** กระทู้นี้มีความไร้สาระสูง ถ้าไม่ชอบอ่านแพล่มเยอะๆ ชอบดูรูปสวยๆ เชิญปิดกระทู้
กราบสวัสดีผู้คนแถวนี้ทุกท่าน

อันตัวเค้านี่ก็เป็นนักเขียนโนเนมคนนึง เขียนนิยายวาย แต่ไม่ดัง เกิดอารมณ์เบื่อๆ เซ็งๆ อยากเก็บกระเป๋าหนีไปที่ไหนก็ได้สักที่กับเค้าบ้าง อยากโผล่หัวออกจากบ้านเลิกเป็นตุ่นรูง่ะ
ฮิตกันใช่มั้ยล่ะ?
จาออกปายแตะขอบฟ้าาาาาา
เดี๋ยวๆ! นั่นมันเม่าติดดอย ไม่ใช่เม่าท่องเที่ยว!
เราเคยมองดูผู้คนแล้วก็สงสัย ทำไมเค้าว้อนต์ไปเที่ยวกันจังฟร่ะ? การเที่ยวมันมีอะไรน่าสนุกเหรอ?
ไปเปิดหูเปิดตา ไปดูความศรีวิไลของทุกที่ในโลกยกเว้นกะลาแลนด์แดนบ้านเราที่โคตรซัก!
"ไออยากไปเป็นประชากรที่นั่นจัง อายเกลียดเมืองทาย" 
ไปเที่ยวแล้วก็ต้องถ่ายรูป เน้นคัดรูปสวยๆ โพสลงเฟซ ชวนเชื่อให้ทุกคนเห็นว่า
"แพลนท่องเที่ยวของไอสวยหรูนะยู อิจฉาไอปะล่ะ?"
เชื่อมั้ยกลับมาจากสิงคโปร์แล้วเรายังไม่ได้คำตอบเลย เราไม่รู้อยู่ดีว่าการท่องเที่ยวคืออะไร?
เราแค่ไปหาเพื่อน แต่เราก็ได้รู้ ได้เห็นบ้านเมืองอื่นๆ ผ่านสายตาตัวเอง สุดท้ายคือได้เรียนรู้ว่า
"ประเทศไทยแลนด์แดนที่ตรูเกิดมานี่แหละ อยู่ละมีความสุขที่สุดแล้ว เพราะเราคือคนไทย มันก็เหมาะกับแผ่นดินไทย"
"เที่ยว"คือไปเที่ยว แต่สถานที่ท่องเที่ยวไม่ใช่บ้าน ไม่มีใครเรียกโรงแรมหรือที่พักข้างทางว่า"บ้าน"หรอกจริงมั้ย?
แต่ถ้ามีคนที่
#ไม่เคยออกไปไหน #ไม่กล้าไปเที่ยวต่างประเทศ #อยากไปไหนใกล้ๆ รวมถึง
#พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้วกำลังอยากแพ็กกระเป๋าไปที่ไหนสักที่ละก็
สิงคโปร์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะ
แต่เปล่าหรอก อันที่จริงเราก็ไม่ได้เลือกไปสิงคโปร์เพราะเหตุผลเท่ๆ คูลๆ พวกนั้นหรอก เราปักธงที่นี่เพราะ "เพื่อน" เพื่อนของเราทำงานที่นั่นน่ะ แหะๆ
แต่กระนั้น การที่มนุษย์ป้าคนหนึ่งซึ่งค้านต์สปีกอิงลิชจะไปเที่ยวต่างประเทศมันก็ชวนกังวลนิดหนึ่งล่ะ ละไหนจะยัยเพี้ยนคนนี้ดันเป็นโรคกลัวเครื่องบินค่อนข้างมากอีกต่างหาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จะบอกว่าอาการกลัวเครื่องบินเนี่ย เป็นปัญหาใหญ่ของเราเลย ทำให้เราไม่กล้าก้าวขาออกจากบ้านไปไหน กระทั่งไปแม่ฮ่องสอนเรายังเลือกนั่งรถทัวร์เล้ย! แถมยังนั่งกินข้าวมันไก่ในรถโดยไม่รู้สึกวิงเวียนด้วยนะ เพราะครั้งแรกที่ไปละต่อเครื่องจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนด้วยเครื่องบินเล็กอะ อ้วกแตก!
