หลังจากที่เราได้ตีพิพม์บทความเกี่ยวกับโครงการเมกะโปรเจกต์สุดอลังของ Elon Musk กับ Elon Musk’s mission to Mars (ใครยังไม่ได้อ่าน คลิก) ทางเว็บไซต์ The verge ก็ได้ตีพิพม์บทความต่อเนื่องที่เขียนโดย Elizabeth Lopatto ในหัวข้อว่า Elon Musk’s ideas aren’t enough to turn humanity into a multi-planet species แปลได้ว่า ไอเดียของ Elon Musk นั้นยังไม่พอที่จะทำให้มนุษย์กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนหลายดวงดาว ซึ่งบทความนี้เรียกได้ว่าเป็นการปลุกมนุษยชาติให้ตื่นจากฝันหวานที่เสกโดย Elon Musk เลยทีเดียว
วีดีโอยาว 7 นาที 11 วินาที ได้ถูกแนบอยู่ในบทความดังกล่าวซึ่งดำเนินรายการโดย Loren Grush ได้พยายามจะโน้มน้าวให้ผู้ชมให้คล้อยตามว่าไอเดียของ Elon Musk จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่องลวงโลกอีกเรื่องหนึ่ง เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่มนุษย์จะสร้างอนานิคมบนดาวอังคาร โดยในวีดีโอยังได้สัมภาษณ์ Bill Nye (CEO of The Planetary Society) and Will Pomerantz (VP Special Projects, Virgin Galactic) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถืออีกด้วย
บทความยังคงพร่ำพรรณาต่อไปถึงเรื่องความผิดพลาดต่างๆที่เป็นไปได้ในโครงการของ Musk ซึ่ง รีวิวฝรั่ง ได้ย่อสรุปเนื้อหาสำคัญๆของบทความที่ว่ามาให้อ่านกัน
“ฉันเป็นคนมองโลกในแง่บวกนะ ฉันอยากให้ Elon Musk แสดงให้เห็นถึงแผนการที่แข็งแรงพร้อมด้วยแผนการเงินและแผนการเอาชีวิตรอดบนนั้น ฉันหวังว่าเขาจะพูดจนเพื่อนที่รวยๆของเขายอมควักเงินเพื่อสนับสนุนแผนการยีดดาวอังคาร ฉันอยากให้ฝันนั้นเป็นจริง
แต่ก็นะ พวกมองโลกในแง่ดีมักจะผิดหวังตลอดนั่นแหละ และเมื่อฉันฟัง Musk พูดถึงเรื่องราคาตั๋วท่ีจะต่ำกว่า 200,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐต่อคนแล้วนะ ฉันผิดหวังเลยแหละ เพราะว่าตัวเลขนั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย”
Lopatto ยังพูดต่อไปอีกว่า “Musk ปัญหาเรื่องการอยู่อาศัย ‘เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆทางชีวภาพ’ (Musk ใช้คำว่า soft, messy biology problems) แต่ฉันมองว่าไอ้เรื่องเล็กๆน้อยๆทางชีวภาพนี่แหละเป็นเรื่องที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุด อวกาศมันไม่เหมาะกับชีวภาพของมนุษย์ ระบบการหายใจของเรา ระบบการมองเห็นของเรา ระบบการเคลื่อนไหวของเรามีปัญหาในที่แรงโน้มถ่วงต่ำ เรามีปัญหากับรังสี เราต้องกิน เราต้องขับถ่าย เราต้องหายใจ
