[CR][SR] [How to] ลุยลอนดอนด้วยตัวเองแบบมินิแบ็คแพ็ค 6 วันอย่างไรให้ได้ความคุ้มกลับมาไม่อั้น #LDNCHECKLIST

กระทู้รีวิว

คนไทยในอังกฤษ บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ Backpack truemove H

สวัสดีค่ะ ขออนุญาตเขียนกระทู้แรกบน Pantip ซึ่งดิฉันเองก็เป็นแฟน Pantip มาตั้งแต่ยุควัยรุ่น ปี 2000 แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้อ่านมากกว่าผู้เขียน แต่ครั้งนี้พิเศษ เนื่องจากดิฉันอยู่ในช่วงลาพักร้อน และมีโอกาสแบ่งเวลาให้งานเขียนอย่างเต็มที่ และหวังว่างานเขียนนี้จะมีประโยชน์แก่ผู้รักการเดินทางและท่องเที่ยว เชื่อว่าพวกเราใช้ชีวิตอย่างเต็มที่โดยแบ่งเวลาให้งานและให้ตัวเองได้ด้วย "ใครว่าไม่มีเวลา นั้นไม่จริง...เพราะทุกคนมี 24 ช.ม. ต่อวันเท่าๆกัน อยู่ที่ว่าเราจะใช้เวลานั้นอย่างไรให้คุ้มค่า" จริงไหมคะ?
ถึงดิฉันจะเป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่บทความนี้ดิฉันตั้งเป็น SR ด้วย เนื่องจากมีการเอ่ยถึง brand และ product มากมาย ซึ่ง mobile operator brand ที่ดิฉัน Tag นี้ดิฉันมีส่วนร่วมในการทำงานกับแบรนด์นั้นๆในปัจจุบัน ถ้าดิฉันทำผิดพลาดประการใด ขออภัย มา ณที่ นี้ และขอฝากเนื้อฝากตัว และบทความ ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

#LDNCHECKLIST

ขณะที่ดิฉันกำลังเขียนตอนนี้ยังอยู่ที่ London และจุดประสงค์หลักฉันต้องการร่วมงานอีเวนท์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Internet และ Technology ได้แก่งาน "Smart Summit London 2016" ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าการเดินทางมาสหราชอาณาจักรใช้เวลาประมาณครึ่งวัน 11-12 ชั่วโมง (directed flight) ดังนั้นดิฉันจึงถือโอกาสลาพักร้อนรวม 1 สัปดาห์ (ถ้านานกว่านี้ เกรงจะมีผลกระทบกับงานเนอะ) ดังนั้นดิฉันมีเวลาเพียง 6 วันเท่านั้น จึงคิดว่าเป็นการถ่ายทอดวิธีการที่เที่ยวอย่างเต็มที่ให้คุ้มค่าลางานและบินมาถึงลอนดอนให้ง่ายที่สุดแต่ยังดูเสมือนโปร / LIKE A PRO!
จริงๆแล้วดิฉันไม่เคยเดินทางไกลโดยจัดทริปเองด้วยซ้ำ โดยปกติจะไปกับทัวว์,ครอบครัว, เพื่อนสนิท, หรือบริษัท จัดให้หมดเรียกได้ว่าครั้งนี้คือครั้งแรกที่เดินทางคนเดียว เริ่มตื่นเต้นไปกับดิฉันแล้วใช่ไหม?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ข้อดีของการจัดทริปเองและไปด้วยตัวเอง
1. อิสระ (Freedom) ได้ไปทุกที่ๆอยากไป ไม่ต้องรีบร้อนใช้เวลาในแต่ละที่ๆเราไปได้เต็มที่ คุ้มค่าเวลาไม่ใช้เวลาไปกับสิ่งที่เราไม่ได้สนใจ
2. รับรองว่าถูกกว่า (save cost) ถ้าเทียบกับใหับริษัททัวว์จัดให้ตามใจเรา ซึ่งดิฉันลองคำนวณแล้ว ทริปนี้ลดไปได้ประมาณ 30,000 บาท (wow!) และดิฉันนำเงินส่วนนี้ไปใช้เป็น pocket money แทนดีกว่า ช้อปปิ้งก็ได้นะ!
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล และไม่ใช่ว่าไปกับทัวว์จะไม่ดีนะคะ เพราะจริงๆแล้วมีทัวว์ดีๆมากมาย ที่ช่วยเราดีลแพ็กเกจที่เขาเป็นพาร์ทเนอร์ในราคาที่เหมาะสม แต่ทัวว์จะได้ราคาประหยัดดังกล่าวจะมีข้อแม้นว่าต้องเป็นโปรแกรมที่เขาจัดไว้อยู่แล้ว รวมถึงวันที่เขากำหนด เช่นต้องเป็นวันที่คนรวมตัวได้ 10 คนขึ้นไป (ซึ่งดิฉันไม่อยากไปทั้งหมดนั้น และไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดิฉันสะดวกแน่นอน)

การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
(ควรเตรียมทั้งหมดนี้ล่วงหน้าประมาณ 3-6 เดือน เพราะเราไม่ได้ไปกับทัวว์ที่ต้องมีคนจัดแจงให้ และยิ่งจองที่พักและสายการบินล่วงได้ได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งราคาถูกค่ะ)
1.เริ่มจากต้องทำ UK Visa ให้ผ่านเรียบร้อยก่อนและต้อง Book ที่พักและตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าเพื่อทำเอกสารด้วย
รายละเอียดการเตรียมเอกสารเข้าไปดูที่ GOV.UK และวิธีการสมัครไปดูได้ที่ VFH Global

*เทคนิกลับล่าสุด
- ควรทำ Bank statement ส่วนตัวเราให้เรียบร้อยดูดีที่สุดเขาจะพิจารณาจากรายการเข้าออกเงินอย่างสม่ำเสมอ เงินเข้าคงที่หรือวิ่งสูงขึ้น มากกว่าวิ่งลงเรื่อยๆ และต้องมีเงินออกโดยเฉลี่ยที่ไม่น้อยไปกว่าเงินเข้าโดยเฉลี่ย และจะชัวว์ขึ้นถ้าแบ่งบัญชีออกเป็นเงินเก็บ (Saving bank account) ด้วยและธนาคารจะสามารถออก Bank guarantee เป็นภาษาอังกฤษให้เรา ซึ่งจะสร้างความน่าเชื่อถือค่ะ (ในส่วนนี้ล่ะที่ทำไมถึงบอกว่าต้องใช้เวลาถึง 6 เดือน เพราะเขาจะดูการเงินเรา 6 เดือนย้อนหลังค่ะ) สำหรับพนักงานประจำที่มีเงินเดือนก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไรนัก เพราะจะได้ใบรับรองจากบริษัทที่จะช่วยทำให้เขามั่นใจว่าเราไม่ได้มาแสวงหางานในประเทศเขา
- Booking สายการบินและที่พักล่วงหน้า ในที่นี้ "Booking" ยังไม่ใช่ "Reserving" เพื่อจ่ายเงินค่ะ จุดประสงค์เพียงนำข้อมูลไปใช้ในการทำเอกสาร Visa ให้ผ่านแน่นอน ซึ่งง่ายๆคือ book ผ่าน Thai Airways booking website ได้เลยอีกวิธีคือดิฉันให้ทาง KTC world ออก booking document ในส่วนของ flight ให้ก่อนค่ะโดยเราจะได้ booking refernce มา และส่วนที่พักดิฉันจองผ่าน BOOKING.COM ซึ่งจะระบุว่าจองและสามารถ Cancel ได้โดยไม่ charge ค่าจ่ายใดๆ (ถ้าวันที่จะไปไม่มีที่พักที่ดีกว่านี้หรือราคาดีกว่านี้เราก็จ่ายเงินและจองได้เช่นกันค่ะ แต่ถ้าเจอที่ดีกว่าก็สามารถ cancel ได้ล่วงหน้าประมาณ 15 วัน)
- อย่าลืมว่าเราไม่ได้ไปที่สถานทูตอังกฤษในประเทศไทยแต่เราต้องไปทำที่ VFS Global อาคาร Trendy สุขุมวิท 13 เดี๋ยวจะสับสนไปผิดที่ค่ะ ดูที่อยู่และแผนที่ที่นี่ค่ะ MAP
- แต่งตัวเรียบร้อยดูดีนิด ถ้าเป็นผู้หญิงก็รวบเปิดหูใส่ต่างหูให้เล็กที่สุด หรือไม่ใส่ เราอาจจะสวมเสื้อเชิ้ตมีสูตรหรือแจ็กเกตสีเพลนๆคลุม (แอบ make up ได้ เบาๆ) เนื่องจากล่าสุดเขาเปลี่ยนว่าต้องถ่ายรูปสดที่นั่นเลยค่ะ!
- นอกจาก Visa ผ่านแล้วอย่าลืมเรื่อง Visa บัตร credit ที่ต้องเตรียมไว้ใช้จ่ายในการจองที่พักโรงแรม เครื่องบินและใช้จ่ายต่างประเทศด้วยนะคะ
2. สำรวจและเปรียบเทียบดีลที่ดีที่สุด และตัดสินใจซื้อ
ก่อนไปเราควรสำรวจเปรียบเทียบแพ็กเกจต่างๆ ทั้งตาม event และ online รวมถึง agency ในไทยและต่างประเทศ

