หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] ซานตาบาร์บาร่า "The American Reviera"
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
One Day Trip
เที่ยวต่างประเทศ
อีกหน่อยคงต้องเปิดบริษัททัวร์ที่อเมริกาซะละมั้ง เพราะการเที่ยวครั้งนี้ ที่ Santa Barbara นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วและเชื่อว่าคงจะมีอีกเป็นครั้งที่ 5 และ 6 อีกเป็นแน่ ทำทัวร์ให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลยดีกว่ามั้ยเนี่ย !!! Santa Barbara เป็นเมืองชายทะเลที่อยู่ระหว่างเทือกเขา Santa Ynez และมหาสมุทรแปซิฟิค รัฐแคลิฟอร์เนีย และได้รับขนานนามว่า American Riviera คือเเป็นเมืองที่สภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน คือเป็นกึ่งร้อนแบบอบอุ่น อากาศเลยดี้ดีตลอดทั้งปี ด้วยสถานที่ตั้งที่มีทั้งทะเล ชายหาดยาวที่ขาวสะอาด และแวดล้อมไปด้วยภูเขา จึงเป็นกลายแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งที่มีชื่อเสียงของรัฐนี้ไปโดยปริยาย
แต่ถึงจะเป็นครั้งที่ 4 แต่ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแอบซ่อนให้เราไปค้นพบอีกจนได้ ระหว่างทางที่จะไปหาอร่อยๆ กินนั้นก็บังเอิญเจอ สะพานโค้งที่ดูยิ่งใหญ่ตระการตาตัดพาดผ่านระหว่างเขาดูเก่าแก่และโบราณจนต้องจอดแวะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระทึก สะพานแห่งนี้มีชื่อว่า Cold Spring Canyon Arch Bridge เป็นสะพานเหล็กทรงโค้งที่ยาวที่สุดในอเมริกา และเป็นสัญลักษณ์ของทางหลวง 154 ที่ออกแบบให้คล้ายเป็นซุ้มประตูเพื่อเป็นทางเชื่อมระหว่างเทือกเขา Santa Ynez สู่เมือง Santa Barbara
ชื่นชมกับสะพานอันยิ่งใหญ่ไปแล้ว ก็ใจตุ้มๆ ต่อมๆ กันต่อว่าจะหลงกันหรือป่าว ก็ค่อยๆ ขับตาม Google Map ที่ดูเหมือนจะลึกลงเขาไปเรื่อยๆ บ้านช่อง ก็ไม่มีให้เห็นซักหลัง ก็ได้แต่บ่นกันในหมู่พวกเราว่า "ร้านบ้าอะไรจะซ่อนตัวอยู่ในที่เปลี่ยวและลึกแบบนี้" และก็ต้องหุบปากทันที เมื่อเจอบ้านไม้คล้ายกระท่อมโบราณเหมือนในหนังฝรั่งย้อนยุคกลับไปเมื่อร้อยกว่าปีตั้งเด่นขวางอยู่เบื้องหน้า ไชโย !!!! ไม่หลงแล้ว
จากข้อมูลที่ได้จากอากู๋ อ่านแบบแปลออกมั่งไม่ออกมั่ง มั่วเอาแบบพอได้ใจความว่า ร้านนี้ในอดีตเป็นเหมือนโรงเตี้ยมเล็กๆเพียงแห่งเดียวสำหรับนักเดินทางและขบวนรถม้าที่ต้องผ่านเทือกเขาแห่งซึ่งเป็นพื้นที่ที่อันตรายและโจรชุกชุม จนปัจจุบันผู้สืบทอดได้เปิดเป็นร้านอาหารที่คงความดั้งเดิมไว้แทบทุกกระเบียดนิ้ว พอเข้าไปในตัวบ้านจึงรู้สึกเหมือนภาพหนังฝรั่งในทีวีสีขาวดำมาปรากฏอยู่ตรงหน้า ทุกอย่างมันดูเก่า โบราณ แต่มีเสน่ห์ เหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนยุคกลับไปอยู่บ้านฝรั่งเมื่อร้อยกว่าปีก่อนยังไงอย่างงั้นเลย ไม่ได้เว่อร์นะจ๊ะแต่มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
ดังนั้น Cold spring lavern จึงเป็นร้านอาหารเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงจนมีทีวีหลายช่องมาถ่ายทำรายการรวมถึงดาราชื่อดังหลายคนก็แวะเวียนมาที่ร้านนี้เช่นกัน สรุปบรรยากาศดี อาหารอร่อย พนักงานก็เป็นกันเองเหมือนไปกินข้าวบ้านเพื่อน 5 ดาวไปเลยละกันจ้า
