหนี้จะหนีหนี้สินเชื่อ จึงได้ไปแจ้งทางธนาคารกรุงไทยแล้ววครับว่า ลูกหนี้คนนี้จะลาออกแล้ว ซึ่งก็ได้มีหนังสือให้ออกราชการแล้วเมื่อเดือนที่แล้ว ทีนี้ ทางธนาคารกรุงไทยได้แจ้งว่าได้อายัดเงินเดือนไว้แล้ว แต่ก็ได้ข่าวว่าลูกหนี้ได้ไปเปลี่ยนบัญชีรับเงินบำนาญจากธนาคารกรุงไทยไปเป็นธนาคาร ธกส. แล้วครับ ซึ่งทางญาติก็กลัววว่าเค้าจะหนีหนี้จริงๆ เลยไม่รู้จะทำยังไงครับ จะขอยกเลิกการเป็นคนค้ำได้ไหม เพราะ
1. คนกู้ไม่ได้เป็นราชการแล้ว
2. คนกู้แจ้งเปลี่ยนแปลงบัญชีเงินบำนาญกับหน่วยงานต้นสังกัดแล้ว
ซึ่งเงื่อนไขไม่เป็นไปตามตอนที่ทำสัญญาสินเชื่อกรุงไทยธนวัฒน์แล้ว ทีนี้เลยกลัวว่า เค้าจะหนี ก็ได้ไปเล่าให้ทางธนาคารกรุงไทยฟัง ทางธนาคารก็บอกว่า รอให้ครบ 3 เดือน ถ้าไม่จ่าย เค้าก็จะฟ้องร้องให้ ฟ้องคนกู้ แต่คนค้ำประกันก็ได้รับผลกระทบ ไปด้วย ทีนี้ทางญาติก็เลยกลัวว่าจะเสียเครดิตบูโร เสียประวัติทางการเงิน จะทำอย่างไรได้บ้างครับ ขอคำแนะนำหน่อยครับ จะทำอย่างไรได้บ้างที่คนค้ำประกันจะได้รับผลกระทบจากครั้งนี้น้อยที่สุด หรือว่าเปลี่ยนคนค้ำประกันได้ ก็ยิ่งดีครับ ขอความกรุณาแนะนำหน่อยครับ
ลูกหนี้ลาออกแล้ว แถมเปลี่ยนบัญชีรับเงินบำนาญไปธนาคารอื่น ผู้ค้ำประกันทำอะไรได้บ้างครับ
1. คนกู้ไม่ได้เป็นราชการแล้ว
2. คนกู้แจ้งเปลี่ยนแปลงบัญชีเงินบำนาญกับหน่วยงานต้นสังกัดแล้ว
ซึ่งเงื่อนไขไม่เป็นไปตามตอนที่ทำสัญญาสินเชื่อกรุงไทยธนวัฒน์แล้ว ทีนี้เลยกลัวว่า เค้าจะหนี ก็ได้ไปเล่าให้ทางธนาคารกรุงไทยฟัง ทางธนาคารก็บอกว่า รอให้ครบ 3 เดือน ถ้าไม่จ่าย เค้าก็จะฟ้องร้องให้ ฟ้องคนกู้ แต่คนค้ำประกันก็ได้รับผลกระทบ ไปด้วย ทีนี้ทางญาติก็เลยกลัวว่าจะเสียเครดิตบูโร เสียประวัติทางการเงิน จะทำอย่างไรได้บ้างครับ ขอคำแนะนำหน่อยครับ จะทำอย่างไรได้บ้างที่คนค้ำประกันจะได้รับผลกระทบจากครั้งนี้น้อยที่สุด หรือว่าเปลี่ยนคนค้ำประกันได้ ก็ยิ่งดีครับ ขอความกรุณาแนะนำหน่อยครับ