Musk กำลังหลบเลี่ยงปัญหาใหญ่ เขาบอกว่าเขาแค่ต้องการสร้างระบบขนส่ง คนอื่นๆจะช่วยกันแก้ปัญหาที่เหลือเอง แต่ปัญหาเรื่องชีวภาพมันควรจะเกี่ยวเนื่องกับระบบขนส่งไม่ใช่หรือ มันคงไม่ใช่รถไฟที่ดีนะถ้าผู้โดยสารทุกคนตายเมื่อตอนไปถึงน่ะ”
Lopatto ใช้ประโยคว่า:
“A TRAIN DOESN’T WORK VERY WELL IF ITS PASSENGERS ARRIVE AT THEIR DESTINATION DEAD”
“ปัญหาใหญ่ของเรื่องราคามันไม่ใช่ค่าขนส่งหรอก แต่มันเป็นต้นทุนจากการสร้างระบบให้มนุษย์เอาชีวิตรอดบนนั้นได้มากกว่า การสร้างเทคโนโลยีเพื่อซัพพอร์ตการเอาตัวรอดขั้นพื้นฐานมันราคาแพงมากนะ นี่คือเหตุผลว่าทำไมราคาประเมินเบื้องต้นของการไปดาวอังคารมันถึงได้สูงเป็นพันๆล้านเหรียญยังไงล่ะ”
ซึ่งก็แน่นอนแหละ เล่นออกตัวแรงขนาดนี้ กระแสชาวเนตเลยตีกลับพัลวันเลย คอมเมนต์จากฝรั่งเป็นยังไง รีวิวฝรั่ง รวบรวมจากเฟซบุคของ The Verge มาให้ดูเรียบร้อยแล้ว
e
Roberto Carlos Rebelo Pareira: “แค่กระทู้ระบายความแค้นเท่านั้นแหละ เพราะ Musk ไม่ยอมตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องรังสีของ The Verge ในงานแถลงเมื่อวาน ใครๆก็รู้ทั้งนั้นแหละ ว่า Musk คงไม่พูดในรายละเอียดปลีกย่อยในงานนี้แน่ๆ มันเป็นงานเพื่อที่จะแสดงไอเดียกว้างๆว่าเราจะไปดาวอังคารกันได้ยังไงและใช้เวลาเท่าไร คร่าวๆ ซึ่งมันเป็นโปรเจกต์ที่ใช้เวลาเป็น 10 ปี อย่างน้อยๆ และในระหว่างนี้มันก็จะมีรายละเอียดโดนปล่อยออกมามากมาย ผมเชื่อในตัว Musk นะเพราะว่าเขาทำในสิ่งที่เขาพูดได้ตลอดแหละ”
Joel Reyna: “ใช่แล้ว! เดี๋ยวรัฐบาลกับเอกชนก็ร่วมมือกันในที่สุด”
Sam Christopher Cornwell: “6 ปีจนกว่าจะถึงวันเดินทาง 2022 จะเป็นปีที่จรวดเริ่มบิน (ใช่ ผมรู้ดีกว่า Musk ชอบเลทเสมอๆแหละ)”
Maarten Bressinck: “อย่ามาตลก เราคงไม่หวังให้ SpaceX แก้ปัญหาทุกอย่างให้เราอยู่แล้วป่ะ!? แค่ดู tag line ของ Google กูรู้แล้ว เค้าบอกว่าเค้าสร้างจรวดอย่างเดียว มันแปลว่า เค้าเก่งเรื่องการสร้างจรวด ก็ให้เค้าสร้างไปดิวะ สร้างยานพาหนะที่จะพาเราไป ส่วนเรื่องที่อยู่อาศัยหรือปัญหาอื่นๆก็ให้บริษัทที่เค้าถนัดเรื่องๆนั้นๆทำไป หรือไม่ เดี๋ยว NASA ก็ทำเอง (ซึ่ง NASA ก็เริ่มสร้างตัวต้นแบบของบ้านบนดาวอังคารไว้แล้ว) SpaceX คนเดียวทำไม่ไหวหรอก โปรเจกต์ใหญ่ขนาดนี้ มันต้องร่วมมือกันทั้งโลก!”
