ทหารเกณฑ์ from the other side : เปิดประสบการณ์ใหม่ จากอีกหนึ่งเพศวิถี

สวัสดี เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว pantip ทุกที่น่ารักทุกคนนะคะ
นี่ก็ใกล้จะเข้าช่วงเดือน พฤศจิกายน แล้ว แน่นอนค่ะ หนุ่มสาวหลายคนจะต้องเข้าไปรับใช้ชาติ ในผลัดที่ 2
ที่ใกล้จะถึงนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (จริงๆก็หลีกเลี่ยงได้แหละค่ะถ้ากล้าจะทำ)
หลายคนอาจจะฟังเรื่องราวประสบการณ์ การเป็นทหารของใครต่อใครมากันเยอะแยะมากมาย
ทั้งดี ทั้งไม่ดี ซึ่งแต่ละเรื่องมันก็จะมีมุมมองที่แตกต่างกันไป ด้วยความที่ว่า หลายคนก็ไปกันต่างที่
หน่วยทหารในประเทศไทยก็มีเป็นร้อยเป็นพันหน่วย มันจะไปเหมือนกันได้อย่างไร ใช่มั้ยคะ

นี่ก็เป็นอีก 1 กระทู้เรื่องราวประสบการณ์การเป็นทหาร อาจจะไม่ได้สนุกสนานน่าติดตามเท่าไหร่
ด้วยความที่ว่า เราเอง แค่อยากจะลองถ่ายทอดเรื่องราว ที่ส่วนตัวเราคิดว่า สิ่งที่เราพบเจอมาน่ะ
มันมีแง่มุมบางอย่างที่น่าแบ่งปัน แง่มุมที่แตกต่าง แง่มุมที่ใครหลายคนอาจจะไม่เคยได้รู้
ความเป็นเพศทางเลือกกับการเป็นทหารนั้น ใครหลายคนอาจมองว่าช่างขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง
แต่แท้จริงแล้ว มันมีบางอย่าง ที่เมื่อตัวเราเองลงไปสัมผัสกับมันจริงๆแล้ว มันไม่เป็นอย่างที่เราคิดไปซะทุกเรื่อง
ความคิดเราเติบโต และได้เห็นอะไรหลายๆอย่างที่เราไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้พบเจอ

หวังว่าเรื่องต่อไปนี้มันจะสะท้อนอะไรบางอย่าง มีประโยชน์บ้าง ไม่มีประโยชน์บ้าง
ถือซะว่าเรามาใช้พันทิปเป็นพื้นที่ในการบอกเล่าแล้วกันนะคะ

* ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง 100% อาจมีการใช้ภาษาอรรถรสที่แต่งเติมเสริมลงไปบ้าง
แต่ทั้งหมดทั้งมวลมิได้มีเจตนาที่จะพาดพิงหรือเสียดสีให้ใครได้รับความเสียหาย
หากมีการใช้ภาษาหรือเนื้อหาใด ที่ไม่เหมาะสม ยินดีรับฟังข้อติชมด้วยเหตุผลและแก้ไขค่ะ ยิ้ม

...........................................................................................................

ก่อนอื่นเราก็ขอเกริ่นก่อนว่า เราจะเรียกตัวเราเองว่าเป็น “กะเทย”
และจะขอใช้คำว่า “ค่ะ” และ “นะคะ” ตลอดต่อจากนี้

เราอาจจะไม่ใช่ “กะเทย” ในแบบที่สังคมจำแนกแยกแยะ
เพราะในชีวิตประจำวันบางอย่างของเรา ก็อยู่ใน gender box ของความเป็นชาย
คือแต่งกายแบบชาย การเดิน บุคลิก ท่าทาง life style ออกกำลังกาย น้ำเสียง การพูดจา
(หากคนมองภายนอก ส่วนตัวคิดว่าเขาก็มองเราชายอยู่นะแก 555)

อีกบางส่วน เราก็มี life style อยู่กับการ ดูนางงาม เต้นลูกทุ่ง เต้น cover เกาหลี ใบเตย กระแต อาร์สยาม แต่งหญิงออกงานบ้าง
มีความชอบผู้ชาย พูดคำว่า ค่ะบ้าง ครับบ้าง ในชีวิตประจำวัน ในมือถือมีรูปดาราผู้ชายที่เราชื่นชอบ
มี playlist เพลงเป็น Girl’s generation และ Ariana Grande

ใดๆก็ตาม ถึงแม้ภายนอกเราจะดูเป็นเพศสภาพชาย แต่เราก็มีความสุขกับการแทนตัวเองแบบนั้น
จริงๆเราก็ไม่อยากให้มีอะไรมาจำกัด หรือมาเป็นอุปสรรคใน Life style เราด้วยคำจำแนกอ่ะเนอะ
แต่ในข้อจำกัดนั้น หากจะถามหาความชัดเจนที่เราจะเลือกใช้เพื่อแทนตัว เมื่อใครถามว่าเราเป็นอะไร
ก็จะขอตอบอย่างไม่ลังเลว่า “เป็นกะเทยค่า” อย่างมีความสุข

..................................................................................................................


