จากทู้
http://pantip.com/topic/35647798
ที่คุณชุนเทียนเล่าเรื่องพบปะกินกาแฟกินหนมกับคุณเพชรน้ำนิล
และคุณเพชรน้ำนิลให้จี้สร้อยคอเป็นของฝากที่ระลึกในการได้พบเจอกัน
คุณชุนเทียนก็ดีใจ ใส่จี้ แล้วถ่ายภาพมาชว์ภาพทันที
ซึ่งผมได้เข้าไปบ่นในทู้นั้นนิดหน่อยแล้ว ว่า
แต่ก็ยังไม่สบายใจ จึงตั้งทู้นี้ระบายความขมขื่น
คือเรื่องเป็นอย่างนี้ครับ
จี้สร้อยคออันนี้ ที่เพชรน้ำนิลให้คุณชุนเทียน นี่ เป็นจี้สร้องคอต้นตระกูลผมครับ
ตกทอดมาจากย่าทวดถึงย่าทวด จนมาถึงย่า มาถึงแม่ผม
นับแล้ว เกือบสี่ร้อยปี ยุคศรีอยุธยาโน่นเลย
ตอนผมเป็นเด็ก จนถึงช่วงวัยรุ่น ผมจะมีปัญหาเรื่องคอเป็นผดผื่น คันคะเยอ
เป็นกลาก เกลื้อน หิด โดยไม่รู้สาเหตุ สารพัดหมอ สารพันยาก็รักษาไม่หาย
ก็แบบว่า เพื่อน ๆ วัยรุ่นมีแฟนกันหมด แต่ผมหน้าตาดีอย่างไร ก็ไม่มีแฟนนั่นแหละครับ
แม่ผมเลยคิดว่า ต้องใช้ไสยศาสตร์เข้าแก้
จึงเอาจี้สร้อยคอของต้นตระกูลมาทำพิธีบูชาอธิษฐาน ว่าให้ผมใส่แล้วจงหายจากหิด กลาก เกลื้อน ผดผื่นคัน
ได้ผลครับ
ผมใส่จี้เส้นนี้ไม่ถึงสามเดือน กลาก เกลื้อน หิด ผิดผื่น หายเรียบ
แต่พอถอด ก็เป็นขึ้นมาอีก พ่อหมอผู้ทำพิธีจึงบอกว่า
ห้ามถอด ต้องใส่ติดต่อกันอย่างน้อยห้าปี ห้ามเช็ด ห้ามถู ห้ามล้าง ห้ามทำความสะอาด เพราะมนต์จะเสื่อม
ผมก็ทำตาม ใสจี้ตัวนี้จนอายุ 25 ถึงได้ถอดเก็บ แบบไม่เช็ดไม่ล้างเพื่อรักษาความขลัง
แล้วผมก็หายจากอาการคอเป็นกลาก เกลื้อน หิด ผดผื่นคันอยางถาวรมาตั้งแต่บัดนั้น
ทีนี้ เมื่อปี 55 เดือนกุมภาพันธ์
ผมได้ไปร่วมมีทติ้ง โชว์ความหล่อเป็นครั้งแรกต่อสาธารณะ (ครั้งแรกและครั้งเดียว) ที่ห้องอาหารเพลิน วิภาวดี
ก็มีผู้อาวุโสสิบกว่าท่าน เช่น คุณปู่อภิวัฒน์ ป้าสาวเหลือน้อย คุณพี่มิชิ คุณพี่ tin99 อ้ายลุงคนอุบล ฯลฯ
รุ่นเด็กลงมาหน่อยก็มีคุณลมสบาย Sassykate เพชรน้ำนิล แอบมาซุ่ม แล้วก็สุดหล่อขวัญ
ผมนั่งข้าง ๆ ป้าสาวเหลือน้อย ฟังแกโม้มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งเรื่องเอเอฟคนนั้นคนนี้ไป คือป้าแกเป็นแควนควับเอเอฟน่ะครับ
นั่งตรงกันข้ามเยื้อง ๆ ก็คุณลมสบาย กับคุณเพชรน้ำนิล
