สวัสดีค่าชาวพันทิปทุกคน นี่เป็นกระทู้รีวิวแรกของเราค่ะ พอดีโพสในเฟซบุ๊กไปว่าเดินทางกับ Thai Vietjet ครั้งแรกก็มีหลายคนทักเข้ามาถามว่าเป็นยังไงบ้าง ดีไหม ราคาเท่าไร ที่นั่งเป็นยังไง รีวิวให้ฟังหน่อย เลยจะขอรวบรวมข้อมูลมารีวิวที่นี่ละกันนะคะ ถ่ายรูปมาไม่ครบเท่าไร ต้องขออภัยด้วย เพราะไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะมาตั้งกระทู้รีวิวเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้


เราเป็นคนเดินทางบ่อยค่ะ เวลาสายการบินไหนมาเปิดรูทใหม่ก็จะตื่นเต้นมากๆและมีความรู้สึกอยากลองของใหม่ๆทุกครั้ง พอเห็น Thai Vietjet Air มีโปรโมชั่นเชียงใหม่-กรุงเทพฯพอดี ก็ไม่รอช้าค่ะ กดจองไปเลย สำหรับรูทของเจ้านี้ไปลงสุวรรณภูมินะคะ ย้ำ! สุวรรณภูมิ ไม่ใช่ดอนเมืองเหมือนเจ้าอื่นนะคะ เดี๋ยวจะหลงกันไป สำหรับตั๋วโดยสาร เราได้ราคาถูกมากค่ะ คงเป็นเพราะวันพุธด้วย ไม่ค่อยมีใครเดินทาง เลยมีราคาดีๆหลงเหลืออยู่ ขาไปของเราถูกมากกก แบบสงสารรถทัวร์เลย รวมภาษีแล้ว 364.2 บาท ส่วนขากลับ 747.05 บาท ไป-กลับก็ราคา 1,111.25 บาท รวมค่าธรรมเนียมตัดบัตรเครดิตอีก 164.78 บาท เป็น 1,273.03 บาทค่ะ เฉลี่ยเที่ยวละประมาณ 637 บาทเองค่ะคุณ


ไฟลท์มีนิดเดียวเองเพราะเพิ่งเปิดใหม่ ไปกรุงเทพฯตอนเช้าก็ต้อง 08.00 น. เลย ไม่งั้นมีอีกไฟลท์คือดึกเลยค่ะ 21.20 น. ส่วนขากลับมาเชียงใหม่ก็มีไฟลท์เย็นไฟลท์เดียวค่ะ 19.10 น. เพราะอีกไฟลท์คือตอนเช้าเลย 06.10 น. เช้ามากกก แบบเช้าได้อีกกก เฮ่ลโล๊ววว



ขั้นตอนการจองในเว็บก็ง่ายๆเลยค่ะ เหมือนสายการบินทั่วๆไป แต่เรื่องการจ่ายเงินต้องอาศัยบัตรเครดิตค่ะ สำหรับสายการบินนี้เป็นแบบ Low Cost ดังนั้นถ้าอยากเลือกที่นั่ง โหลดกระเป๋า ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม รวมไปถึงอาหารบนเครื่องบินด้วย เรารวมค่าใช้จ่ายมาให้ดูแล้วตามนี้เลยค่ะ

- น้ำหนักกระเป๋าถ้าจองในหน้าเว็บก็จะถูกกว่าที่เคาท์เตอร์ค่ะ ราคาจะมีดังนี้
15 กก. = 153.85 บาท
20 กก. = 200 บาท
25 กก. = 307.69 บาท
30 กก. = 461.54 บาท
35 กก. = 661.54 บาท
40 กก. = 923.08 บาท

