มารสังคมอาจเป็นคนใกล้ตัวคุณ อ่านเป็นอุทาหรณ์นะคะ
สวัสดีค่ะ จริงๆเรื่องมันก็นานมาแล้ว แต่อยากฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์
ข่าวออกกันทุกวัน แต่ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองก็เป็นเหยื่อพวกนี้เหมือนกัน
ตอนแรกเราเกิดที่สุพรรณบุรี แต่ย้ายมาอยู่จังหวัดหนึ่งซึ่งมาอยู่กับตายายครอบครัวใหญ่ ตอนนั้นเราเรียนป.3 คือก็ปกติมาตลอดจนป.4 เรามีลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งสมมุติว่าชื่อเอ เอกับเราอยู่คนละบ้าน เพราะบ้านมีสองหลัง เราอยู่บ้านเดียวกับตาและยาย ตอนนั้นเราติดเอมาก เล่นกันทุกวัน มีวันหนึ่งเอเอากางเกงลิงเราไปใส่แล้วไม่ยอมคืนซะทีจนเราลืม วันที่เราไปเล่นบ้านเอ กางเกงลิงก็วางตรงบันได พ่อเอถามว่าของใคร เอบอกว่าเป็นของเราจะเอาคืน แล้วพ่อของเอก็ให้เราอ่านหนังสือปลาให้เขาฟังโดยนั่งบนตักเขา
ตอนนั้นที่เขาล้วงเราครั้งแรก อ่านไปร้องไห้ไปเพราะเราเจ็บ พ่อของเอก็บอกว่าห้ามบอกใคร เราขอให้หยุดก็ไม่หยุด เอก็เดินไปมาในบ้านแต่ไม่ได้สังเกตเรา เพราะเราไม่ได้สะอื้นอะไร
หลายวันต่อมาเรากับเอเล่นดีดลูกแก้วกัน เออั้นฉี่ไม่ไหวฉี่ราดกางเกง ให้เราเดินเข้าไปเอากางเกงลิงที่บ้านเอ แต่เรากลัวพ่อของเอเลยให้เอไปเอง แต่เอไม่กล้าเดินเพราะนุ่งผ้าขนหนูอยู่ คือบ้านยายกับบ้านเอมีบ้านหลังอื่นๆคั่นอยู่หลายหลัง แล้วก็มีบ้านหลังนึงที่มีผู้ชายออกอาการติดยาอาศัยอยู่ ทุกคนในครอบครัวเรียกมันว่าไอ้หื่น คือมันชอบมองแล้วน้องเราก็กลัว แต่เรากลัวกว่าก็ไม่ยอมไป ตอนนั้นน้าเราก็อยู่แต่เค้าไม่ว่างเลยให้เราไปจนได้ แล้วเราก็หายไปเป็นชั่วโมงโดยที่ไม่มีใครมาตาม เพราะคิดว่าเราเข้าห้องน้ำ(บ้านยายห้องน้ำตันแล้วไม่ซ่อมกันทุกครั้งที่ถ่ายหนักจะเดินมาเข้าห้องน้ำบ้านเอ) เราโดนเหมือนครั้งที่แล้ว เราเจ็บเหมือนเดิม แล้วพ่อของเอก็ให้เราบอกคนอื่นว่าท้องเสีย จนวันนึงน้องชวนเราไปเล่นเกมเพล สมัยนั้นเกมเพลฮิตมาก ถามว่าเรากลัวเค้ามั้ย เรากลัวนะแต่เห็เออยู่เลยกล้าไปเล่นที่บ้านเขา แล้วทีนี้พ่อของเอก็ให้หยิบมีดให้เค้า โดยบอกให้เอเอามีดมาให้เราไปให้เค้าอีกที ตอนเราเดินเอาไปให้เห็นว่าอวัยวะเพศตุงออกมาแล้วเค้าก็บอกให้เราไปท้ายสวนกับเขา เรามองตามมือไปเห็นทางกล้วยตัดวางไว้รอคนไปนั่ง เราไม่ยอมไปยืนยันว่ายังไงก็ไม่ไป กลัวเค้าฆ่าด้วย เดินหนีไปเล่นเกมกับน้องต่อหลังจากนั้นเราก็ไม่ไปเล่นบ้านเออีกเลย เจอพ่อเอเราก็ไม่ไหว้
