
ขอเรียกสั้นๆ ว่าร้าน Ferraro นะครับ เพราะว่า Ristorante แปลว่า Restaurant ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โครงการ Maza ทองหล่อ ซอย 4 จอดรถที่ใช้ใต้ดิน กดลิฟท์ขึ้นมาที่ชั้น 2 ออกมาแล้วจะเจอร้านตั้งอยู่ตรงหน้าเลยครับ

ภายในร้านแบ่งออกเป็น 2ส่วน คือในร้าน ที่มีโต๊ะไม่มาก และส่วนนอกร้าน (Open Air) ที่รองรับ แขกได้หลายโตีะ ข้อดีของในร้านคือ มีแอร์ครับ แต่ไม่ใช่แต่นั้นแน่ๆ ครับ พื้นที่ส่วนในร้านจะอยู่ ติดบาร์เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ที่จะมีการโชว์ผสมเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเมนู F.R.O. Inferno และ Killin’ Me Softly ที่จะมีการเล่นกับไฟครับ
ในช่วง 4เดือนที่ผ่านมา ผมและครอบครัว มาร้านนี้กัน 4ครั้ง ก็หมายความว่า ผมควรที่จะเขียน รีวิวให้ร้านนี้ได้แล้วครับ
ถ้าจะให้แนะนำว่าควรที่จะสั่งอะไรบ้าง ผมแนะตาม Step นี้เลยครับ

เครื่องดื่มกระตุ้นต่อน้ำลายและน้ำย่อย F.R.O. Inferno ที่ใช้ Hennessy Cognac V.S. (Very Special) เป็นส่วนผสมหลัก แล้ว Burn กับเครื่องเทศได้แก่ น้ำตาลทรายแดง มะตูมแห้ง อบเชย โป้ยกั้ก และเหล้าหวานอีกหลายตัว เคล้ากับไฟเข้าด้วยกันจนกลิ่นหอมของเครื่องเทศและ Cognac กระจายอบอวลจากนั้นจึงบีบน้ำมันจากเปลือกส้มให้ไฟลุกพอสวยงาม แล้วคว่ำแก้ว เททุกอย่างลงบนไปแก้วพร้อมเสิร์ฟ

< รูปจากทางร้าน เพราะผมลืมถ่ายตอนก่อนดื่มครับ ( -__-;) >
เวลาดื่มค่อยๆ จิบพร้อมกับดมกลิ่นอายละมุนของ Cognac ที่หอมปนกับกลิ่นเครื่องเทศที่ผสาน ความสดชื่นของส้ม รสหวานหอมและซาบซ่าน ช่างกระตุ้นต่อมน้ำลายและน้ำย่อยได้อย่างดีครับ

จากนั้นตามด้วย เกี๊ยวทอดกรอบ กับ ทาท่าร์ปลาทูน่า ตัดเลี่ยนด้วยน้ำจิ้มวาซาบิสูตรพิเศษของ ทางร้าน มารอบแรกติดว่า ร้านนี้ให้ทาท่าร์เยอะไป เพราะเกี๊ยวหมดก่อน แต่พอมารอบหลังทาง ร้านบอกว่าถ้าเกี๊ยวหมดก้ขอเพิ่มได้เรื่อยๆ ไม่คิดเงินเพิ่มครับ รสชาติของทาท่าร์อร่อยมากครับ รสหวานอมเปรี้ยวที่เคลือบบนชิ้นปลาทูน่าดิบช่างลงตัวสุดๆ ครับ

รายการต่อมาคือ พิซซ่า 4 Chesses ที่โปะกองพาร์ม่าแฮมลงไป พิซซ่าแป้งบางกรอบกับชีสหอมๆ หวานๆ มันช่างเข้ากับรสเค็มของพาร์ม่าแฮม กันอย่างไม่เกรงใจใคร อร่อยออกหน้าออกตาเลย ครับ