Chapter 0 Part of me

จุดเริ่มต้นของเรื่องราว เกิดขึ้น ตอนเรากำลังเรียนอยู่ปี 4 ซึ่งเป็นปีสุดท้าย ตอนนั้นยอมรับว่าเราอ่อนแอนิดหน่อย
เป็นช่วงที่เจอปัญหาและเราคุมสติไม่ค่อยอยู่ เราไม่รู้ว่าในแต่ละวันเราจะต้องทำอะไร
ซึ่งทำให้ตอนนั้น เราตัดสินใจดรอปเรียน โดยที่ไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลย หยุดไป โดยที่ไม่ได้บอกให้ใครรู้
รู้แต่เพียงว่า ตอนนี้ฉันเรียนต่อไปด้วยหัวจิตหัวใจแบบนี้ไม่รอด และมันจะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิมแน่ๆ

ช่วงนั้นเป็นช่วงต้นปี น่าจะราวๆสักเดือน มกราคม ปี 2557 ที่เราตัดสินใจหยุดทุกอย่าง
ตอนนั้นเราอยู่ในช่วงเรียน คนอื่นยังเรียนอยู่ แต่เราหมกตัวอยู่ที่หอ เปิดพันทิป อ่านกระทู้โน่นนี่ เพื่อเสริมพลังให้ตัวเอง
แต่มันไม่เวิร์ค ตอนนั้นโรคซึมเศร้ายังไม่ได้ถูกกล่าวถึงมากนัก แต่มานึกย้อนดู คิดว่าตอนนั้นน่าจะเข้าข่าย
เรายังรู้สึกว่า ตราบใดที่มันไม่ได้เกิดจากตัวเราเอง เรายังคงเปลี่ยนความรู้สึกตัวเองจากคำพูดคนอื่นไม่ได้
จนกลัวว่าถ้าจมอยู่แบบนี้มันต้องขึ้นมายากแน่ๆ เราเลยหันไปพึ่งความบันเทิงทางใจก่อนแล้วกัน ดูหนัง ฟังเพลง
เพื่ออย่างน้อยไม่ให้ความคิดไม่ดีมันทับถมไปมากกว่านี้

วันนั้น เราจำได้แม่นว่า เราฮัมเพลง last Friday night ของ Katy Perry ออกมาตั้งแต่เช้าละ
แล้วเรารู้สึกว่า วันนั้นเป็นวันของนาง เราต้องให้เกียรตินาง
เราเปิด youtube จากโน๊ตบุ๊ค เลือก Playlist ของ Katy แล้วปล่อยให้มันเล่นไป .......

จนถึงเพลงนึง เรารู้สึก ... หึ๊ !! เอ๊ะ !! ขึ้นมา เหมือนมีคนมาเคาะประตูในหัว บอกว่า เฮลโล๋ ฉันมาแล้ว

Days like this,
I want to drive away ...

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เห้ยยยยยย !! part of me ว่ะแก วินาทีนั้น เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยง !!
เราดีดตัวขึ้นมาจากการจมอยู่กับความรู้สึกบางอย่าง นี่แหละคำตอบ Katy Perry ให้คำตอบเรา
ในบรรดาตัวเลือกทั้งหมดทั้งมวล ที่จะช่วยให้ความรู้สึกไม่สบายกาย ไม่สบายใจ มันดีๆๆๆขึ้น
เราไม่แน่ใจหรอกว่าทางเลือกนี้ดีที่สุด เรานั่งดูปฏิทิน ดูช่วงเวลา ดูปัจจัยต่างๆ ทั้งภายนอกและภายในตัวเอง
เราเองก็ไม่ได้เรียน รด. สักวันนึงเราก็ต้องเสี่ยง เราปฏิเสธมันไม่ได้อยู่แล้ว กฎหมายตราไว้แบบนั้น
ในตอนนั้นเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ความท้าทายในใจตอนนั้น กระตุ้นให้เราคิดแล้วว่า ......

ลองไปเป็น Katy Perry ดูมะ Part of me ดูสักตั้ง


ไปเป็น “ทหาร” อาจจะเวิร์คก็ได้นะ

......................................................................................................

to be continue .......

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่