เรื่องเหล้า : พี่แชมป์

กระทู้สนทนา
เรื่องเหล้า  ซีรี่ส์ที่เปิดกว้างให้นักเขียนมาร่วมสนุกเขียนเรื่องสั้นแชร์ประสบการณ์กัน


เรื่องเหล้า : พี่แชมป์
                     ดรัสวันต์

    ที่ร้านเหล้าหรือผับเจ้าประจำที่พิมกับแทนไปสังสรรค์ทุกวันเสาร์นั้นมีเรื่องเล่ามากมาย เพราะที่นั่นเป็นแหล่งรวมของเพื่อนๆ พี่ๆ จากหลายสาขาอาชีพตั้งแต่สถาปนิก วิศวกร ดีไซเนอร์ มัณฑณากร ผู้กำกับภาพยนต์ ไปจนถึงหมอฟัน คงเป็นเพราะคนเหล่านี้ชื่นชอบในบรรยากาศของร้าน ที่แม้ไม่ได้หรูหราอะไรเลย แต่มีกลิ่นอายบางอย่างที่พิมก็ไม่สามารถบรรยายได้ว่ามันคืออะไรที่ดึงดูดให้เราต้องมาที่นี่ทุกเสาร์ติดต่อกันมาเกือบสิบปี อาจจะเป็นเพราะเปิดเพลงแจ๊ส หรือเป็นเพราะชื่อร้าน ที่คิดว่าลอกเลียนมาจากผับดังในยุโรป หรือเป็นเพราะสมาชิกขาประจำในร้านที่ช่วยสร้างบรรยากาศ

    ถ้าถามพิมว่าชอบอะไรที่นี่ ก็คงบอกว่าชอบพี่ๆ เพื่อนๆ ผู้คนที่อยู่ในร้านที่เป็นคนหน้าเดิมๆ ที่ช่วยให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นเหมือนเป็นบ้านของเราเอง

    สำหรับแทนนั้น เขาเป็นนักดื่มที่เลือกสถานที่กินเหล้า ไม่ใช่ว่ากินที่ไหนก็ได้ที่มีเหล้าขาย แต่ที่กินเหล้าต้องน่านั่งและปลอดภัย   อาหารก็เช่นกัน แทนไม่สนใจอาหารอร่อยสุดๆ แต่ต้องไปนั่งข้างถนน เขาต้องนั่งร้านดีๆ แม้จะอร่อยน้อยกว่าก็ตาม ดังนั้นแทนจึงเลือกที่จะมาสังสรรค์ที่ร้านนี้เพราะน่านั่ง ปลอดภัยและเปิดเพลงแจ๊สซึ่งเป็นแนวเพลงที่แทนชอบ

    นอกเหนือจากบรรดาก๊วนขาประจำของเราที่มาทุกวันเสาร์แล้วยังมีสมาชิกของร้านบางคนที่แม้ไม่ได้มาประจำแต่ก็สนิทกับเพื่อนๆ ในก๊วนมากเพราะเรียนจบที่เดียวกันมา  

    ใครๆ เรียกเขาว่าแชมป์

    พิมจะเรียกเขาว่าพี่แชมป์ เพราะอย่างที่เคยบอกว่าทั้งก๊วนเป็นรุ่นพี่จากสถาบันเดียวกับพิม

    พี่แชมป์จบ ‘ถาปัด จุฬา แต่ไม่เคยเป็นสถาปนิกกับเขาเลยตั้งแต่จบมา เช่นเดียวกับเจ้าของร้านแห่งนี้ที่เอาวิชาชีพสถาปัตย์ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมาถึง 5 ปี คืนอาจารย์ไปหมดแล้ว เพราะมาเปิดร้านขายเหล้าแทน แล้วยังมีสมาชิกบางคนที่เรียนจบจิตรกรรม แต่มาเป็นผู้กำกับภาพยนต์สยองขวัญที่ขายดีติดอันดับหนังทำเงินอีกด้วย