Luke Williams: “ผมไม่ได้อยากพูดนะ แต่ไอ้บทความนี้มันทำให้ผมต้องพูดแล้วแหละ
ผมดูแถลงข่าวทั้งหมด แล้วก็มั่นใจมากๆว่าพรีเซนเทชั่นไม่ได้โดนออกแบบมาให้ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดของการพจญภัยในครั้งนี้ เอาจริงๆผมไม่คิดว่าคุณดูแถลงข่าวอันเดียวกับผมด้วยซ้ำ เพราะเนื้อหาของคุณมันไม่ตรงกับจุดประสงค์และสิ่งที่ Musk พูดไว้เลย
Elon Musk ไม่ได้เพิกเฉยต่อเรื่องอะไรเลย แต่การพรีเซนต์มันโดนออกแบบมาเพื่อพูดว่าบริษัทของเขาจะทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะการทดสอบเครื่องยนต์และการพัฒนาถังออกซิเจน
และ Musk ก็ไม่ได้พูดเล่นๆเกี่ยวกับเรื่องระบบเดินทางในระบบสุริยะ ระบบของเขามันถูกสร้างมาเพื่อจุดประสงค์นี้จริงๆ ความหมายอย่างเดียวของมันก็คือ ถ้าคุณมีระบบเดินทางนี้คุณจะไปที่ไหนก็ได้ในระบบสุริยะ แล้วมันก็เป็นแบบที่เขาพูดจริงๆ
ผมคิดว่าจุดประสงค์ของบทความนี้มันช่างโลกแคบสิ้นดี คุณต้องมองถึงโปรเจกต์อื่นที่ Musk ทำด้วยสิ Tesla ดูสิ่งที่เหมือนกันระหว่าง Tesla กับ SpaceX การสร้างสถานีจ่ายเชื้อเพลิงแบบเฉพาะ การนำสิ่งใหม่ๆสู่โลกของการขนส่งและอีกครั้งกับการนำคนไปดาวอังคาร”
Jonathan Kevin Zwick: “ความพยายามอย่างน่าสมเพชที่จะเขียนบทความสุดไฮเทค แต่ก็ยังกากอยู่ดีนะ The Verge อย่าเข้าใจผมผิด ไอเดียน่ะดี แต่ทีมของ The Verge ควรจะกลับไปเขียนพวกบทความเทคธรรมดาๆอ่ะแหละ ภาษาบ้านผมแบบนี้เขาเรียกว่า “อับอายขายขี้หน้าน่ะ””
Adrian Zuniga Espinoza: “ตอนนี้ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Lopatto น่ะ พูดถึงแผนของ Musk หรือของ Wernher von Braun กันแน่ ไอ้คนเขียนมันคงเมายาแน่ๆอ่ะที่คิดว่าเวลา ถาม-ตอบ สั้นๆแค่นี้จะให้มาพูดเรื่องป้องกันรังสี ประสาท!”
Zachary C Brown: “สำหรับคนที่อ่านเรื่อง Elon Musk จาก The Verge กากมาก เข้าไปใน Youtube แล้วดูเทปย้อนหลังไป แค่ 67 นาที แต่คุ้มทุกวินาทีจริงๆ!”
Clay Foody: “เมื่อคนรวยอาศัยอยู่บนดาวอังคาร และสนุกสนานกับอากาศและน้ำที่บริสุทธิ์สุดๆ Matt Damon จะลักลอบพาคนป่วยชาวโลกไปรักษาบนนั้นป่ะ?”