- สำหรับใครที่อยากเลือกที่นั่งนะคะ เวลาจองในหน้าเว็บก็ต้องจ่ายเพิ่มสำหรับที่นั่งธรรมดา 46.15 บาท ส่วนที่นั่งพรีเมียม (พวกแถวหน้าหรือทางออก) ก็ต้องจ่ายเพิ่ม 123.07 บาทต่อที่นั่งค่ะ แต่ถ้าอยากประหยัดก็ไม่ต้องเลือก ไปวัดดวงเอาหน้าเคาท์เตอร์สนุกๆกัน

- ส่วนใครที่อยากสั่งอาหาร ให้จองในหน้าเว็บเพราะราคาจะถูกกว่าซื้อบนเครื่องค่ะ ราคาเมนูละ 120 บาท ถ้าซื้อเป็นเซ็ทรวมกับเครื่องดื่มก็ 150 บาทค่ะ (บนเครื่อง 140 กับ 180 ตามลำดับค่ะ)

ส่วนเราเวลาบินคนเดียวไม่อะไรมาก ก็เลือกที่จะไม่ add อะไรเพิ่ม เพราะไป-กลับแป๊บเดียว เน้นความประหยัดดีกว่า  และสำหรับกระเป๋าที่จะถือขึ้นเครื่องก็ได้จะ Tag ติดกระเป๋ามาแบบนี้ ดังนั้นเวลาพนักงานถามว่ามีกระเป๋าถือขึ้นเครื่องหรือเปล่า ก็ต้องแจ้งนะคะ


ในส่วนของรูทเชียงใหม่-กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เพิ่งเริ่มบินเมื่อวันจันทร์นี้ (26/09/59) ส่วนวันที่เราบินเป็นวันพุธค่ะ (28/09/59) เลยสัมผัสได้ถึงความใหม่ความเฟรชของสายการบินนี้ และสัมผัสได้ว่าผู้โดยสารท่านอื่นๆก็ตื่นเต้นที่จะได้ลองใช้สายการบินนี้ไม่แพ้กับเรา (จากที่ได้คุยกับผู้โดยสารที่นั่งๆข้างๆเราขากลับ พี่เค้าก็บอกเหมือนกันค่ะว่าตื่นเต้นมาก และดีใจที่ได้ตั๋วถูกมาก แต่ที่ไหนได้...แพงกว่าเราแฮะ 555)

อ้อ...ลืมบอกค่ะ ตอนที่เราไปยังทำเว็บเช็คอินไม่ได้นะคะ เลยต้องเผื่อเวลาเพื่อมาเช็คอินที่สนามบิน แอบเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปเคาท์เตอร์เช็คอินมาฝากค่ะ เคาท์เตอร์เช็คอินที่เชียงใหม่ก็จะอยู่ทางด้านซ้ายมือในฝั่ง Domestic ที่เคาท์เตอร์จะมีจอขึ้น Vietjetair สีแดง-เหลือง มองเห็นชัดมากๆ และนี่เป็นบัตรโดยสารค่ะ ออกโดย BAGS เพราะ BAGS ทำ Ground Handling ให้ เดี๋ยวขากลับก็จะเห็นบัตรโดยสารอีกแบบหนึ่งค่ะ ส่วนในอนาคตอาจจะมีบัตรของ Thai Vietjet Air จริง เพราะตอนนี้คงใหม่อยู่


เช็คอินเสร็จแล้วก็ไปนั่งรอที่เกทกันค่ะ ไม่นานก็ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว ลุยยยย...


