@@@@@---------- จ่ า ว่ า ถ้ า เ อ า ข อ ง เ ร า ไ ป เ ที ย บ กั บ ค น อื่ น แ ล้ ว........-----@@@@@

กระทู้สนทนา
ศาล รธน.ไทยนี่หากไปเทียบกับ ศาล รธน.ของประเทศอื่นแล้วต่างกันราวฟ้า กับ เหว

ล่าสุดวินิจฉัยให้ต้องมีการ
"ปรับเนื้อหาร่าง รธน.เพื่อให้สอดคล้องกับประชามติ"  
แต่คำวินิจฉัยที่ขาดความ "ชัดเจน" นั้น ทำให้ตีความกันไปคนละทาง 2 ทาง

(ศาล รธน.ไม่ใช่ศาลยุติธรรม
สิ่งที่ศาล รธน.มีมติออกมาจึงไม่ใช่ "คำพิพากษา" เป็นได้ก็แค่ "คำวินิจฉัย" เท่านั้นแหละ
ดังนั้นเรื่องจะ "เที่ยงธรรม" หรือไม่นั้นทุกคนสามารถตั้งคำถามได้โดยไม่ต้องกลัวข้อหา "หมิ่นศาล")

แทนที่จะพูดกันให้ขัดเจน
ศาล รธน.กะลาแลนด์กลับคลุมเครือ
คนส่วนหนึ่งก็ตีความว่า "ศาล รธน.ให้กลับไปแก้ไขร่าง รธน.เพื่อให้ สว.มีเอี่ยวเสนอชื่อนายกฯ"

ส่วนพวกโลกสวยก็ตีความว่า
"ศาล รธน.ไม่ได้พูดแบบนั้นซักหน่อย
ศาล รธน.แค่หวังดีว่าถ้าไม่สามารถเลือกนายกฯตามที่ สส.เสนอมาได้
ก็ค่อยให้ สว.มาร่วมเสนอชื่อในขั้นตอนต่อไป"

แต่ไม่ว่าจะตีความกันแบบไหน มันก็หนีไม่พ้นที่จะเพิ่มอำนาจให้กับ สว.(ที่มาจากการลากตั้ง) อยู่ดี

แหมมมม....
จะให้ทำไงได้ล่ะ
ก็ศาล รธน.ที่ฝังรากมานมนานของเรานั้น
มีที่มาที่ไปจากการแต่งตั้งขึ้นมาโดย "สนธิ บัง"

เป็นการแต่งตั้งตามประกาศฉบับที่ 3 ลงวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2549 (หลังยึดอำนาจ 1 วัน) แล้วก็แผ่พังพานต่อท่ออำนาจรากงอกกันมาจนถึงทุกวันนี้

โดยที่ไม่ได้มีอะไรที่ยึดโยงกับ "ประชาชน" เลยซักนิด !!!!!

เทียบกับของที่อื่นแล้วโคตรจะอายเลย
เพราะของบ้านเมืองอื่นเขายึดโยงกับ "ประชาชน" ทั้งนั้น

ศาล รธน.ของเยอรมัน
มาจากการเลือกตั้งโดยรัฐสภา และ ผู้แทนมลรัฐ
แล มีความเชื่อมโยงกับประชาชน เพราะทั้ง 2 ส่วนที่เลือกศาล รธน.เยอรมันนั้น
ล้วนแล้วแต่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนชาวเยอรมันตามระบอบประชาธิปไตย

ด้วยความที่เคยผ่านความเจ็บปวด
ในยุคที่ "ฮิตเล่อร์" ครองเมือง และ ใช้อำนาจแบบไม่อยู่ในข้อของกฏหมาย
ศาลรัฐธรรมนูญเมืองเบียร์จึงต้องทำหน้าที่แบบระมัดระวังโดยจะไม่มีการมั่วซั่ว








หน้าที่หลักๆที่เป็นไพออริตี้ของ "ตลก.เมืองเบียร์"
คือ การวินิจฉัยข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ

และ พวกเขาไม่เคยแสดงภูมิรู้
ในเรื่องของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
เพราะมันเป็นเรื่องของ "ฝ่ายบริหาร" ที่จะขับเคลื่อนประเทศ

เยอรมันจึงมีออโต้บาห์นดีๆให้สัญจร
มีขนส่งระบบรางที่เชื่อมต่อกับเพื่อนบ้าน
ไปจนถึงมีสนามบินที่ทันสมัยอยู่ในลำดับต้นๆของยุโรป

ศาลรัฐธรรมนูญของรัสเซีย
มีหน้าที่วินิจฉัยเรื่องของรัฐธรรมนูญที่ได้รับการร้องขอ
โดยที่คนที่มีสิทธิ์ยื่นร้องขอก็ต้องเป็นคนที่กฏหมายให้อำนาจไว้

เช่น ประธานาธิบดี , สส. , สว. , ฯลฯ
ไปจนถึงหน่วยงานที่ทำหน้าที่บริหารดินแดนที่รัสเซียปกครองอยู่
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าพวกเขาเป็น "สหพันธรัฐ" ที่มีเขตการปกครองมากมาย

แถมแต่ละแห่งก็ทะลึ่งมีสภานิติบัญญัติ
และ มีรัฐธรรมนูญเป็นของตนเองอีกต่างหาก









"ตลก.เมืองหมีขาว"
จะไม่มีทางที่จะทำงานมั่วซั่ว
ด้วยการปล่อยให้ใครหน้าไหนมาตีมึนยื่นเรื่องให้วินิจฉัยเหมือนกะลาแลนด์