แต่ไม่ได้เจอแค่นี้ น้าเขยเราเคยแอบแต๊ะอั๋งเราตอนมัธยมตอนเราหลับแต่เรารู้สึกตัวเลยแกล้งหลับ เค้าพยายามบีบหน้าอกโดยที่แขนเราทับอยู่(นึกถึงตอนกอดอกแล้วกางนิ้วจับแขนโดยพยายามให้นิ้วโดนหน้าอก) เราก็ทำเป็นบิดตัวตื่น หลายครั้งที่เขาพยายามจับนิดจับหน่อยแต่เรารู้ก็ต้องหลบหลีก แล้วช่วงนั้นเรากับพ่อแม่ย้ายมาปลูกบ้านแยกอีกหนึ่งหลัง แต่ชอบไปนอนไปเล่นบ้านยายกัน เรื่องนี้เราบอกเอว่าน้าเขยไม่น่าไว้ใจ เอบอกว่าเอรู้แล้วเพราะเอก็โดนเหมือนกัน เราก็ระวังตัวกัน
มีวันหนึ่งแมวที่บ้านคลอดลูกที่ชั้นสองของบ้าน มันไปแอบซุกที่ซอกซึ่งตรงนั้นน้าเราเอาเบาะที่นอนมาวางพาดไว้ เราก็มุดไปเล่น ปรากฎว่าหายใจไม่ออก เลยเปิดหน้าต่าง คือเราตัวเล็กและผอมมากเลยอยู่ตรงนั้นได้ เรามองไปข้างล่างเห็นเพดานห้องอาบน้ำบ้านยายมีรู เราก็มองจากรูลงไปว่ามันเห็นได้แค่ไหน<br>
หลายสัปดาห์ถัดมา บ้านเราน้ำไม่ไหลเลยไปอาบบ้านยาย เพราะบ้านยายรองน้ำไว้เยอะ ตอนเราเดินเข้าห้องอาบน้ำ เราได้ยินคนเดินขึ้นบันได เราถามยายว่าใครขึ้นไปชั้นสอง (คือห้องน้ำมันออกจากตัวบ้านเลยมองเห็นจากชั้นสองลงมา)ยายบอกว่าน้าเขย เราก็ตงิดใจ ปกติชั้นสองเขาจะไม่เดินขึ้นไปเพราะมันร้อน แล้วทุกครั้งที่กลับมาเขาจะเปิดพัดลมดูทีวีข้างล่าง เราก็เงียบฟังเสียง พอได้ยินเสียงเปิดหน้าต่างเท่านั้นแหละวิ่งชิดกำแพงเลย แล้วก็อาบทั้งๆที่ชิดกำแพงอย่างนั้น คือเราจำได้ไงว่าเดินตรงไหนเขาจะไม่เห็น พอเดินออกมาจากห้องน้ำ เราก็ไปเล่าให้ยายฟังแต่ยายไม่เชื่อเราเลยไม่กล้าเล่าให้ใครฟังอีกยกเว้นเอ เพราะเรากับเอสนิทกันแบบไม่มีความลับต่อกัน
ตอนจบม.6 เราจะเข้ามหาลัย เราบอกแม่เรื่องพ่อของเอและน้าเขย เราสารภาพทุกอย่างว่าเจออะไรมาบ้างเพราะไม่กล้าพูดในตอนนั้น แม่เราก็โกรธที่ไม่ยอมบอกท่านตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่ท่านก็บอกว่ามันผ่านมาแล้วต่อจากนี้ก็ระวังตัว เราบอกแม่เรื่องที่ยายไม่เชื่อเรา เราเลยคิดว่าพูดไปคงไม่มีใครเชื่อ ขนาดยายเป็นยายเราแท้ๆกลับเชื่อว่าน้าเขยดีเราเลยไม่รู้ว่าจะบอกใครได้อีก