"This is the closest that you'll ever get to see Queen as it was in our golden days, but it's not a reproduction" Brian May
เมือวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาส ไปดู คอนเสิร์ต Queen +Adam Lambert แล้วประทับใจมากครับ เลยอยากมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติม พอดีเห็นกระทู้ก่อนหน้ามีคนบอกว่าเป็น Best concert in my life หลายคนอาจจะมองว่าเว่อร์ แต่สำหรับแฟนๆวงควีนแล้ว มันเป็น best concert จริงๆครับ
Prelude:
จากการที่ผมเคยมีโอกาสได้ไปดู คอนเสิร์ต Queen + Paul Rodgers เมื่อช่วงปี 2008 เมื่อนำมาเทียบกับครั้งนี้ อารมณ์ของคอนเสิร์ต ต่างกันมากจริงๆครับ Queen + Paul Rodgers ให้อารมณ์ nostalgic กว่ามีความเศร้ามากกว่า (โดยเฉพาะ ช่วงที่ลุง Brian May มาร้อง Love of My Life แล้วพูดถึงพี่เฟรดดี้ จำได้ว่าน้ำตาไหลพรากๆ) และสนุกสนานน้อยกว่า (แต่ก็ว่าไม่ได้เพราะ ลุง Paul Rodgers ก็อายุเยอะพอๆกัน) และครั้งนั้น ผมคงคิดว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้ดู Brian May, Roger Taylor บนเวทีสดๆ ซึ่งไปดูมาก็ไม่ผิดหวังครับ ตอนนั้นถ้ามีใครมาถามผม ผมก็บอกว่า Best concert in my life เหมือนกัน
"You've gotta check out this guy on Idol." So we Googled him. His voice was phenomenal. I was just like, "Wow." Roger Taylor
ช่วงปี 2009 ผมก็เหมือนหลายๆคน ที่ได้มีโอกาสเห็น Adam Lambert ครั้งแรกจากรายการ American Idol ซึ่ง Adam Lambert ตอนนั้น อายุ 27 แล้ว โดยก่อนหน้านั้น เขาเป็นนักแสดงละครเวที ละครเพลง และนักร้องนำวงเล็กๆ ซึ่งก็ไม่ได้ประสพความสำเร็จอะไรมากมาย เขาจึงตัดสินใจมาประกวด American Idol โดยคิดไว้ว่าอาจจะเป็นความหวังสุดท้ายที่จะ Go Big, or Go Home เขากล่าวว่า “I was 27, I knew I was past the prime zone, and I’m openly gay. I thought the worst that could happen was I would get some notoriety and it might bump my theatre career up a couple of notches.”
ในรายการ Adam เลือกเพลง Bohemian Rhapsody ไปร้องในรอบ Audition โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าเพลงนี้ร้องยากมาก ถ้าร้องทั้งเพลง รวมท่อนโอเปร่าด้วย ถ้าความสามารถ ไม่ถึงจะฟังดูตลกมาก แต่ Adam ก็ร้องได้ดีมากๆ (แต่เขาก็ไม่ได้ร้องทั้งเพลงนะครับ) ตอนนั้นดูจบก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะไม่ได้ติดตามรายการนี้อย่างจริงจัง แต่ก็แอบเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ มาดูอีกทีคือตอนรอบ final ของรายการที่ได้มาร้อง พร้อม Kris Allen โดยมี Brian May, Roger Taylor และอาจเป็นครั้งแรกที่ Adam+ Brian+Roger ได้ขึ้น คอนเสิร์ต ร่วมกัน ตอนนั้นก็ดีใจนะครับ แต่คงคิดว่าเป็นกิมมิคของรายการเฉยๆ แต่ใครจะรู้ ว่าโชคชะตาได้พาพวกเขามาเจอกันแล้ว
“When Freddie went, I thought: ‘That’s it. We did that. It was a great life. Now, it’s time to have a different life, But I think he’s woken us up” Brian May on Adam Lambert
