ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าที่เอามาโพสเนี่ย เป็นเพราะโดนคนอื่นถากถางมาว่า "ประหยัดเกินไปแล้ว" "เก็บเงินไว้เยอะๆเดี๋ยวก็โดนปลวกกินหรอก" มันเลยเป็นแรงพลักให้ผมต้องการแสดงให้พวกเขาดูว่าสิ่งที่พวกเขาดูถูกผมนั้นมันมีค่ามหาศาลแค่ไหน
มาเริ่มกันที่ข้อมูลก่อนนะครับ สมมุติว่าเรามีข้อมูลดังนี้
ส่วนของค่าใช้จ่าย
รายจ่าย 12,000 บาท/เดือน
อัตราเงินเฟ้อ 3.5 % ต่อปี
ค่าประกันสังคม 9,000 บาทต่อปี
รายรับ
รายรับ 20,000 บาท/เดือน
โบนัส 1 เดือนต่อปี
อัตราการขึ้นเงินเดือนต่อปี 5 %
ขอยังไม่คิดภาษีนะครับ เพราะปัจจุบันยังไม่เสีย เลยยังไม่ได้ศึกษาอะไรเยอะ ถ้าเสียภาษีด้วยก็อาจจะเหลือน้อยกว่านี้หน่อย
เมื่อคำนวนออกมาแล้ว
สิ้นปีที่ 10 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 1,415,958.22 บาท
สิ้นปีที่ 20 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 4,186,497.29 บาท
สิ้นปีที่ 30 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 9,294,409.53 บาท
ที่คำนวนไปนั้นยังไม่รวมผลกำไรจากการลงทุนเพิ่ม อื่นๆนะครับ
แล้วถ้าลงทุนเพิ่มละจะเป็นยังไง
สมมุติว่าเอาเงินบางส่วนไปฝากประจำเพิ่ม
โดยฝากเป็นระยะเวลา 2 ปี เมื่อครบ 2 ปี ก็เริ่มฝากใหม่ ทำซ้ำไปเรื่อยๆ
ออมเดือนละ 3,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย 2 %ต่อปี
สิ้นปีที่ 10 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 1,426,158.22 บาท
สิ้นปีที่ 20 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 4,203,897.29 บาท
สิ้นปีที่ 30 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 9,319,009.53 บาท
เพิ่มขึ้นพอสมควรเลยนะครับ
แล้วถ้าลงทุนเพิ่มในแหล่งที่เสี่ยงเพิ่มขึ้นหละ จะเป็นยังไง
จากที่ลองหาข้อมูลดูการลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาวแบบ Index Fund ย้อนหลัง 10 ปี
จะให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีไม่ต่ำกว่า 10 % เราคิดที่ค่าต่ำสุดเนี่ยแหละ
ออมในกองทุนหุ้นแบบไม่ถอนออก แบบไม่จับจังหวะ เดือนละ 5,000 บาท
สิ้นปีที่ 10 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 1,700,926.84 บาท
สิ้นปีที่ 20 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 6,133,442.72 บาท
สิ้นปีที่ 30 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 16,496,865.31 บาท
และถ้าตอนสิ้นปีที่ 30 ผมเกษียณอายุพอดี และผมถอนกำไรจากการลงทุนในกองทุนหุ้นมาใช้ โดยไม่ฝากเพิ่มอีกแล้ว
ผมจะถอนออกมาได้ปีละ 891,785.58 หรือคิดเป็นเงิน 74,315.47 ต่อเดือน (ยังไม่ได้คิดภาษีจากกำไร)
เป็นไงบ้างครับ น่าจะมองเห็นพลังแห่งการอดออมบ้างแล้วใช่มั้ยครับ ถ้าคุณเป็นคนประเภทเดียวกับผม และเจอพวกที่มีเท่าไหร่ก็ใช้หมดมาถากถาง ก็เอากระทู้นี้ให้เค้าดูเลยครับว่า หัวเราะทีหลังดังกว่าอยู่แล้ว
ปล.การคำนวนบางส่วนอาจไม่ได้เอาการคิดภาษีมาคิดด้วย ตัวเลขก็อาจจะต่างจากสถานะการจริงไปบ้าง แต่เชื่อว่าไม่มากอยู่แล้ว