ก็คุยกันไป กินกันไป ผมก็ซด jack daneil's กับคุณแอบมาซุ่มไป
ระหว่างนั้น ผมก็สังเกตเห็นลำคอเพชรน้ำนิลมีเกลื้อนขึ้นเป็นจุดเล็ก ๆ อยู่สองสามจุด
แต่ไม่กล้าทัก มองคอ มองอกอย่างเดียว ไม่ทักอะไร
ก็ผมคนหน้าตาดีมีมารยาทครับ
ผมก็เลยนึกถึงจี้สร้อยคอขึ้นมา คิดว่าน่าจะเอามาให้เพชรน้ำนิลใส่รักษาอาการเกลื้อน
แต่ยังไม่ได้กระซิบ ก็เกิดเหตุคั่นขึ้นมาเสียก่อน
คือวันนั้น
มีผู้ที่รู้จักผมอยู่สองคน คือคุณปู่อภิวัฒน์ กับคุณป้าสาวเหลือน้อย เพราะเคยพบกันมาก่อนแบบลับ ๆ วางแผนโค่นทักษิณด้วยกัน
คุณปู่อภิวัฒน์อำในวงมีทติ้งว่า ผมเป็นลูกน้องปู่ มาด้วยกัน ยังไม่บอกใครว่านี่แหละคือ สุดหล่อตระกองขวัญ
ในวงมีทติ้งวันนั้น มีการสนทนานินทาถึงล็อคอิน "ตระกองขวัญ" พอสมควร ก็ไม่นินทาอะไรหรอกครับ
นินทากันว่าผมเป็นนักวิชาการมั้ง หล่อจริงไหม คงหล่อมาก อะไรทำนองนั้นแหละครับ
ผมก็ได้แต่ซดเหล้ากลั้นยิ้ม
บ่ายคล้อย แล้วจู่ ๆ คุณปู่อภิวัฒน์ก็โพล่งแนะนำขึ้นมาดื้อ ๆ ว่า ความจริงแล้วไม่ใช่ลูกน้อง แต่คือตระกองขวัญ
ผมก็ลุกขึ้นยืนแบบชักจะเมา ๆ สวัสดีไปรอบเวที เอ๊ย รอบโต๊ะ แนะนำตัวอีกครั้ง
เท่านั้นแหละ เสียงกรี๊ดดดด.. ก็ลั่นห้อง
ลั่นมาจากคุณลมสบาย กับเพชรน้ำนิล
คุณลมสบายกรี๊ดว่า ทำใจไม่ได้ แล้ววิ่งออกจากห้องไปสงบจิตใจข้างนอก
ส่วนเพชรน้ำนิลกรี๊ดว่า เป็นไปไม่ได้ พร้อมทำหน้าเหรอ ๆ ว่า จริงเหรอ
สักแป๊บ คุณลมสบายกลับเข้ามา รินเหล้าเพียว ๆ ครึ่งจอก ซดวาบเดียวหายวับ
ทั้งที่ผมชวนดื่มในตอนแรก ปฏิเเสธว่าไม่กินเหล้า
ซดเหล้าแล้ว คุณลมสบายบอกว่า ช่วยให้ทำใจได้ขึ้นมาหน่อย
แหม๊ อะไรจะตื่นเต้นกับฟามหล่อผมขนาดนั้นก็ไม่รู้สิ
นั่นแหละครับ เพราะมีเหตุการณ์มาคั่นนี่แหละ ทำให้ผมไม่ได้บอกเพชรน้ำนิลเรื่องจี้สร้อยคอ
วันรุ่งขึ้น ด้วยความเป็นห่วงน้องนุ่งเกลื้อนกินคอ
ก่อนผมกลับ ผมก็เลยโทรไปนัดเพชรน้ำนิลว่า มากินข้าวเที่ยงกันได้ไหม มีอะไรจะให้ บ่าย ๆ พี่จะกลับ
เพชรน้ำนิลก็โอเค เลยนัดเจอกัน ที่ไหนผมก็ไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว จำได้แต่ว่าใกล้ ๆ หมอชิตมั้ง
พอมาเจอกัน เพชรน้ำนิลก็กินข้าวไป ผมก็ซดเบียร์ไทยของเราไป คุยสัพเพเหระกันไป