(แหน่ะ ไปกัดหนังเรื่อง Elysium อีก)
Marquavious Britt: “นี่มันคือการท่องอวกาศ ถ้าใครสักคนออกจากโลกเพื่อไปดาวดวงอื่นต้องทำใจไว้อยู่แล้วนะ ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง NASA ก็ไม่มีปัญญาจะช่วยคุณได้ คุณอาจจะตาย”
Besim Dervishi: “บทความสุดห่วย! สักพักแล้วแหละที่ผมเริ่มไม่ชอบบทความของ The Verge ผมตามอีเวนท์ของ SpaceX เมื่อวานและรู้ดีกว่ากำลังฟังอะไรอยู่ มีเวลาอีกเยอะที่จะเตรียมตัวเรื่องไปดาวอังคาร ผมเกลียดบทความนี้ของคุณจริงๆ”
Lachian Rowsell: “ดูเหมือนว่ามนุษย์โลกแคบจะมีเยอะเหลือเกิน หรือว่าต้องรออีก 500 ปีล่ะ ถึงจะเริ่มทำระบบนี้กัน”
Mike K Hector: “ผมมั่นใจว่ามากว่ามีคนตายมากมายหลายคนตอนที่ Columbus ค้นพบทวีปอเมริกา ซึ่งก็คงเหมือนตอนนี้แหละที่มนุษย์พยายามจะไปดาวอังคาร โรคระบาด การปฏิวัติ ความอดอยาก การจมน้ำตาย แต่คนก็ยังพยายามที่จะรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ในที่สุด เพราะถ้าไม่ทำอย่างงั้น คนทั้งหมดคงตายไปหมดแล้วแหละ เมื่อตอนเหตุการณ์โรคระบบบาดในอดีตที่ผ่านมาน่ะ
ใช่ รถไฟมันอาจจะพังสักสองสามครั้ง แต่ถ้าเราส่งรถไฟไปเรื่อยๆ มันก็จะถึงจุดหมายเองนั่นแหละ”
คำแปล: ถ้าไม่อยากสูญพันธุ์ก็ต้องยึดครองดาวดวงอื่นไปเรื่อยๆ เพื่อที่เราจะใช้ทรัพยากรให้หมดแล้วก็ย้ายดาวไปเรื่อยๆน่ะแหละ”
Yusri Saadun: “The Verge กาก!”
Martin Orliac: “The Verge แค่ต้องการทำเงินเท่านั้นแหละ! เชิญด่าได้ตามสบาย…”
ผมจะพยายามหาสิ่งที่น่าสนใจมาให้ชาวหว้ากออ่านอีกเยอะๆ น้า ถ้าอยากติดตามก็เชิญเลยฮะ >>
https://shopsmartly.co/headlines/review-elon-musk-mars-bashing-verge/ 
ขวางโลก! เว็บไซต์ดังตีพิพม์บทความเรื่อง Elon Musk’s Mars Mission ชาวเนตรุมสับเละ ไอ้โลกแคบ!
วีดีโอยาว 7 นาที 11 วินาที ได้ถูกแนบอยู่ในบทความดังกล่าวซึ่งดำเนินรายการโดย Loren Grush ได้พยายามจะโน้มน้าวให้ผู้ชมให้คล้อยตามว่าไอเดียของ Elon Musk จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่องลวงโลกอีกเรื่องหนึ่ง เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่มนุษย์จะสร้างอนานิคมบนดาวอังคาร โดยในวีดีโอยังได้สัมภาษณ์ Bill Nye (CEO of The Planetary Society) and Will Pomerantz (VP Special Projects, Virgin Galactic) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถืออีกด้วย
บทความยังคงพร่ำพรรณาต่อไปถึงเรื่องความผิดพลาดต่างๆที่เป็นไปได้ในโครงการของ Musk ซึ่ง รีวิวฝรั่ง ได้ย่อสรุปเนื้อหาสำคัญๆของบทความที่ว่ามาให้อ่านกัน