ปล2. ผมยังเป็นมือใหม่ในเรื่องการลงทุน หากท่านใดเชี่ยวชาญในด้านการลงทุน จะอนุเคราะห์ให้คำแนะนำเพิ่มผมก็จะขอบคุณมากเลยนะครับ
พลังแห่งเงินเก็บ พลังแห่งการอดออม พลังแห่งการลงทุน
มาเริ่มกันที่ข้อมูลก่อนนะครับ สมมุติว่าเรามีข้อมูลดังนี้
ส่วนของค่าใช้จ่าย
รายจ่าย 12,000 บาท/เดือน
อัตราเงินเฟ้อ 3.5 % ต่อปี
ค่าประกันสังคม 9,000 บาทต่อปี
รายรับ
รายรับ 20,000 บาท/เดือน
โบนัส 1 เดือนต่อปี
อัตราการขึ้นเงินเดือนต่อปี 5 %
ขอยังไม่คิดภาษีนะครับ เพราะปัจจุบันยังไม่เสีย เลยยังไม่ได้ศึกษาอะไรเยอะ ถ้าเสียภาษีด้วยก็อาจจะเหลือน้อยกว่านี้หน่อย
เมื่อคำนวนออกมาแล้ว
สิ้นปีที่ 10 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 1,415,958.22 บาท
สิ้นปีที่ 20 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 4,186,497.29 บาท
สิ้นปีที่ 30 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 9,294,409.53 บาท
ที่คำนวนไปนั้นยังไม่รวมผลกำไรจากการลงทุนเพิ่ม อื่นๆนะครับ
แล้วถ้าลงทุนเพิ่มละจะเป็นยังไง
สมมุติว่าเอาเงินบางส่วนไปฝากประจำเพิ่ม
โดยฝากเป็นระยะเวลา 2 ปี เมื่อครบ 2 ปี ก็เริ่มฝากใหม่ ทำซ้ำไปเรื่อยๆ
ออมเดือนละ 3,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย 2 %ต่อปี
สิ้นปีที่ 10 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 1,426,158.22 บาท
สิ้นปีที่ 20 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 4,203,897.29 บาท
สิ้นปีที่ 30 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 9,319,009.53 บาท
เพิ่มขึ้นพอสมควรเลยนะครับ
แล้วถ้าลงทุนเพิ่มในแหล่งที่เสี่ยงเพิ่มขึ้นหละ จะเป็นยังไง
จากที่ลองหาข้อมูลดูการลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาวแบบ Index Fund ย้อนหลัง 10 ปี
จะให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีไม่ต่ำกว่า 10 % เราคิดที่ค่าต่ำสุดเนี่ยแหละ
ออมในกองทุนหุ้นแบบไม่ถอนออก แบบไม่จับจังหวะ เดือนละ 5,000 บาท
สิ้นปีที่ 10 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 1,700,926.84 บาท
สิ้นปีที่ 20 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 6,133,442.72 บาท
สิ้นปีที่ 30 ผมจะมีเงินเหลือเก็บรวม 16,496,865.31 บาท
และถ้าตอนสิ้นปีที่ 30 ผมเกษียณอายุพอดี และผมถอนกำไรจากการลงทุนในกองทุนหุ้นมาใช้ โดยไม่ฝากเพิ่มอีกแล้ว
ผมจะถอนออกมาได้ปีละ 891,785.58 หรือคิดเป็นเงิน 74,315.47 ต่อเดือน (ยังไม่ได้คิดภาษีจากกำไร)
เป็นไงบ้างครับ น่าจะมองเห็นพลังแห่งการอดออมบ้างแล้วใช่มั้ยครับ ถ้าคุณเป็นคนประเภทเดียวกับผม และเจอพวกที่มีเท่าไหร่ก็ใช้หมดมาถากถาง ก็เอากระทู้นี้ให้เค้าดูเลยครับว่า หัวเราะทีหลังดังกว่าอยู่แล้ว
ปล.การคำนวนบางส่วนอาจไม่ได้เอาการคิดภาษีมาคิดด้วย ตัวเลขก็อาจจะต่างจากสถานะการจริงไปบ้าง แต่เชื่อว่าไม่มากอยู่แล้ว
ปล2. ผมยังเป็นมือใหม่ในเรื่องการลงทุน หากท่านใดเชี่ยวชาญในด้านการลงทุน จะอนุเคราะห์ให้คำแนะนำเพิ่มผมก็จะขอบคุณมากเลยนะครับ