เพราะแม่ทำแต่งานไม่ได้มาสังเกตเห็นพฤติกรรมน้าเขยด้วย แต่ตอนหลังแม่เราก็ไปคุยกับน้าผู้หญิงแฟนน้าเขยนะ เค้าก็รู้ แต่เรื่องพ่อของเอเราจำไม่ได้ว่าแม่ได้บอกแม่ของเอรึเปล่า แต่เราก็บอกเอไปแล้ว เอช็อคมากไม่คิดว่าพ่อตัวเองจะเป็นอย่างนี้ แต่พ่อของเอกับแม่ของเอจดทะเบียนหย่ากันได้หลายปีแล้ว แต่เอก็ยังคงติดต่อกับพ่อเขาอยู่เพียงแต่ไม่สนิทใจเท่าเดิม
เราเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนที่สนิทๆฟัง มีบางคนที่โดนเหมือนเรา โดนหนักกว่าเราก็มี จะบอกว่าบางทีเด็กมันรู้ว่าที่โดนอยู่คืออะไร แต่มันไม่กล้าพูด
ตอนเด็กกลัวมากว่าพูดไปแล้วจะโดนตามฆ่าทีหลังเลยไม่กล้าบอกใคร ที่เป็นข่าวกันโครมๆว่าเยอะแล้ว ที่ไม่เป็นข่าวอีกล่ะ เชื่อมั้ยว่ามันเยอะกว่า นี่ขนาดมีครอบครัวมีบุคคลที่สามอยู่ด้วยยังกล้าทำ ในเมื่อคนแบบนี้มันแก้นิสัยตัวเองไม่ได้มีเมียอยู่แล้วยังทำเรื่องแบบนี้ ก็เตือนลูกตัวเองเถอะนะคะ บางทีตอนนี้เค้าอาจจะรอคุณถามอยู่ก็ได้ เชื่อใจเค้านะคะ เด็กไม่โกหกหรอกค่ะ^^
ปล.ตอนแรกตั้งกระทู้พูดคุยแต่ต้องยืนยันสมาชิกอ่ะค่ะ พอดีไม่สะดวก ขอโทษด้วยนะคะ
อย่าไว้ใจคนใกล้ตัว
สวัสดีค่ะ จริงๆเรื่องมันก็นานมาแล้ว แต่อยากฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์
ข่าวออกกันทุกวัน แต่ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองก็เป็นเหยื่อพวกนี้เหมือนกัน
ตอนแรกเราเกิดที่สุพรรณบุรี แต่ย้ายมาอยู่จังหวัดหนึ่งซึ่งมาอยู่กับตายายครอบครัวใหญ่ ตอนนั้นเราเรียนป.3 คือก็ปกติมาตลอดจนป.4 เรามีลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งสมมุติว่าชื่อเอ เอกับเราอยู่คนละบ้าน เพราะบ้านมีสองหลัง เราอยู่บ้านเดียวกับตาและยาย ตอนนั้นเราติดเอมาก เล่นกันทุกวัน มีวันหนึ่งเอเอากางเกงลิงเราไปใส่แล้วไม่ยอมคืนซะทีจนเราลืม วันที่เราไปเล่นบ้านเอ กางเกงลิงก็วางตรงบันได พ่อเอถามว่าของใคร เอบอกว่าเป็นของเราจะเอาคืน แล้วพ่อของเอก็ให้เราอ่านหนังสือปลาให้เขาฟังโดยนั่งบนตักเขา
ตอนนั้นที่เขาล้วงเราครั้งแรก อ่านไปร้องไห้ไปเพราะเราเจ็บ พ่อของเอก็บอกว่าห้ามบอกใคร เราขอให้หยุดก็ไม่หยุด เอก็เดินไปมาในบ้านแต่ไม่ได้สังเกตเรา เพราะเราไม่ได้สะอื้นอะไร
