*อ่านรีวิว : ญี่ปุ่น "หน้าร้อน" ก็เที่ยวได้ Kansai (Osaka/kyoto) เที่ยวด้วยตัวเองได้รับรองไม่หลง ( PART 1) http://pantip.com/topic/35630997
*อ่านรีวิว : ญี่ปุ่น "หน้าร้อน" ก็เที่ยวได้ Kansai (Osaka/kyoto) เที่ยวด้วยตัวเองได้รับรองไม่หลง ( PART 2) http://pantip.com/topic/35631797
*อ่านรีวิว : ญี่ปุ่น "หน้าร้อน" ก็เที่ยวได้ Kansai (Osaka/kyoto) เที่ยวด้วยตัวเองได้รับรองไม่หลง ( PART 4) http://pantip.com/topic/35727830

วันนี้พวกเราจะออกนอกเมืองโอซาก้า ไปตะลอนเกียวโตกัน แม้จะอาจหาญไปกันแบบงงๆ เพราะนอกจากต้องนั่งรถไฟออกไปเป็นชั่วโมงแล้ว ต้องเดินทางโดยรถเมย์ การเดินทางในเกียวโตรถเมย์ถือว่าสะดวกที่สุด มีสายไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆครบถ้วน

แนะนำเว็บไซต์ที่จำเป็นต่อการเดินทาง
1.http://www.hyperdia.com/en/ ----> ใช้สำหรับเดินทางโดยรถไฟ
2.http://www.arukumachikyoto.jp/index.php?lang=en ----> ใช้สำหรับเดินทางโดยรถบัส ในโตเกียว

เริ่มการเดินทางจากที่พักย่าน Bentencho ปลายทางคือ Togetsu-kyo Bridge

นั่งรถไฟออกนอกเมืองใช้เวลาประมานชั่วโมงครึ่ง ได้เห็นวิวข้างทาง เห็นเด็กนักเรียนเดินทางไปโรงเรียน คนทำงาน เนื่องจากพวกเราไปวันธรรมดา และยิ่งออกนอกเมืองไปเรื่อยๆ จะเห็นคนสูงอายุเยอะมากขึ้น ที่สำคัญคุณตาคุณยาย พวกท่านแข็งแรงมาก ช่วยเหลือตัวเองได้

ภายในรถไฟ สะอาดมากกกกก

วิวระหว่างนั่งรถไฟ (ภาพไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นัก เพราะรถไฟวิ่งเร็ว) และพวกเรานั่งสุดสาย เลยหลับเอาแรงกัน


ในที่สุดก็มาถึงปลายทาง hankyu arashiyama station

ออกมาจากสถานี อากาศสดชื่นมากคะ ต้นไม้ดอกไม้ ช่วงที่เราไปนั้นเป็นฤดูของดอกไฮเดรนเยีย hydrangea มีให้เราชมตลอดทาง โดยส่วนตัวเจ้าของกระทู้ชอบมาก ถ่ายรูปมาเยอะเลย


ดอกไฮเดรนเยีย ต้นนึงมีหลายสี อาจจะเพราะบางช่อพึ่งเริ่มบาน บางช่อก็โรยแล้ว สวยไปอีกแบบคะ


ออกจากสถานีถ่ายรูปเพลินๆ และไม่ต้องกลัวหลงนะคะ เดินตามผู้คนที่มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายเดียวกันคือ Togetsu-kyo Bridge ระหว่างทางเดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ แป๊บเดียวก็ถึงละคะ




เห็นอยู่ไกลๆ คือ Togetsu-kyo Bridge




พวกเราเดินข้ามสะพานมาถึงอีกฝั่ง จนเจอสี่แยก ให้เราเลี้ยวซ้าย เดินไปตามแม่น้ำ เพื่อไปยัง สวนป่าไผ่(Bamboo Groves) อีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตของการถ่ายรูป




หรือจะใช้บริการรถลากตามภาพก็มีให้เลือกได้ ขออภัยไม่ได้สอบถามราคามาให้นะคะ




เดินไปจนสุดทาง จะมีแผนที่ให้เราเลือกว่าจะเดินไปสวนไผ่อย่างไร เป็นทางเดินขึ้น - ลง ขอบอกได้เลยว่าเดินจนท้อคะ ตอนแรกก็สนุกเพลินๆ สักพักเดียวโอ้ยยยยย ไกลแท้ มีหยุดพักเข้าห้องน้ำ ถ่ายรูปเป็นพักๆ ในที่สุกเราก็ถึง

เลือกถ่ายรูปได้ตามมุมที่ชอบได้เลยคะ นักท่องเที่ยวบางตา ไม่หนาแน่น อาจจะเพราะเป็นช่วงฤดูร้อน



จบจากสวนไผ่ เราก็เดินลงมาตามทางเรื่อยๆ เพื่อมายัง วัดเท็นริวจิ (Tenryu-ji Temple)  มีค่าเข้าชมสวนคนละ 500y เวลาเปิด-ปิด: 8:30 - 17:30 น. (ตุลาคม - มีนาคม: 8:30 - 17:00 น. )


เข้ามาในบริเวณวัดร่มรื่นมาก และเจอสิ่งที่ชอบก็คือ ดอกไฮเดรนเยีย ถ่ายไม่ยั้งเลยค่าาาา











เดินทางกันต่อคะ เราเลือกเดินทางโดยรถบัส เพราะเราใช้บัตร kansai tru pass ได้เราจะวัดไดคะคุจิ Daikakuji Temple ค่าเข้าชมคนละ 500 เยน (800 เยน รวมค่าเข้าพิพิธพันธ์ Reihokan) เวลาเปิด-ปิด: 9:00 - 17:00 น.* เข้าชมรอบสุดท้ายก่อนเวลาปิด 30 นาที
วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน รถบัส: รถบัสสาย 28, 91












ระหว่างเดินทางเราก็ทานน้ำ ไอศกรีม เพราะอากาศค่อยข้างร้อน ทำให้ไม่ค่อยหิวอาหารเท่าไหร่
มาต่อกันด้วย วัดนินนาจิ – Ninnaji Temple ค่าเข้าชม: 500 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 9:00 - 17:00 น. (ธันวาคม - กุมภาพันธ์: 9:00 - 16:30 น. )
* เข้าชมรอบสุดท้ายก่อนเวลาปิด 30 นาที
วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน












เดินชมสวนหินภายในวัดก็เย็นสบายดี แต่พอออกมาร้อนมากคะ ร้อนพอกับเมืองไทย แต่ที่มากกว่าคือแดด ไม่แปลกใจว่าทำไมครีมทากันแดดถึงมีขายมากมาย ไปต่อกันที่วัดสุดท้ายของวันนี้ คือ วัดคินคะคุจิหรือวัดทอง – Kinkakuji Temple การเดินทาง รอรถบัสสาย 59 ฝั่งหน้าประตูวัดนินนาจิได้เลย โดยวัดทองมีค่าเข้าชม: 400 เยน เวลาเปิด-ปิด: 9:00 - 17:00 น. เปิดทุกวัน



ได้เวลากลับเข้าเมือง ตอนแรกพวกเราจะค้างคืนที่เกียวโต แต่ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ทำให้ตัดใจไม่พัก เดินทางไปกลับเอาก็สะดวกอยู่
เราขึ้นรถบัสไปต่อรถไฟเข้าเมืองเหมือนเมื่อเช้า และแวะหามื้อเย็นที่ย่าน UMEDA