น้อง Thai Vietjet Air มารอแล้วค่ะ ตรงเวลามาก ผู้โดยสารอย่างเราก็แฮปปี้สิคะ วันนี้ฟ้าใสเป็นใจให้เดินทางจริงๆ


และนี่ก็คือ...ห้องโดยสารค่ะคุณ ที่นั่งบนเครื่องก็จะเรียง ABC-DEF แบบปกติ (ขออนุญาตนำรูปไฟลท์ขากลับมาให้ดูนะคะ เพราะขามาเราหลับค่ะ ไม่ได้ถ่ายไว้ ไฟลท์มันเช้า เราต้านทานไม่ไหว 555)


สำหรับที่นั่งนะคะ ผู้หญิงอย่างเรา (สูงประมาณ 160 ซม.) ไม่มีปัญหาค่ะ นั่งสบายเข่าไม่ติด แต่ถ้าเป็นคุณผู้ชายสูงๆก็อาจจะเข่าชนได้ ไม่แน่ใจว่าระยะห่างของที่นั่งเท่าน้องหางแดงหรือว่าน้องสิงโตเลยไม่กล้าคอนเฟิร์มค่ะ

มาดูหน้าที่นั่งกันบ้างว่ามีอะไรเสียบไว้ ก็เหมือนสายการบินอื่นๆค่ะ มีข้อควรปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย ถุงสำหรับใส่อาเจียน เมนูอาหาร แล้วก็นิตยสารบนเครื่อง สีสันสดใสน่าอ่าน มีภาษาอังกฤษกับภาษาไทยค่ะ


ส่วนด้านล่างนี่คือนิตยสาร ตู้หูวววว มาเป็นภาษาเวียดนามค่ะ ลูกเสี้ยวเวียดนามอย่างเราก็ยังอ่านไม่ออก 555


มาดูเมนูอาหารกันบ้างค่ะ ราคาเท่ากันหมด 140 บาท ครั้งนี้ไม่ได้ลองสักเมนูเลยค่ะ เพราะทานมาแล้ว แต่ครั้งหน้าว่าจะลองสั่งดูค่ะ แอบเล็งๆอยู่บางเมนูเหมือนกัน ในหน้านี้มีสปาเกตตี้ซอสไก่ ข้าวผัดกระเพรา แกงมัสมั่นไก่ แกงเผ็ดไก่


ส่วนหน้านี้มีขาหมูพะโล้เห็ดหอม แกงเขียวหวานไก่ ต้มข่าไก่ ต้มยำไก่ จขกท.แอบสนใจขาหมูพะโล้เห็ดหอมค่ะ


หมูตุ๋นฮ่องกง (อันนี้ก็น่าโดนมากๆ) แกงกะหรี่หมูญี่ปุ่น แกงเขียวหวานหมูคุโรบุตะ ส่วนที่เป็นเซ็ตราคา 180 บาท เลือกเมนูได้ 1 เมนู กับเครื่องดื่ม 1 อย่าง คือ น้ำเปล่า น้ำอัดลม หรือน้ำผลไม้ค่ะ จะประหยัดกว่าซื้อแยกเครื่องดื่ม ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็มีขายนะคะ ถ้วยละ 60 บาท


จะซื้อน้ำแยกก็ได้ค่ะ ของที่ระลึกก็มี


หมดแล้วค่ะเมนูบนเครื่อง เราหลับไปสักพัก อ้าว! ล้อแตะพื้นแล้วค่ะ ไวมาก ปกติ STA จะเป็น 09.20 น. ค่ะแต่ความโปรของกัปตัน 08.55 ก็ถึงสุวรรณภูมิแล้ว เย่~

สรุป ไฟลท์มาเราประทับใจมากค่ะ เพราะไฟลท์สมูธ แถมแลนด์เร็วดี ถามว่ารู้สึกยังไงบ้าง ก็เหมือนนั่งสายการบิน Low Cost ทั่วไป มาตรฐานการบินดีค่ะ บินนุ่ม รู้สึกปลอดภัย แต่ด้วยความที่เพิ่งเปิดรูทบินใหม่ที่บ้านเรา เลยรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับเครื่องบินและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเป็นพิเศษค่ะ เราว่าลายเครื่องบินสวยดีนะคะ มี Amazing Thailand ด้วย ส่วนชุดพนักงานต้อนรับก็แปลกตาดีค่ะ