แล้วผมก็เข้าเรื่องจี้สร้อยคอ เล่าเรื่องให้ฟัง ท่าทางตอนนั้นเพชรน้ำนิลดีใจมาก
สงสัยเป็นเกลื้อนมานานแล้ว
จะซื้อต่อ ให้ราคาผมสามหมื่น แต่ผมไม่ยอมขาย ให้ฟรี
หล่ออย่างเดียวได้ไง ต้องมีน้ำใจด้วย
ผมก็ให้จี้สร้อยคอประจำตระกูลผมแก่เพชรน้ำนิลไป ย้ำว่าห้ามเช็ด ห้ามถู ห้ามล้าง ห้ามทำความสะอาดใด ๆ เด็ดขาด
ไม่งั้นความขลังจะเสื่อม
แล้วบ่ายวันนั้น ก็โบกมือลากัน และไม่ได้เจอกันอีกเลย
พอมารู้ว่าเพชรน้ำนิล เอาจี้ประจำตระกูลผมให้คุณชุนเทียนต่อ
ผมจึงรู้สึกสะเทือนใจมาก
คุณชุนเทียนครับ
ผมไม่ได้ตำหนิอะไรคุณชุนเทียนนะครับ ดีใจซะอีกที่เห็นคุณชุนเทียนใส่จี้รักษาหิด กลาก เกลื้อน ผดผื่นคันของผม
ดั่งคำว่า ของมีค่าย่อมควรคู่กับคนสวย
ยินดีครับ ไม่ได้โกรธเคือง
ใส่ไว้ตลอดไปนะครับ รับรองลำคอคุณชุนเทียนจะผุดผ่องเป็นยองใยไร้ผดผื่น กลาก เกลื้อน หิด ไม่กล้ำกราย
ผมรับประกันครับ
เฮ้ออ.. ได้ระบายแล้วก็รู้สึกโล่งงงง...
รอดูหงส์แดงถล่มหงส์ขาวแระ
กระทู้ระบายใจ เศร้ากับเรื่องจี้สร้อยคอที่เพชรน้ำนิล ให้คุณชุนเทียน คิดมากครับ เสียดาย แต่ไม่อยากได้คืนหรอกนะครับ
ที่คุณชุนเทียนเล่าเรื่องพบปะกินกาแฟกินหนมกับคุณเพชรน้ำนิล
และคุณเพชรน้ำนิลให้จี้สร้อยคอเป็นของฝากที่ระลึกในการได้พบเจอกัน
คุณชุนเทียนก็ดีใจ ใส่จี้ แล้วถ่ายภาพมาชว์ภาพทันที
ซึ่งผมได้เข้าไปบ่นในทู้นั้นนิดหน่อยแล้ว ว่า
แต่ก็ยังไม่สบายใจ จึงตั้งทู้นี้ระบายความขมขื่น
คือเรื่องเป็นอย่างนี้ครับ
จี้สร้อยคออันนี้ ที่เพชรน้ำนิลให้คุณชุนเทียน นี่ เป็นจี้สร้องคอต้นตระกูลผมครับ
ตกทอดมาจากย่าทวดถึงย่าทวด จนมาถึงย่า มาถึงแม่ผม
นับแล้ว เกือบสี่ร้อยปี ยุคศรีอยุธยาโน่นเลย
ตอนผมเป็นเด็ก จนถึงช่วงวัยรุ่น ผมจะมีปัญหาเรื่องคอเป็นผดผื่น คันคะเยอ
เป็นกลาก เกลื้อน หิด โดยไม่รู้สาเหตุ สารพัดหมอ สารพันยาก็รักษาไม่หาย
ก็แบบว่า เพื่อน ๆ วัยรุ่นมีแฟนกันหมด แต่ผมหน้าตาดีอย่างไร ก็ไม่มีแฟนนั่นแหละครับ
แม่ผมเลยคิดว่า ต้องใช้ไสยศาสตร์เข้าแก้
จึงเอาจี้สร้อยคอของต้นตระกูลมาทำพิธีบูชาอธิษฐาน ว่าให้ผมใส่แล้วจงหายจากหิด กลาก เกลื้อน ผดผื่นคัน