เพราะรัฐธรรมนูญของพวกหมีขาวกำหนดชัดเจนว่าใครคือคนที่ "มีสิทธิ์" ยื่นคำร้องได้

ศาลรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส
จะมีองค์คณะทั้งหมด 9 คน
และ ทั้ง 9 คนนี้จะมี "ที่มา" ที่ยึดโยงกับประชาชน

เพราะประธานาธิบดีจะเป็นคนเลือกมา 3 คน
ประธานสภาผู้แทนราษฏรก็จะเลือกมา 3 คน
ส่วนอีก 3 คนที่เหลือจะเป็นหน้าที่ของ ประธานวุฒิสภา









ทั้ง ปธน. , ปธ.วุฒิ และ ปธ.สภาฯของเมืองน้ำหอม
ขึ้นมาทำหน้าที่ได้ก็เพราะได้รับการ "เลือกตั้ง" จากประชาชน
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าชนชาวน้ำหอมได้มอบฉันทามติผ่านทั้ง 3 คนนั้นในการเลือก "ตลก.เมืองน้ำหอม"

เพราะหลักการเบื้องต้นของประชาธิปไตย
ก็คือทุกคนมี 1 สิทธิ์เท่ากัน และ ควรที่จะได้ "ใช้สิทธิ์" นั้นโดยที่ไม่มีใครมา "คิดแทน"

ศาลรัฐธรรมนูญออสเตรีย
จะมีองค์คณะทั้งหมดจำนวน 14 คน
ทั้ง 14 คนก็ไม่ได้มาจาก "มดลูกของ คมช.ออสเตรีย"

เพราะดินแดนของ "โมสาร์ท" แห่งนี้ทหารเขาอยู่ในกรมกอง

ศาล รธน.ออสเตรียมาด้วยอำนาจที่เชื่อมโยงกับประชาชนชาว

เพราะ "รัฐบาลโมสาร์ท" จะเลือกมา 7 คน
และ "รัฐสภาโมสาร์ท" ก็จะเลือกมาอีก 7 คน








ทั้ง "รัฐบาล" และ "รัฐสภา"
ล้วนแล้วแต่มาจากการกาบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง
ของประชาชนที่เป็นลูกหลานของ "โวลฟ์กัง อมาเดอุส โมสาร์ท" กันทั้งนั้น

ส่วนประเทศมะกันก็ไม่น้อยหน้า
เพราะรัฐธรรมนูญของ "ลุงแซม" ก็มีบัญญัติไว้
ว่าให้ผู้พิพากษาของ The Supreme Court ทำหน้าที่เป็นศาลรัฐธรรมนูญ
โดยให้ Mr.President ที่มาจากการเลือกตั้งของอเมริกันชนเป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้ง









แต่ทั้งนี้ก็ยังจะต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา
ไม่ใช่ว่ามาจากการเลือกตั้งแล้วมาแต่งตั้งศาล รธน.แล้วจะได้เลยดั่งใจ

อเมริกากำหนดให้ประธานาธิบดี และ วุฒิสภา "คานอำนาจ" กันและกัน

แต่ทั้งประธานาธิบดี
และ วุฒิสภาของพวกลุงแซม
ล้วนแล้วแต่มาตามระบอบประชาธิปไตย โดยเสียงของประชาชน

ส่วนของเรานะเหรอ....หึหึหึ

ไม่ได้มาจากประชาชนยังไม่เท่าไร
แต่ดันมาใช้อำนาจวินิจฉัยแบบ "ขยายขอบเขต"
เพื่อให้อำนาจของพวกตัวเองครอบคลุมไปยังอำนาจ "บริหาร"  และ "นิติบัญญัติ"

แถลงคดีตอนเช้า และ ตัดสินตอนบ่าย ก็ทำมาแล้ว
ใช้ "พจนานุกรม" มาเปิดเพื่อไล่นายกฯที่ทำกับข้าวออกทีวี ก็ทำมาแล้ว
วินิจฉัยคดีในแบบที่ใช้ "ข้อกฏหมายนำหน้า ข้อเท็จจริงตามหลัง" ก็ทำมาแล้ว

ทำเป็นลอยตัวไม่รู้ไม่ชี้ ที่เมียตัวเองไปโกงคนอื่นจนเป็นคดีความ ก็ทำมาแล้ว
แอบเอาข้อสอบไปให้ลูกหลานญาติพี่น้องของมันอ่านก่อนที่จะเข้าสอบ ก็ทำมาแล้ว
นัดกันกินข้าวบ้าน "ไอ้หัวล้าน" ที่สุขุมวิมเพื่อวางแผนล้มรัฐบาลในปี 49 ก็ทำมาแล้ว

หน้าด้านปฏิบัติหน้าที่แบบไม่แคร์ ทั้งๆที่ตอนนั้นมีบางคนยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ก็ทำมาแล้ว
ทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน และ วิเคราะห์ความคุ้มหรือไม่คุ้มของโครงการรัฐ ก็ทำมาแล้ว
จ้างลูกชายเป็นเลขาฯ และ ให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยที่ให้รัฐจ่ายเงินเดือนตามปกติ ก็ทำมาแล้ว









ถ้า "เกาหลีเหนือ" จะตั้งศาลรัฐธรรมนูญ
"คิม จอง อึน" อาจต้องส่งคนมาดูงานที่ประเทศทุยแน่ๆ
เพราะคงไม่มีที่ไหนอีกแล้ว ที่ "ตุลาการ" มาจากแต่งตั้งโเยคนที่ไปยึดอำนาจเขามา

และ แต่งตั้งกันมาทำหน้าที่โดยที่ไม่ได้เห็นหัวประขาชนเจ้าของประเทศเลยซักนิด



จ่าพิเชษฐ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่