หลายๆ คนพูดว่า "โด่ว์ ความจริงมันไม่มีอะไรหรอก นั่งหลายๆ ครั้งเดี๋ยวก็ชิน" บางคนก็ชอบเปรียบว่า "คนตายเพราะรถชนเยอะกว่าคนตายเพราะเครื่องบินนะยู!" คือ... อย่างน้อยรถมันยังอยู่บนพื้นไง ในยามที่เรานั่งอยู่หลังพวงมาลัย จะเป็นจะตายมันก็เกิดจากการควบคุมของเราเอง ขอบอกเลยว่าตอนที่ตัวเองรถคว่ำเรายังมีสติกว่าตอนขึ้นเครื่องบิน! สามารถมุดออกจากรถมาเช็กอาการคนข้างๆ ละโทรเรียกประกันได้
แต่ตอนขึ้นเครื่องนะ คิดแต่ว่าเครื่องจะตกทุก 3 วิ! พอเริ่มเห็นแผ่นดิน เห็นผืนน้ำ ใจก็ไพล่คิดไปว่า "ถ้าเครื่องบินตกจากความสูงระดับนี้จะตายมั้ย?" วินาทีที่เครื่องแลนดิ้งที่ชางกี น้ำตาไหลออกมาแบบ "อา... ตรูรอดแล้ว!" เข้าใจอารมณ์คนที่รอดตายแล้วซาบซึ้งกับคุณค่าของชีวิตเลย! ยิ่งตอนขากลับไทยนะ ฝนตก มีพายุ เครื่องสั่น อื้อหือ! นั่งร้องไห้ตลอดทาง กลัวมากๆ ร้องวรนุชๆๆๆๆๆในใจแทนพุทธโธเชียวแหละ! 
แต่เราก็พยายามบอกตัวเองว่า ถ้าเราผ่าน 2 ชั่วโมงแค่นี้ไปไม่ได้ ความฝันที่จะไปโอไดบะของเราคงจบ
และแล้วเราก็จองตั๋วเครื่องบิน ไปกับ JetSTAR น้ำหนักกระเป๋าเลือกที่15กิโล รวมๆ ค่าโดยสารแล้ว 48XX฿ แต่เดี๋ยวก่อน! ตอนจะจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต อีก 400 บาทค่าบริการการใช้บัตรเครดิตมาจากไหนละว้อย! ไม่มีช่องทางอื่นให้จ่ายเงินค่าตั๋วด้วย นอกจากเจ็ตวัลเชอร์อะไรสักอย่าง ... สรุปเสียไปห้าพันสาม!

แต่เนื่องด้วยว่า เราไปหาเพื่อน ด้วยความคิดถึงกะความเป็นบ้าหอบฟางของเราเอง ก็เลยแพ็กของเยอะไปหน่อย ทั้งน้ำพริกทำเอง น้ำจิ้มรสแซ่บๆ แจ่วแบบขวด เครื่องแกงยี่ห้อต่างๆ ยำยำสามแพ็ก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก มะนาว กะเพรา และของฝากซื้ออื่นๆ ตอนเช็กอินออนไลน์เลยยอมจ่ายเงินซื้อน้ำหนักเพิ่มเป็น 20 กิโล อีก 475 บาท เพราะไม่งั้น ไปโดนน้ำหนักเกินกิโลกรัมละ 600 บาท!