หลายวันต่อมาเรากับเอเล่นดีดลูกแก้วกัน เออั้นฉี่ไม่ไหวฉี่ราดกางเกง ให้เราเดินเข้าไปเอากางเกงลิงที่บ้านเอ แต่เรากลัวพ่อของเอเลยให้เอไปเอง แต่เอไม่กล้าเดินเพราะนุ่งผ้าขนหนูอยู่ คือบ้านยายกับบ้านเอมีบ้านหลังอื่นๆคั่นอยู่หลายหลัง แล้วก็มีบ้านหลังนึงที่มีผู้ชายออกอาการติดยาอาศัยอยู่ ทุกคนในครอบครัวเรียกมันว่าไอ้หื่น คือมันชอบมองแล้วน้องเราก็กลัว แต่เรากลัวกว่าก็ไม่ยอมไป ตอนนั้นน้าเราก็อยู่แต่เค้าไม่ว่างเลยให้เราไปจนได้ แล้วเราก็หายไปเป็นชั่วโมงโดยที่ไม่มีใครมาตาม เพราะคิดว่าเราเข้าห้องน้ำ(บ้านยายห้องน้ำตันแล้วไม่ซ่อมกันทุกครั้งที่ถ่ายหนักจะเดินมาเข้าห้องน้ำบ้านเอ) เราโดนเหมือนครั้งที่แล้ว เราเจ็บเหมือนเดิม แล้วพ่อของเอก็ให้เราบอกคนอื่นว่าท้องเสีย จนวันนึงน้องชวนเราไปเล่นเกมเพล สมัยนั้นเกมเพลฮิตมาก ถามว่าเรากลัวเค้ามั้ย เรากลัวนะแต่เห็เออยู่เลยกล้าไปเล่นที่บ้านเขา แล้วทีนี้พ่อของเอก็ให้หยิบมีดให้เค้า โดยบอกให้เอเอามีดมาให้เราไปให้เค้าอีกที ตอนเราเดินเอาไปให้เห็นว่าอวัยวะเพศตุงออกมาแล้วเค้าก็บอกให้เราไปท้ายสวนกับเขา เรามองตามมือไปเห็นทางกล้วยตัดวางไว้รอคนไปนั่ง เราไม่ยอมไปยืนยันว่ายังไงก็ไม่ไป กลัวเค้าฆ่าด้วย เดินหนีไปเล่นเกมกับน้องต่อหลังจากนั้นเราก็ไม่ไปเล่นบ้านเออีกเลย เจอพ่อเอเราก็ไม่ไหว้
แต่ไม่ได้เจอแค่นี้ น้าเขยเราเคยแอบแต๊ะอั๋งเราตอนมัธยมตอนเราหลับแต่เรารู้สึกตัวเลยแกล้งหลับ เค้าพยายามบีบหน้าอกโดยที่แขนเราทับอยู่(นึกถึงตอนกอดอกแล้วกางนิ้วจับแขนโดยพยายามให้นิ้วโดนหน้าอก) เราก็ทำเป็นบิดตัวตื่น หลายครั้งที่เขาพยายามจับนิดจับหน่อยแต่เรารู้ก็ต้องหลบหลีก แล้วช่วงนั้นเรากับพ่อแม่ย้ายมาปลูกบ้านแยกอีกหนึ่งหลัง แต่ชอบไปนอนไปเล่นบ้านยายกัน เรื่องนี้เราบอกเอว่าน้าเขยไม่น่าไว้ใจ เอบอกว่าเอรู้แล้วเพราะเอก็โดนเหมือนกัน เราก็ระวังตัวกัน
มีวันหนึ่งแมวที่บ้านคลอดลูกที่ชั้นสองของบ้าน มันไปแอบซุกที่ซอกซึ่งตรงนั้นน้าเราเอาเบาะที่นอนมาวางพาดไว้ เราก็มุดไปเล่น ปรากฎว่าหายใจไม่ออก เลยเปิดหน้าต่าง คือเราตัวเล็กและผอมมากเลยอยู่ตรงนั้นได้ เรามองไปข้างล่างเห็นเพดานห้องอาบน้ำบ้านยายมีรู เราก็มองจากรูลงไปว่ามันเห็นได้แค่ไหน<br>