ปลายปี 2011 งาน MTV Europe Awards ที่จัดที่ เบลฟาสต์ ไอร์แลนด์เหนือ จะมีการมอบรางวัล Global Icon ให้กับวง Queen จะให้ขึ้นไปรับรางวัลเฉยๆก็กระไรอยู่ ทาง Brian May และ Roger Taylor จึงได้ติดต่อไปยัง Adam Lambert เพื่อมาร้องเพลงโชว์ในงานนี้สั้นๆ แต่ไม่มีอะไรง่ายดายขาดนั้น สำหรับ Adam Lambert กับวงที่เป็นตำนานระดับ Queen กับคนที่เป็นตำนานบนหิ้งอย่าง Freddie Mercury มีแฟนพันธุ์แท้หลายคน พร้อมที่จะสับคนที่อาจหาญมาแทนที่พี่เฟรดดี้อย่างไม่มีชิ้นดี ลุง Paul Rodgers ยังไปอีกแนวทางนึงคือร้องคนละคีย์คนละแนวไปเลย แต่ตาหนุ่มนี่เป็นใคร คิดจะมาแทนตำนานอย่างนั้นหรือ แต่อย่างไรก็ตาม ถือว่า Queen + Adam Lambert ได้กำเนิดขึ้นแล้วจากงานนี้
"We didn't look for this guy, suddenly he's there, and he can sing all of those lines. See, they're difficult songs to sing, Queen songs. There's too much range. So many people can't sing them in the original key even if they are good singers. Adam comes along, and he can do it easy. He can do it in his sleep. He can sing higher than even Freddie could in a live situation. So I think Freddie would look at this guy and think, 'Hmm, yeah. Okay'. There would be a kind of, 'Hmm, you b**tard, you can do this'." Brian May on Adam Lambert
หลังงาน MTV Awards ในโลกออนไลน์ก็มีทั้งเสียงชมและด่า แต่คำวิจารณ์ต่างๆก็ไม่ได้ทำให้ Adam Lambert ท้อใจเท่าไหร่นัก เพราะลุง Brian May และ Roger Taylor คอยให้กำลังใจตลอด โดยเฉพาะลุง Roger เปรียบเทียบ Adam ว่ามีความคลายคลึงกับเอลวิส เลยทีเดียว ไม่ว่าจะรูปร่าง การโชว์ เสียงร้อง รัศมี ออร่าต่างๆ คล้ายเอลวิส คล้ายเฟรดดี้ จนบางครั้งเวลาอยู่หลังเวที ลุง Roger ก็ย้อนนึงไปถึงสมัยวันเก่าๆ ที่ทัวร์คอนเสิร์ตกับควีนยุคก่อนๆเลย อาจมีเสียงวิจารณ์บ้าง แต่ลุงทั้งสองก็ยังเชื่อมันในตัว Adam และตอกย้ำความเชื่อมั่นนั้นโดยเสนอ Queen + Adam Lambert mini tour ในยุโรป ช่วงกลางปี 2012 ว่าสนใจจะทำร่วมกันไหม แต่ก็ลุงเมย์ก็ยังกำชับว่ามันไม่ง่ายนะหลาน “I knew it would be an uphill climb every night, a big challenge on a personal and performance level.”
“I’d done my homework. I read every biography, watched every documentary, listened to every album. It’s like I’ve crawled into the music, its part of my blood now, I don’t have to think about it, I can just be. You let instinct take over and that’s when things get really interesting.” Adam Lambert
หลังจาก Adam Lambert เตรียมตัวมาดีขึ้น ทำการบ้านมามากขึ้น Queen + Adam Lambert mini tour ก็เรื่มขึ้น ตามตารางจะมีจัดทั้งหมด 6 คอนเสิร์ต หลักๆที่อังกฤษ และ รัสเซีย อาจดูไม่มาก แต่นี่เพื่อเป็นการลองตลาดด้วย ว่าสามารถทำได้ไหม แฟนๆรับได้ไหม และ ผลตอบรับเป็นอย่างไร ปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก ขายหมดทุกรอบ โดยเฉพาะ London Hammersmith Apollo เต็มทุกที่นั่งทั้งสามรอบ
ปีต่อมา 2013 Queen + Adam Lambert มีจัดคอนเสิร์ตที่เดียวที่ iHeartRadio Music Festival ในลาส เวกัส แต่ก็ได้รับเสียงชมเป็นอย่างมาก โดยนิตยสาร Rolling Stones ให้เป็น Performance of the night เลยทีเดียว
