กว่าจะเป็นข้าราชการครู กับความจริงอันโหดร้ายของครูจ้าง

กระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้ขอความคิดเห็น ไม่ต้องแสดงความคิดเห็นก็ได้ อ่านผ่านๆสนุกๆก็พอยิ้ม

ช่วงนี้กระทู้ข้าราชการครูเยอะ อาจจะเพราะเป็นช่วงประกาศผลสอบบรรจุ ข่าวสอบราชการอื่นๆ
ก็โดนข่าวบรรจุครูเต็มไปหมด ก็ดีใจสำหรับคนที่ได้บรรจุนะครับ ท่านได้ถึงฝั่งฝันแล้ว สำหรับคนที่
ขึ้นบัญชีก็รอลุ้น ปีนี้น่าจะเรียกเยอะ เพราะนโยบายเขากำหนดมาแบบนั้น ส่วนคนที่ยังสอบไม่ผ่านก็สู้ต่อไป

แน่นอนว่าเมื่อข่าวบรรจุครูมันเต็มพรึบยึดหัวหาดข่าวสอบราชการอื่นแบบนี้ มันย่อมดึงดูดใจบุคคลทั่วไป
และมันก็ดูได้จากกระทู้ที่มีมาตลอดที่ถามถึงวิธีการเป็นครู การสอบบรรจุ และอะไรต่อมิอะไรมากมายที่ถามกันมา
โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้จบครูแล้วอยากเป็นครู

การที่เราอยากเป็นข้าราชการครู อยากมีความมั่นคงในชีวิตมันไม่ผิดหรอกครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้เรียนครู
แต่ปัจจุบันก็รับราชการครูอยู่ ผมก็พยายามช่วยชี้แนะแนวทาง บอกหนทางที่จะพาคนเหล่านั้นถึงฝัน
เพราะผมเข้าใจความรู้สึกของพวกเขานะ หลายกระทู้ที่ผมตอบแบบหักดิบ ดูไร้น้ำใจ ถ้าคุณอ่านกระทู้นี้จบ
หวังว่าคุณจะเข้าใจผมมากขึ้น


มีหลายอย่างที่ผมไม่ได้บอกเพราะไม่มีใครถาม ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ถาม แต่คาดว่าเพราะเขาไม่อยากรู้
หรือบางทีเขาอาจไม่คิดที่จะรู้ บางทีเขาก็น่าจะรู้แต่คิดว่าตัวเองทนได้ คิดว่ามันไม่เท่าไหร่หรอกชั้นทนได้จึงไม่ถามออกมา
หรือบางทีเพราะเขาไม่รู้จริงๆก็ได้ นั่นแหละสิ่งที่กระตุ้นให้ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา


มันคือ "ความจริงอันโหดร้ายของครูจ้าง"
ครูจ้างในที่นี้หมายถึงครูทุกประเภทที่ไม่ใช่ข้าราชการครู ไม่ว่าคุณจะมีใบประกอบวิชาชีพหรือไม่
จบเกรดสูงแค่ไหน สถาบันสูงส่งปานใด ตราบใดที่คุณเป็นครูจ้างมันก็ไม่มีอนาคตทั้งนั้นแหละ
ผมขอแยกประเภทครูจ้างดังนี้นะครับ ไล่จากดูดีสุด จนถึงบัดซบที่สุด