“ฉันเป็นคนมองโลกในแง่บวกนะ ฉันอยากให้ Elon Musk แสดงให้เห็นถึงแผนการที่แข็งแรงพร้อมด้วยแผนการเงินและแผนการเอาชีวิตรอดบนนั้น ฉันหวังว่าเขาจะพูดจนเพื่อนที่รวยๆของเขายอมควักเงินเพื่อสนับสนุนแผนการยีดดาวอังคาร ฉันอยากให้ฝันนั้นเป็นจริง
แต่ก็นะ พวกมองโลกในแง่ดีมักจะผิดหวังตลอดนั่นแหละ และเมื่อฉันฟัง Musk พูดถึงเรื่องราคาตั๋วท่ีจะต่ำกว่า 200,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐต่อคนแล้วนะ ฉันผิดหวังเลยแหละ เพราะว่าตัวเลขนั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย”
Lopatto ยังพูดต่อไปอีกว่า “Musk ปัญหาเรื่องการอยู่อาศัย ‘เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆทางชีวภาพ’ (Musk ใช้คำว่า soft, messy biology problems) แต่ฉันมองว่าไอ้เรื่องเล็กๆน้อยๆทางชีวภาพนี่แหละเป็นเรื่องที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุด อวกาศมันไม่เหมาะกับชีวภาพของมนุษย์ ระบบการหายใจของเรา ระบบการมองเห็นของเรา ระบบการเคลื่อนไหวของเรามีปัญหาในที่แรงโน้มถ่วงต่ำ เรามีปัญหากับรังสี เราต้องกิน เราต้องขับถ่าย เราต้องหายใจ
Musk กำลังหลบเลี่ยงปัญหาใหญ่ เขาบอกว่าเขาแค่ต้องการสร้างระบบขนส่ง คนอื่นๆจะช่วยกันแก้ปัญหาที่เหลือเอง แต่ปัญหาเรื่องชีวภาพมันควรจะเกี่ยวเนื่องกับระบบขนส่งไม่ใช่หรือ มันคงไม่ใช่รถไฟที่ดีนะถ้าผู้โดยสารทุกคนตายเมื่อตอนไปถึงน่ะ”
Lopatto ใช้ประโยคว่า:
“A TRAIN DOESN’T WORK VERY WELL IF ITS PASSENGERS ARRIVE AT THEIR DESTINATION DEAD”
“ปัญหาใหญ่ของเรื่องราคามันไม่ใช่ค่าขนส่งหรอก แต่มันเป็นต้นทุนจากการสร้างระบบให้มนุษย์เอาชีวิตรอดบนนั้นได้มากกว่า การสร้างเทคโนโลยีเพื่อซัพพอร์ตการเอาตัวรอดขั้นพื้นฐานมันราคาแพงมากนะ นี่คือเหตุผลว่าทำไมราคาประเมินเบื้องต้นของการไปดาวอังคารมันถึงได้สูงเป็นพันๆล้านเหรียญยังไงล่ะ”
ซึ่งก็แน่นอนแหละ เล่นออกตัวแรงขนาดนี้ กระแสชาวเนตเลยตีกลับพัลวันเลย คอมเมนต์จากฝรั่งเป็นยังไง รีวิวฝรั่ง รวบรวมจากเฟซบุคของ The Verge มาให้ดูเรียบร้อยแล้ว
e
Roberto Carlos Rebelo Pareira: “แค่กระทู้ระบายความแค้นเท่านั้นแหละ เพราะ Musk ไม่ยอมตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องรังสีของ The Verge ในงานแถลงเมื่อวาน ใครๆก็รู้ทั้งนั้นแหละ ว่า Musk คงไม่พูดในรายละเอียดปลีกย่อยในงานนี้แน่ๆ มันเป็นงานเพื่อที่จะแสดงไอเดียกว้างๆว่าเราจะไปดาวอังคารกันได้ยังไงและใช้เวลาเท่าไร คร่าวๆ ซึ่งมันเป็นโปรเจกต์ที่ใช้เวลาเป็น 10 ปี อย่างน้อยๆ และในระหว่างนี้มันก็จะมีรายละเอียดโดนปล่อยออกมามากมาย ผมเชื่อในตัว Musk นะเพราะว่าเขาทำในสิ่งที่เขาพูดได้ตลอดแหละ”