หลัง คอนเสิรต์นี้จบ Queen + Adam Lambert ก็หยุดพักไปหนึ่งปี เพื่อเตรียมการงานใหญ่มากๆในปี 2014 คือ Queen + Adam Lambert North America Tour โดยแสดงในอเมริกา และ แคนาดาทั้งหมด 24 ครั้ง และได้รับผลตอบรับดีมากๆ จึงขยายมาเป็น World Tour โดยแสดงทั้งหมด 66 ครั้ง มาเอเชียแค่สองประเทศคือ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ (เสียใจมากๆ ไม่มาไทย) แต่แล้วฝันก็เป็นจริงเมื่อได้เห็นข่าว Queen + Adam Lambert 2016 Summer Festival Tour โดยมีประเทศไทยอยู่ในนั้นด้วย
THE CONCERT :
I always think that singing is a very physical thing. A singer is full-on in every respect. It's a physical thing. It's the sound, the look, the animal magnetism. When you see Adam, you see a performer. He's performing from his heart. He's interpreting the song. Brian May
ตัดมา ณ ปัจจุบัน, อิมแพค อารีน่า
ก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่มขึ้น ผมตั้งความหวังไว้สูงมากเพราะ อ่านรีวิวมาเยอะ และตัวลุงๆยังบอกเองว่าคอนเสิร์ต Queen + Adam Lambert นี่ ใกล้เคียงกับ ยุคทองของ Queen ที่สุดแล้ว ก็เลยตื่นเต้นกับคอนเสิรต์นี้มากๆ แต่อะไรก็ตามที่เราจะประทับใจ ต้องมีอุปสรรคนิดหน่อย คิดว่าหลายๆคนที่ไปคอนเสิรต์นี้ก็ต้องเจอเหมือนกันคือ รถติดมากกกกกกกกกกกก เป็นวันที่ฝนตกหนัก หลายจุดก็น้ำท่วมขัง แต่ยังดีที่ผมไปทันก่อนคอนเสิรต์จะเริ่มเลยพอมีเวลาเดินรอบๆดูบรรยากาศ เหมือนที่กระทู้ก่อนหน้ามีคนว่าไว้ คือเกือบ 70-80 % เป็นต่างชาติ และ มีอายุหน่อยๆ (แต่ใครจะรู้ พอเพลงแรกเริ่ม แต่ละคนเต้นลืมอายุเลย) มีบู้ท ขายเสื้อซึ่งรายได้หักค่าใช้จ่ายจะเข้ากองทุน Mercury Phoenix Trust ผมอยากได้เสื้อ สีเหลืองที่เป็นรูปพี่เฟรดดี้มากเลย แต่ตอนผมไปขายหมดแล้ว เลยเดินดูรอบๆต่อ เห็นคนแต่งคอสเพลย์เฟรดดี้บ้าง บางคนใส่เสื้อทีมมากันเป็นหมู่คณะก็มี เดินสักครู่ก็เข้าไปด้านใน รอคอนเสิร์ตเริ่มดีกว่า
“I love him just as much as you. No, I think I love him more than you when I’m dressed like this. I’m entitled to say that!” Adam Lambert
พอคอนเสิร์ตเริ่ม ....... ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง คือตอนแรกทุกคนก็นั่งกันอยู่ดีๆแต่พอเพลงแรกขึ้น ทุกคนก็ยืน แล้วก็เต้นตาม เหมือนทุกคนถูกดึงมาทำกิจกรรมร่วมกัน โดยทุกคนโฟกัสบนเวที อดัมเสียงดีมากจริงๆ แต่อย่างที่ลุงเมย์บอก มันเป็นมากกว่าเสียง มากกว่าการร้องเพลง มันเป็นเรื่องทางกายภาพด้วย การเล่นกับคนดูให้ร้องตาม เต้นตาม เหมือนที่เคยเห็นพี่เฟรดดี้ทำกับคนดูทาง ยูทูป ทุกอย่างดูมีพลังมากๆ มันไม่ใช่แค่คอนเสิร์ตรำลึกความหลังของวง queen แต่มันคือวง queen ของปัจจุบัน โดยมี Adam Lambert , Rufus Taylor เป็นตัวเชื่อมของยุคนี้ เมื่อเทียบกับ Queen + Paul Rodgers แล้ว อันนั้นเหมือนจบด้วยความรู้สึกคิดถึง พี่เฟรดดี้ เวลาเดินออกจากคอนเสิร์ต แต่ครั้งนี้ เหมือน จบด้วยความรู้สึกสนุกสนานมากกว่า แม้จะมี บางช่วงก็เศร้าเมื่อมีฉายภาพพี่เฟรดดี้ขึ้นจอ (มี David Bowie ด้วย) แต่ก็ยังจบลงด้วยดี ด้วยความสนุกสนาน ออกจากคอนเสิร์ตด้วยความรู้สึกที่ว่า สปิริตของ Queen ยังอยู่ และไม่ไปไหน และเห็นด้วยกับหลายๆคนที่บอกว่านี่คือthe best concert in my life ครับ