    พี่แชมป์ทำงานในระดับบริหารกับบริษัทขายเหล้ายี่ห้อดังเจ้าหนึ่ง เพราะฉะนั้นการมานั่งร้านเหล้าคือส่วนหนึ่งของงานพี่แชมป์ที่จะต้องมาดูความเป็นไปของสินค้า เป็นอาชีพที่น่าอิจฉาประมาณหนึ่ง เพราะไม่เพียงแต่ร้านเหล้าแห่งนี้ แต่พี่แชมป์จะตระเวนไปทุกแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีที่ขายเหล้า เพราะฉะนั้นไม่มีแหล่งบันเทิงไหนจะไม่รู้จักพี่แชมป์ แต่การไปนี้ไม่ได้เป็นการไปเช็คสต๊อคนะ แต่พี่แชมป์จะไปนั่งคุยกับเจ้าของร้านหรือผู้จัดการร้านอย่างไม่เป็นทางการมากกว่า จิบเหล้าไป คุยไป ไม่ต่างจากนักเที่ยวคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าข้อมูลจากการพูดคุยจะถูกนำไปวางแผนการขายของบริษัทอย่างไรบ้าง

    พี่แชมป์เป็นชายเชื้อสายจีนร่างสูงสมาร์ทที่มีลักษณะของนักธุรกิจเต็มตัว เวลาพูดคุยฉลาดมีไหวพริบน่าทึ่ง เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา แล้วยิ่งภรรยาของพี่แชมป์ที่แวะมาสังสรรค์ด้วยในบางครั้งนั้น ทำให้พิมต้องแอบทึ่งเพราะเธอทั้งหุ่นดี แต่งตัวเก่ง และเท่ราวกับนางแบบ ไม่เพียงเท่านี้เธอยังมีความรู้สูง ได้ข่าวว่าพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นไฟและเดินทางไปเจรจาการค้ามาแล้วทั่วยุโรป  ว้าว !  แบบนี้จะไม่ให้ทึ่งได้อย่างไร และพิมก็เข้าใจดีว่าคนอย่างพี่แชมป์จะเลือกใครมาเป็นภรรยาสักคน ก็คงต้องเลิศเลอเพอร์เฟคและนำพาให้เขาก้าวหน้าในธุรกิจยิ่งๆ ขึ้นไปแน่นอน

    แต่ในบางครั้งที่พี่แชมป์ไม่พาเมียมา พี่แชมป์ก็มีน้องหนูมาอิงแอบไม่ซ้ำหน้าเช่นกัน ทำเอาพวกผู้ชายในก๊วนน้ำลายหก แต่ไม่มีใครคิดมากอะไรเพราะเป็นเรื่องปกติของผู้ชายวัยฉกรรจ์ที่ยังใช้ชีวิตดื่ม กิน เที่ยว

    แม้พี่แชมป์จะขายเหล้ายี่ห้อดัง แต่ก๊วนของเราก็ไม่ได้เลือกดื่มยี่ห้อนั้นเพื่อเอาใจพี่แชมป์แต่อย่างใด เรายังคงชอบนายจอน นายแจ๊ค นายเกลน ไปตามรสนิยมของแต่ละคน (วงเหล้าของเรา ต่างคนต่างเปิดเหล้าคนละขวดเพราะชอบเหล้าคนละชนิด) พี่แชมป์ก็รู้ เขาเองก็ใช่ว่าจะต้องแสดงความลอยัลตี้ต่อสินค้าที่ตัวเองขาย แต่เขาเป็นนักดื่มที่รู้จักเลือกสรร เขาเลือกดื่มเหล้าหลากหลายยี่ห้อ

    มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พี่แชมป์หายไป ที่จริงพี่แชมป์ก็มักจะหายๆ ไปแบบนี้ ไม่ได้มาทุกเสาร์เหมือนพวกเรา  แต่คราวนี้พี่แชมป์หายไปนานมาก ได้ข่าวว่าไปยุโรป

    จนมาวันหนึ่งที่พี่แชมป์กลับมา พวกเราก็ทักทายกันด้วยความคิดถึง พี่แชมป์เล่าว่าไปเที่ยวสก๊อตแลนด์มา ไปดูงานเรื่องการทำสก๊อตวิสกี้  เราก็ฟังผ่านเลยไปเรื่อยๆ ไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะมันเป็นสายงานอาชีพของเขา

    แล้วพี่แชมป์ก็หายไปอีก คงเดินทางต่างประเทศเป็นว่าเล่น  แต่กลับมาคราวนี้พี่แชมป์มีของมาฝากให้พวกเราชิม