อิ่มท้องแล้วก็เดินทางต่อจุดหมายถัดไปคือไปขึ้นศาล ไม่ได้ไปมีเรื่องราวกะใคร แต่ที่ศาลแห่งนี้มีเรื่องราวที่เข้าชมฟรีแบบไม่เสียเงิน ดีจังตังค์อยู่ครบ “Santa Barbara Courthouse” เป็นอีกหนึ่ง Landmark ของเมืองนี้ที่ต้องมา ด้วยสถาปัตยกรรมแบบสเปนที่สวยงามของอาคารหลังนี้ที่เป็นจุดเด่น ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชม
ภายในอาคารก็จะมีห้องว่าความต่างๆ ซึ่งบางห้องก็จะเปิดให้เข้าชมและถ่ายรูปได้ แต่งดใช้แฟลช หรือจะขึ้นลิฟต์ไปบนยอดหอนาฬิกา ชมวิวทั้ง 4 ทิศของเมืองนี้ได้แบบสุดลูกหูลูกตาอีกด้วยเช่นกัน
ส่วนทะเลที่นี่อากาศก็กำลังสบายๆ จึงมีผู้คนออกมาทำกิจกรรมริมหาดกันมากมาย บางคนก็มาขี่จักรยาน เล่นบอล อาบแดด และชายหาดของที่นี่ถือว่าขาวสะอาดและสวยงาม แต่ถึงยังไงก็ยังสวยสู้ทะเลภาคใต้อย่างสิมิลัน และหมู่เกาะสุรินทร์ บ้านเราไม่ได้อยู่ดี
และก็ช้อปปิ้งด้วยสายตาแบบต้องอดใจไว้ให้ได้ ที่ State Street กันต่อ ถนนสายนี้จะเป็นศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งของแบรนด์เนมและห้างชื่อดัง ใครที่เป็นขาช้อปพลาดไม่ได้จ้า ส่วนพวกเรามาเดินเล่นชิวๆ จิบกาแฟ ถ่ายรูปเล่น แค่นี้ก็ทำให้ชีวิตดี้ดี มีสีสันไปอีกวันละ
อาคารบ้านเรือนที่นี่ก็อาจจะดูแปลกไปกว่าที่อื่น ๆ เพราะเขาเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Spanish Colonial Style ออกแนวสเปนที่ดูสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ ส่วนวันที่พวกเรามาเที่ยวนี่ ยังมีไฟป่าลุกลามอยู่หลายพื้นที่ทำให้เมืองอาจจะดูเงียบเหงาไปซักนิด ท้องฟ้าสีสันเปลี่ยนไปดูหงอยเหงา สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งต้องปิดเพราะผลกระทบจากไฟป่า แต่ถึงอย่างไรโลกภายนอกก็ยังมีความงดงามอยู่เสมอ
ชื่อสินค้า:
Santa Barbara USA.
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
รีวิว เที่ยวราชบุรี แค่ครึ่งวันเช้า
พาผู้สูงวัยไปเที่ยวราชบุรี แค่ครึ่งวันเช้ากันค่ะ ที่แรก ปักหมุดไปที่เถ้าฮงไถ่ โรงงานเซรามิค ที่นี่ร่มรื่นมาก มีเซรามิคสีสันสดใสตั้งโชว์ไว้เยอะมาก มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะ ไปถึงเช้ามาก จอดรถคันแรกเลย และ
จินดาหรา
ที่ๆ เดิมแต่ไม่เคยเหมือนเดิม : Along the Pacific Coast, California (Highway 1, Solvang, Santa Barbara)
สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าเล็กน้อยครับ ช่วงนี้แปรปรวนทั้งสภาพอากาศและอารมณ์ อาจเป็นปกติของคนที่อยู่ต่างบ้านต่างเมืองโดยเฉพาะในฤดูหนาว (ตอนนี้อยู่อเมริกา) เพราะสภาพที่มืดเร็ว อากาศที่หนาวเย็น (ยังโชคดีมากกว
SD and Family
== Anora (2024) รักแท้.. ในคืนหลอกหลวง.. ==
อโนร่า สาวสวยขายบริการในบาร์แห่งหนึ่ง นอกจากจะเต้นแล้วเธอยังรับงานทุกอย่างในสายเอ็นฯ อย่างเต็มที่ แต่ละวันเธอพบกับลูกค้ามากหน้าหลายตาไม่เคยซ้ำ พอถึงรุ่งเช้ากลับบ้านที่แชร์อยู
lunar_b
🌊 Amora Beach Resort Phuket : อโมร่า บีช รีสอร์ท - หาดบางเทา ภูเก็ต 🏖️
