ความแปลกของรัฐบาล คสช.

เมื่อวันพุธที่ 28 กันยายน 2559 เวลา 10.00 น. ทราบข่าวว่า
คณะอนุกรรมาธิการศาสนาฯ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติไม่เห็นชอบในการพิจารณา
ร่าง “พ.ร.บ.นมัสการ 4 สังเวชนียสถาน” โดยให้เหตุผลว่า “ชาวพุทธไม่จำเป็นต้องมี พ.ร.บ.ดังกล่าว”

ก่อนหน้านี้มีพระสงฆ์และชาวพุทธจำนวนมาก “คาดหวัง” ว่ารัฐบาล สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
จะพิจารณาอย่าง “เท่าเทียม” เหมือนกับบางศาสนาที่เขานำร่องมาก่อนแล้ว30 กว่าปี
เวลาเดินทางไปแสวงบุญแบบนี้ต้องมีตัวแทนขององค์กรศาสนาของเขาชัดเจน
มีกองทุนเงินสำรองจ่ายค่าที่พัก มีการอำนายความสะดวกทั้งเรื่องหนังสือเดินทาง
การตรวจสุขภาพ ทีมหมอ และการบริการสำหรับผู้แสวงบุญชาวไทยที่เดินทางไปปฎิบัติศาสนกิจ

ไม่ทราบเหตุผลลึกๆ ว่า คุณสมพร เทพสิทธา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการศาสนาฯ
ชุดนี้ปฎิเสธเพราะอะไร?!? คำว่า “ชาวพุทธไม่จำเป็นต้องมี พ.ร.บ.ดังกล่าว”  
หากไม่มีคนแหย่หรือคนสั่ง ด้วยวัยวุฒิคุณวุฒิ และภูมิความรู้อย่างประธานคณะอนุกรรมาธิการชุดนี้
คงไม่ปฎิเสธแบบสิ้นใยไมตรีเช่นนี้

วัดพุทธรับบริจาค...โดนตั้งข้อหาฟอกเงิน ยักยอกทรัพย์ รับของโจร รุกป่า ยึดที่คืน จับพระติดคุก
ห้ามรับบริจาค  ชาวพุทธขอไปสังเวชนียสถาน โดนฉีก พรบ. ทิ้ง ไม่มีเยื่อใย
อิสลามขอตั้งมัสยิต 3 แห่งต่อจังหวัด อนุมัติทันที แถมงบก่อสร้างจาก อบต. ให้เสร็จสรรพ
ธนาคารอิสลามมีหนี้เสียเกือบ 50,000 ล้านบาท
รัฐอนุมัติงบช่วยเหลือทันที 47,000 ล้านบาท ไม่มีลังเล
แถมเพิ่มเงินลงทุนให้อีก 3,000 ล้านบาท
สถานการณ์แบบนี้คือ โดนยึดหมดทั้งอำนาจการเมือง อำนาจการเงิน อำนาจการทหาร
อำนาจการศึกษา อำนาจการเผยแผ่ศาสนา และอำนาจการปกครองท้องถิ่นใช่หรือไม่
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
จะไปไหนหรือไม่ไปไหนก็ช่าง   แต่ว่าชาวพุทธเอานี่ก่อนดีไหมครับ ทำเมืองไทยไห้เป็นเมืองพุทธซ๊ะก่อนดีไหมครับ  ปลอดคนเมา ปลอดจากซ่อง ปลอดจากบ่อน ปลอดโจรขโมยต่างๆ ปลอดจากรูปปั้นสี่มือเเปดหัวทั้งหลาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่