ส่วนไฟลท์กลับนั้น ดูเหมือนสุวรรณภูมิจะกว้าง แต่ก็หาเคาท์เตอร์เช็คอินไม่ยากค่ะ ไม่ต้องกังวล ตรงที่จอใหญ่ๆจะมีบอกว่าอยู่เคาท์เตอร์เช็คอินไหน ของเราไฟลท์ 19.10 เชียงใหม่ vz 102 อยู่แถว G ค่ะ ไปเช็คอินโลดดด


เดินตามหาแถว G กันค่ะ นี่...เจอแถว G แล้วค่ะ มองดูชื่อสายการบิน มี Vietjet Air ถูกต้องเลย


พอไปถึงก็ได้เช็คอินเลย แถวไม่ยาวค่ะ สงสัยเราไปเร็ว แล้วรูทบิน ไฟลท์บินก็ยังน้อยด้วย (อย่าลืมแจ้งกระเป๋าที่จะนำขึ้นเครื่องเพื่อติด Tag ด้วยนะคะทุกคนนน)


แล้วเราก็จะได้บัตรโดยสารมา หน้าตาเป็นแบบนี้ (ขออภัยที่โดนฉีกไปแล้วตอนไปที่เกทค่ะ) จากสุวรรณภูมิจะออกให้โดย BFS ค่ะ เพราะ BFS ทำ Ground Handling ให้


รอไม่นานก็ได้เวลาขึ้นเครื่องกลับแล้ว ไฟลท์นี้ถอยดีเลย์นิดนึงค่ะ ประมาณ 5-10 นาที แต่ก็ยังบริการดี บินดี รู้สึกปลอดภัยเหมือนเดิม ระหว่างทางฝนตกค่ะ เลยตกหลุมอากาศเล็กน้อย ผู้โดยสารขากลับน้อยกว่าขาไปด้วยค่ะ ไฟลท์นี้เลยสบายๆหน่อย


สรุป ขากลับก็ประทับใจค่ะแม้ว่าจะดีเลย์นิดนึง พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเคร่งดีค่ะ เดินตรวจความเรียบร้อยหลายครั้งทั้งขึ้นและลง

สรุปรวมๆ ทั้งขาไปและกลับโอเคเลยค่ะ อาจจะใหม่หน่อยเลยมีตะกุกตะกักบ้าง สังเกตได้จากตอนที่พนักงานต้อนรับประกาศบนเครื่องบินผิดไปผิดมา เพราะคงไม่คุ้นลิ้น แต่รวมๆแล้วการบินมีมาตรฐาน ไฟลท์ราบรื่น สะดวก แถมยังคุ้มค่า จนเรามีความรู้สึกว่าเดี๋ยวสักพักจะมีผู้โดยสารมาเลือกใช้บริการมากขึ้น จนสามารถแข่งกับสายการบิน Low cost เจ้าอื่นได้สบายเลยค่ะ

ปล.ประกาศบนเครื่องบินเป็นภาษาไทย-อังกฤษนะคะ เรานี่ตั้งใจไปฟังภาษาเวียดนามเต็มที่ แต่ไม่ได้ยินเลยนอกจากเพลงบนเครื่องที่เปิดแป๊บเดียวแถมเบาด้วย เลยรู้สึกว่า Thai Vietjet น่าจะเพิ่มความเป็นเวียดนามให้มากกว่านี้บนเครื่องเพื่อทำให้แตกต่างจาก Low Cost เจ้าอื่น เป็นกิมมิคเล็กๆแต่เด่นชัดขึ้นมาทำให้จำได้....เหมือนน้องสิงโตที่เปิดเพลงบนเครื่องประมาณนั้นค่ะ เพราะอย่างเราในฐานะผู้โดยสารเวลาขึ้นสายการบินใหม่ ก็อยากไปสัมผัสอะไรใหม่ๆที่ไม่เหมือนเจ้าอื่นใช่มะ ^^