๑ พนักงานราชการครู
พนักงานราชการจะสตาร์ทเงินเดือนสูงกว่าข้าราชการ เพราะสตาร์ทที่ 18,000 ขณะที่ข้าราชการครูสตาร์ทที่ 15,050-15,800
มีเงินเดือนขึ้นเหมือนข้าราชการ เพียงแต่ใช้สิทธิประกันสังคม ต่อสัญญาทุก 4 ปีไปเรื่อยๆ หลายๆคนที่เป็นพนักงานราชการเงินเดือน
ก็ 22,xxx กว่าแล้วทำไมยังไปสอบข้าราชการไปเริ่มเงินเดือน 15,xxx ใหม่ ทำไมเขาไม่เป็นพนักงานราชการไปเรื่อยๆ
มันก็เพราะเหตุผลง่ายๆ ถ้าไม่ใช่ข้าราชการมันไม่มีอะไรมั่นคงหรอก ปัจจุบันคนไทยเกิดน้อยลง เด็กลดลงเรื่อยๆ ถนนหนทางดีขึ้น
เด็กมีทางเลือกที่จะเข้าโรงเรียนดีๆ ทำให้โรงเรียนหลายแห่งเด็กลดลงเรื่อยๆ ขณะที่ไม่กี่แห่งเด็กเพิ่มขึ้น ถ้าคุณเป็นพนักงานราชการ
ของโรงเรียนใหญ่ก็ดีไป แต่ถ้าเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีโอกาสสูงที่คุณจะอยู่ไม่ถึง 60 ปี และตอนนี้มันก็เริ่มแสดงผลแล้ว
เพื่อนครูที่เป็นพนักงานราชการก็เริ่มโดนกดดันจากเขตแล้ว สำหรับเขตผมก็มีการเรียกประชุมพนักงานราชการ ครูจ้าง ไปชี้แจง
นโยบายกันแล้ว อนาคตจะเป็นอย่างไร เทอมหน้าจะได้สอนไหม ตอนนี้ยังลูกผีลูกคน

๒ ครูจ้างโรงเรียนรัฐ
ก็เหมือนพนักงานจ้างตรงที่เป็นครูเหมือนกัน แต่ต่างกันชนิดหน้ามือกับส้น... ครูจ้างจะมีสัญญาปีต่อปี ไม่มีเงินเดือนขึ้น
บางโรงเรียนดีหน่อยได้จ้าง 15,000 แต่บางโรงเรียนงบน้อยต่ำกว่าหมื่นกันก็เยอะแยะ ไม่มีอนาคตสำหรับครูจ้าง บางโรงเรียน
ก็โหดร้าย หักหัวคิว ขู่เข็ญสารพัด ที่โหดสุดที่เคยได้ยินคือต้องจ่ายค่าต่อสัญญาปีละหมื่นให้ ผอ.(ปัจจุบัน ผอ.คนนี้โดนสอบวินัยแล้ว)
ผมเองก็เคยเป็นครูจ้างอาชีวะมาก่อน เข้าใจความรู้สึกดีเพราะเพื่อนครูจ้างไปผิดใจกับหัวหน้าแผนกเลยโดนไม่ต่อสัญญาซะอย่างนั้น
มีดีอย่างเดียวคือได้สอบภายในนี่แหละ อย่างอื่นบัดซบหมด

๓ ครูจ้างเอกชน
เห็นหลายคนวางแผนกัน จะไปเป็นครูจ้างเอกชนเพื่อเรียน ป.บัณฑิต โอวววว โนววววววว ผมไม่รู้ว่าใครแนะนำความคิดนี้นะ
แต่เชื่อผมเถอะ โรงเรียนเอกชนเขาไม่โง่ที่จะเป็นทางผ่านให้คุณ คุณรู้มั๋ยว่าคุณต้องเจออะไรในโรงเรียนเอกชน ผมไม่ขอพูดถึงโรงเรียนดีๆ
มีมาตรฐานหรอกนะ เพราะมันมีไม่ถึง 10% ขอพูดถึงโรงเรียนเอกชนทั่วๆไปแล้วกัน อันดับแรกเลย เขาใช้งานคุณคุ้มมากกกกกกก
หลายคนร้องไห้หลังจากที่ทำงานไม่ถึงเดือน หลายคนทนได้เป็นปี ถ้าคุณคิดจะหวังเรียน ป.บัณฑิตล่ะก็คุณต้องทนอย่างน้อย 3 ปี
ถึงจะได้ใบประกอบวิชาชีพ อันดับสองคือเงินเดือนอันน้อยนิด สัญญาสวยหรูว่าเงินเดือนหมื่นอัพ แต่รับจริงอาจไม่ถึงเก้าพัน เคยเจอมั๋ย
ครูจ้างเงินเดือน 7,200 นี่ไม่ได้ล้อเล่น เพราะเคยทำมาแล้ว ใครที่ได้เกินหมื่นก็ดีใจด้วยครับ อันดับสามคือใครแอบไปสอบบรรจุไล่ออก
ไม่ใช่แค่ขู่นะนั่น เขาพูดกันตรงๆเลย บางโรงเรียนยึดใบประกอบวิชาชีพตัวจริงไว้ด้วยซ้ำ หลายคนใช้วิธีแจ้งหายแล้วไปขอใหม่กับคุรุสภา
บางโรงเรียนก็ใจดีให้ไปสอบบรรจุ แต่ถ้าได้ขึ้นบัญชีก็โดนไล่ออกเลย เพราะเขาต้องหาครูมาแทน อันนี้ก็ต้องเข้าใจโรงเรียนเอกชนด้วย