มาที่อาหารจานหลักของผม คือ อาหารอินเดียจานนี้ครับ ข้าวผัดเครื่องเทศ เสิร์ฟพร้อมไก่ย่าง สไตล์อินเดีย พร้อมน้ำจิ้มแบบไทยและไรต้า (โยเกิร์ตโรบผงเครื่องเทศ) รสชองอ้าวผัดเครื่องเทศ เป็นเครื่องกลบความเลี่ยนของอาหารแจกแรกได้เป็นอย่างดี เมื่อเครื่องเทศกลบความเลี่ยนจน หมด มันเลยเหลือแต่ความอร่อยที่อยู่ในอาหารทุกจากครับ

จริงๆ แล้วที่อยากแนะนำอีกคือ Osso Bucco หรือเนื้อ(ติดท่อนกระดูก)อบครับ หลายคนสั่งมา โดยคิดว่าทานได้แต่เนื้อ แต่จริงๆ แล้วไขกระดูกนี่แหละครับ ตัวอร่อยสุดเลย รายการอาหารตัวนี้ จะเสิร์ฟพร้อมมันม่วงบดนะครับ อาหารของร้านนี้ในส่วนที่ทำจากมันฝรั่ง ทางร้านจะใช้มันม่วง ทำครับ ทำให้มันมีรสหวานและทำให้เมนูอาหารโดดเด่นสวยงามครับ หากใครทานอาหารแล้วรู้สึก ว่า ขอนั่งต่ออีกนิดแต่ไม่รู้ว่าจะสั่งอะไร ผมขอแนะนำ มันม่วงแผ่นทอดเลยครับ อร่อยแบบทาน แล้วมีติดลมได้สั่งเรื่อยๆ เลยครับ ยิ่งทานคู่กับ Cocktail ที่ชื่อว่า Killin’ Me Softly ที่เสมือนเป็น คู่ฝาแฝดกับ F.R.O. Inferno คือเข้ากันมากครับ ถ้าเปรียบ FRO Inferno เป็นไฟ ทาง Killin’ Me Softly ก็คือน้ำแข็งครับ วิธีการทำคล้ายกันคือต้องเล่นกับไฟเพียงแต่ส่วนผสมต่างกัน ตรงที่ FRO Inferno จะใช้ Hennessy Cognac VS ส่วน Killin’ Me Softly จะใช้ Meridian Brandy VSOP เคยถามว่าทำไมถึงใช้ต่างกัน เพราะทั้งคู่คือเหล้าชนิดเดียวกัน ทางน้อง บาร์เทนเดอร์ก็บอกว่า Meridian Brandy VSOP มันหวานและลื่นกว่า ส่วน Hennessy VS คือหอมและแรงกว่า เลยทำให้เครื่องดื่ม 2 แก้วนี้ต้องใช้ต่างกัน

มาที่ส่วนผสม Killin’ Me Softly จะผสม น้ำตาลทรายแดง โป้ยกั๊ก เมล็ดกาแฟ และ แอปเปิ้ล เข้ากับ Brandy และเหล้าหวานตัวอื่น จากนันก็ Burn และคนเข้าด้วยกัน เมื่อกลิ่นหอมของ เครื่องเทศแตกตัวออกมาผสมความหอมละมุนขอกาแฟแล้ว จึงเททุกอย่างลงบนแก้วที่มีน้ำแข็ง ตรงนี้แหละครับ เป็นจุดที่เท่มากครับ คือ ไฟมันลุกบนน้ำแข็ง ส่วนรสชาติของ Cocktail แก้วนี้ หวาน หอม สดชื่น และ แอบแรงโดยที่ผู้ดื่มไม่ทันรู้ตัว คล้ายกับ Gin ที่ผสมน้ำผลไม้ คือนั่งดื่ม แล้วเมาไม่รู้ตัว มารู้ตัวว่าเมาอีกทีคือตอนลุกขึ้นยืนครับ นับว่า Killin’ Me Softly เป็น Cocktail ที่เหมาะสำหรับการเป็นเครื่องดื่มปิดท้ายรายการอาหาร หรือถ้าจะให้แนะนำอีกตัวคือ Icy Old Fashion ที่ปรับสูตรมาให้เป็นแบบเย็นยะเยือก แล้วใช้ Meridian Brandy