Review: Concert Queen+ Adam Lambert live in Bangkok
เมือวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาส ไปดู คอนเสิร์ต Queen +Adam Lambert แล้วประทับใจมากครับ เลยอยากมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติม พอดีเห็นกระทู้ก่อนหน้ามีคนบอกว่าเป็น Best concert in my life หลายคนอาจจะมองว่าเว่อร์ แต่สำหรับแฟนๆวงควีนแล้ว มันเป็น best concert จริงๆครับ
Prelude:
จากการที่ผมเคยมีโอกาสได้ไปดู คอนเสิร์ต Queen + Paul Rodgers เมื่อช่วงปี 2008 เมื่อนำมาเทียบกับครั้งนี้ อารมณ์ของคอนเสิร์ต ต่างกันมากจริงๆครับ Queen + Paul Rodgers ให้อารมณ์ nostalgic กว่ามีความเศร้ามากกว่า (โดยเฉพาะ ช่วงที่ลุง Brian May มาร้อง Love of My Life แล้วพูดถึงพี่เฟรดดี้ จำได้ว่าน้ำตาไหลพรากๆ) และสนุกสนานน้อยกว่า (แต่ก็ว่าไม่ได้เพราะ ลุง Paul Rodgers ก็อายุเยอะพอๆกัน) และครั้งนั้น ผมคงคิดว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้ดู Brian May, Roger Taylor บนเวทีสดๆ ซึ่งไปดูมาก็ไม่ผิดหวังครับ ตอนนั้นถ้ามีใครมาถามผม ผมก็บอกว่า Best concert in my life เหมือนกัน
"You've gotta check out this guy on Idol." So we Googled him. His voice was phenomenal. I was just like, "Wow." Roger Taylor
ช่วงปี 2009 ผมก็เหมือนหลายๆคน ที่ได้มีโอกาสเห็น Adam Lambert ครั้งแรกจากรายการ American Idol ซึ่ง Adam Lambert ตอนนั้น อายุ 27 แล้ว โดยก่อนหน้านั้น เขาเป็นนักแสดงละครเวที ละครเพลง และนักร้องนำวงเล็กๆ ซึ่งก็ไม่ได้ประสพความสำเร็จอะไรมากมาย เขาจึงตัดสินใจมาประกวด American Idol โดยคิดไว้ว่าอาจจะเป็นความหวังสุดท้ายที่จะ Go Big, or Go Home เขากล่าวว่า “I was 27, I knew I was past the prime zone, and I’m openly gay. I thought the worst that could happen was I would get some notoriety and it might bump my theatre career up a couple of notches.”
ในรายการ Adam เลือกเพลง Bohemian Rhapsody ไปร้องในรอบ Audition โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าเพลงนี้ร้องยากมาก ถ้าร้องทั้งเพลง รวมท่อนโอเปร่าด้วย ถ้าความสามารถ ไม่ถึงจะฟังดูตลกมาก แต่ Adam ก็ร้องได้ดีมากๆ (แต่เขาก็ไม่ได้ร้องทั้งเพลงนะครับ) ตอนนั้นดูจบก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะไม่ได้ติดตามรายการนี้อย่างจริงจัง แต่ก็แอบเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ มาดูอีกทีคือตอนรอบ final ของรายการที่ได้มาร้อง พร้อม Kris Allen โดยมี Brian May, Roger Taylor และอาจเป็นครั้งแรกที่ Adam+ Brian+Roger ได้ขึ้น คอนเสิร์ต ร่วมกัน ตอนนั้นก็ดีใจนะครับ แต่คงคิดว่าเป็นกิมมิคของรายการเฉยๆ แต่ใครจะรู้ ว่าโชคชะตาได้พาพวกเขามาเจอกันแล้ว
“When Freddie went, I thought: ‘That’s it. We did that. It was a great life. Now, it’s time to have a different life, But I think he’s woken us up” Brian May on Adam Lambert