๔ บุคลากรอื่น เช่น ครูธุรการ ครูพี่เลี้ยง ผดด.
ถ้าคุณคิดว่าสามอย่างข้างต้นบัดซบแล้วล่ะก็ อันดับสี่นี้คูณสามไปเลย เพราะคุรุสภาจะมองว่าคุณไม่ใช่ครู
เป็นแค่บุคลากรทางการศึกษาเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์เรียน ป.บัณฑิตเพื่อขอใบประกอบวิชาชีพ สถานะคุณไม่ต่างจากภารโรง
เพียงแต่ดูดีกว่าเท่านั้นเองไร้ซึ่งอนาคต ถึงแม้ว่า ผดด. เขาจะมีบรรจุก็เถอะ แต่มันเป็นการบรรจุภายในซึ่งคุณต้องใช้
เงินและเงิ๊นเงินเท่านั้นที่จะทำให้ถึงฝั่ง ถูกสุดที่เคยได้ยินคือสามแสนแต่เฉลี่ยที่ได้ยินคือห้า-เจ็ดแสน ถามว่าแพงขนาดนั้น
ยังมีคนเอาเหรอ คำตอบคือมีครับ แถมแย่งกันด้วย



ความโหดร้ายมันยังไม่จบเท่านี้หรอกนะ คุณรู้มั๋ยแต่ละปีมีคนจบครูเท่าไหร่ และเปิดสอบบรรจุเท่าไหร่
และที่สำคัญกว่านั้น คุณรู้มั๋ยว่าแต่ละปีสอบผ่านกันกี่คน ตีตัวเลขกลมๆให้เลย ปริมาณคนสอบผ่านได้ขึ้นบัญชีแต่ละปีไม่ถึง 5%
นี่ยังไม่นับสอบผ่านแล้วแต่เรียกไม่ถึงอีกก็หลายวิชาเอก ก่อนที่จะฝันหวานว่าชั้นจะเรียน ป.บัณฑิต เพื่อเอาใบประกอบวิชาชีพ
โปรดรู้ด้วยว่ามีครูจ้างหลายคนที่เขาสอบมาเป็นสิบปีแล้วก็ไม่ได้บรรจุซักที ไม่ใช่สอบไม่ผ่านนะ สอบผ่านแต่เรียกไม่ถึงนี่แหละ
การที่คุณได้ใบประกอบวิชาชีพครูนั้น มันไม่ได้การันตีว่าคุณจะสอบบรรจุผ่าน หรือสอบผ่านแล้วจะได้เรียกบรรจุ



เวลาผ่านไปทุกปี บัดนี้เจ้ายังเป็นครูจ้างอยู่ มันไม่สนุกหรอก
ที่เล่าให้ฟังถือว่าเป็นนิทานก่อนนอน ไม่ต้องถามถึงข้อมูล ถือซะว่าเล่าสู่กันฟังอย่าจริงจังมาก
สำหรับคนที่ไม่ได้จบครูแล้วอยากเป็นครู คุณควรรู้ไว้ว่ากว่าจะมาเป็นครูมันไม่ได้ง่ายดายและสวยงามเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่