**ถ้าใครของเยอะ ควรเช็กให้ดีนะ ทั้งราคาน้ำหนักเกิน กับราคาซื้อน้ำหนักเพิ่ม อันไหนคุ้มกว่ากัน ไม่งั้นเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายเน้อ**
ของทุกอย่างถึงที่นู้น ไม่โดนโยนทิ้งแหละ เปิดกระเป๋าออกมา ไม่เน่าด้วย เหอๆ

เค้าเดินเข้าช่องเขียว ชิลๆ
และแล้วก็มาถึงแผนเที่ยว บอกเพื่อนว่าจะไปหา 3 วัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ไม่มีอะไรพิเศษ ขอแค่ 3 อย่าง
1.ไก่มิชลิน 2.Chewy Junior 3.garden by the bay ต้องได้ครบ ส่วนข้อ
4.ซื้อรองเท้าให้แฟน 5.กระเป๋าเซลล์70% ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ช่าง เพราะขึ้นกับราคาของ เพื่อนเลยส่งแผนมาให้ ตามนี้
จากที่เห็นแผน ตอนแรกโคตรกังวลเลย
"มันจะแน่นไปมั้ยวะ?" เห็นเวลามีคนตรวจการบ้านไปเที่ยวสิงคโปร์ที่ไร จะมีคำขู่แบบ
"ไม่ทัน ตารางแน่นไป"
จากการไปสัมผัสมาด้วยตัวเองแล้วขอบอกว่า
"ถ้า(ขา)คุณไหว คุณทำได้!" เพราะสิงค์โปร์มันเป็นเกาะเล็กๆ ที่นั่งรถวนแล้วใกล้กว่าบางกะปิไปบางบอนซะอีก! (เพราะรถไม่ติดเหมือนเมืองไทย) แต่ถ้าคุณเป็นมนุษย์แคปเจอร์ จ้องจะเก็บแสง ตั้งกล้องรอบรรยากาศสวยๆ อาจไม่สามารถ แต่ถ้าแค่อยากไปดูแลนด์มาร์ก มันก็ทำได้ครบอยู่นา
การไปครั้งนี้ เราแลกเงินไป 600$ ตกราวๆ 25.7฿ = 1$ ราวๆหมื่นห้าได้ เงินเหลือกลับมานะ เกือบร้อยสิงค์ดอลแน่ะ
แต่ถ้าจะหากระทู้
อวดเที่ยวถูกเที่ยวคุ้มใช้เงินน้อย คงต้องผ่านกระทู้เราไป พอดีมันมีปัจจัยที่เรียกว่า
"เพื่อน"เป็นตัวแปรง่ะ
แต่เราสัญญาว่าจะลงราคาข้าวของต่างๆ เท่าที่เราจำได้ โดยเฉพาะค่ากินร้านต่างๆ เพื่อที่คนอื่นจะได้ดูไว้เป็นแนวทาง เหอๆ
มาเริ่มกันที่หน่วยเงินสิงคโปร์กันก่อนเลย
เวลาไปร้านแลกเงินครั้งแรก เห็นเรตต่างกันใช่มั้ย 100-1000 กะ 2-50 ???

แลกอันถูกนะทุกท่าน เพราะส่วนใหญ่เค้าก็ใช้กันแค่แบงก์10แบงก์50กันทั้งนั้น (50$ ก็เท่ากะ 12XX แล้วนะจ๊ะ ปลิวหายทีก็ร้องไห้แล้ว!)