ปลายปี 2011 งาน MTV Europe Awards ที่จัดที่ เบลฟาสต์ ไอร์แลนด์เหนือ จะมีการมอบรางวัล Global Icon ให้กับวง Queen จะให้ขึ้นไปรับรางวัลเฉยๆก็กระไรอยู่ ทาง Brian May และ Roger Taylor จึงได้ติดต่อไปยัง Adam Lambert เพื่อมาร้องเพลงโชว์ในงานนี้สั้นๆ แต่ไม่มีอะไรง่ายดายขาดนั้น สำหรับ Adam Lambert กับวงที่เป็นตำนานระดับ Queen กับคนที่เป็นตำนานบนหิ้งอย่าง Freddie Mercury มีแฟนพันธุ์แท้หลายคน พร้อมที่จะสับคนที่อาจหาญมาแทนที่พี่เฟรดดี้อย่างไม่มีชิ้นดี ลุง Paul Rodgers ยังไปอีกแนวทางนึงคือร้องคนละคีย์คนละแนวไปเลย แต่ตาหนุ่มนี่เป็นใคร คิดจะมาแทนตำนานอย่างนั้นหรือ แต่อย่างไรก็ตาม ถือว่า Queen + Adam Lambert ได้กำเนิดขึ้นแล้วจากงานนี้
"We didn't look for this guy, suddenly he's there, and he can sing all of those lines. See, they're difficult songs to sing, Queen songs. There's too much range. So many people can't sing them in the original key even if they are good singers. Adam comes along, and he can do it easy. He can do it in his sleep. He can sing higher than even Freddie could in a live situation. So I think Freddie would look at this guy and think, 'Hmm, yeah. Okay'. There would be a kind of, 'Hmm, you b**tard, you can do this'." Brian May on Adam Lambert
หลังงาน MTV Awards ในโลกออนไลน์ก็มีทั้งเสียงชมและด่า แต่คำวิจารณ์ต่างๆก็ไม่ได้ทำให้ Adam Lambert ท้อใจเท่าไหร่นัก เพราะลุง Brian May และ Roger Taylor คอยให้กำลังใจตลอด โดยเฉพาะลุง Roger เปรียบเทียบ Adam ว่ามีความคลายคลึงกับเอลวิส เลยทีเดียว ไม่ว่าจะรูปร่าง การโชว์ เสียงร้อง รัศมี ออร่าต่างๆ คล้ายเอลวิส คล้ายเฟรดดี้ จนบางครั้งเวลาอยู่หลังเวที ลุง Roger ก็ย้อนนึงไปถึงสมัยวันเก่าๆ ที่ทัวร์คอนเสิร์ตกับควีนยุคก่อนๆเลย อาจมีเสียงวิจารณ์บ้าง แต่ลุงทั้งสองก็ยังเชื่อมันในตัว Adam และตอกย้ำความเชื่อมั่นนั้นโดยเสนอ Queen + Adam Lambert mini tour ในยุโรป ช่วงกลางปี 2012 ว่าสนใจจะทำร่วมกันไหม แต่ก็ลุงเมย์ก็ยังกำชับว่ามันไม่ง่ายนะหลาน “I knew it would be an uphill climb every night, a big challenge on a personal and performance level.”
“I’d done my homework. I read every biography, watched every documentary, listened to every album. It’s like I’ve crawled into the music, its part of my blood now, I don’t have to think about it, I can just be. You let instinct take over and that’s when things get really interesting.” Adam Lambert
หลังจาก Adam Lambert เตรียมตัวมาดีขึ้น ทำการบ้านมามากขึ้น Queen + Adam Lambert mini tour ก็เรื่มขึ้น ตามตารางจะมีจัดทั้งหมด 6 คอนเสิร์ต หลักๆที่อังกฤษ และ รัสเซีย อาจดูไม่มาก แต่นี่เพื่อเป็นการลองตลาดด้วย ว่าสามารถทำได้ไหม แฟนๆรับได้ไหม และ ผลตอบรับเป็นอย่างไร ปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก ขายหมดทุกรอบ โดยเฉพาะ London Hammersmith Apollo เต็มทุกที่นั่งทั้งสามรอบ
ปีต่อมา 2013 Queen + Adam Lambert มีจัดคอนเสิร์ตที่เดียวที่ iHeartRadio Music Festival ในลาส เวกัส แต่ก็ได้รับเสียงชมเป็นอย่างมาก โดยนิตยสาร Rolling Stones ให้เป็น Performance of the night เลยทีเดียว