ได้ผลครับ
ผมใส่จี้เส้นนี้ไม่ถึงสามเดือน กลาก เกลื้อน หิด ผิดผื่น หายเรียบ
แต่พอถอด ก็เป็นขึ้นมาอีก พ่อหมอผู้ทำพิธีจึงบอกว่า
ห้ามถอด ต้องใส่ติดต่อกันอย่างน้อยห้าปี ห้ามเช็ด ห้ามถู ห้ามล้าง ห้ามทำความสะอาด เพราะมนต์จะเสื่อม
ผมก็ทำตาม ใสจี้ตัวนี้จนอายุ 25 ถึงได้ถอดเก็บ แบบไม่เช็ดไม่ล้างเพื่อรักษาความขลัง
แล้วผมก็หายจากอาการคอเป็นกลาก เกลื้อน หิด ผดผื่นคันอยางถาวรมาตั้งแต่บัดนั้น
ทีนี้ เมื่อปี 55 เดือนกุมภาพันธ์
ผมได้ไปร่วมมีทติ้ง โชว์ความหล่อเป็นครั้งแรกต่อสาธารณะ (ครั้งแรกและครั้งเดียว) ที่ห้องอาหารเพลิน วิภาวดี
ก็มีผู้อาวุโสสิบกว่าท่าน เช่น คุณปู่อภิวัฒน์ ป้าสาวเหลือน้อย คุณพี่มิชิ คุณพี่ tin99 อ้ายลุงคนอุบล ฯลฯ
รุ่นเด็กลงมาหน่อยก็มีคุณลมสบาย Sassykate เพชรน้ำนิล แอบมาซุ่ม แล้วก็สุดหล่อขวัญ
ผมนั่งข้าง ๆ ป้าสาวเหลือน้อย ฟังแกโม้มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งเรื่องเอเอฟคนนั้นคนนี้ไป คือป้าแกเป็นแควนควับเอเอฟน่ะครับ
นั่งตรงกันข้ามเยื้อง ๆ ก็คุณลมสบาย กับคุณเพชรน้ำนิล
ก็คุยกันไป กินกันไป ผมก็ซด jack daneil's กับคุณแอบมาซุ่มไป
ระหว่างนั้น ผมก็สังเกตเห็นลำคอเพชรน้ำนิลมีเกลื้อนขึ้นเป็นจุดเล็ก ๆ อยู่สองสามจุด
แต่ไม่กล้าทัก มองคอ มองอกอย่างเดียว ไม่ทักอะไร
ก็ผมคนหน้าตาดีมีมารยาทครับ
ผมก็เลยนึกถึงจี้สร้อยคอขึ้นมา คิดว่าน่าจะเอามาให้เพชรน้ำนิลใส่รักษาอาการเกลื้อน
แต่ยังไม่ได้กระซิบ ก็เกิดเหตุคั่นขึ้นมาเสียก่อน
คือวันนั้น
มีผู้ที่รู้จักผมอยู่สองคน คือคุณปู่อภิวัฒน์ กับคุณป้าสาวเหลือน้อย เพราะเคยพบกันมาก่อนแบบลับ ๆ วางแผนโค่นทักษิณด้วยกัน
คุณปู่อภิวัฒน์อำในวงมีทติ้งว่า ผมเป็นลูกน้องปู่ มาด้วยกัน ยังไม่บอกใครว่านี่แหละคือ สุดหล่อตระกองขวัญ
ในวงมีทติ้งวันนั้น มีการสนทนานินทาถึงล็อคอิน "ตระกองขวัญ" พอสมควร ก็ไม่นินทาอะไรหรอกครับ
นินทากันว่าผมเป็นนักวิชาการมั้ง หล่อจริงไหม คงหล่อมาก อะไรทำนองนั้นแหละครับ
ผมก็ได้แต่ซดเหล้ากลั้นยิ้ม
บ่ายคล้อย แล้วจู่ ๆ คุณปู่อภิวัฒน์ก็โพล่งแนะนำขึ้นมาดื้อ ๆ ว่า ความจริงแล้วไม่ใช่ลูกน้อง แต่คือตระกองขวัญ