ใบละ100นี่ไม่ค่อยมีใครใช้ อารมณ์พกแบงก์พันบ้านเราอะ ยิ่ง 1000$ นี่คือเศรษฐีเลยแหละถ้าเอาออกมาใช้ (เพื่อนบอก)

แต่เค้าจะมีแบงก์ 2$ ด้วยที่ใช้บ่อยๆ จับจ่ายคล่องดี เวลาซื้อข้าวซื้อน้ำถูกๆ ก็จะจ่ายแบงก์พวกนี้ละได้ทอนมาเป็นเหรียญ
พูดถึงเหรียญแล้วเห็นเหรียญคล้ายๆ เหรียญสิบด้านซ้ายบนมั้ย? ที่มีสีทองๆ นั่นคือ 1$(สิงคโปร์) นะ
อีกสองอันคือ "cents" ราคา 10 กะ 20 ตามหน้าเหรียญ 100cents ก็เท่ากับ 1$
จะได้ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมป้ายราคาที่สิงคโปรชอบขายของเป็น "." ตั้งแต่ 1.5 1.6 1.8 X.9 เค้าจะทอนเหรียญพวกนี้มาแหละ
โอเค เตรียมความพร้อมจากประเทศไทยแล้ว ลุยได้! ออกเดินทางกันเลย!
ฮะ! ที่เองแพล่มมาทั้งหมดนั้นยังไม่มีส่วนของรีวิวประเทศสิงคโปร์สักนิดเลยเหรอ?

แหะๆ ... เค้าบอกแย้ว เค้าพูดมาก ถ้าไม่ชอบรีวิวสไตล์เกรียนๆ พล่ามเยอะ รูปน้อยแถมยังถ่ายไม่สวย ก็อย่าสนใจกระทู้เค้าเลย

แต่ถ้าอยากเห็นสิงคโปร์ในมุมแปลกๆ แบบที่กระทู้รีวิวสิงคโปร์ฮิปๆ สวยๆ กระทู้อื่นเค้าไม่ทำกันละก็รอติดตามได้เลย

รับรอง รูป(ไร้สาระ)เยอะ เนื้อหาก็เยอะ(มีแต่น้ำ)
มันควรจะฝากเพจทิ้งท้ายใช่มั้ย? ควรใช่มั้ย? ใครๆ เค้าก็ทำกัน เราก็ควรทำใช่มั้ย?
จะฝากไปทำไมเล่าไม่ได้เป็นนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาปั่นราคาตัวเองผ่านกระทู้รีวิวท่องเที่ยวเพื่อที่วันนึงจะได้ขายทัวร์
โว๊ะ!
ไปเองด้วยเงินทุกบาททุกสตางค์ของตัวเองด้วย ไม่ได้มีคนมาจ้างให้ไปซะหน่อย! ถ่ายรูปไม่สวยแบบนี้ไม่ต้องฝากเพจหรอก อีกร้อยชาติก็ไม่มีใครมาจ้างไปเที่ยว!
...
จขท. มันทิ้งท้ายไว้แบบนี้ เกรียนได้โล่? เอ๊ะละมันจะเกี่ยวกับโปเกม่อนยังไง? ของกินจะเยอะมั้ย? รีวิวจะบ้าบอไร้สาระแค่ไหน รูปล้นจนโหลดหนักหรือไม่? ฝากติดตามด้วยนะค้าบ (เอ้ยๆ อันนี้ฝากจริงๆ นะ เค้าตั้งใจเรียกแขกจริงๆ ละบรรทัดนี้)
ป.ล. ไม่กล้าโฆษณา(แฝง)นิยายตัวเองจริงๆ แต่ถ้าใครจำเห็ดเค้าได้ จำสำนวนกวนๆ เกรียนๆ แซะชาวบ้านไปเรื่อยของเค้าได้ ก็ จุ๊ๆ ไว้นะ
#เขิน
"เฮ้ย! ดีสอีสน็อตPokemonทัวร์Na~" เมื่อสาวกลัวเครื่องบินขึ้นเครื่องคนเดียว ไปเที่ยวตปท.ครั้งแรก ที่ Singapore.