หลัง คอนเสิรต์นี้จบ Queen + Adam Lambert ก็หยุดพักไปหนึ่งปี เพื่อเตรียมการงานใหญ่มากๆในปี 2014 คือ Queen + Adam Lambert North America Tour โดยแสดงในอเมริกา และ แคนาดาทั้งหมด 24 ครั้ง และได้รับผลตอบรับดีมากๆ จึงขยายมาเป็น World Tour โดยแสดงทั้งหมด 66 ครั้ง มาเอเชียแค่สองประเทศคือ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ (เสียใจมากๆ ไม่มาไทย) แต่แล้วฝันก็เป็นจริงเมื่อได้เห็นข่าว Queen + Adam Lambert 2016 Summer Festival Tour โดยมีประเทศไทยอยู่ในนั้นด้วย
THE CONCERT :
I always think that singing is a very physical thing. A singer is full-on in every respect. It's a physical thing. It's the sound, the look, the animal magnetism. When you see Adam, you see a performer. He's performing from his heart. He's interpreting the song. Brian May
ตัดมา ณ ปัจจุบัน, อิมแพค อารีน่า
ก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่มขึ้น ผมตั้งความหวังไว้สูงมากเพราะ อ่านรีวิวมาเยอะ และตัวลุงๆยังบอกเองว่าคอนเสิร์ต Queen + Adam Lambert นี่ ใกล้เคียงกับ ยุคทองของ Queen ที่สุดแล้ว ก็เลยตื่นเต้นกับคอนเสิรต์นี้มากๆ แต่อะไรก็ตามที่เราจะประทับใจ ต้องมีอุปสรรคนิดหน่อย คิดว่าหลายๆคนที่ไปคอนเสิรต์นี้ก็ต้องเจอเหมือนกันคือ รถติดมากกกกกกกกกกกก เป็นวันที่ฝนตกหนัก หลายจุดก็น้ำท่วมขัง แต่ยังดีที่ผมไปทันก่อนคอนเสิรต์จะเริ่มเลยพอมีเวลาเดินรอบๆดูบรรยากาศ เหมือนที่กระทู้ก่อนหน้ามีคนว่าไว้ คือเกือบ 70-80 % เป็นต่างชาติ และ มีอายุหน่อยๆ (แต่ใครจะรู้ พอเพลงแรกเริ่ม แต่ละคนเต้นลืมอายุเลย) มีบู้ท ขายเสื้อซึ่งรายได้หักค่าใช้จ่ายจะเข้ากองทุน Mercury Phoenix Trust ผมอยากได้เสื้อ สีเหลืองที่เป็นรูปพี่เฟรดดี้มากเลย แต่ตอนผมไปขายหมดแล้ว เลยเดินดูรอบๆต่อ เห็นคนแต่งคอสเพลย์เฟรดดี้บ้าง บางคนใส่เสื้อทีมมากันเป็นหมู่คณะก็มี เดินสักครู่ก็เข้าไปด้านใน รอคอนเสิร์ตเริ่มดีกว่า
“I love him just as much as you. No, I think I love him more than you when I’m dressed like this. I’m entitled to say that!” Adam Lambert
พอคอนเสิร์ตเริ่ม ....... ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง คือตอนแรกทุกคนก็นั่งกันอยู่ดีๆแต่พอเพลงแรกขึ้น ทุกคนก็ยืน แล้วก็เต้นตาม เหมือนทุกคนถูกดึงมาทำกิจกรรมร่วมกัน โดยทุกคนโฟกัสบนเวที อดัมเสียงดีมากจริงๆ แต่อย่างที่ลุงเมย์บอก มันเป็นมากกว่าเสียง มากกว่าการร้องเพลง มันเป็นเรื่องทางกายภาพด้วย การเล่นกับคนดูให้ร้องตาม เต้นตาม เหมือนที่เคยเห็นพี่เฟรดดี้ทำกับคนดูทาง ยูทูป ทุกอย่างดูมีพลังมากๆ มันไม่ใช่แค่คอนเสิร์ตรำลึกความหลังของวง queen แต่มันคือวง queen ของปัจจุบัน โดยมี Adam Lambert , Rufus Taylor เป็นตัวเชื่อมของยุคนี้ เมื่อเทียบกับ Queen + Paul Rodgers แล้ว อันนั้นเหมือนจบด้วยความรู้สึกคิดถึง พี่เฟรดดี้ เวลาเดินออกจากคอนเสิร์ต แต่ครั้งนี้ เหมือน จบด้วยความรู้สึกสนุกสนานมากกว่า แม้จะมี บางช่วงก็เศร้าเมื่อมีฉายภาพพี่เฟรดดี้ขึ้นจอ (มี David Bowie ด้วย) แต่ก็ยังจบลงด้วยดี ด้วยความสนุกสนาน ออกจากคอนเสิร์ตด้วยความรู้สึกที่ว่า สปิริตของ Queen ยังอยู่ และไม่ไปไหน และเห็นด้วยกับหลายๆคนที่บอกว่านี่คือthe best concert in my life ครับ