ผมก็ลุกขึ้นยืนแบบชักจะเมา ๆ สวัสดีไปรอบเวที เอ๊ย รอบโต๊ะ แนะนำตัวอีกครั้ง
เท่านั้นแหละ เสียงกรี๊ดดดด.. ก็ลั่นห้อง
ลั่นมาจากคุณลมสบาย กับเพชรน้ำนิล
คุณลมสบายกรี๊ดว่า ทำใจไม่ได้ แล้ววิ่งออกจากห้องไปสงบจิตใจข้างนอก
ส่วนเพชรน้ำนิลกรี๊ดว่า เป็นไปไม่ได้ พร้อมทำหน้าเหรอ ๆ ว่า จริงเหรอ
สักแป๊บ คุณลมสบายกลับเข้ามา รินเหล้าเพียว ๆ ครึ่งจอก ซดวาบเดียวหายวับ
ทั้งที่ผมชวนดื่มในตอนแรก ปฏิเเสธว่าไม่กินเหล้า
ซดเหล้าแล้ว คุณลมสบายบอกว่า ช่วยให้ทำใจได้ขึ้นมาหน่อย
แหม๊ อะไรจะตื่นเต้นกับฟามหล่อผมขนาดนั้นก็ไม่รู้สิ
นั่นแหละครับ เพราะมีเหตุการณ์มาคั่นนี่แหละ ทำให้ผมไม่ได้บอกเพชรน้ำนิลเรื่องจี้สร้อยคอ
วันรุ่งขึ้น ด้วยความเป็นห่วงน้องนุ่งเกลื้อนกินคอ
ก่อนผมกลับ ผมก็เลยโทรไปนัดเพชรน้ำนิลว่า มากินข้าวเที่ยงกันได้ไหม มีอะไรจะให้ บ่าย ๆ พี่จะกลับ
เพชรน้ำนิลก็โอเค เลยนัดเจอกัน ที่ไหนผมก็ไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว จำได้แต่ว่าใกล้ ๆ หมอชิตมั้ง
พอมาเจอกัน เพชรน้ำนิลก็กินข้าวไป ผมก็ซดเบียร์ไทยของเราไป คุยสัพเพเหระกันไป
แล้วผมก็เข้าเรื่องจี้สร้อยคอ เล่าเรื่องให้ฟัง ท่าทางตอนนั้นเพชรน้ำนิลดีใจมาก
สงสัยเป็นเกลื้อนมานานแล้ว
จะซื้อต่อ ให้ราคาผมสามหมื่น แต่ผมไม่ยอมขาย ให้ฟรี
หล่ออย่างเดียวได้ไง ต้องมีน้ำใจด้วย
ผมก็ให้จี้สร้อยคอประจำตระกูลผมแก่เพชรน้ำนิลไป ย้ำว่าห้ามเช็ด ห้ามถู ห้ามล้าง ห้ามทำความสะอาดใด ๆ เด็ดขาด
ไม่งั้นความขลังจะเสื่อม
แล้วบ่ายวันนั้น ก็โบกมือลากัน และไม่ได้เจอกันอีกเลย
พอมารู้ว่าเพชรน้ำนิล เอาจี้ประจำตระกูลผมให้คุณชุนเทียนต่อ
ผมจึงรู้สึกสะเทือนใจมาก
คุณชุนเทียนครับ
ผมไม่ได้ตำหนิอะไรคุณชุนเทียนนะครับ ดีใจซะอีกที่เห็นคุณชุนเทียนใส่จี้รักษาหิด กลาก เกลื้อน ผดผื่นคันของผม
ดั่งคำว่า ของมีค่าย่อมควรคู่กับคนสวย
ยินดีครับ ไม่ได้โกรธเคือง
ใส่ไว้ตลอดไปนะครับ รับรองลำคอคุณชุนเทียนจะผุดผ่องเป็นยองใยไร้ผดผื่น กลาก เกลื้อน หิด ไม่กล้ำกราย
ผมรับประกันครับ
เฮ้ออ.. ได้ระบายแล้วก็รู้สึกโล่งงงง...
รอดูหงส์แดงถล่มหงส์ขาวแระ