Joel Reyna: “ใช่แล้ว! เดี๋ยวรัฐบาลกับเอกชนก็ร่วมมือกันในที่สุด”
Sam Christopher Cornwell: “6 ปีจนกว่าจะถึงวันเดินทาง 2022 จะเป็นปีที่จรวดเริ่มบิน (ใช่ ผมรู้ดีกว่า Musk ชอบเลทเสมอๆแหละ)”
Maarten Bressinck: “อย่ามาตลก เราคงไม่หวังให้ SpaceX แก้ปัญหาทุกอย่างให้เราอยู่แล้วป่ะ!? แค่ดู tag line ของ Google กูรู้แล้ว เค้าบอกว่าเค้าสร้างจรวดอย่างเดียว มันแปลว่า เค้าเก่งเรื่องการสร้างจรวด ก็ให้เค้าสร้างไปดิวะ สร้างยานพาหนะที่จะพาเราไป ส่วนเรื่องที่อยู่อาศัยหรือปัญหาอื่นๆก็ให้บริษัทที่เค้าถนัดเรื่องๆนั้นๆทำไป หรือไม่ เดี๋ยว NASA ก็ทำเอง (ซึ่ง NASA ก็เริ่มสร้างตัวต้นแบบของบ้านบนดาวอังคารไว้แล้ว) SpaceX คนเดียวทำไม่ไหวหรอก โปรเจกต์ใหญ่ขนาดนี้ มันต้องร่วมมือกันทั้งโลก!”
Luke Williams: “ผมไม่ได้อยากพูดนะ แต่ไอ้บทความนี้มันทำให้ผมต้องพูดแล้วแหละ
ผมดูแถลงข่าวทั้งหมด แล้วก็มั่นใจมากๆว่าพรีเซนเทชั่นไม่ได้โดนออกแบบมาให้ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดของการพจญภัยในครั้งนี้ เอาจริงๆผมไม่คิดว่าคุณดูแถลงข่าวอันเดียวกับผมด้วยซ้ำ เพราะเนื้อหาของคุณมันไม่ตรงกับจุดประสงค์และสิ่งที่ Musk พูดไว้เลย
Elon Musk ไม่ได้เพิกเฉยต่อเรื่องอะไรเลย แต่การพรีเซนต์มันโดนออกแบบมาเพื่อพูดว่าบริษัทของเขาจะทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะการทดสอบเครื่องยนต์และการพัฒนาถังออกซิเจน
และ Musk ก็ไม่ได้พูดเล่นๆเกี่ยวกับเรื่องระบบเดินทางในระบบสุริยะ ระบบของเขามันถูกสร้างมาเพื่อจุดประสงค์นี้จริงๆ ความหมายอย่างเดียวของมันก็คือ ถ้าคุณมีระบบเดินทางนี้คุณจะไปที่ไหนก็ได้ในระบบสุริยะ แล้วมันก็เป็นแบบที่เขาพูดจริงๆ
ผมคิดว่าจุดประสงค์ของบทความนี้มันช่างโลกแคบสิ้นดี คุณต้องมองถึงโปรเจกต์อื่นที่ Musk ทำด้วยสิ Tesla ดูสิ่งที่เหมือนกันระหว่าง Tesla กับ SpaceX การสร้างสถานีจ่ายเชื้อเพลิงแบบเฉพาะ การนำสิ่งใหม่ๆสู่โลกของการขนส่งและอีกครั้งกับการนำคนไปดาวอังคาร”
Jonathan Kevin Zwick: “ความพยายามอย่างน่าสมเพชที่จะเขียนบทความสุดไฮเทค แต่ก็ยังกากอยู่ดีนะ The Verge อย่าเข้าใจผมผิด ไอเดียน่ะดี แต่ทีมของ The Verge ควรจะกลับไปเขียนพวกบทความเทคธรรมดาๆอ่ะแหละ ภาษาบ้านผมแบบนี้เขาเรียกว่า “อับอายขายขี้หน้าน่ะ””
Adrian Zuniga Espinoza: “ตอนนี้ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Lopatto น่ะ พูดถึงแผนของ Musk หรือของ Wernher von Braun กันแน่ ไอ้คนเขียนมันคงเมายาแน่ๆอ่ะที่คิดว่าเวลา ถาม-ตอบ สั้นๆแค่นี้จะให้มาพูดเรื่องป้องกันรังสี ประสาท!”