*เทคนิกลับล่าสุด
- การเลือกวันไปที่ดีที่สุด ในการไปเมืองที่ไม่ใช้บ้านเกิดเราเช่นอังกฤษนี้ เราควรสำรวจ "Things to do" และ "Events" ต่างๆในเว็บท้องถิ่นเขาก่อน และดิฉันเลือกไปวันที่ 20 - 25 SEP 2016 (6วัน) เนื่องจากมีอีเวนท์มากมายที่ใกล้กับวันงาน IOT SMART SUMMIT LONDON ได้แก่ London Design Weekend/ Design fair Festivial, London Fashion Weekend, Totally Thames - river celebration นั่นหมายความว่าเรากำลังใช้งานโปรนักจัดอีเวนท์ท้องถิ่นช่วยเราเลือกวันที่ดีที่สุดให้ เพราะโดยปกติ organizer มืออาชีพจะเลือกจัดอีเวนท์ใหญ่ในวันที่อากาศดี ฝนฟ้าเป็นใจ และไม่ชนกับงานประจำชาติอื่นๆ และบังเอิญว่างานทั้งหมดคืองานที่ดิฉันคิดว่าต้องไปให้ครบด้วยเช่นกัน พลาดไม่ได้! ลงตัวไหมล่ะ?
- ดีลที่ดีที่สุด ควรซื้อแพ็กที่พัก+โรงแรม ด้วยกันไปเลย แต่จะสังเกตเห็นได้ว่าจะไม่อยู่ในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เพราะจะ Peak hours คนแย่งชิงกันมากมายค่ะ ซึ่งดิฉันได้เทียบราคาจากหลายที่และสุดท้ายดิฉันเทียบระหว่าง Expedia และ Agoda โดยใช้ Criteria เปรียบเทียบโรงแรมที่ได้ Rating ดีที่สุดแต่ราคาต่ำที่สุดและมีดีล ซึ่ง เชื่อหรือไม่ ช้าไปแค่วันเดียว ราคาก็ขึ้นได้ครึ่งหมื่น และสองเจ้านี้ก็ชอบแข่งราคาขึ้นๆลงๆกันด้วยค่ะ มันมากกว่าจะจองได้ราคาดีที่สุด สุดท้ายดิฉันลงตัวกับ Expedia นั่นเอง เนื่องจากได้โรงแรมที่ดิฉันพิจารณาแล้วว่า ใกล้ Underground - Hammersmith Station เรียกได้ว่าเดินได้ และยังเดินไป Exhibition งาน Smart Summit London - Olympia Conference Centre ได้อีกด้วย
- เลือกสายการบินที่ดีที่สุดของแต่ละทริปอาจไม่เหมือนกัน และถ้าเป็นประเทศที่เราไม่ได้ไปบ่อยๆ ไม่คุ้นเคย ยอมเลือก Directed flight ดีที่สุดค่ะและFlightที่จะต้องไปถึงในวันที่ 20 SEP 2016 ที่บินตรงมีเพียง 3 Flights ได้แก่ Thai Airways, EVA, British Airways และ ซึ่ง criteria ในการเลือกครั้งนี้คือดิฉันเน้นความ "ปลอดภัย" ถึง EVA จะเป็นสายการบินติดอันดับโลก แต่ว่าไปถึงดึกมากดังนั้นดิฉันจึงเลือก Thai Airways ซึ่งจะราคาสูงกว่าสายการบินอื่นๆด้วยโดยโดนบวกเพิ่มรวมไปกลับ plus รอบละ 5,000 บาท ซึ่งเมื่อพิจารณาดูถ้าเราเป็นผู้หญิงเดินทางดึกๆคนเดียวจึง OK กับการยอมจ่ายเพิ่มครั้งนี้ และเหตุผลอื่นๆประกอบในการตัดสินใจที่ลงตัวและขอแนะนำคือเครื่องรอบดึกการบินไทยเราจะได้นอนหลับบนเครื่องสบาย และจะมีอาหาร เลี้ยงอย่างดีทั้ง dinner ก่อนนอน และ breakfast ตอนตื่นขึ้นมา อบอุ่นถึงแม้นจะเป็น Economy ข้อดีอื่นๆ ถ้าใครได้เป็นสมาชิกบัตรเครดิตบางรุ่นอย่างดิฉัน ถึงจะไม่ได้ซื้อ flight ในระดับ First class/ business class แต่ดิฉันก็ได้สิทธิรอที่ Royal Silk Lounge ซึ่งรอรอบดึกนั่งชาร์จ battery โทรศัพท์กันได้สบายค่ะ มีขนมน้ำเบาๆให้รับประทานบริการดีมาก (ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสจะต้องเขียน review การบินไทยเพิ่มอีกน่าจะดีกว่า เดี๋ยวจะแย่ง scene)
*เทคนิกซุปเปอร์ลับล่าสุดของการเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน รู้หรือไม่แม้นจะ Economy เราก็เลือกที่นั่งได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (สำหรับการบินไทย ซึ่งสายการบินอื่นดิฉันไม่แน่ใจค่ะ) โดยเราสามารถสำรวจที่นั่งล่วงหน้าว่าที่ใดดีผ่านเว็บประเภท Seat Guru ต่างๆ เช่น ซึ่งในเว็บไซท์จะสามารถเช็คได้เลยว่า ที่นั่งนี้ดีหรือไม่ดี เอนหลังได้ไหม ยืดขาได้มากกว่าปกติไหม หรือมีเสื้อชูชีพซ่อนอยู่ไหม ยอดเยี่ยมเลยใช่ไหมคะ? ซึ่งขาไปดิฉันเลือกนั่งแถว D ใน zone กลางติดทางเดินซึ่งเป็นที่ดีระดับกลางแต่ก็อยู่หลังที่ดีมากแค่ 1 ตำแหน่งซึ่งมีคนจองก่อนแล้ว ข้อดีของที่ติดทางเดินคือเราจะ เราจะได้นอนหลับโดยไม่ไปเอนหาคนข้างๆ รวมถึงเข้าออกห้องน้ำสะดวกค่ะ