    “ลองชิมดูนะ ระหว่างสองขวดนี้ ชอบรสชาติไหนมากกว่ากัน” พี่แชมป์หยิบเหล้าขวดกลมสองขวดที่ไม่ได้มีฉลากบอกยี่ห้ออะไรเลยออกมาจากลังกระดาษสีน้ำตาล มีกระดาษแปะข้างขวดเขียนเลขกำกับพอไม่ให้สับสนว่าขวดไหนเป็นขวดไหน  

    พิมไม่ได้ชิมกับเขาหรอก เพราะไม่ใช่คอเหล้าที่จะแยกแยะออก แต่สมาชิกทุกคนที่ได้ชิมก็ชอบกัน แล้วบอกว่ารสชาติใกล้เคียงนายจอนเลย

    “เหล้าต้นแบบ มาจากสก๊อตแลนด์” พี่แชมป์เฉลย ทำเอาพวกเราตาค้างด้วยความทึ่ง

    “ฮ้า ! ที่หายไปสก๊อตแลนด์บ่อยๆ เนี่ยนะ”

    “ใช่ ไปรู้จักกับคนปรุงเหล้า แล้วสั่งให้เขาปรุงออกมาตามรสชาติที่เราต้องการ”

    “นี่ไปสั่งทำเหล้าหรือ !? ”

    พี่แชมป์ยิ้มรับ

    “แล้วเรื่องการหมักบ่ม ไม่ต้องรอเป็นสิบๆ ปี เพื่อให้รสชาตินุ่มหรือ” สมาชิกในก๊วนซักถามอย่างตื่นเต้นสงสัย

    “ไม่ได้เพิ่งคิดทำวันนี้ แต่ติดต่อกับเขามาพักนึงแล้ว จนเขาทำต้นแบบเสร็จถึงได้ไปเอา และเราใช้หัวเชื้อที่เขาบ่มไว้แล้ว ผสมโน่น นี่ นั่น เข้าไป ให้รสชาติออกมาตามที่เราต้องการได้”

    พิมได้แต่นิ่งฟังตาโต เพราะเคยชินกับความรู้เดิมๆ ว่าถ้าอยากจะดื่มสก๊อตวิสกี้ ก็ต้องไปซื้อยี่ห้อนั้น ยี่ห้อนี้ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศมาดื่ม แต่นี่มีการสั่งทำด้วยหรือ และโดยคนไทยอีกด้วย  เริ่ดมากค่ะพี่แชมป์ พี่ไม่ธรรมดาจริงๆ

    “สรุปว่าชอบขวดไหน” พี่แชมป์หันมาขอข้อสรุปจากนักดื่ม


    หลังจากวันนั้นอีกเป็นเดือน พี่แชมป์ก็มาที่ร้านพร้อมกับเหล้าที่สั่งทำล็อตแรกหนึ่งลัง คราวนี้ขวดเหล้าถูกแปะฉลากมาเรียบร้อย เป็นฉลากสีม่วงสดขลิบทอง

    “ทำไมใช้ชื่อนี้วะ นึกว่าจะใช้ชื่อแชมป์เป็นยี่ห้อเหล้าซะอีก” เพื่อนถามพร้อมแซว

    “ไม่เอาหรอก เดี๋ยวจะฟังดูเป็นเครื่องดื่มชูกำลัง” พี่แชมป์บอกหัวเราะๆ แล้วอธิบายว่า “ชื่อนี้ตั้งตามชื่อลำธารใน สก็อตแลนด์ที่ใช้น้ำจากลำธารสายนี้มาผลิตเหล้านี้ไง”

    “ว้าว !”