กราบสวัสดีผู้คนแถวนี้ทุกท่าน
อันตัวเค้านี่ก็เป็นนักเขียนโนเนมคนนึง เขียนนิยายวาย แต่ไม่ดัง เกิดอารมณ์เบื่อๆ เซ็งๆ อยากเก็บกระเป๋าหนีไปที่ไหนก็ได้สักที่กับเค้าบ้าง อยากโผล่หัวออกจากบ้านเลิกเป็นตุ่นรูง่ะ
ฮิตกันใช่มั้ยล่ะ? จาออกปายแตะขอบฟ้าาาาาา
เราเคยมองดูผู้คนแล้วก็สงสัย ทำไมเค้าว้อนต์ไปเที่ยวกันจังฟร่ะ? การเที่ยวมันมีอะไรน่าสนุกเหรอ?
ไปเปิดหูเปิดตา ไปดูความศรีวิไลของทุกที่ในโลกยกเว้นกะลาแลนด์แดนบ้านเราที่โคตรซัก! "ไออยากไปเป็นประชากรที่นั่นจัง อายเกลียดเมืองทาย"
ไปเที่ยวแล้วก็ต้องถ่ายรูป เน้นคัดรูปสวยๆ โพสลงเฟซ ชวนเชื่อให้ทุกคนเห็นว่า "แพลนท่องเที่ยวของไอสวยหรูนะยู อิจฉาไอปะล่ะ?"
เชื่อมั้ยกลับมาจากสิงคโปร์แล้วเรายังไม่ได้คำตอบเลย เราไม่รู้อยู่ดีว่าการท่องเที่ยวคืออะไร? เราแค่ไปหาเพื่อน แต่เราก็ได้รู้ ได้เห็นบ้านเมืองอื่นๆ ผ่านสายตาตัวเอง สุดท้ายคือได้เรียนรู้ว่า "ประเทศไทยแลนด์แดนที่ตรูเกิดมานี่แหละ อยู่ละมีความสุขที่สุดแล้ว เพราะเราคือคนไทย มันก็เหมาะกับแผ่นดินไทย"
"เที่ยว"คือไปเที่ยว แต่สถานที่ท่องเที่ยวไม่ใช่บ้าน ไม่มีใครเรียกโรงแรมหรือที่พักข้างทางว่า"บ้าน"หรอกจริงมั้ย?
แต่ถ้ามีคนที่ #ไม่เคยออกไปไหน #ไม่กล้าไปเที่ยวต่างประเทศ #อยากไปไหนใกล้ๆ รวมถึง #พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้วกำลังอยากแพ็กกระเป๋าไปที่ไหนสักที่ละก็ สิงคโปร์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะ
แต่เปล่าหรอก อันที่จริงเราก็ไม่ได้เลือกไปสิงคโปร์เพราะเหตุผลเท่ๆ คูลๆ พวกนั้นหรอก เราปักธงที่นี่เพราะ "เพื่อน" เพื่อนของเราทำงานที่นั่นน่ะ แหะๆ
แต่กระนั้น การที่มนุษย์ป้าคนหนึ่งซึ่งค้านต์สปีกอิงลิชจะไปเที่ยวต่างประเทศมันก็ชวนกังวลนิดหนึ่งล่ะ ละไหนจะยัยเพี้ยนคนนี้ดันเป็นโรคกลัวเครื่องบินค่อนข้างมากอีกต่างหาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่เราก็พยายามบอกตัวเองว่า ถ้าเราผ่าน 2 ชั่วโมงแค่นี้ไปไม่ได้ ความฝันที่จะไปโอไดบะของเราคงจบ
และแล้วเราก็จองตั๋วเครื่องบิน ไปกับ JetSTAR น้ำหนักกระเป๋าเลือกที่15กิโล รวมๆ ค่าโดยสารแล้ว 48XX฿ แต่เดี๋ยวก่อน! ตอนจะจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต อีก 400 บาทค่าบริการการใช้บัตรเครดิตมาจากไหนละว้อย! ไม่มีช่องทางอื่นให้จ่ายเงินค่าตั๋วด้วย นอกจากเจ็ตวัลเชอร์อะไรสักอย่าง ... สรุปเสียไปห้าพันสาม!
