อดีตกเซลต่างประเทศด้อยประสบการณ์ ถามคนเป็นเซลในประเทศครับ หาลูกค้ากันยังไงหรอครับ ทำไมเก่งจัง

สวัสดีชาวพันทิปทุกท่านครับ

มาจะกล่าวบทไปถึงอดีตอันแสนสั้น แต่เล่ายาว

ปัจจุบันผมทำธุรกิจส่วนตัวครับ ช่องทางขายมาจากออนไลน์ 99% เลยครับ ออฟไลน์นี่
ได้มาเพราะความบังเอิญคือคนรู้จักแนะนำต่อ ๆ กันมา พอมานั่ง ๆ คิดดูตัวเองแทบไม่มีสกิลเซลล์ หรือทักษะการหาลูกค้าเลย

คือบางทีก็พูดได้ไม่เต็มปากนะครับว่าตัวเองเคยเป็นเซล งานเซลต่างประเทศเอาเข้าจริงๆ เหมือนงานคอลเซ็นเตอร์มากกว่า
คือวัน ๆ นั่งตอบอีเมล์ไป ใช้ทักษะภาษาอังกฤษ ราคาก็ขายตามเพดานไป บวกได้เท่าไหร่สุดท้ายลูกค้าก็ต่อจนอยู่ในช่วงที่เราตั้งไว้อยู่ดี
มันสบายจริงๆ ครับ คือผมไม่เคยต้องหาลูกค้าเลยเพราะอยู่บริษัทใหญ่

แล้วลูกค้าจากต่างประเทศก็มี inquiry เข้ามาทุกวันตอบแทบไม่ทัน
การหาลูกค้าเพิ่มคือไปออกงานแฟร์ แลกนามบัตร แล้วก็เยี่ยมลูกค้าเก่าปีละครั้ง
ซึ่งผมก็ไม่เคยไปเพราะทำงานได้แค่ 1 ปีก็ลาออกไปทำงานกับบริษัทที่ปรึกษาซึ่งรับงานราชการ
หน้าที่ผมคือพาคนไทยไปออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ สนุกมากครับแต่โครงการจบแล้วโครงการใหม่ๆ
ไม่มีอะไรมันๆแบบนี้ ประกอบกับช่วงนั้นเริ่มมีเงิน เลยลาออกมาทำธุรกิจ

วันนี้ผมตระหนักได้ว่าผมไม่มีทักษะการหาร้านอาหารดี ๆ ร้านกาแฟนั่งพักตามย่านต่าง ๆ หาของฝากลูกค้าแบบฝั่งเซลในประเทศเลย
ตอนเป็นพนักงานขายต่างประเทศ ยอดก็ไม่ต้องทำเ พราะงานมันล้นมือจนตอบแทบจะไม่ทันอยู่แล้ว เราไม่ต้องมีรถออกไปหาลูกค้า
เรานั่งตอบเมล์อย่างเดียว เรื่องเอกสารการส่งออก เราก็มีฝ่าย Export  Document ช่วยทำ จองหัวลากจองเรือ ก็มีน้อง ๆ รายวันช่วยเรา
คือมันสบายอะ หันกล้องตัดภาพมาที่กลุ่มพนักงานขายในประเทศ คือพวกนี้มีจิตวิญญาณนักขายอย่างแรงกล้ามาก
มีพลังแห่งการทำยอดขับเคลื่อนชีวิต และเป้าหมายในแต่ละเดือนแต่ละไตรมาส
เป้าหมายของเซลต่างประเทศหรอ ตอบเมล์ให้เสร็จ ตามของให้ทันส่ง ตามเงินให้ได้
ทุกขั้นตอนถูกออกแบบให้รัดกุมปลอดภัย แทบไม่มีอะไร เสี่ยงเลย ยกเว้นชุ่ยให้ราคาผิดคิดเงินผิด อันนี้เด๋อเอง ช่วยไม่ได้ คปต

ถ้าตัดทักษะภาษาอังกฤษออก
งานพวกนี้ไม่ต่างอะไรกับธุรการเลยครับ แค่มันไฮโซขึ้นมาหน่อย
ตรงที่เราดันพูดภาษาที่คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้กลัวที่จะพูดกันได้
เราก็เลยได้นั่งทำงานแบบ สบ๊าย สบาย พอออกมาทำธุรกิจด้วยตัวเองแล้ว
ทำให้ผมค้นพบว่า "ผมหาลูกค้าไม่เป็น"

การขายออนไลน์จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก คือมันมีเทคนิคของมัน มันมีเครื่องมือและ
ผู้ชุ่ยชาญ ผู้เชี่ยวชาญ มารอเสนอตัวให้เราใช้บริการ
มีความรู้เรื่อง SEO เรื่อง ADWORDS มากมายให้เราศึกาษาเองถ้าอยากลองสนุกกับมัน
คือถ้ามาถูกทางก็ไปได้ ตัวนี้ผมไม่ค่อยมีปัญหาครับ
ทำเองด้วยแล้วก็มีคนคอยช่วยด้วย ก็ทำให้มีรายได้พอเลี้ยงตัวเองและคนใกล้ตัว