    พิมพูดได้คำเดียวว่า “เริ่ด” ความรู้สึกตื่นเต้นภูมิใจไม่ต่างจากเจ้าของ รู้สึกคล้ายตัวเองมีส่วนร่วมนิดๆ ในการผลิตเหล้าตัวนี้ ก็เพราะเราได้มีโอกาสชิมตั้งแต่ยังเป็นเหล้าต้นแบบ และพวกเราก็ช่วยกันเลือกว่าจะเอารสชาตินี้ แล้วตอนนี้ขวดเหล้าสก็อตวิสกี้ที่เราได้ชิมเมื่อหลายเดือนก่อนก็มาอยู่ในมือแล้วหรือนี่ ไม่น่าเชื่อเลย

    หลังจากนั้น ก๊วนของเราก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ของเหล้าพี่แชมป์ ไม่ใช่เพราะเกรงใจพี่เขา แต่พวกเราชื่นชอบรสชาติของเหล้าที่แทบไม่แตกต่างจากวิสกี้ขายดีอันดับหนึ่งในเมืองไทยเลยทีเดียว แต่ราคาถูกกว่าครึ่งต่อครึ่ง


    จากวันนั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าพิมกับแทนจะไปกิน ดื่ม หรือสังสรรค์ร้านไหน  ไม่เฉพาะแต่ร้านเหล้าประจำของเรา แต่ทุกร้าน เจ้าวิสกี้ขวดกลมฉลากสีม่วงขลิบทองนี่ กำลังแพร่กระจายไปในหมู่นักดื่ม พิมไม่สงสัยเลยว่าเหล้านี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเพราะพี่แชมป์เขารู้จักร้านเหล้าทุกร้านในกรุงเทพฯ อยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรที่จะกระจายสินค้าของตัวเอง

    เวลาพิมไปร้านอาหารแล้วเห็นคนสั่งเหล้ายี่ห้อนี้ หรือไปตามซูเปอร์มาร์เก๊ตแล้วเห็นมันวางอยู่ตามชั้นวางสินค้าแล้วเป็นต้องยิ้มภูมิใจ

    และพิมก็เพิ่งรู้ว่าพี่แชมป์เขาลาออกจากบริษัทเดิมที่เขาทำงานอยู่มานานแล้ว และมาเปิดบริษัทขายเหล้าของตัวเองอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

    พี่แชมป์เริ่มแตกไลน์สินค้าเพิ่มขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง สำหรับลูกค้าระดับล่างคือเป็นเหล้าอีกรุ่นซึ่งทำมาสำหรับขายในราคาที่ถูกกว่า เช่นนี้แล้วพี่แชมป์กำลังตีเหล้ายี่ห้ออื่นทั้งตลาดบนและตลาดล่าง

    เป็นเวลาปีกว่าที่เหล้าของพี่แชมป์ขึ้นมาผงาดในวงการน้ำเมา สร้างความสั่นสะเทือนชนิดที่ยอดขายวิสกี้ต่างประเทศที่เคยครองแชมป์ในประเทศไทยและของโลกมาช้านานกำลังตกลงอย่างฮวบฮาบ

    แต่คงไม่มีใครยอมสูญเสียโดยไม่พยายามทำอะไร

    แล้ววันหนึ่งพวกเราก็ได้ข่าวมาว่า พี่แชมป์ถูกซื้อตัว  

    “ซื้อตัว ! ซื้อยังไง” พวกเราพากันตาโต ซักไซ้แหล่งข่าวกันอย่างแทบกลั้นหายใจกับคำตอบ

    “เขามาเจรจาขอให้พี่แชมป์เลิกผลิตเหล้าชนิดนี้ เลิกขาย แล้วออกจากวงการนี้ไปเลย แลกกับเงิน 500 ล้านบาท” [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

    “500 ล้าน !! ”

    เป็นข้อเสนอที่เราต่างช็อค

    หลังจากนั้น เหล้าของพี่แชมป์ก็ค่อยๆ หมดไปจากสต็อค ไม่มีการสั่งผลิตเพิ่มอีก พวกเราได้แต่เสียดาย ไม่มีอีกแล้วเหล้าคุณภาพเยี่ยมราคาคนไทย  พวกเราต้องหันกลับมาดื่ม นายจอน นายแจ็ค นายเกลน กันตามเดิม

    ส่วนพี่แชมป์น่ะหรือ  ป่านนี้คงไปเสวยสุขอยู่กับเมียที่บ้านพักตากอากาศที่แคนาดาที่เขาซื้อไว้ก่อนหน้านี้ คงไปเล่นสกีหิมะที่ฝรั่งเศส หรือไม่ก็เล่นกระดานโต้คลื่นที่ฮาวายอย่างมีความสุขไปแล้ว

ดอกไม้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่