VSOP เป็นเหล้าหลัก แทนเหล้า Bourbon ที่มีความแรงของแอลกอฮอล์สูง (เพิ่มเติม ทางน้องบาร์เทนเดอร์บอกว่า Meridian เหมาะกับ Cocktail สายเย็นมากกว่าที่จะใช้ตัวที่มีแอลกอฮอล์กลิ่นแรงอย่าง Hennessy Cognac VS) Icy Old Fashion แก้วนี้ได้ถูกเพิ่มความสดชื่นด้วยส้มไปอีกเท่าตัว จึงทำให้ผู้ดื่มสามารถจิบ Cocktail แก้วนี้ได้อย่างลื่นคอและลื่นจมูก ผมว่าเหมาะสำหรับการ refresh ที่ดีเลยนะครับ เครื่องดื่มที่หอมกลิ่มส้มสดชื่น กับ Brandy ที่แอบไปกระตุ้นให้ร่างกาย คึกคักในช่วงบ่าย หรือเพิ่มความรู้สึกสดชื่นในช่วงเย็นให้หายเหนื่อยล้า (แต่ไม่ควรดื่มหลายแก้ว ให้เมานะครับ) Ferraro Ristorante จัดว่าเป็นร้านอาหารที่มีจุดเด่นในด้านอาหารและเครื่องดื่ม เหมาะสำหรับการ ทานข้าวทั้งกับเพื่อน และ กับครอบครัว เพิ่มเติมอีกนิดครับ ในส่วนที่เป็น F.R.O. Inferno และ Killin’ Me Softly ทางร้านมีการเปิดโอกาสให้แขกที่สนใจเป็นผู้ทำเอง โดยน้องบาร์เทนเดอร์จะยืน กำกับให้ความช่วยเหลืออยู่ด้านข้างนะครับ
อุปกรณ์ในการรีวิว
1.) HTC M8
2.) SONY NEX-5 + F1.8/35
3.) SAMSUNG NOTE4 …เป็นได้แค่สิ่งของประกอบฉาก
[CR] Ferraro Ristorante
ขอเรียกสั้นๆ ว่าร้าน Ferraro นะครับ เพราะว่า Ristorante แปลว่า Restaurant ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โครงการ Maza ทองหล่อ ซอย 4 จอดรถที่ใช้ใต้ดิน กดลิฟท์ขึ้นมาที่ชั้น 2 ออกมาแล้วจะเจอร้านตั้งอยู่ตรงหน้าเลยครับ
ภายในร้านแบ่งออกเป็น 2ส่วน คือในร้าน ที่มีโต๊ะไม่มาก และส่วนนอกร้าน (Open Air) ที่รองรับ แขกได้หลายโตีะ ข้อดีของในร้านคือ มีแอร์ครับ แต่ไม่ใช่แต่นั้นแน่ๆ ครับ พื้นที่ส่วนในร้านจะอยู่ ติดบาร์เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ที่จะมีการโชว์ผสมเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเมนู F.R.O. Inferno และ Killin’ Me Softly ที่จะมีการเล่นกับไฟครับ
ในช่วง 4เดือนที่ผ่านมา ผมและครอบครัว มาร้านนี้กัน 4ครั้ง ก็หมายความว่า ผมควรที่จะเขียน รีวิวให้ร้านนี้ได้แล้วครับ
ถ้าจะให้แนะนำว่าควรที่จะสั่งอะไรบ้าง ผมแนะตาม Step นี้เลยครับ