แต่เนื่องด้วยว่า เราไปหาเพื่อน ด้วยความคิดถึงกะความเป็นบ้าหอบฟางของเราเอง ก็เลยแพ็กของเยอะไปหน่อย ทั้งน้ำพริกทำเอง น้ำจิ้มรสแซ่บๆ แจ่วแบบขวด เครื่องแกงยี่ห้อต่างๆ ยำยำสามแพ็ก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก มะนาว กะเพรา และของฝากซื้ออื่นๆ ตอนเช็กอินออนไลน์เลยยอมจ่ายเงินซื้อน้ำหนักเพิ่มเป็น 20 กิโล อีก 475 บาท เพราะไม่งั้น ไปโดนน้ำหนักเกินกิโลกรัมละ 600 บาท! **ถ้าใครของเยอะ ควรเช็กให้ดีนะ ทั้งราคาน้ำหนักเกิน กับราคาซื้อน้ำหนักเพิ่ม อันไหนคุ้มกว่ากัน ไม่งั้นเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายเน้อ**
ของทุกอย่างถึงที่นู้น ไม่โดนโยนทิ้งแหละ เปิดกระเป๋าออกมา ไม่เน่าด้วย เหอๆ
และแล้วก็มาถึงแผนเที่ยว บอกเพื่อนว่าจะไปหา 3 วัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ไม่มีอะไรพิเศษ ขอแค่ 3 อย่าง 1.ไก่มิชลิน 2.Chewy Junior 3.garden by the bay ต้องได้ครบ ส่วนข้อ 4.ซื้อรองเท้าให้แฟน 5.กระเป๋าเซลล์70% ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ช่าง เพราะขึ้นกับราคาของ เพื่อนเลยส่งแผนมาให้ ตามนี้
จากที่เห็นแผน ตอนแรกโคตรกังวลเลย "มันจะแน่นไปมั้ยวะ?" เห็นเวลามีคนตรวจการบ้านไปเที่ยวสิงคโปร์ที่ไร จะมีคำขู่แบบ "ไม่ทัน ตารางแน่นไป"
จากการไปสัมผัสมาด้วยตัวเองแล้วขอบอกว่า "ถ้า(ขา)คุณไหว คุณทำได้!" เพราะสิงค์โปร์มันเป็นเกาะเล็กๆ ที่นั่งรถวนแล้วใกล้กว่าบางกะปิไปบางบอนซะอีก! (เพราะรถไม่ติดเหมือนเมืองไทย) แต่ถ้าคุณเป็นมนุษย์แคปเจอร์ จ้องจะเก็บแสง ตั้งกล้องรอบรรยากาศสวยๆ อาจไม่สามารถ แต่ถ้าแค่อยากไปดูแลนด์มาร์ก มันก็ทำได้ครบอยู่นา
การไปครั้งนี้ เราแลกเงินไป 600$ ตกราวๆ 25.7฿ = 1$ ราวๆหมื่นห้าได้ เงินเหลือกลับมานะ เกือบร้อยสิงค์ดอลแน่ะ
แต่ถ้าจะหากระทู้อวดเที่ยวถูกเที่ยวคุ้มใช้เงินน้อย คงต้องผ่านกระทู้เราไป พอดีมันมีปัจจัยที่เรียกว่า"เพื่อน"เป็นตัวแปรง่ะ
แต่เราสัญญาว่าจะลงราคาข้าวของต่างๆ เท่าที่เราจำได้ โดยเฉพาะค่ากินร้านต่างๆ เพื่อที่คนอื่นจะได้ดูไว้เป็นแนวทาง เหอๆ
มาเริ่มกันที่หน่วยเงินสิงคโปร์กันก่อนเลย
เวลาไปร้านแลกเงินครั้งแรก เห็นเรตต่างกันใช่มั้ย 100-1000 กะ 2-50 ???