Amora Beach Resort Phuket เป็นรีสอร์ทของคนไทย ที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 1999 และเพิ่ง renovate ใหม่แบบ Extreme Makeover เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมานี้เองครับความดีงามของที่นี่ คือ เป็นรีสอร์ทที่มีเนื้อท
fatREVIEW
10 ที่เที่ยวทั่วโลก ที่ต้องไปก่อนถ้าไม่อยากเสียดาย
1.หมู่เกาะกาลาปากอส (Galapagos Islands)ประเทศเอกวาดอร์ หมู่เกาะที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก มีความอุดมสมบูรณ์มาก และยังมีสัตว์ ท ้ องถิ่นแปลกๆ 2. แนวปะการังเกรท แบริเออร์ รีฟ (Great Barrier Reef)ประ
สมาชิกหมายเลข 8930880
ขับรถพาลูกเที่ยวอเมริกา 23 วัน ภาค 2 Santa Barbara, California
คราวนี้เราจะเริ่ม ขับรถเที่ยวไปทีละเมือง แบบระยะทางไม่ไกลมาก ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ ตามข้อมูลคือ ซานตาบาร์บาร่า(Santa Barbara) เมืองริมชายหาดแสนสวยแห่งนี้พรั่งพร้อมไปด้วยชายหาดสีทอง ความระยิบระยับของม
ชอบกินไข่ตุ๋น
เมื่อได้ไปอิตาลีครั้งแรก 8 วัน Part 4 : Florence
เรามาถึง Florence ช่วงค่ำๆ เข้าพักที่โรงแรม Medici ครับ โรงแรมนี้ชั้นบนจะมีร้านอาหารที่ Top Roof ช่วงเช้าอากาศดีๆ สามารถขึ้นมานั่งชมความสวยงามของมหาวิหาร florence ครับ เช้าวันรุ่งขึ้นเรามีเวลาเที่ยวที
สมาชิกหมายเลข 781592
เที่ยว Daegu อีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจ ที่คนไทยยังรไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่
หลังจากที่เคยมาเยือนเมื่อหลายปีที่แล้ว ตั้งแต่ก่อนโควิด ครั้งนั้นเรามาตามหาดอกพตกดกัน ตอนนั้นไม่ได้พักในเมืองขนาดนี้ แต่ครั้งนี้เราพักในดาวน์ทาวน์แดกูค่ะ บอกเล่ากันก่อนว่า แดกูเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4
Orangeyui
เมื่อได้ไปอิตาลีครั้งแรก 8 วัน Part 6 : Venice 1 วัน และ Bergamo 1/2 วัน
สวัสดีครับ เราออกจากสถานีที่เมือง Florence มาถึง Venice Mestre กันเมื่อคืน พักกันที่ A&O hostel mestre เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเรานั่งรถประจำทางที่หน้า Hostel เข้าไปเที่ยวยังเกาะ Venice โดยรถประจำทางจะม
สมาชิกหมายเลข 781592
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
One Day Trip
เที่ยวต่างประเทศ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 19
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] ซานตาบาร์บาร่า "The American Reviera"
แต่ถึงจะเป็นครั้งที่ 4 แต่ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแอบซ่อนให้เราไปค้นพบอีกจนได้ ระหว่างทางที่จะไปหาอร่อยๆ กินนั้นก็บังเอิญเจอ สะพานโค้งที่ดูยิ่งใหญ่ตระการตาตัดพาดผ่านระหว่างเขาดูเก่าแก่และโบราณจนต้องจอดแวะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระทึก สะพานแห่งนี้มีชื่อว่า Cold Spring Canyon Arch Bridge เป็นสะพานเหล็กทรงโค้งที่ยาวที่สุดในอเมริกา และเป็นสัญลักษณ์ของทางหลวง 154 ที่ออกแบบให้คล้ายเป็นซุ้มประตูเพื่อเป็นทางเชื่อมระหว่างเทือกเขา Santa Ynez สู่เมือง Santa Barbara