Zachary C Brown: “สำหรับคนที่อ่านเรื่อง Elon Musk จาก The Verge กากมาก เข้าไปใน Youtube แล้วดูเทปย้อนหลังไป แค่ 67 นาที แต่คุ้มทุกวินาทีจริงๆ!”
Clay Foody: “เมื่อคนรวยอาศัยอยู่บนดาวอังคาร และสนุกสนานกับอากาศและน้ำที่บริสุทธิ์สุดๆ Matt Damon จะลักลอบพาคนป่วยชาวโลกไปรักษาบนนั้นป่ะ?”
(แหน่ะ ไปกัดหนังเรื่อง Elysium อีก)
Marquavious Britt: “นี่มันคือการท่องอวกาศ ถ้าใครสักคนออกจากโลกเพื่อไปดาวดวงอื่นต้องทำใจไว้อยู่แล้วนะ ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง NASA ก็ไม่มีปัญญาจะช่วยคุณได้ คุณอาจจะตาย”
Besim Dervishi: “บทความสุดห่วย! สักพักแล้วแหละที่ผมเริ่มไม่ชอบบทความของ The Verge ผมตามอีเวนท์ของ SpaceX เมื่อวานและรู้ดีกว่ากำลังฟังอะไรอยู่ มีเวลาอีกเยอะที่จะเตรียมตัวเรื่องไปดาวอังคาร ผมเกลียดบทความนี้ของคุณจริงๆ”
Lachian Rowsell: “ดูเหมือนว่ามนุษย์โลกแคบจะมีเยอะเหลือเกิน หรือว่าต้องรออีก 500 ปีล่ะ ถึงจะเริ่มทำระบบนี้กัน”
Mike K Hector: “ผมมั่นใจว่ามากว่ามีคนตายมากมายหลายคนตอนที่ Columbus ค้นพบทวีปอเมริกา ซึ่งก็คงเหมือนตอนนี้แหละที่มนุษย์พยายามจะไปดาวอังคาร โรคระบาด การปฏิวัติ ความอดอยาก การจมน้ำตาย แต่คนก็ยังพยายามที่จะรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ในที่สุด เพราะถ้าไม่ทำอย่างงั้น คนทั้งหมดคงตายไปหมดแล้วแหละ เมื่อตอนเหตุการณ์โรคระบบบาดในอดีตที่ผ่านมาน่ะ
ใช่ รถไฟมันอาจจะพังสักสองสามครั้ง แต่ถ้าเราส่งรถไฟไปเรื่อยๆ มันก็จะถึงจุดหมายเองนั่นแหละ”
คำแปล: ถ้าไม่อยากสูญพันธุ์ก็ต้องยึดครองดาวดวงอื่นไปเรื่อยๆ เพื่อที่เราจะใช้ทรัพยากรให้หมดแล้วก็ย้ายดาวไปเรื่อยๆน่ะแหละ”
Yusri Saadun: “The Verge กาก!”
Martin Orliac: “The Verge แค่ต้องการทำเงินเท่านั้นแหละ! เชิญด่าได้ตามสบาย…”
ผมจะพยายามหาสิ่งที่น่าสนใจมาให้ชาวหว้ากออ่านอีกเยอะๆ น้า ถ้าอยากติดตามก็เชิญเลยฮะ >> https://shopsmartly.co/headlines/review-elon-musk-mars-bashing-verge/