สองสัปดาห์ก่อน มีบริษัทใหญ่ โทรมาขอให้ผมส่งเซลล์เข้าไปเสนอสินค้า เอาจริงๆผมตื่นเต้นมาก คือร้านผมทั้งร้าน มันไม่มีเซลล์
มีแค่ผมซึ่งตั้งตัวเองเป็น MD ของกิจการอันรุ่งโรจน์ที่มีพนักงานถึง 3 คน อันได้แก่ตัวข้าพเจ้า 1 เด็กส่งของ 1 คน นักการตลาดออนไลน์ 1 คน

ผมก็ไปเองเลยครับ วันนั้นทำให้ผมหันกลับมามองตัวเองเลยครับว่า "เรายังไม่ใช่นักขาย ไม่มีจิตวิญญาณของนักขาย"
ผมทำพังครับ เพราะผมไปพูดจาฟันธงกับ บริษัทฯ ที่เรียกเข้าไปเสนอสินค้า เขาขอลดราคาแบบตีหัวแบะ ก็พยักหน้าหงึก ๆ
ได้ ๆ ลดได้ ๆ ครับ ๆ (นี่เถ้าแก่นะทำไมติ๋มจังวะ) พอกลับมาร้าน นั่งทำราคาให้เขาก็พบว่า ไอ้หยา มันลดขนาดนั้นไม่ได้
ทำไมไม่มีชั้นเชิงเลย อ่อนหัดจริงๆ ผมก็เสนอราคาไปโดยลดจากราคาแรกประมาณ 10% เป็นราคาแบบว่า อยากได้งานสุดๆ
คืออยากเห็นของ ๆ เราวางขายทั่วประเทศ (ราคาต่ำกว่าที่ผมขายปลีกเกิน 100%) ครับ

พอทางลูกค้าเห็นราคาก็ โทรมาขอลดสิครับ เขาก็พูดถูกของเขานะว่า ตอนคุยกันไหนคุณบอกลดได้อีกเยอะไง ทำไมลดน้อยจัง
คือมันมัดตัวผมหมดเลย เออเราไปสัญญาทำไมกันถึงแม้ว่าเป็นแค่ลมปาก แต่เราไม่ควรพูดอะไรเกินจริง มันดูไม่มืออาชีพ

สุดท้ายทางนั้นขอลดจนผมก็ถอดใจ ปนเคืองนิดๆด้วยว่านี่จะปล้นฉันหรือไง เลยทำพังอย่างแท้จริง คือคิดว่าเขาไม่ซื้อของเราแล้วแหละ
เราก็เลยเมล์บอกไป (เป็นภาษาอังกฤษเพราะกลัวภาษาไทยจะตีความรุนแรงไป) ว่าต้องขอโทษด้วยที่ลดราคามากกว่านี้ไม่ได้ ถ้าลองสอบราคา
จากร้านอื่นดูแล้วเขาเสนอมาถูกกว่า เราก็เข้าใจได้ว่าทางลูกค้าย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุด แต่เราให้ราคาได้แค่นี้จริง ๆ ถ้าเกิดว่ามีที่ไหนถูกกว่านี้
ช่วยบอกเราด้วย เราจะไปซื้อเขามาขายจะได้ไม่ต้องผลิต

เรือสูญ !!!!! พัง พัง ย่อยยับป่นปรี้อย่างแท้จริง

แต่กระนั้นทางจัดซื้อก็ยังโทรมานะครับ มาขอให้ลด spec สินค้าเพื่อลดต้นทุน เราก็ให้ราคาต่อไป
ผลจะเป็นยังไงก็อีกเรื่องว่ากันไป นาทีนี้ก็แล้วแต่เวรแต่กรรม แล้วแต่แต้มบุญที่สะสมมา

ทีนี้ก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า เออทำไมเราไม่ทำการตลาด offline เป็นเรื่องเป็นราวล่ะ เรามีศักยภาพในการผลิตนี่ ทำไมเราไม่หาเซลวิ่งเสนอสินค้า
เพราะมาวิเคราห์ตัวเองแล้ว พบว่า ผมเป็นนักหาของ ไม่ใช่นักขายของครับ ใครอยากได้อะไร ผมหาให้ได้หมด จริง ๆ คือผมาทำธุรกิจเอง
กลายเป็นคนถนัดงานจัดซื้อมากกว่างานขายซึ่งเคยทำสมัยเป็นลูกจ้างซะงั้น ทีนี้แหละ อยากรู้จริง ๆครับว่า เซลล์ในประเทศ
เขาหาลูกค้ากันยังไง พอหาได้แล้วมีขั้นตอนการ approach ยังไง ปิดการขายยังไง เก็บเงินยังไง ผมไม่รู้เลย ไม่มีประสบการณ์เลย

แล้วถ้าจะหาเซลฟรีแลนซ์ เขาทำกันยังไงครับ ผมขายซองไปรษณีย์พลาสติกและบรรจุภัณฑ์ไปรษณีย์ครับ
ขอคำแนะนำจากผู้รู้ด้วยครับ

ขอคารวะเซลและนักขายทุกท่านด้วยใจจริงครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่