3. เตรียมการสื่อสารต่างประเทศให้ใช้ได้ 100% สำคัญมาก*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. สำหรับลูกค้าแบบรายเดือน เพียงทำการสมัครบริการมิ่งกับทรูมูฟ เอช ก็สามารถใช้งานโรมมิ่ง ได้ตามค่าบริการที่แจ้งข้างบน เมื่อถึงประเทศปลายทาง เพียงตั้งค่าการเลือกเครือข่ายด้วยตนเอง
( Manual network selection)  แล้วเลือกเครือข่ายที่แนะนำ ก็สามารถใช้งานโรมมิ่งได้เลยค่ะ *ห้ามค้นหาเครือข่ายแบบ Auto เด็ดขาด เพราะอาจไปจับเครือข่ายที่ TMH ไม่ได้เป็นพันธมิตรและจะแพงมากค่า
2. สำหรับลูกค้าแบบเติมเงิน หลังจากทำการสมัครบริการโรมมิ่งกับทรูมูฟเอชแล้ว ต้องเติมเงินให้เพียงพอกับการใช้งาน สามารถซื้อแพ็กเกจ Non-stop ดาต้าโรมมิ่ง ซึงมีทั้ง แบบ 1, 3, 5 ,7 วัน เริ่มต้นที่ 480บาท ต่อวัน โดยมีค่าบริการ โทรออก รับสาย SMS เหมือนแบบลูกค้ารายเดือนครับ   เครือข่ายที่เราแนะนำคือ Vodafone, Telefonica O2, Hutchinson 3 ค่ะ(ดิฉันอยู่ที่นั่นจะใช้ Verdafone สลับกับ Telefonica O2 และนี่คือข้อดีของ IR ที่จะเลือกและสลับเครือข่ายได้ เพราะบางจุด อีกเครือข่ายสัญญาณจะดีกว่าค่ะ)
3. Around the world sim เพียงซื้อซิมเติมเงินแบบ around the world ในราคา 199 บาท ใส่ซิมในเครื่อง ก็สามารถใช้งานโรมมิ่งได้ทันที โทรออก รับสาย SMS ในราคาที่ถูกกว่า ซิมเติมเงินทั่วไป ไปกลุ่มประเทศ ยุโรป โทรออกรับสาย นาทีละ 20บาท ส่งข้อความ นาทีละ 9บาท  เครือข่ายที่เราแนะนำคือ Vodafone, Telefonica O2, Hutchinson 3 ค่ะ4. Voice topping สำหรับคนเน้นโทร สามารถซื้อแพ็กเกจ voice topping แบบ 30 , 50 และ 100นาที  สำหรับประเทศกลุ่มยุโรป เริ่มต้นที่ นาทีละ 15 บาท  (ใช้งานในUK บนเครือข่าย Vodafone เท่านั้น)5. โปรโมชั่นใหม่สดๆร้อนๆ ฟรี 1 วัน Non-stop data roaming ให้ลูกค้าบุคคลธรรมดาแบบรายเดือน ที่มี Priceplan 499 (แพ็กเกจรายเดือน) ขึ้นไป สามารถสมัครรับสิทธิใช้งานดาต้าแบบไม่จำกัดฟรี 1 วัน ต่อเดือน เพียง กด*118*888# โทรออก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truemove-h.com/roaming
อ่านต่อและติดตาม version เต็มได้ที่ http://www.thiraphanv.blogspot.com

แก้ไขข้อความเมื่อ

1

7

ถูกใจให้พอยต์