ชื่นชมกับสะพานอันยิ่งใหญ่ไปแล้ว ก็ใจตุ้มๆ ต่อมๆ กันต่อว่าจะหลงกันหรือป่าว ก็ค่อยๆ ขับตาม Google Map ที่ดูเหมือนจะลึกลงเขาไปเรื่อยๆ บ้านช่อง ก็ไม่มีให้เห็นซักหลัง ก็ได้แต่บ่นกันในหมู่พวกเราว่า "ร้านบ้าอะไรจะซ่อนตัวอยู่ในที่เปลี่ยวและลึกแบบนี้" และก็ต้องหุบปากทันที เมื่อเจอบ้านไม้คล้ายกระท่อมโบราณเหมือนในหนังฝรั่งย้อนยุคกลับไปเมื่อร้อยกว่าปีตั้งเด่นขวางอยู่เบื้องหน้า ไชโย !!!! ไม่หลงแล้ว
จากข้อมูลที่ได้จากอากู๋ อ่านแบบแปลออกมั่งไม่ออกมั่ง มั่วเอาแบบพอได้ใจความว่า ร้านนี้ในอดีตเป็นเหมือนโรงเตี้ยมเล็กๆเพียงแห่งเดียวสำหรับนักเดินทางและขบวนรถม้าที่ต้องผ่านเทือกเขาแห่งซึ่งเป็นพื้นที่ที่อันตรายและโจรชุกชุม จนปัจจุบันผู้สืบทอดได้เปิดเป็นร้านอาหารที่คงความดั้งเดิมไว้แทบทุกกระเบียดนิ้ว พอเข้าไปในตัวบ้านจึงรู้สึกเหมือนภาพหนังฝรั่งในทีวีสีขาวดำมาปรากฏอยู่ตรงหน้า ทุกอย่างมันดูเก่า โบราณ แต่มีเสน่ห์ เหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนยุคกลับไปอยู่บ้านฝรั่งเมื่อร้อยกว่าปีก่อนยังไงอย่างงั้นเลย ไม่ได้เว่อร์นะจ๊ะแต่มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
ดังนั้น Cold spring lavern จึงเป็นร้านอาหารเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงจนมีทีวีหลายช่องมาถ่ายทำรายการรวมถึงดาราชื่อดังหลายคนก็แวะเวียนมาที่ร้านนี้เช่นกัน สรุปบรรยากาศดี อาหารอร่อย พนักงานก็เป็นกันเองเหมือนไปกินข้าวบ้านเพื่อน 5 ดาวไปเลยละกันจ้า
อิ่มท้องแล้วก็เดินทางต่อจุดหมายถัดไปคือไปขึ้นศาล ไม่ได้ไปมีเรื่องราวกะใคร แต่ที่ศาลแห่งนี้มีเรื่องราวที่เข้าชมฟรีแบบไม่เสียเงิน ดีจังตังค์อยู่ครบ “Santa Barbara Courthouse” เป็นอีกหนึ่ง Landmark ของเมืองนี้ที่ต้องมา ด้วยสถาปัตยกรรมแบบสเปนที่สวยงามของอาคารหลังนี้ที่เป็นจุดเด่น ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชม
ภายในอาคารก็จะมีห้องว่าความต่างๆ ซึ่งบางห้องก็จะเปิดให้เข้าชมและถ่ายรูปได้ แต่งดใช้แฟลช หรือจะขึ้นลิฟต์ไปบนยอดหอนาฬิกา ชมวิวทั้ง 4 ทิศของเมืองนี้ได้แบบสุดลูกหูลูกตาอีกด้วยเช่นกัน
ส่วนทะเลที่นี่อากาศก็กำลังสบายๆ จึงมีผู้คนออกมาทำกิจกรรมริมหาดกันมากมาย บางคนก็มาขี่จักรยาน เล่นบอล อาบแดด และชายหาดของที่นี่ถือว่าขาวสะอาดและสวยงาม แต่ถึงยังไงก็ยังสวยสู้ทะเลภาคใต้อย่างสิมิลัน และหมู่เกาะสุรินทร์ บ้านเราไม่ได้อยู่ดี
และก็ช้อปปิ้งด้วยสายตาแบบต้องอดใจไว้ให้ได้ ที่ State Street กันต่อ ถนนสายนี้จะเป็นศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งของแบรนด์เนมและห้างชื่อดัง ใครที่เป็นขาช้อปพลาดไม่ได้จ้า ส่วนพวกเรามาเดินเล่นชิวๆ จิบกาแฟ ถ่ายรูปเล่น แค่นี้ก็ทำให้ชีวิตดี้ดี มีสีสันไปอีกวันละ
อาคารบ้านเรือนที่นี่ก็อาจจะดูแปลกไปกว่าที่อื่น ๆ เพราะเขาเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Spanish Colonial Style ออกแนวสเปนที่ดูสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ ส่วนวันที่พวกเรามาเที่ยวนี่ ยังมีไฟป่าลุกลามอยู่หลายพื้นที่ทำให้เมืองอาจจะดูเงียบเหงาไปซักนิด ท้องฟ้าสีสันเปลี่ยนไปดูหงอยเหงา สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งต้องปิดเพราะผลกระทบจากไฟป่า แต่ถึงอย่างไรโลกภายนอกก็ยังมีความงดงามอยู่เสมอ