แลกอันถูกนะทุกท่าน เพราะส่วนใหญ่เค้าก็ใช้กันแค่แบงก์10แบงก์50กันทั้งนั้น (50$ ก็เท่ากะ 12XX แล้วนะจ๊ะ ปลิวหายทีก็ร้องไห้แล้ว!)
ใบละ100นี่ไม่ค่อยมีใครใช้ อารมณ์พกแบงก์พันบ้านเราอะ ยิ่ง 1000$ นี่คือเศรษฐีเลยแหละถ้าเอาออกมาใช้ (เพื่อนบอก)
แต่เค้าจะมีแบงก์ 2$ ด้วยที่ใช้บ่อยๆ จับจ่ายคล่องดี เวลาซื้อข้าวซื้อน้ำถูกๆ ก็จะจ่ายแบงก์พวกนี้ละได้ทอนมาเป็นเหรียญ
พูดถึงเหรียญแล้วเห็นเหรียญคล้ายๆ เหรียญสิบด้านซ้ายบนมั้ย? ที่มีสีทองๆ นั่นคือ 1$(สิงคโปร์) นะ
อีกสองอันคือ "cents" ราคา 10 กะ 20 ตามหน้าเหรียญ 100cents ก็เท่ากับ 1$
จะได้ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมป้ายราคาที่สิงคโปรชอบขายของเป็น "." ตั้งแต่ 1.5 1.6 1.8 X.9 เค้าจะทอนเหรียญพวกนี้มาแหละ
ฮะ! ที่เองแพล่มมาทั้งหมดนั้นยังไม่มีส่วนของรีวิวประเทศสิงคโปร์สักนิดเลยเหรอ?
แหะๆ ... เค้าบอกแย้ว เค้าพูดมาก ถ้าไม่ชอบรีวิวสไตล์เกรียนๆ พล่ามเยอะ รูปน้อยแถมยังถ่ายไม่สวย ก็อย่าสนใจกระทู้เค้าเลย
แต่ถ้าอยากเห็นสิงคโปร์ในมุมแปลกๆ แบบที่กระทู้รีวิวสิงคโปร์ฮิปๆ สวยๆ กระทู้อื่นเค้าไม่ทำกันละก็รอติดตามได้เลย
รับรอง รูป(ไร้สาระ)เยอะ เนื้อหาก็เยอะ(มีแต่น้ำ)
มันควรจะฝากเพจทิ้งท้ายใช่มั้ย? ควรใช่มั้ย? ใครๆ เค้าก็ทำกัน
เราก็ควรทำใช่มั้ย?จะฝากไปทำไมเล่าไม่ได้เป็นนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาปั่นราคาตัวเองผ่านกระทู้รีวิวท่องเที่ยวเพื่อที่วันนึงจะได้ขายทัวร์ โว๊ะ!
ไปเองด้วยเงินทุกบาททุกสตางค์ของตัวเองด้วย ไม่ได้มีคนมาจ้างให้ไปซะหน่อย! ถ่ายรูปไม่สวยแบบนี้ไม่ต้องฝากเพจหรอก อีกร้อยชาติก็ไม่มีใครมาจ้างไปเที่ยว!
... จขท. มันทิ้งท้ายไว้แบบนี้ เกรียนได้โล่? เอ๊ะละมันจะเกี่ยวกับโปเกม่อนยังไง? ของกินจะเยอะมั้ย? รีวิวจะบ้าบอไร้สาระแค่ไหน รูปล้นจนโหลดหนักหรือไม่? ฝากติดตามด้วยนะค้าบ (เอ้ยๆ อันนี้ฝากจริงๆ นะ เค้าตั้งใจเรียกแขกจริงๆ ละบรรทัดนี้)
ป.ล. ไม่กล้าโฆษณา(แฝง)นิยายตัวเองจริงๆ แต่ถ้าใครจำเห็ดเค้าได้ จำสำนวนกวนๆ เกรียนๆ แซะชาวบ้านไปเรื่อยของเค้าได้ ก็ จุ๊ๆ ไว้นะ #เขิน