หลายสัปดาห์ถัดมา บ้านเราน้ำไม่ไหลเลยไปอาบบ้านยาย เพราะบ้านยายรองน้ำไว้เยอะ ตอนเราเดินเข้าห้องอาบน้ำ เราได้ยินคนเดินขึ้นบันได เราถามยายว่าใครขึ้นไปชั้นสอง (คือห้องน้ำมันออกจากตัวบ้านเลยมองเห็นจากชั้นสองลงมา)ยายบอกว่าน้าเขย เราก็ตงิดใจ ปกติชั้นสองเขาจะไม่เดินขึ้นไปเพราะมันร้อน แล้วทุกครั้งที่กลับมาเขาจะเปิดพัดลมดูทีวีข้างล่าง เราก็เงียบฟังเสียง พอได้ยินเสียงเปิดหน้าต่างเท่านั้นแหละวิ่งชิดกำแพงเลย แล้วก็อาบทั้งๆที่ชิดกำแพงอย่างนั้น คือเราจำได้ไงว่าเดินตรงไหนเขาจะไม่เห็น พอเดินออกมาจากห้องน้ำ เราก็ไปเล่าให้ยายฟังแต่ยายไม่เชื่อเราเลยไม่กล้าเล่าให้ใครฟังอีกยกเว้นเอ เพราะเรากับเอสนิทกันแบบไม่มีความลับต่อกัน
ตอนจบม.6 เราจะเข้ามหาลัย เราบอกแม่เรื่องพ่อของเอและน้าเขย เราสารภาพทุกอย่างว่าเจออะไรมาบ้างเพราะไม่กล้าพูดในตอนนั้น แม่เราก็โกรธที่ไม่ยอมบอกท่านตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่ท่านก็บอกว่ามันผ่านมาแล้วต่อจากนี้ก็ระวังตัว เราบอกแม่เรื่องที่ยายไม่เชื่อเรา เราเลยคิดว่าพูดไปคงไม่มีใครเชื่อ ขนาดยายเป็นยายเราแท้ๆกลับเชื่อว่าน้าเขยดีเราเลยไม่รู้ว่าจะบอกใครได้อีก เพราะแม่ทำแต่งานไม่ได้มาสังเกตเห็นพฤติกรรมน้าเขยด้วย แต่ตอนหลังแม่เราก็ไปคุยกับน้าผู้หญิงแฟนน้าเขยนะ เค้าก็รู้ แต่เรื่องพ่อของเอเราจำไม่ได้ว่าแม่ได้บอกแม่ของเอรึเปล่า แต่เราก็บอกเอไปแล้ว เอช็อคมากไม่คิดว่าพ่อตัวเองจะเป็นอย่างนี้ แต่พ่อของเอกับแม่ของเอจดทะเบียนหย่ากันได้หลายปีแล้ว แต่เอก็ยังคงติดต่อกับพ่อเขาอยู่เพียงแต่ไม่สนิทใจเท่าเดิม
เราเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนที่สนิทๆฟัง มีบางคนที่โดนเหมือนเรา โดนหนักกว่าเราก็มี จะบอกว่าบางทีเด็กมันรู้ว่าที่โดนอยู่คืออะไร แต่มันไม่กล้าพูด
ตอนเด็กกลัวมากว่าพูดไปแล้วจะโดนตามฆ่าทีหลังเลยไม่กล้าบอกใคร ที่เป็นข่าวกันโครมๆว่าเยอะแล้ว ที่ไม่เป็นข่าวอีกล่ะ เชื่อมั้ยว่ามันเยอะกว่า นี่ขนาดมีครอบครัวมีบุคคลที่สามอยู่ด้วยยังกล้าทำ ในเมื่อคนแบบนี้มันแก้นิสัยตัวเองไม่ได้มีเมียอยู่แล้วยังทำเรื่องแบบนี้ ก็เตือนลูกตัวเองเถอะนะคะ บางทีตอนนี้เค้าอาจจะรอคุณถามอยู่ก็ได้ เชื่อใจเค้านะคะ เด็กไม่โกหกหรอกค่ะ^^
ปล.ตอนแรกตั้งกระทู้พูดคุยแต่ต้องยืนยันสมาชิกอ่ะค่ะ พอดีไม่สะดวก ขอโทษด้วยนะคะ