เครื่องดื่มกระตุ้นต่อน้ำลายและน้ำย่อย F.R.O. Inferno ที่ใช้ Hennessy Cognac V.S. (Very Special) เป็นส่วนผสมหลัก แล้ว Burn กับเครื่องเทศได้แก่ น้ำตาลทรายแดง มะตูมแห้ง อบเชย โป้ยกั้ก และเหล้าหวานอีกหลายตัว เคล้ากับไฟเข้าด้วยกันจนกลิ่นหอมของเครื่องเทศและ Cognac กระจายอบอวลจากนั้นจึงบีบน้ำมันจากเปลือกส้มให้ไฟลุกพอสวยงาม แล้วคว่ำแก้ว เททุกอย่างลงบนไปแก้วพร้อมเสิร์ฟ
< รูปจากทางร้าน เพราะผมลืมถ่ายตอนก่อนดื่มครับ ( -__-;) >
เวลาดื่มค่อยๆ จิบพร้อมกับดมกลิ่นอายละมุนของ Cognac ที่หอมปนกับกลิ่นเครื่องเทศที่ผสาน ความสดชื่นของส้ม รสหวานหอมและซาบซ่าน ช่างกระตุ้นต่อมน้ำลายและน้ำย่อยได้อย่างดีครับ
จากนั้นตามด้วย เกี๊ยวทอดกรอบ กับ ทาท่าร์ปลาทูน่า ตัดเลี่ยนด้วยน้ำจิ้มวาซาบิสูตรพิเศษของ ทางร้าน มารอบแรกติดว่า ร้านนี้ให้ทาท่าร์เยอะไป เพราะเกี๊ยวหมดก่อน แต่พอมารอบหลังทาง ร้านบอกว่าถ้าเกี๊ยวหมดก้ขอเพิ่มได้เรื่อยๆ ไม่คิดเงินเพิ่มครับ รสชาติของทาท่าร์อร่อยมากครับ รสหวานอมเปรี้ยวที่เคลือบบนชิ้นปลาทูน่าดิบช่างลงตัวสุดๆ ครับ
รายการต่อมาคือ พิซซ่า 4 Chesses ที่โปะกองพาร์ม่าแฮมลงไป พิซซ่าแป้งบางกรอบกับชีสหอมๆ หวานๆ มันช่างเข้ากับรสเค็มของพาร์ม่าแฮม กันอย่างไม่เกรงใจใคร อร่อยออกหน้าออกตาเลย ครับ
มาที่อาหารจานหลักของผม คือ อาหารอินเดียจานนี้ครับ ข้าวผัดเครื่องเทศ เสิร์ฟพร้อมไก่ย่าง สไตล์อินเดีย พร้อมน้ำจิ้มแบบไทยและไรต้า (โยเกิร์ตโรบผงเครื่องเทศ) รสชองอ้าวผัดเครื่องเทศ เป็นเครื่องกลบความเลี่ยนของอาหารแจกแรกได้เป็นอย่างดี เมื่อเครื่องเทศกลบความเลี่ยนจน หมด มันเลยเหลือแต่ความอร่อยที่อยู่ในอาหารทุกจากครับ
จริงๆ แล้วที่อยากแนะนำอีกคือ Osso Bucco หรือเนื้อ(ติดท่อนกระดูก)อบครับ หลายคนสั่งมา โดยคิดว่าทานได้แต่เนื้อ แต่จริงๆ แล้วไขกระดูกนี่แหละครับ ตัวอร่อยสุดเลย รายการอาหารตัวนี้ จะเสิร์ฟพร้อมมันม่วงบดนะครับ อาหารของร้านนี้ในส่วนที่ทำจากมันฝรั่ง ทางร้านจะใช้มันม่วง ทำครับ ทำให้มันมีรสหวานและทำให้เมนูอาหารโดดเด่นสวยงามครับ หากใครทานอาหารแล้วรู้สึก ว่า ขอนั่งต่ออีกนิดแต่ไม่รู้ว่าจะสั่งอะไร ผมขอแนะนำ มันม่วงแผ่นทอดเลยครับ อร่อยแบบทาน แล้วมีติดลมได้สั่งเรื่อยๆ เลยครับ ยิ่งทานคู่กับ Cocktail ที่ชื่อว่า Killin’ Me Softly ที่เสมือนเป็น คู่ฝาแฝดกับ F.R.O. Inferno คือเข้ากันมากครับ ถ้าเปรียบ FRO Inferno เป็นไฟ ทาง Killin’ Me Softly ก็คือน้ำแข็งครับ วิธีการทำคล้ายกันคือต้องเล่นกับไฟเพียงแต่ส่วนผสมต่างกัน ตรงที่ FRO Inferno จะใช้ Hennessy Cognac VS ส่วน Killin’ Me Softly จะใช้ Meridian Brandy VSOP เคยถามว่าทำไมถึงใช้ต่างกัน เพราะทั้งคู่คือเหล้าชนิดเดียวกัน ทางน้อง บาร์เทนเดอร์ก็บอกว่า Meridian Brandy VSOP มันหวานและลื่นกว่า ส่วน Hennessy VS คือหอมและแรงกว่า เลยทำให้เครื่องดื่ม 2 แก้วนี้ต้องใช้ต่างกัน
มาที่ส่วนผสม Killin’ Me Softly จะผสม น้ำตาลทรายแดง โป้ยกั๊ก เมล็ดกาแฟ และ แอปเปิ้ล เข้ากับ Brandy และเหล้าหวานตัวอื่น จากนันก็ Burn และคนเข้าด้วยกัน เมื่อกลิ่นหอมของ เครื่องเทศแตกตัวออกมาผสมความหอมละมุนขอกาแฟแล้ว จึงเททุกอย่างลงบนแก้วที่มีน้ำแข็ง ตรงนี้แหละครับ เป็นจุดที่เท่มากครับ คือ ไฟมันลุกบนน้ำแข็ง ส่วนรสชาติของ Cocktail แก้วนี้ หวาน หอม สดชื่น และ แอบแรงโดยที่ผู้ดื่มไม่ทันรู้ตัว คล้ายกับ Gin ที่ผสมน้ำผลไม้ คือนั่งดื่ม แล้วเมาไม่รู้ตัว มารู้ตัวว่าเมาอีกทีคือตอนลุกขึ้นยืนครับ นับว่า Killin’ Me Softly เป็น Cocktail ที่เหมาะสำหรับการเป็นเครื่องดื่มปิดท้ายรายการอาหาร หรือถ้าจะให้แนะนำอีกตัวคือ Icy Old Fashion ที่ปรับสูตรมาให้เป็นแบบเย็นยะเยือก แล้วใช้ Meridian Brandy VSOP เป็นเหล้าหลัก แทนเหล้า Bourbon ที่มีความแรงของแอลกอฮอล์สูง (เพิ่มเติม ทางน้องบาร์เทนเดอร์บอกว่า Meridian เหมาะกับ Cocktail สายเย็นมากกว่าที่จะใช้ตัวที่มีแอลกอฮอล์กลิ่นแรงอย่าง Hennessy Cognac VS) Icy Old Fashion แก้วนี้ได้ถูกเพิ่มความสดชื่นด้วยส้มไปอีกเท่าตัว จึงทำให้ผู้ดื่มสามารถจิบ Cocktail แก้วนี้ได้อย่างลื่นคอและลื่นจมูก ผมว่าเหมาะสำหรับการ refresh ที่ดีเลยนะครับ เครื่องดื่มที่หอมกลิ่มส้มสดชื่น กับ Brandy ที่แอบไปกระตุ้นให้ร่างกาย คึกคักในช่วงบ่าย หรือเพิ่มความรู้สึกสดชื่นในช่วงเย็นให้หายเหนื่อยล้า (แต่ไม่ควรดื่มหลายแก้ว ให้เมานะครับ) Ferraro Ristorante จัดว่าเป็นร้านอาหารที่มีจุดเด่นในด้านอาหารและเครื่องดื่ม เหมาะสำหรับการ ทานข้าวทั้งกับเพื่อน และ กับครอบครัว เพิ่มเติมอีกนิดครับ ในส่วนที่เป็น F.R.O. Inferno และ Killin’ Me Softly ทางร้านมีการเปิดโอกาสให้แขกที่สนใจเป็นผู้ทำเอง โดยน้องบาร์เทนเดอร์จะยืน กำกับให้ความช่วยเหลืออยู่ด้านข้างนะครับ
อุปกรณ์ในการรีวิว
1.) HTC M8
2.) SONY NEX-5 + F1.8/35
3.) SAMSUNG NOTE4 …เป็นได้แค่สิ่งของประกอบฉาก